กลับมาอีกครั้งกับการทดสอบปากกาที่น่าสนใจแล้วเอามาเล่าให้ฟังครับ เห็นชื่อทีแรกผมรู้นะว่าคุณต้องแอบคิดว่าไอเจ้าปากกานี่มันต้องเป็นของแถมแน่ๆ ทำไมเหรอ? ก็ชื่อมันดันละม้ายคล้ายกับกางเกงยีนส์ Levi’s 501 ยังไงละครับ! มันต้องเป็นของแถมกากๆ แน่!! (โหไอคนเขียนบ้า! มีแกนั่นแหละคิด!) แต่ไม่ใช่นะครับปากกานี้ซื้อหามาและมันก็ไม่กากด้วย เป็นยังไง? ขอเชิญรับชม

Hero 501-1 Pen

Hero 501-1 Pen ชื่อนี้ที่แม่ตั้ง เป็นปากกาที่ผลิตโดยบริษัท Shanghai Hero Pen Company จากประเทศจีนครับ เรื่องคุณภาพนี้ก็ไม่ต้องพูดถึงครับ…เพราะยังไม่รู้ เดี๋ยวทดสอบแล้วจะเล่าให้ฟัง(พูดเพื่อ?!) โดยเจ้าปากกายี่ห้อนี้ถือว่ามีชื่อเสียงมากครับถือเป็นอันดับหนึ่งในประเทศจีนได้เลยและเริ่มมีชื่อเสียงในระดับโลกด้วย คนเล่นปากกาหลายคนทั่วโลกต่างก็ให้การยอมรับว่าเป็นปากกาที่มีคุณภาพดีในราคาที่จับต้องได้ โดยยี่ห้อ Hero นี้ออกปากกามาแล้วหลายรุ่นมากเลยครับ โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมมากก็ได้แก่ Hero 100, Hero 616 และ Hero 501-1 เป็นต้น เห้ย! ของมันดีจริงเหรอว้า?! ยังไงๆ ของจากจีนมันก็ไม่ได้มีคุณภาพดีอะไรอยู่แล้วนี่! ใช่ครับผมก็คิดเช่นนั้นจนเมื่อได้ทราบว่ามี sketcher หลายท่านที่ผมชื่นชอบไม่ว่าจะเป็น Don Low, Nina Johansson, Boon Sim TIA, Liz Steel หรือ Teoh Yi Chie (เจ้าของเว็บ parkablogs.com) ก็ล้วนแล้วแต่ใช้ปากกา Hero ด้วยกันทั้งนั้น ทำให้ผมชึ่งเป็นสาวกปากกาลามี่อย่างเข้ากระดูกดำเกิดความสงสัยจึงต้องจัดหาเจ้าปากกา Hero มาลองใช้ให้มันรู้ดำรู้แดงกันไปเลยว่ามันมีอะไรดี!!

ปากกา Hero 501-1 ด้ามนี้ผมได้มาจากเว็บ aliexpress.com เป็นเว็บของ Alibaba นั่นแหละแต่เจ้าเว็บนี้มันเน้นขายปลีกครับเลยทำให้สามารถซื้อจำนวนน้อยได้ โดยราคาค่าตัวของปากกาด้ามนี้ไม่แพงเลยครับ ด้ามละ $4.65 ค่าส่ง $14.31 รวม $18.96 พรวด!! กินข้าวอยู่ถึงกับมีพ่นออกมา ค่าส่งแพงกว่าค่าของอีก!! ค่าส่งกว่า 3 เท่าเลยทำให้ปากกาด้ามนี้มีราคาแพงครับแต่มันก็ห้ามความอยากรู้อยากเห็นของผมไม่ได้เลยต้องจัดด่วนเลย คนขายเค้าก็ส่งรวดเร็วครับ EMS แป๊บเดียวก็มาถึงไทยแล้วครับ โดยที่ผมสั่งไปถ้าไม่นับวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ประมาณ 4 วันก็ได้รับของแล้วครับ

กล่องดูดีมีชาติตระกูลมาก นึกว่าด้ามสามหมื่น!

ดูครับดู!! เนียนว่าเป็นของแพงได้เลยนะนั่น

ไม่รู้ว่าถ่ายมาทำไมเหมือนกันครับ แต่ไหนๆ ก็ถ่ายแล้วก็อัพละกัน

สติกเกอร์แปะไว้เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครมาแอบแกะนะ

แกะห่อพัสดุก็ตกใจว่ากล่องปากกามันใหญ่กว่าที่ผมคาดไว้มาก ใหญ่กว่ากล่องลามี่อีกแหน่ะ กล่องสีเขียวทำซะหรูเลยครับแต่มาเสียตรงโลโก้จีนเชยๆ บนฝากล่องนี่แหละ -..- เปิดกล่องมีบุผ้าทำร่องรับปากกาพร้อม ฝากล่องยึดด้วยแม่เหล็กกากๆ (แต่ผมไม่รู้หรอกว่าไปงั้น กร๊าก) ปากกาจะบรรจุอยู่ในซองพลาสติกอีกชั้นครับแล้วติดสติกเกอร์กันแกะ(เหมือนกับสติกเกอร์รับประกันที่ถ้าแงะก็จะขาดเลย)ไว้ด้วยเพื่อเป็นการการันตีว่าปากกาทุกด้ามไม่เคยถูกแกะมาก่อนนะ คือกะจะเนียนว่าเป็นปากกาหรูว่างั้นเหอะ แต่ชั้นไม่หลงกลแกหรอก!!

โอ้วววว Hero 501-1 หนักมาก ถึงว่ารู้สึกหนักได้ชัดเจนเลย

ดูสิครับ Lamy เบ๊าเบา ..ก็มันพลาสติกนี่!

เทียบกันแล้วลามี่ดูเบอะบะไปเลยอ่ะ -..-

แกะปากกาออกมาจากซอง “แอบหนักแหะ!” คือความคิดแรกที่แว็บขึ้นมาตอนได้สัมผัส คือถ้าคนที่ใช้ลามี่มาตลอดแบบผมจับทีแรกนี่ไม่ชินครับเพราะมันหนักกว่าลามี่พอสมควร อารมณ์ประมาณจับปากกา Montblanc ครับ ลื่นๆ หนักๆ ทีนี้ผมก็ดันอยากรู้ขึ้นมาว่าแล้วมันหนักเท่าไหร่กันแน่เลยจับมาชั่งน้ำหนักดูก็ตามที่เห็นครับ ฝ่ายแดง Hero 501-1 น้ำหนักขึ้นชกพร้อมหลอดหมึกอยู่ที่ 30.1 กรัม ส่วนฝ่ายน้ำเงิน Lamy Safari น้ำหนักขึ้นชกที่ 17.3 กรัม ต่างกันตั้ง 12.8 กรัม หนักกว่าเกือบเท่านึงแหนะ! ถึงว่ารู้สึกว่าหนักต่างกันเยอะเลย

ตรงนี้เขียนไว้ว่า "เขา เหลียง ซาน" ครับ

ตรงขอบปลอกมีเลขรุ่นบอกด้วยนะ

ด้านบนของปลอกครับ สวยดีเหมือนกันนะเรียบหรูดี

ปลอกครับ ...ไม่เอาอ่ะเค้าจะกินทั้งเปลือก นั่นมันปอก!!

หยิบยกปากกาขึ้นมาลูบคลึง ปากกาด้ามดำขลับตัดกับเส้นสายและจุดเชื่อมต่อที่ทำด้วยโลหะสีเงินช่างดูสวยงามเข้ากันดีแต่ผมดันดูไม่ออกนะสิครับว่าไอตัวด้ามส่วนสีดำนั้นมันทำด้วยวัสดุอะไร ลองเคาะเสียงก็ใสเหมือนเป็นเหล็ก แต่คิดดูแล้วน่าจะเป็นพลาสติกเคลือบด้วยสีดำนะครับแต่ก็ช่างมันเหอะไม่สนใจ เอาไว้วันใดที่สีมันลอกผมจะมาบอกอีกทีแล้วกันนะ เปิดปลอกปากกาเพื่อยลเนื้อใน ตกใจ! ส่วนมือจับและปลอกด้านในก็ทำด้วยโลหะครับ ถึงว่าน้ำหนักมันเลยเยอะก็เล่นใช้โลหะมาทำปากกากันทั้งด้ามเลย โดยปลอกปากกาก็ทำหน้าที่ได้ดีนะยึดกับด้ามปากกาได้แน่นหนาดีครับ ไม่ต้องห่วงว่าเป็นของจีนแล้วมันจะทำไม่แน่นยึดปากกาไม่อยู่นะ แต่ติหน่อยนึงตรงส่วนของปลอกปากกา ไม่ชอบเลยครับสกรีนตัวหนังสือภาษาจีนอะไรก็ไม่รู้บนปลอกดูไม่สวยขัดตาเอามากๆ ครั้นจะเอามีดขูดออกก็ฮาร์ดคอร์เกินไปจึงรอให้มันลอกไปเองละกันนะ -..-

nib เค้าบอกว่าทำจากทอง 22k ครับ

นี่แหละ fude nib ปลายมันโค้งงอขึ้นไปด้านบนครับ ทำให้บิดมุมเขียนแล้วเส้นเปลี่ยนได้

หงายดูใต้ท้อง ไม่มีอะไรพิเศษแหะ

พอกันทีกับรูปลักษณ์ภายนอก!! มาถึงเรื่องที่ผมสนใจจนผมถึงกับต้องสั่งปากกาด้ามนี้ให้ส่งข้ามน้ำข้ามทะเลแหวกป่าไผ่กังฟูแพนด้าเพื่อให้ได้มันมาครอบครอง นั่นก็เพราะผมสนใจใน nib ของมันครับ!! เพราะปากกา Hero 501-1 Pen ด้ามนี้มี nib สีทองสองสีสวยงามทำจากทอง 22k ที่มีลักษณะพิเศษแปลกแยกกว่าปากกาทั่วไปนั่นก็คือเป็น nib ประเภท calligraphy ครับ! หรืออีกชื่อที่นิยมเรียกกันก็คือ fude nib (อ่านว่า ฟุ-เดะ มาจากภาษาญี่ปุ่นแปลว่า พู่กัน ครับ) ก็ด้วยลักษณะของ nib ที่มันหักงอขึ้นมาคล้ายกับพู่กันจึงทำให้ได้ชื่อนี้มาไงละครับ ด้วยลักษณะของ nib แบบนี้เองจึงทำให้เส้นปากกาที่ได้มี “น้ำหนัก” ที่ต่างกันเวลาที่เราหมุนมือเขียนในแบบที่ต่างออกไป (ง่ายๆ ก็ลองนึกภาพถึงปากกาเมจิคเขียนกระดานที่หัวมันตัดอ่ะครับคล้ายกันเลย) โดยปากกาประเภทนี้สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการเขียนตัวอักษรเป็นหลักครับเพราะจะทำให้ได้ตัวอักษรที่สวยงาม เส้นมีน้ำหนักหนา-บาง แต่เราก็สามารถเอามาใช้สเก็ตช์รูปได้อีกด้วยนะเพื่อให้เส้นมีความหนา-บางตามใจต้องการยังไงล่ะครับ

หลอดหมึกแบบ push-in เหมือนของสนู้ปปี้เลยครับ ใช้เล็บจิกเพื่อดูดหมึกนะ

โม้มามากมาลองใช้จริงดูกันเลยครับ จำไว้นะครับ! ก่อนใช้ปากกาด้ามใหม่ทุกครั้งต้องล้างปากกาก่อน ไม่ใช่เอาปากกาไปแช่น้ำนะ! แต่หมายถึงเอาปากกาไปสูบน้ำบ้วนเข้า-ออกไปมาเพื่อล้าง ink feed ของปากกาก่อน หมึกจะได้ไหลได้สะดวกไงครับ หมุนด้ามปากกาเปิดออกเพื่อจะเติมหมึกก็พบกับหลอดสูบหมึกเสียบอยู่ในด้ามปากกาพร้อมแล้วครับ หลอดสูบหมึก (ink converter) ของ Hero 501-1 นี้เป็นแบบ Push-in ครับ ถ้าหากจำกันได้ผมเคยเขียนไว้ที่บล็อกตอนก่อนนู้นตอนปากกา M&G สนู้ปปี้เพราะเป็นหลอดสูบหมึกแบบเดียวกันเลยครับ เวลาจะสูบก็ใช้เล็บจิกเข้าไปเลื่อนตัวเลื่อนที่อยู่ในหลอดขึ้น-ลงเพื่อสูบหมึกครับ โดยครั้งนี้หมึกที่ผมใช้ทดสอบก็คือหมึก Noodler’s Black Bulletproof ขาประจำครับเพราะมันล้างออกง่ายดี เติมเสร็จแล้วก็ทิ้งให้หมึกมันไหลซักพักผมจึงเริ่มเขียนครับ

(โปรดคลิกเพื่อดูรูปใหญ่) วันนี้เรามีนางแบบมาแสดงวิธีจับปากกาให้ครับ ...ขออภัยที่ไม่ได้พาไปทำเล็บ คราวหน้าไม่พลาด!!

นี่เป็นน้ำหนักของเส้นที่ได้จากการจับปากกาที่แตกต่างกันครับ สะดวกดีแหะด้ามเดียวจบ

แล้วมันใช้ยังไงล่ะ?! มันก็ใช้เหมือนปากกาหมึกซึมทั่วไปแหละครับ ซึ่งถ้าจับถูกต้องก็จะเขียนได้อย่างสวยงาม แต่สำหรับการสเก็ตช์รูปนั้นมีวิธีใช้ที่แตกต่างเพิ่มขึ้นมาหน่อยครับ โดยในการจะกำหนดน้ำหนักของเส้นนั้นทำได้โดยการปรับเปลี่ยนการจรดปากกาครับ ถ้าหากอยากได้เส้นเล็กก็ให้ชันปากกาขึ้นเยอะๆ จนเกือบจะตั้งฉากหรือประมาณ 15 องศา ถ้าอยากให้เส้นหนาปานกลางก็ชันปากกา 45 องศา แต่ถ้าจะให้เส้นหนาไปเลยก็จับปรกติเลยครับ 60 องศา ดังนั้นด้วยปากกาด้ามนี้คุณจึงสามารถวาดเส้นให้มีน้ำหนักหลากหลายในด้ามเดียว …แต่ว่ามันยังไม่จบเพียงแค่นี้ครับ! มันยังมีอีกเทคนิกนึงคือการหงาย nib ปากกามาเขียนเลยครับ เส้นที่ได้ก็จะยิ่งเล็กลงไปได้อีก เทียบเท่าเส้น 0.1 เลยครับ แหม่! เจ้าปากกา Hero 501-1 นี่ท่าเยอะจริงๆ ให้ตาย!

ผมพยายามใช้น้ำหนักเส้นที่แตกต่างกันครับ ...ผลออกมาคือรูปกากไปเลย T_T

ลงสีเพื่อช่วยกู้หน้า...แต่ก็ไม่ได้ดีขึ้นเล้ยย!!

จรดปากกาครั้งแรกแล้วลากเส้นก็มีงง “มันต้องหมุนมุมไหนเขียนกันแน่?” ก็เพราะว่าปลายของ nib ที่มันโค้งงอขึ้นไปด้านบน ทำให้ส่วนที่ต้องสัมผัสกับกระดาษกลายเป็นส่วนที่แบน เขียนครั้งแรกเลยกะไม่ถูกครับว่าจะหมุนมุมไหนดี …ผ่านไป 3 นาทีเริ่มคุ้นแล้วล่ะครับ ผมว่าปากกานี้เขียนสนุกดีครับ ink flow ดีมากหมึกไหลลื่นส่งหมึกต่อเนื่องไม่ว่าจะเขียนเส้นเล็กเส้นใหญ่ก็ไม่มีอาการหมึกขาดเลยนะ นอกจากนั้น nib ก็ยังเขียนลื่นเนื่องด้วยเพราะมันมีพื้นที่สัมผัสกระดาษเยอะเลยไม่กัดกระดาษ ผมก็ลองวาดๆ เขียนๆ ลากเส้นไปมา ตรงไหนที่อยากได้เส้นหน้าก็จับปากกาปรกติครับ แต่พอถึงช่วงที่อยากได้เส้นเล็กผมก็สั่ง “ป้า! เล็กรวมไม่งอกชามนึง!” ..จะบ้าเหรอ!! กำลังอ่านเพลินๆ ยิงมุขทำไมฟระ?! ..ถึงไหนแล้วล่ะ อ้อ! ถ้าอยากลากเส้นเล็กผมก็เพียงตั้งปากกาให้ชันขึ้นแล้วเขียนครับ เส้นก็จะเล็กทันตาเห็น ทีนี้จะมีบางจุดที่อยากวาดรายละเอียดเล็กๆ จริงๆ ซึ่งถ้าเป็นปรกติผมยจไปหยิบเอาปากกาหัวสักหลาด Pigma 0.1 มาเขียนแทนแต่คราวนี้ไม่ต้องครับ! เพียงแค่หงายหัวปากกาขึ้นก็จะได้เส้นเล็กสมใจเลย สะดวกมากจริงๆ ครับ ว่าแต่…ป้า! เส้นเล็กได้ยัง?!

คุยแต่ข้อดีไปแล้ว มาถึงข้อเสียกันบ้างครับ ..จะว่าไปมันน่าจะเป็นข้อเสียจากทางผมมากกว่านะ คือมันไม่ถนัดมือผมครับ ผมใช้ลามี่มาตลอดทำให้เสียนิสัยในการจับปากกา อย่างที่รู้ตรงด้ามจับลามี่มันจะทำร่องพักนิ้วเอาไว้ให้จับได้สะดวกจึงทำให้มั่นใจได้ว่าไม่ว่าจะจับมั่วยังไงก็ยังหันมุมเขียนได้ถูกตัอง แต่พอเป็นปากกาที่มีด้ามจับกลมที่เป็น fude nib เช่น Hero 501-1 ด้ามนี้ เวลาเขียนไปมันก็เผลอหมุนด้ามปากกาไปด้วยทำให้ผิดมุมเขียนไม่ออกครับ (แกกากเองนั่นแหละ!) ส่วนข้อติที่ 2 คือถ้าคุณอยากวาดให้ได้ขนาดเส้นตามที่คุณต้องการละก็ คุณต้องฝึกฝนครับ! กว่าผมจะเข้าใจและลากเส้นได้ตามใจสั่งเล่นเอากระดาษหมดไปหลายหน้า เติมหมึกไป 2 รอบเลยครับ อีกทั้งเขียนนานๆ ชันปากกาขึ้น-ลงก็ทำให้เมื่อยมืออีกต่างหาก มิน่าหล่ะ! พวก sketcher ที่ใช้ปากกาด้ามนี้เค้าถึงจับปากกาให้สูงขึ้นอีกหน่อยเพื่อป้องกันอาการมือล้าหากต้องชันปากกานี่เอง! ข้อติที่ 3 ข้อสุดท้ายก็คือ หน้าตามันขี้เหร่ครับ! ใครมันจะไปสวยสู้ลามี่ได้ล่ะ!! กร๊าาากกก

ยอดไหมครับปากกา Hero 501-1 Pen ด้ามนี้? ด้วยเส้นที่ปรับเปลี่ยนน้ำหนักได้ตามความต้องการเพิ่มความสะดวกอย่างมากสำหรับการสเก็ตช์ คุณภาพการผลิตที่ได้มาตรฐานอีกทั้งราคาถูกคุ้มค่ามาก หน้าตาสวยงามถึงแม้จะไม่สวยเท่า Lamy Safari ก็ตามแต่ก็ดูดีดูมีมูลค่าบรรจุในกล่องหรูแน่นหนา สามารถนำไปเป็นของฝากเพื่อนสนิทหรือคนรู้จักได้ในทุกโอกาส ครบเครื่องขนาดนี้คุณจะไม่สนใจซื้อหามาครอบครองกันซักด้ามหรือครับ?

ปล. เนื่องด้วยฝีมือสเก็ตช์รูปของผมมันกากมาก ลองไปดูตัวอย่างภาพสเก็ตช์สวยๆ ฝีมือคุณ Teoh Yi Chie ที่ใช้ Hero 501-1 ได้อย่างคล่องแคล่วจากบล็อกตอนนี้กันครับ http://www.parkablogs.com/content/review-hero-fountain-pen-501-1 (ผมตัดสินใจซื้อก็เพราะบล็อกตอนนี้แหละ)

ปล. 2 เข้าช่วงเทศกาลสงกรานต์แล้วผมอยากให้ทุกคนรักษาชีวิตกันไว้ให้ดีนะครับ ขับรถขับราให้ระวังกันด้วย เราหน่ะไม่เมาหรอกแต่ไอคนอื่นมันจะเมามาชนเราอ่ะดิต้องระวังตัวมากขึ้นนะ นอกจากนั้นก็อย่าไปเล่นน้ำในที่สุ่มเสี่ยงต่อการถูกกระทำอนาจาร มันไม่สนุกหรอกครับเพราะผมเคยโดนมาแล้ว สาวๆ รุมซะร่างป่นปี้หมด(ก็คนมันหน้าตาดี!) และขอให้อย่าได้ป่วยอย่าได้เจ็บอย่าได้ไข้นะครับเพราะถ้าท่านเป็นอะไรไปท่านจะพลาดการได้อ่านบล็อกตอนต่อของผมด้วยนะ กร๊ากกก …ด้วยรัก