[UPDATE] 5 March 2014 : เปลี่ยนและเพิ่มรูปถ่ายใหม่สวยงามไฉไลน่าเสียเงินมากกกกๆๆๆ

อะไรกันเนี่ยๆๆๆๆๆๆ ผมคิดว่าปีแห่งการสูญเสียจะจบลงแต่เพียงเจ้าลามี่ซาฟารีด้ามสีเหลืองนีออนและพวก AL-Star 2 ด้ามนั้นเสียอีก แต่ทำไม๊ทำไมจู่ๆ ถึงกลับมีด้ามนี้ปรากฏโฉมขึ้นมาได้? แล้วมาแบบไม่มีสุ้มมีเสียงรู้ก่อนจะวางตลาดแค่ไม่กี่วันเท่านั้นเอง แผนการทำการตลาดหรือข่าววงในก็ไม่มีการเอ่ยถึงมาก่อน แล้วทีนี้ทำยังไงล่ะ? ก็ต้องซื้อสิครับ!!

Lamy Safari Pink 2013

Lamy Safari Pink 2013 กลับมาอีกครั้งแบบผมเองยังตกใจครับ เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่าลามี่สีชมพูนี้ถูกผลิตมาแล้วถึง 2 รุ่นเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผมจึงไม่คิดว่าจะได้เห็นด้ามสีนี้อีกแต่เธอก็กลับมาอีกครั้งจนได้ คราวนี้รูปโฉมเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยพอให้ใจสั่นและเกิดความใคร่อยากเป็นเจ้าของ ดังนั้นพอได้ข่าวจากเว็บ Goulet Pen ว่าจะมีการนำกลับมาขายอีกครั้งผมก็เริ่มเฝ้ารอเลยครับ วันแล้ววันเล่าในที่สุดก็วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ(ในต่างประเทศ)เสียที แต่ก็อย่างที่รู้ๆ กันว่าเว็บ Goulet Pen นี่ค่าส่งโหดมาก ผมจึงได้แต่นั่งรอต่อไป

จุกดำสวยเข้ากับด้ามสีชมพูเหมือนกันแฮะ

จนเวลาผ่านมาหลายสัปดาห์ ก็มีเมลแจ้งเตือนมาจากเว็บ pengallery.com และจากท่านสมาชิกเพจที่เสพติดปากกาลามี่แจ้งข่าวมาว่า ลามี่ซาฟารีสีชมพูมีขายแล้วนะจ๊ะ ขอเชิญเข้ามาเลือกน้องอนงค์เหล่านี้กันได้เลย อยากได้ไซส์ไหนเล็กใหญ่เพียงใดก็ตามแต่ใจโหยหา ผมก็ไม่รอช้าสิครับ ต้องเอามาเขียนบล็อกให้เร็วที่สุดในวงการปากกาของบ้านเรา (ได้ข่าวว่ามีเว็บเดียว) แต่ละครั้งจะสั่งมาแค่ด้ามเดียวก็จะเสียค่าส่งไปอย่างไร้ประโยชน์ ผมจึงทำการทวิตๆๆๆ ชักชวนเพื่อนๆ ให้มาเสียตังค์โดยทั่วกัน จากคำหลอกล่อเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเพื่อนทุกคนก็ติดกับเข้าจังเบอ! สั่งกันสนั่นหวั่นไหว(ดูเว่อร์เนอะ) คนนี้เอาหนึ่ง คนนั้นเอาสอง โอ้ยไม่รู้จะสั่งไปทำไมเยอะแยะแต่สรุปแล้วครั้งนี้ผมสั่งลามี่สีชมพูไปทั้งหมด 5 ด้ามครับกับหมึก 1  ขวดและน้ำยาล้างปากกาของ Rotring อีกหนึ่ง สิริรวมแล้วก็ 156.80$ หรือก็คือ 5,090 บาท จะบ้าไปแล้ว!!! เกิดมายังไม่เคยสั่งของรวมมูลค่าเยอะขนาดนี้มาก่อนเลย!! แต่เพราะเป็น pengallery.com และการส่งโดย DHL ผมเลยไม่ค่อยห่วงอะไรมากคลิกโลดดดด!!

เชื่อมะ? ว่าผมรอเพียงแค่ 1 วันสำหรับการแพคของเท่านั้น และอีก 1 คืนสำหรับพัสดุบินข้ามน้ำข้ามประเทศมาสู่มือผม DHL ส่งเร็วเว่อร์ม้านิลมังกรมาก ตอนเช้าของอีกวันพนักงานก็โทรมาแจ้งข่าวดีเลยครับ ผมยิ้มและรับสายอย่างสดใสในออฟฟิศ “พี่ครับ ผมมีพัสดุมาส่งครับกำลังจะเข้าไปที่ ตู้ดๆๆๆ ตู้ดๆๆๆ ซอย ตู้ดๆๆๆๆ ข้อมูลถูกต้องนะครับ” ผมก็ “อ้อๆๆ ถูกต้องเลยครับเข้ามาเลยนะ เดี๋ยวผมรออยู่ข้างหน้าครับ” ไอน้องพนักงานก็พูดเสียงสดใส “ได้เลยครับพี่ แต่ว่ามันมีค่าภาษีอยู่อ่ะครับ ทั้งหมด 500 บาทครับ เดี๋ยวรบกวนชำระตอนรับพัสดุด้วยนะครับ” ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………น้องพ่นคำบ้าอัลไลออกมาห๊าาาา?!!!!!! มีภาษีอีก 500 บาทได้ยังไงฟระ?!! ตอนสั่งก็ให้เค้าเขียนหน้ากล่องแล้วนี่ว่าของแค่ไม่กี่บาท ทำไมยังมีภาษีอีกได้ฟระ?!! …สงสัยคนในออฟฟิศคงสัมผัสได้จากไอความร้อนจากการระเบิดพลังซุปเปอร์ไซย่าของผม เห็นน้องคนนึงเดินไปเร่งแอร์เฉยเลย -*-

เหมือนเอาเข้ามาขายเลยอ่ะ ไม่เคยสั่งเยอะขนาดนี้มาก่อน กระปุกร้าว

บุกล่องอย่างดีเลย ใส่เม็ดโฟมจนแน่นครับ รับรองไม่หักแน่ๆ แม้กล่องตกจากรถขนส่ง...แต่หาย

ตัดกลับมาตอนเย็นเลยเพราะผมรับตอนเช้าแต่ยังไม่มีเวลาเปิดดู ซึ่งก็แน่นอนของร้านนี้ครับ ห่อพัสดุมาอย่างดีเยี่ยมยอดไม่เคยผิดหวังเลยจริงๆ บุทั้งโฟมบุทั้ง bubble wrap แถมหมึกยังห่อถุงพลาสติกมาอีกชั้นด้วยนะ คือถ้าตกมาจากชั้นบรรยากาศก็คงไม่มีแตกเป็นแน่ (แน่ใจนะว่าแกได้เรียนหนังสือมาหน่ะ?)

จุกสีดำกากบาทและก้น Germany เพราะเป็นรุ่นเพิ่งผลิต

แยกส่วนดูน้องนางว่าไปโมร่างส่วนไหนมาบ้าง

ปลายเกลียวตัดเฉียงเหมือนซาฟารีรุ่นใหม่ๆ

Lamy Safari Pink 2013 มีการเปลี่ยนโฉมในส่วนเดียวครับซึ่งนั้นก็คือตรงจุกด้านบนของปลอกปากกา จากบล็อกคราวก่อนนู้นนนนน ที่ผมนำมาให้ชมกันนั้น ลามี่สีชมพูของปี 2009 จะเป็นจุกกลมสีชมพู ส่วนของปี 2011 จะเป็นจุกกากบาทสีชมพู ดังนั้นด้ามชมพูของปี 2013 จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่จุกกากบาทดำ ก็เพราะมันวนมาครบแล้วยังไงล่ะครับ แต่ส่วนอื่นๆ ก็ยังคงเดิมนะ สีก็ยังเป็นสีชมพูเดิมไม่ได้เข้มขึ้นหรืออ่อนลงแต่อย่างใด แต่ส่วนนึงที่เปลี่ยนไปอย่างแน่นอนนั้นก็คือตรงส่วนบริเวณปลายของเกลียวปากกาก็มีการตัดเฉียงเพื่อลบคมออกเหมือนกับในลามี่รุ่นนีออนเลย เข้าใจว่าซาฟารีรุ่นต่อๆ ไปก็จะผลิตมาแบบนี้เช่นกันนะ

ที่สุดของแจ้!!

จบแล้วครับกับลามี่ซาฟารีด้ามใหม่ล่าสุดของโลก Lamy Safari Pink 2013 ซึ่งไม่ว่าจะผลิตออกมากี่รุ่นก็เชื่อแน่ว่าต้องมีคนที่ตามเก็บสะสมและอยากนำมาใช้เป็นด้ามโปรดประจำตัว สาวๆ ก็แน่นอนล่ะครับว่าต้องถูกใจกันเป็นแน่แท้ ส่วนชายหนุ่มจะซื้อไว้ใช้เองหรือเป็นของขวัญแทนใจก็ล้วนแล้วแต่มีความสุขทั้งผู้รับและผู้ให้ ใครที่อยากเป็นเจ้าของอาจจะต้องรอวางจำหน่ายในไทยอีกสัก 2-3 เดือนแต่ถ้ารอไม่ไหวก็สามารถสั่งจากบนเว็บได้นะแต่ระวังเรื่องภาษีไว้หน่อยก็ดีครับ แต่ก็อย่างว่าละนะ ได้ใช้ก่อนคนอื่นถือเป็นความ “เท่” ระดับสูงสุดครับ กร๊าาาาากกก

เทียบให้ดูกันจะๆ กันไปเลยทั้ง 3 รุ่นชมพูซี๊ด

หวานจนน้ำตาลในเลือดพุ่ง

ปล. ก็อย่างที่บอกครับว่ามาบางกอกผมไม่ได้พกกล้องถ่ายรูปมาด้วย ทั้งหมดนี่ถ่ายด้วย iPhone5 ซึ่งหากรูปไม่ชัดประการใดก็ขอให้ทำใจซะเถอะนะ กร๊าาากก แต่ถ้าผมได้กลับเชียงใหม่เมื่อไหร่ผมจะถ่ายซ่อมสวยๆ มาให้ได้ชมกันอีกทีนะครับ แล้วจะบอกนะ