หากคุณผู้อ่านยังคงจำกันได้…บล็อกตอนแรกเริ่มที่สุดที่ทำให้ผมกับคุณได้รู้จักกันนั้นจะเป็นตอนไหนไปไม่ได้เลยถ้าไม่ใช่ตอน ตกหลุมรัก Lamy Safari “Friendship” Limited Edition และในบล็อกตอนนั้นเองที่ผมได้มีการพูดถึงลามี่ด้ามนึง ลามี่ด้ามนี้แหละที่ถือเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตการสะสมปากกาลามี่ของผมครับ
จริงอยู่ที่ลามี่ด้ามแรกของผมนั้นคือด้าม Charcoal Black สีดำด้านที่แฟนผมซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อ 5 ปีก่อน(หรือ 6 หว่าจำไม่ได้ไม่สำคัญ) แต่นั่นไม่ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการสะสมนะ จนกระทั่งเมื่อผมได้ลองหาหมึกมาลองเล่นหรือลองดูรุ่นของลามี่ด้ามอื่นๆ ดู แล้วโชคชะตายาจกก็ดลให้ผมได้ไปพบกับลามี่ด้ามนี้เข้าครับ และด้ามนี้แหละที่ทำให้ผมหลงรักปากกาลามี่จนถอนตัวไม่ขึ้น
Lamy Safari 30th Japan Anniversary 2010 Special Edition เป็นปากกาลามี่ที่จัดทำขึ้นเนื่องในโอกาศครบรอบ 30 ปีของลามี่ในประเทศญี่ปุ่นครับ ปากกาด้ามสีขาวคลิปสีแดงและจุกแบบกลมสีแดงสวยสด เพียงผมมองเห็นแค่แว็บแรกผมก็ตกหลุมรักในทันที และด้วยสีสันของลามี่ด้ามนี้เองทำให้สามารถบ่งบอกได้ถึงประเทศบัานเกิดเมืองนอนของน้องเค้าได้เป็นอย่างดี จุกกลมสีแดงบนด้ามสีขาวตัดกับ o-ring สีเทาอ่อน เปรียบเสมือนดั่งพระอาทิตย์สีแดงเข้มบนผืนผ้าที่มีสีขาวของธงชาติประเทศญี่ปุ่น ใช่ครับ ลามี่ด้ามนี้เป็นลามี่แห่งประเทศญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
อ่านมาจนถึงตรงนี้คุณผู้อ่านคงจะสงสัยแล้วใช่มั้ยครับว่าทำไมผมถึงใช้คำว่า Special Edition มาตลอดตั้งแต่ต้นเรื่อง ทำไมถึงไม่ใช้คำว่า Limited Edition เหมือนอย่างทุกที นั่นก็เพราะว่าลามี่ด้ามนี้มันไม่ใช่ Limited Edition ที่ผลิตขึ้นมาเป็นจำนวนจำกัดและจำนวนน้อยยังไงล่ะครับ ซึ่งไอเรื่องนี้ผมก็เพิ่งทราบมาเมื่อไม่นานนี้เองว่าจริงๆ แล้วลามี่รุ่นนี้ถูกแบ่งออกด้วยกัน 2 รุ่นครับ คือรุ่นที่เป็น Limited Edition จริงๆ และก็รุ่นนี้ Special Edition ซึ่งทั้งสองรุ่นมีข้อแตกต่างกันดังนี้ครับ
Limited Edition จะถูกผลิตขึ้นมาเพียง 1,000 ด้ามในโลกครับ ที่ปลายด้ามปากกาจะมีคำว่า 30 Year LAMY safari fountain pen แล้วตามด้วยเลข xxxx/1000 เพื่อบ่งบอกว่าด้ามนี้เป็นด้ามที่เท่าไหร่ของ 1 พันด้ามทั่วโลก เท่านั้นยังไม่พอ! Limited Edition รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับกระเป๋าใส่ปากกาหนังสุดเจ๋งสีดำด้ายแดง บรรจุมาในกล่องที่จัดทำขึ้นพิเศษซึ่งไม่เคยทำมาก่อนด้วย …ถามว่าด้ามนี้ผมได้ครอบครองเป็นเจ้าของมั้ย? ไม่มีครับ! T_T เป็นด้ามที่หายากและราคาสูงจริงๆ ครับ แต่ถ้าอยากดูรูปประกอบขอเชิญเข้าดูได้ที่นี่นะ http://global.rakuten.com/en/store/atn/item/l19-jpset/
Special Edition รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ผมนำมาให้ชมกันในวันนี้ครับ รูปร่างหน้าตาเหมือนกันกับรุ่นพี่ทุกประการเพียงแต่ผลิตออกมาเป็นจำนวนมากกว่าและที่ปลายด้ามปากกาก็ไม่มีตัวอักษรอะไรพิมพ์ไว้เลยครับ แน่นอนว่ากระเป๋าใส่ปากกานั้นอย่าหวังเสียให้ยากครับเพราะไม่มีมาให้ด้วยแน่ๆ รุ่นนี้ก็เหมือนลามี่ทั่วไปนะครับคือขายกันในราคาตามท้องตลาด แต่เนื่องด้วยที่ว่าเป็นลามี่รุ่นที่มีการผลิตและขายกันเพียงแต่ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ด้ามนี้จึงถือเป็นรุ่นน่าเก็บและน่าสะสมเป็นยิ่งนักครับ ถ้าหากลองเช็คราคาที่ขายกันบนอีเบย์ “ช่วงก่อนหน้านี้” ก็จะเป็นว่าราคาจะอยู่ราวๆ 100$ ซึ่งถือว่าสูงพอสมควรนะ แต่เดี๋ยวถ้าอ่านไปจนจบจะมีแหล่งขายที่ราคาสมเหตุสมผลบอกให้ครับ #ชวนเสียทรัพย์
*Taiwan 100th Anniversary Limited Edition เห้ย! ไหนบอกว่ามี 2 รุ่นแล้วไอนี่โผล่มาจากไหน??? คือไอด้ามนี้ผมจะขอหยิบมาพูดนิดนึงครับเพราะว่ามันมีหน้าตาเหมือนกันกับขาว-แดงของทางญี่ปุ่นมากกกก เรียกได้ว่าออกมาจากสายพานเดียวกันเลยก็ว่าได้ แต่จะมีส่วนที่ต่างกันก็คือ ที่ปลอกปากกาจะมีตัวหนังสือพิมพ์ไว้ว่า I ♥︎ 100 TAIWAN โดยด้ามนี้จะมาเป็นเซ็ตกับดินสอกดอีกด้ามมาในกล่องเหล็กครับ เดี๋ยวเอาไว้ผมหามาได้ยังไงจะเอามาให้ดูกันนะครับ
อันที่จริงตั้งแต่ที่ผมเริ่มสะสมลามี่มา ผมตามหาลามี่สีขาวคลิปแดงมาโดยตลอดและก็ได้เป็นเจ้าของอยู่ด้ามนึงเมื่อนานมาแล้วครับแต่ไม่กล้าที่จะเอามาถ่ายรูปและเขียนให้ผู้อ่านได้รับชมกัน นั่นก็เพราะว่าด้ามที่ผมได้มานั้นได้มาในราคาที่ไม่แพงมากมาย อีกทั้งกล่องที่ใส่มาด้วยนั้นไม่ได้เป็นกล่องลามี่ที่ผลิตในญี่ปุ่น ผมจึงไม่แน่ใจว่ามันจะใช่ของจริงหรือเปล่าเลยได้แต่เก็บมันไว้ในกรุสมบัติที่วางไว้ใต้ตู้กับข้าวทางฝั่งซ้ายโดยมีตะกร้าใส่ผลไม้วางบังอยู่ แน่นอนครับว่าผมซ่อนมันไว้อย่างดีไม่มีใครที่จะล่วงรู้ไปได้หรอกว่าผมซ่อนไว้ที่ไหนและด้วยความไม่แน่ใจนี้เองทำให้ผมยังคงตามหาปากกาลามี่ด้ามจี๊ดนี่ตั้งแต่วันนั้นโดยไม่ละความพยายาม
จนกระทั่งวันโลกแตกก็มาถึง!! ผมได้รับอีเมลจากน้อง Atsuko จังแห่งเว็บปากกาชื่อดัง pencils.jp (ต่อไปขอเรียกว่าน้องอั๊ตจัง) แจ้งเข้ามาว่ามีปากกาลามี่รุ่น Lamy Safari 2010 Japan 30th Anniversary กลับมาขายอีกครั้งนะให้รีบๆ เข้ามาสั่งกันได้เลย…ซึ่งผมซื้อไม่ทันครับ กร๊าากกก T_T คุยกับตาท๊อป @risingtop ตาท๊อปบอกว่าทันซื้อมาได้ด้ามนึง ผมก็เลยลองเมลไปบอกน้องอั๊ตจังไว้ว่าถ้ามีก็ให้บอกเลยนะ และถือเป็นโชคดีของผมครับที่น้องอั๊ตจังเค้าเมลกลับมาบอกอีกรอบว่ามีปากกาเหลืออยู่ 2 ด้ามพอดีผมก็เลยได้มา 2 ด้ามครับ เย้!!! แต่ที่บ้าบอมากกว่านั้นก็คือผ่านไปยังไม่ถึง 1 วันด้วยซ้ำ น้องอั๊ตจังก็เมลมาบอกอีกฉบับว่ายังมีปากกาเหลืออยู่อีกนะจะเอาเพิ่มมั้ยถ้าเอาก็จะจ่ายเงินแล้วจะได้แพ็ครวมกันมาเลย? ไอผมก็คิดหนักสิครับเพราะเป็นด้ามที่อยากได้มากด้วยก็เลยบอกน้องเค้าไปว่าส่งมาเลยค่ะ! พี่ทุ่มหมดตัว!! …เงินในบัญชีเหลือ 120 บาท
ลามี่สาวน้อยชาวญี่ปุ่นผิวขาวปากสีแดงสวยด้ามนี้ผมได้มาจากเว็บ pencils.jp เจ้าประจำที่ผมสั่งหมึก Sailor Kiwa-Guro ครับ หากจะสั่งซื้อเครื่องเขียนอะไรที่เป็นของญี่ปุ่นผมมักจะเข้ามาที่เว็บนี้เป็นอันดับแรกเพราะขายถูกที่สุด (ก็ของในประเทศนี่) ราคาค่าตัวของน้องเค้าอยู่ที่ 3,591 JPY (ประมาณ 1,145 บาท) โดยผมเลือกให้เค้าส่งพัสดุมาแบบ EMS ครับ ราคาค่าส่งอยู่ที่ 1,240 JPY (ประมาณ 395 บาท เพราะอันนี้ผมสั่งหลายด้ามอ่ะครับ) ซึ่งถ้าสั่งด้ามเดียวเพื่อนผมบอกว่าค่าส่ง 300 บาท ซึ่งผมแนะนำให้สั่งทีละด้ามนั่นแหละนะเพราะตาท๊อปเพื่อนผมสั่งมาด้ามเดียวไม่โดนภาษีอะไรเลยครับ…เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยเค้าก็จัดส่งมาให้และผมก็ได้รับภายใน 2 วันเท่านั้นเองครับ (ส่วนเรื่องผมโดนภาษีไปเท่าไรนั้น ตามอ่านได้จากบล็อกตอนนี้นะ -*-)
…ผมต้องขอบอกตรงนี้เลยนะครับว่าทีแรกปากกาด้ามนี้มีไม่กี่ด้ามหรอกและมีไม่กี่คนที่ได้สั่งไปแล้ว (ของผมล็อตสอง ล่าสุดคือล็อตสาม) แต่เช้านี้เปิดเว็บขึ้นมาดูโอ้โห! เหลือกว่า 30 ด้าม!! กูโดนยัยอั๊ตจังหลอกเข้าแล้ว!!! ยังไงใครที่สนใจก็รีบๆ กันหน่อยนะครับ ผมไม่รู้ว่าจะหมดยาวหรือจะมีมาเรื่อยๆ นะ ใครอยากได้ก็เข้าไปซื้อกันได้เลยครับ http://www.pencils.jp/product/389
ผมมานั่งนึกหาเหตุผลว่าทำไมจู่ๆ ปากาลามี่รุ่นที่ถือว่าแรร์ระดับต้นๆ ทั้งหามาเป็นเจ้าของยาก ถึงจะหาได้ง่ายแต่ก็มีราคาแพง ผมเลยลองหยิบปากกาด้ามนี้ขึ้นมามองดูอย่างพินิจพิเคราะห์ ใช้หัวใจเข้าสัมผัสและหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าลามี่ด้ามนี้ เธอกระซิบครับ เธอกระซิบอย่างแผ่วเบาเพื่อบอกกับผมว่า “เปิดดูไส้ชั้นสิที่รัก” หา? ไส้เนี่ยะอ่ะนะ?! ผมไม่รอช้าครับ หมุนคลายเกลียวปากกาออกเพื่อที่จะดูว่าสิ่งที่เธอกระซิบบอกใบ้นั้นมันคืออะไร แล้วก็ต้องตกตลึงกับภาพที่เห็นครับ ตรงส่วนของเกลียวปากกานั้นเป็นแบบตัดลบคมครับ และเมื่อลองส่องเข้าไปดูตรงส่วนของช่องเสียบหลอดหมึกก็จะเป็นว่าเป็นช่องเสียบหมึกแบบใหม่ที่มีเส้นเสริมความแข็งแรงไอส่วนพวกนี้นี่เองที่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่งมีการเปลี่ยนตั้งแต่รุ่น Lamy Safari Neon Yellow 2013 ที่ผ่านมานี้เองครับ นั่นจึง “อาจจะ” เป็นไปได้ว่า Lamy 30th Japan Anniversary ด้ามนี้เป็นรุ่นที่ผลิตใหม่ภายในปี 2013 นี้ครับ เรียกได้ว่าเป็น Gen 2 ของรุ่นนี้ก็ได้ครับ ถึงว่าล่ะ! มันถึงได้มีเยอะนักเยอะหนาขนาดนี้! (ตอนนี้น้องขาวแดงด้ามแรกไม่ได้อยู่กับผมครับ ใครถือครองอยู่ช่วยมายืนยันความคิดนี้ด้วยนะ ขอบคุณครับ)
เป็นอย่างไรบ้างครับกับปากกาด้ามที่ทำให้ผมเสียสติมาจนถึงทุกวันนี้ ด้ามที่ชักนำผมให้เข้ามาติดอยู่วังวนของปากกาลามี่อย่างไม่อาจจะหลุดพ้นได้ ด้ามที่สวยงามเหมาะกับหญิงสาวน่ารักและชายหนุ่มที่สดใสร่าเริง รีบหน่อยนะครับเพราะ Lamy Safari 2010 Japan 30th Anniversary Special Edition สาวน้อยน่ารักคนนี้อาจจะไม่อยู่รอคุณแล้วนะ เพราะเธอเสน่ห์แรงเป็นที่หมายปองของใครหลายต่อหลายคนจริงๆ!
…
แต่ที่ผมยังสงสัยนั่นก็คือ น้อง Atsuko จังนี่เป็นน้องจริงๆ เหรอ? …อาจจะเป็นป้าแก่ๆ ก็ได้นะ T_T