กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีจอมยุทธตาเดียวนามว่า “ทรัพท์สิ้น” เดินทางฝึกวิทยายุทธทั่วแคว้นแผ่นดินเยอรมัน ท่องไปตามหัวเมืองต่างๆ ฝึกวิชาเพื่อเป็นหนึ่งในใต้หล้าไร้คู่ต่อกร กระบี่คู่กายนั้นเป็นที่รู้กันว่าเมื่อใดก็ตามที่เค้าชักกระบี่ออกมาจากฝัก แสงทองที่สะท้อนกับตัวกระบี่จะสาดส่องทำลายการมองเห็นของคู่ต่อสู้ให้เสียกระบวนท่า ประลองร้อยครั้ง ชนะทั้งร้อยครั้ง ทั่วทั้งยุทธภพต่างก็กล่าวขานถึงกระบี่เล่มนี้ว่าเป็นจ้าวแห่งเทพกระบี่ทั้งปวง กระบี่นี้มีชื่อว่า กระบี่เหลืองสุริยัน Lamy Safari Light Yellow Black Clip

กระบี่เหลืองสุริยัน Lamy Safari Light Yellow Black Clip ด้ามนี้ถูกตี(ผลิต)ขึ้นในช่วงระหว่างปี 2008 ถึงปี 2010 ตัวกระบี่(ด้าม)และฝักกระบี่(ปลอก) เป็นสีเหลืองสว่างสดใส งดงามต้องใจยิ่งนัก ที่ส่วนบนของฝักกระบี่(จุก) ประดับด้วยนิลดำรูปกากบาท(จุกกากบาทสีดำ) ไม่เพียงแค่นั้น สายคาดกระบี่(คลิป) ก็ยังเป็นสีดำเงางามเข้ากันกับตัวกระบี่เป็นที่สุด และด้วยความงามเช่นนี้จึงเป็นที่หมายตาของใครต่อใครที่พบเห็น ถึงแม้จะไม่ได้เป็นกระบี่เล่มเดียวบนโลกใบนี้ก็ตาม(ไม่ได้เป็นลิมิเต็ด) แต่ก็ถือว่าเป็นของหายากลำดับต้นๆ อันเนื่องจากช่างตีกระบี่นามว่า “ตียันแก่” ผู้ตีกระบี่เล่มนี้ได้ตกน้ำตายล่วงลับไปแล้วนั่นเอง(เลิกผลิต)

หลายปีผ่านไปทรัพย์สิ้นก็ได้ขึ้นสู่จุดสูงสุดได้ตำแหน่งจ้าวยุทธภพ มีคนเข้ามาท้าทายขอประลองกระบี่นับหมื่นแต่ก็ไม่เคยทำให้จอมยุทธทรัพย์สิ้นต้องคุกเข่าลงได้แม้แต่ครั้งเดียว ด้วยเหตุนี้เองก็ยิ่งทำใหัชื่อเสียงของกระบี่เหลืองสุริยันโด่งดังข้ามผืนฟ้าและมหาสมุทร ใครหลายต่อหลายคนต่างก็ต้องการจะแย่งชิงกระบี่เล่มนี้ ทั้งบุกสำนัก ลอบสังหารในยามวิกาล หรือแม้กระทั่งส่งนางรำเข้าไปปรนนิบัติเพื่อหมายแย่งชิง แต่ก็ไม่สามารถแย่งชิงกระบี่เล่มนี้มาได้เสียที

แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ในงานประลองเจ้ายุทธจักรครั้งที่ 68 ได้มีจอมยุทธเฒ่านิรนามปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับกระบี่เหลืองสุริยันอีกเล่มหนึ่ง! ทำให้ผู้เข้าชมการประลองรวมถึงจอมยุทธทั้งหล้าต่างก็ต้องตกตะลึงที่ได้เห็นกระบี่เหลืองประกายสุริยันอีกเล่มบนผืนโลก เมื่อจ้าวยุทธภพทรัพย์สิ้นได้เห็นกระบี่เหลืองสุริยันก็ถึงกับตะโกนก้องออกมาว่า

“ไอกระบี่เล่มนั้นมันคืออะไร?! ถึงหน้าตาจะคล้ายคลึงแต่ทำไมสีถึงไม่เหมือน! เจ้าตั้งใจทำเลียนแบบกระบี่ข้าใช่มั้ย?!!” ทรัพย์สิ้นแหกปากก้อง

“เจ้าเด็กน้อยเอ๋ย เจ้าเกิดมาก็เห็นกระบี่เหลืองสุริยันเล่มนั้นเพียงเล่มเดียว ไฉนเจ้าจึงคิดว่ากระบี่เหลืองสุริยันเล่มอื่นเป็นของปลอมไปเสียหมด?” จอมยุทธเฒ่าย้อนถาม

“หุบปากไอแก่กากหนังหน้าเหี่ยว! ข้าใช้กระบี่เล่มนี้ปราบทั่วทั้งยุทธภพ ไม่มีใครสามารถต่อกรกับพลังที่ยิ่งใหญ่นี้ได้ กระบี่เล่มนี้มันก็ต้องเป็นที่หนึ่งในใต้หล้า เป็นหนึ่งไม่มีสอง ดังนั้นกระบี่ของเจ้าจึงเป็นของปลอม!!” ทรัพย์สิ้นแผดเสียง

“ว่ากูแก่ได้แต่อย่ามาหาว่าหนังหน้ากูเหี่ยว! ไอเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม วันนี้แหละ! ข้าจะทำให้เจ้าตาสว่างเสียที!” ยอมยุทธเฒ่าคำราม

ทั้งสองใช้วิชาตัวเบาเหาะเหินเดินอากาศออกกระบวนเพลงกระบี่เข้าใส่กันกลางเวหา แสงสีทองทั้งสองฟาดฟันเข้าใส่กันจนแสงสะท้อนนั้นสว่างจ้าระเบิดไปทั่วทั้งลานประลอง ผู้เข้าชมที่ไม่ได้เอาฟิมล์สำหรับดูดวงอาทิตย์มาด้วยพอเห็นเข้าก็ถึงกับตาบอดสนิท แต่ใครที่เอาแผ่นฟิลม์มาก็ดูกันได้ต่อไป(น้องๆ หนูๆ อย่ามองดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่านะครับเดี๋ยวตาจะบอดเอา น้องโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่อดดูสาวๆ แล้วแย่เลย)

การประลองกินเวลานานอยู่เกือบสามสัปดาห์ จอมยุทธทั้งสองต่างอ่อนล้า ทรัพย์สิ้นจึงนึกสงสัยขึ้นมาว่า “ทำไมเจ้ากระบี่ปลอมมันถึงไม่แพ้ไปเสียทีนะ?”
“ตาแก่ ข้าว่าพวกเรายั้งมือกันแค่นี้ก่อนเถอะ ข้ามีเรื่องที่ต้องการถามเจ้าให้รู้เรื่อง” ทรัพย์สิ้นยื่นข้อเสนอ
“เจ้าเด็กน้อย ในที่สุดเจ้าก็หายโง่แล้วสินะ เก็บกระบี่ของเจ้าเถิด แล้วข้าจะอธิบายให้เจ้าฟัง” จอมยุทธเฒ่าตอบ

จอมยุทธเฒ่าเล่าให้ทรัพย์สิ้นฟังว่า ไอกระบี่เหลืองสุริยันที่เจ้าใช้นั้นเป็นกระบี่เล่มที่เพิ่งตีขึ้นมาได้ไม่กี่ปีนี้เอง แต่เหลืองสุริยาของจอมยุทธเฒ่านั้นเป็นเล่มที่ตีไว้เมื่อช่วงก่อนปี 2008 โดยช่างตีกระบี่นามว่า “ตียันตาย” พ่อของช่างตีดาบ “ตียันแก่” ได้อุทิศชีวิตตีไว้ก่อนตายนั่นเอง(เลิกผลิตไปแล้วเช่นกัน) ซึ่งชื่อที่แท้จริงของกระบี่มีว่า “ก่อนกาลเหลืองสุริยัน Lamy Safari Early Yellow (old yellow)” ซึ่งถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่า หน้าตาทุกอย่างจะคล้ายคลึงกันแทบจะทุกส่วน แต่สิ่งที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดก็คือ กระบี่เหลืองสุริยันของจอมยุทธเฒ่าจะมีสีเหลืองที่เข้มกว่า เมื่อลองเอากระบี่ทั้งสองมาวางเปรียบเทียบกันจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่ามีสีเหลืองที่ต่างกันชัดเจน

ราคาค่างวดนั้นก็แน่นอนว่าต้องต่างกัน โดยในช่วงเวลาที่เริ่มผลิตนั้นก็ไม่แพงหรอก 900 บาททั่วไป แต่ปัจจุบันนี้ราคากลับสูงขึ้นเพราะจอมยุทธทั่วหล้าต่างแก่งแย่งช่วงชิงต้องการที่จะครอบครองกระบี่ทั้งสองมาไว้ในมือ ทำให้กระบี่ ก่อนกาลเหลืองสุริยัน Lamy Safari Early Yellow ล่าสุดที่พบเห็นมีราคาสูงถึง 152.05$ (ผมได้มาที่ 51$) ส่วนอีกเล่มคือ เหลืองสุริยัน Lamy Safari Light Yellow มีราคายังพอรับได้ที่ 50$-60$ จากทั้งหมดทั้งมวลที่เล่ามานั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมกระบี่ 2 เล่มนี้ถึงเข่นฆ่ากันไม่รู้แพ้รู้ชนะกันเสียที นั่นก็เพราะมันเป็น “กระบี่พ่อกระบี่ลูก” ยังไงล่ะ! (ตรงนี่ลอกแฮร์รี่พอตเตอร์มา ไอไม้กายสิทธินั่นไง แหม่ -..-)

“เห้ย ไอหนุ่มทางโน้น ไหนเอ็งเอากระบี่ของเอ็งมาให้ข้าดูหน่อยซิ” ยอมยุทธเฒ่าตะโกนเข้าไปยังฝูงชนที่มามุงดูอยู่
“ค..คร้าาบ นี่ครับทั่นผู้เฒ่า” จอมยุทธหนุ่มยื่นกระบี่ของตนให้
“เจ้าเห็นกระบี่เล่มนี้มั้ย? เล่มนี้เรียกว่า กระบี่เหลืองอร่าม Lamy Safari Yellow ตัวกระบี่จะเป็นสีเหลืองสดใสไม่เข้ม แต่ที่ต่างกันคือสายคาดกระบี่เป็นสีเงินนั้นเอง ไอกระบี่เล่มนี้เริ่มตีตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน(รุ่นปัจจุบัน) เรียกได้ว่าเป็นกระบี่หลานนั่นเอง” จอมยุทธเฒ่าอธิบายพร้อมยกกระบี่ชูขึ้นบนฟ้า
“โอ้ว ทั่นผู้เฒ่า ข้าสำนึกผิดแล้วที่เคยกล่าวหาว่าทั่นแอบโมลามี่ เอ้ย! แอบปลอมกระบี่เหลืองสุริยัน ที่แท้เรื่องก็เป็นอย่างนี้เอง” ทรัพย์สิ้นกล่าวพร้อมโค้งคารวะ

จอมยุทธเฒ่ากล่าวเสียงเรียบพร้อมพูดว่า “ไม่เป็นไร ข้าไม่ได้โกรธเรื่องกระบี่ปลอมเลย แต่ที่ข้าโกรธคือที่มาว่าข้าว่าหนังหน้าเหี่ยวต่างหากหล่ะ!”

และไม่ทันที่ทรัพย์สิ้นจะได้ตั้งตัวชักกระบี่เหลืองสุริยันออกมาจากฝัก จอมยุทธเฒ่าที่โกรธแค้นเรื่องหนังหน้าเหี่ยวก็ใช้กระบี่ก่อนกาลเหลืองสุริยันฟันฉับเข้าที่คอ หัวของทรัพย์สิ้นประเด็นกลิ้งไปตกกลางฝูงชน จอมยุทธเฒ่าคว้ากระบี่เหลืองสุริยันที่ยังเหน็บไว้ที่เอวของร่างไร้หัวแล้วจึงเหาะเหินออกไปจากลานประลองหายวับไปกับตาหลายต่อหลายคน

“วะ ฮ่า ฮ่า อยากมาล้อว่าหนังหน้าเหี่ยวดีนักสมน้ำหน้า ในที่สุดข้าก็ไม่ต้องไปบิดบนอีเบย์แล้วเว้ย!” เสียงจอมยุทธเฒ่าก้องทั่วลานประลอง
ภาพตัดกลับมาที่หัวของทรัพย์สิ้น ปากขยับพูดเป็นครั้งสุดท้ายว่า “พูดว่าหนังหน้าเหี่ยวแค่นี้ ทำไมต้องมาตัดหัวกรูด้วยยย?!!”

…แล้วทรัพย์สิ้นก็สิ้นลม (จบเหอะ)

 

เพิ่มเติมหน่อยนึง

อันนี้เป็นลามี่ Lamy Safari Early Yellow ที่ผมเพิ่งบิดชนะมาครับ โดยเค้าให้ซองใส่ปากกาของมันมาด้วย นอกจากนั้น nib ของด้ามที่ผมบิดมาได้นั้นเป็นขนาด MK …เกิดมาจากกระบอกไม้ไผ่ยังไม่เคยพบเห็นเลย แล้ว MK นี่มันมาจากไหนกันฟระ?! ไม่เป็นไรครับไม่ต้องตกใจ ใน FAQs ตอนที่จะถึงนี้ในอีกไม่กี่วัน ผมจะพูดเรื่อง nib ของลามี่ซาฟารีให้อ่านกันครับ เย

 

ปล. เป็นบล็อกตอนที่ถ่ายรูปยากจริงๆ ถ่ายเอง งงเอง -*-