ผมเป็นคนที่เดินทางมาแล้วรอบโลก ไม่ว่าจะเป็นอิตาลีบ้านเกิดเมืองนอนที่ผมมักกลับเยี่ยมเยือนปีละหนึ่งครั้งเป็นอย่างน้อย ประเทศใกล้เคียงอย่างฝรั่งเศสที่ไปแสดงงานศิลปะของตัวเองอยู่เสมอ เกาะอังกฤษนี่จะไปบ่อยหน่อยเพราะต้องการไปเลือกเฟ้นพู่กันและสีน้ำที่ถูกใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเยอรมันประเทศต้นกำเนิดของลามี่ที่ผมจะไปเฝ้าหน้าโรงงานในทุกๆ ปีเพื่อที่จะได้นำลามี่ Limited Edition มารีวิวบนเว็บ bbblogr.com ให้ได้อ่านกันก่อนใครเพื่อน เรียกได้ว่าผมแทบเบื่อการท่องเที่ยวเลยจริงๆ ล่ะ

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงประเทศส่วนหนึ่งเท่านั้นที่ผมนำมาเล่าให้ฟังกัน ยังมีอีกหลายประเทศเลยล่ะที่ผมไปมาแล้วแต่ก็บรรยายไม่หมด อเมริกาก็ไปบ่อยเพราะจะดูต้นแบบไอโฟนรุ่นใหม่ ญี่ปุ่นเพื่อไปซื้อของเล่น.. บ้างก็ไปเดาะบอลเล่นที่บลาซิล ลงใต้ไปกินเบอร์ริโต้ที่เม็กซิโก และเร็วๆ นี้ก็มีคิวต้องไปต่อแถวซื้อไอโฟนที่ฮ่องกงอีกนะ โอ้ย! ผมนี่มันนักเดินทางจริงจริ๊ง!!

• ได้ข่าวว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีพาสปอร์ตเลยนี่

…เอ่อ

• เป็นเรื่องจริงสินะ?

…เงียบน่า!! ไอเราจะขอเพ้อฝันบ้างไม่ได้หรือยังไงฟระ?! ลำพังเงินประจำตำแหน่งคนสวนที่ซื้อเครื่องเขียนทีนึงก็หมดตั้งแต่วันที่ 5 แล้วมันจะไปมีปัญญาไปเที่ยวเมืองนอกเมืองนาได้ยังไงกันเล่า!! แถมทำงานงกๆๆๆ ตัดหญ้าตัดต้นไม้โกยขี้หมาหน้าบ้านเจ้านายก็ทำเอาเวลาหมดแล้ว มันจะได้กระดิกตัวไปไหน!! ไอเสื่อที่นอนอยู่ทุกวันก็ขาดแล้วขาดอีก! วันก่อนปูพื้นนอนแนวแทยงตัวยังเลยออกนอนเสื่อมาตั้งครึ่ง! เวลากับเงินทองนี่มันช่างหายากจริงๆ น้อ!

• คืนนี้จะได้อ่านรีวิวหรือเปล่า?

…เอ่อ

• จะได้อ่านมั้ย?

…เอาละครับคุณผู้อ่านทุกท่าน! สำหรับท่านที่เป็นนักเดินทางนักท่องเที่ยวที่มักจะหาเวลาออกไปท่องโลกกว้างอยู่เสมอจะต้องชอบสิ่งที่ผมนำมาให้ชมกันในวันนี้เป็นแน่ เพราะมันคือสมุดในตำนานที่ควรคู่ยิ่งกับนักเดินทางเช่นคุณครับ One notebook to rules them all หนึ่งเดียวพี่เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบเหมาะกับเป็นเพื่อนคู่กายที่ไม่ยอมให้ห่างตัว ชื่อของสมุดเล่มนี้ก็คือ Moleskine Voyageur

Moleskine Voyageur คือสมุดเล่มเดียวที่นักเดินทางต้องการ สมุดเล่มนี้ถูกออกแบบขึ้นด้วยแนวความคิดที่ว่าเป็นสมุดที่ครบถ้วนไปด้วยสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเดินทางและสามารถเก็บบันทึกทุกข้อมูลและเรื่องราวหลากหลายประเภทไว้ได้ในเล่มเดียว เท่านั้นยังไม่พอ ยังเน้นเรื่องความเป็นอนาล็อกควบคู่ไปกับความเป็นดิจิทัลด้วย

ผมได้สมุดเล่มนี้มาด้วยวิธีการเอาเงินไปแลกแล้วเค้าก็ให้สมุดมาครับ…มันก็คือซื้อนั้นแหละ!! สั่งมาจากเว็บ bookdepository.com ซึ่งราคาเต็มๆ นั้นอยู่ที่ 1,089.91 บาท แต่ว่าตอนนี้เค้ามีโปรโมชั่นลดราคา 47% จึงทำให้ราคาเหลือเพียง 570.85 บาท (ตอนผมซื้อนั้นโดนไป 583 บาทแหน่ะ) ว๊าาากกก!! นี่มันถูกมากเกินไปแล้ว!!! และแน่นอนว่าที่นี่เค้าส่งฟรีด้วย!! และเมื่อได้รับพัสดุมาแล้วผมก็ไม่รอช้า แกะห่อและสำรวจโดยไวปานม้ากระโดด ผมแกะกระดาษคาดสมุดที่ออกแบบมาได้บ้าพลังมากแต่สวยงามออกมาดู ที่ปกหน้า QR Code ให้เรายิ่งเพื่อเปิดเว็บไซต์ดูข้อมูลและการใช้งานของสมุดนี้ครับ ตรงส่วนปกหลังมีการพูดถึงเรื่องการ “ปริ้นท์หน้าสมุดจาก Moleskine MSK” เพื่อเอามาแปะลงบนสมุดเล่มนี้อีกด้วย ข้อมูลที่เหลือก็อธิบายคุณสมบัติของสมุดเล่มนี้ซึ่งก็ลองอ่านดูกันเอาเองนะ จะพลิกหน้าหลังล่ะ

ซูมมมม!!! อะไรกันวะ?!! ผมพลิดกระดาษคาดสมุดเพื่อดูด้านหลังก็พบกับคำด่าครับ! I HERE โอ้ยๆๆ มันช่างเจ็บปวด!! …อะไรนะ? อ้อ! เค้าเขียนว่า I AM HERE นี่เอง ว้าๆๆๆ น่ารักจัง…ว่าแต่ว่ามันเอาไว้ทำอะไรล่ะ? คืองี้ครับ สมุดเล่มนี้เค้าทำเก๋ด้วยการผสานโลกแห่งอนาล็อกเข้ากับโลกโซเชียลมีเดียด้วยการที่ว่า เมื่อเราเดินทางไปเที่ยวที่ใดก็ตาม เราก็จะถ่ายรูปอัพโซเชียลกันอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ ทำไมไม่มาแชร์ภายใต้ hashtag ที่มีชื่อว่า #m_iamhere เสียเลยล่ะ วิธีการก็ง่ายๆ เพียงแค่เอาเจ้ากระดาษแผ่นนั้นชูขึ้นชี้พร้อมถ่ายรูปเก๋ๆ แชร์ขึ้นโซเชียลฯ แค่นี้ภาพของเราก็จะได้แบ่งปันรูปภาพร่วมกันกับนักเดินทางที่ใช้ Moleskine Voyageur ทั่วโลก! ไอเดียนี่เท่จริงๆ!!

ชูเสร็จแล้วจึงวางกระดาษลงเพื่อหยิบสมุดขึ้นมาลูปไล้ ครามรู้สึกแรกที่ผมถือสมุดเล่มนี้อยู่ในมือก็คือ “ไม่คุ้นเคย” จริงๆ นะครับ! อย่าคิดว่าที่ผมไม่คุ้นเคยนั้นจะเป็นเพราะสีของสมุดที่เป็นสีน้ำตาลนะ แต่ที่บอกว่าไม่คุ้นเคยนั่นก็เป็นเพราะว่า “มันเป็นสมุด Moleskine ที่ไม่เคยมีมาก่อน” …ก็แหงสิมันเพิ่งผลิตนี่ มานี้ครับมาใกล้ๆ ผมจะอธิบายให้ฟัง

สิ่งที่เด่นชัดที่สุดก็คือจากการสัมผัส สมุดเล่มนี้มีปกที่หุ้มด้วยผ้าใบ (canvas) ซึ่งโดยปรกติแล้วสมุดของ Moleskine จะเป็นปกที่หุ้มด้วยวัสดุสังเคราะห์คล้ายหนังเทียม แต่ว่าเจ้า Moleskine Voyageur นั้นหุ้มทั้งเล่มด้วยผ้าใบสีน้ำตาลที่ให้สัมผัสที่ลื่นๆ ฝืดๆ ไม่เหมือนทุกทีครับ ผมลองลูบๆ อยู่พักใหญ่ก็คิดว่ามันจะเปื้อนง่ายมั้ย? เพราะผมเคยรีวิวสมุดที่ปกทำด้วยผ้าใบมาแล้วรอบนึงอย่าง Hand book Journal ที่ปกเปื้อนง่ายเหลือเกิน แต่กับสมุด Moleskine เล่มนี้เป็นผ้าใบที่ใยผ้ามีความลื่นจึงทำให้เปื้อนคราบต่างๆ ได้ยากครับ แต่ถ้าหากโดนเลือดหมาดำ น้ำเน่า หรือว่ากาแฟหกใส่ก็เปื้อนถาวรอยู่ดีครับเพราะปกมันไม่สามารถปกป้องของเหลวได้ดีเหมือนปกหนังสังเคราะห์แบบปรกติหรอกนะ

อีกสิ่งหนึ่งที่ให้ความรู้สึกไม่คุ้นนั้นก็คือ “ขนาด” ตอนผมกดสั่งผมก็คิดมาตลอดเลยว่ามันจะต้องเป็นสมุดขนาด pocket แน่ๆ เพราะจากรูปโฆษณาบนเว็บเห็นภาพนึงที่นายแบบที่หน้าตาใกล้เคียงกันกับผมหยิบสมุดเล่มนี้ใส่กระเป๋าหลังกางเกงยีน ซึ่งไอเรื่องนี้ผมทำบ่อยเลยพาลคิดว่าขนาดมันต้องเท่ากันแต่ผิดครับ! สมุดเล่มนี้ไม่เล็กและไม่ใหญ่ มันเป็นขนาดใหม่ที่ยังไม่เคยผลิตมาก่อนจาก Moleskine ผมลองเอาเล่มนี้มาวางเปรียบเทียบขนาดกันกับสมุดขนาด pocket และ large ก็พบว่ามันเป็นขนาดที่อยู่ตรงกลาง ซึ่งความเห็นของผมก็คือมันยอดเยี่ยมมากเลยนะ ผมคิดมาเสมอว่าอยากได้สมุดที่ใหญ่กว่าขนาด pocket นิดนึง แต่ก็ไม่ใหญ่เทอะทะเท่าขนาด large ดังนั้นขนาด 4 x 7 นิ้วแบบเล่มนี้นี่แหละที่เหมาะมือจริงๆ ครับ

ผมดึงสายรัดสมุดสีน้ำตาลที่เข้ากับตัวเล่มออกเพื่อดูข้างในว่ามันจะน่าอัศจรรย์อย่างไร แต่เปิดมาหน้าแรกผมก็ร้องเสียงหลงลั่นไปทั้งห้อง นั่นเป็นเพราะด้านในของปกสมุดใช้กระดาษสีแดงออกน้ำตาล ซึ่งโดยรวมแล้วเป็นสีที่เข้ากับปกสมุดมากครับ ผมพลิกดูด้านหลังก็เป็นสีเดียวกันทั้งในส่วนของช่องเก็บของด้วย สวยจริงๆ ให้กระโดดลงคลองสิ

ผมขอรวบรัดอธิบายแต่ละหน้าแบบสั้นๆ เลยนะครับเพราะอยากให้ซื้อมาสัมผัสด้วยตัวเองจะอินกว่าที่ผมพูด เริ่มด้วยการเปิดสมุดหน้าแรกก็พบกับข้อความที่สื่อถึงว่าสมุดเล่มนี้เป็นเพื่อนร่วมเดินทางที่ซื่อสัตย์ของคุณนู่นนี่นั่น แล้วก็ทิ้งท้ายที่ว่าเราสามารถเข้าเว็บไปดูข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมรวมถึงสิ่งเสริมแต่งสมุดได้ เช่น หน้ากระดาษแบบต่างๆ ให้เลือกปริ้นท์มาแปะสมุดครับ ใครสนใจก็ลองเข้าได้ที่นี่นะ http://mymoleskine.moleskine.com/community/voyageur/

สมุดเล่มนี้พร้อมไปด้วยหน้าต่างๆ ที่เอาไว้สำหรับบันทึกข้อมูลสำหรับการท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลส่วนตัวของเราในกรณีที่ทำสมุดหายหรือเราประสบอุบัติเหตุ ก็พวกบอร์ติดต่อ เลขที่พาสปอร์ต กรุ๊ปเลือด โรคประจำตัว การแพ้ยา เป็นต้น หน้าสำหรับบันทึกข้อมูลบัตรสมาชิกต่างๆ เลขโทรศัพท์ฉุกเฉินของประเทศต่างๆ ทั่วโลก รหัสโทรศัพท์ต่างประเทศรวมถึง TLD ของเว็บไซต์ในประเทศก็มีบอกนะเอ้อ (มันคือนามสกุลของเว็บอ่ะครับ เช่น .th .jp นั่นแหละ) อีกหน้านึงที่น่าสนใจก็คือหน้า Time Zone เป็นหน้าแผนที่แสดงเวลาทั่วโลกครับ ใครที่เดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ หน้านี้ก็มีประโยชน์ทีเดียวแถมเขียนบันทึกปักหมุดลงไปบนแผนที่เลยก็ได้ (ดูในไอโฟนง่ายกว่ามั้ย? -.,-) และอีกหน้าที่ผมชอบมากและเชื่อแน่ว่านักเดินทางหลายๆ ท่านมักทำกันบ่อยนั้นก็คือหน้าสำหรับ “แปะแสตมป์” เวลาเราไปเที่ยวต่างประเทศเราก็มักจะซื้อโปสการ์ดส่งหาเพื่อนใช่ไหมครับ และแน่นอนว่าเราก็มักจะซื้อแสตมป์ของประเทศนั้นๆ เพื่อเก็บสะสมเป็นที่ระลึกด้วย เราก็เอามาแปะรวบรวมบนหน้านี้แหละ เปิดสมุดทีไรก็รู้สึกสุดยอดที่ได้เห็นจริงๆ

แต่สิ่งที่ผมว่าเด็ดจริงๆ ของสมุด Moleskine Voyageur นั่นก็คือ สมุดเล่มนี้มีหน้ากระดาษสำหรับจดบันทึกอยู่ 3 แบบครับ สมุดทั่วๆ ไปก็จะมีแค่หน้ากระดาษโล่งๆ หรือไม่ก็เป็นแบบมีเส้น แต่เล่มนี้ให้ถึงสาม! นั่นก็คือ ไม่มีเส้น, มีเส้น และ จุด ซึ่งก็สามารถเลือกบันทึกได้ตามความต้องการได้เลย แต่เนื่องจากมีกระดาษสามแบบ เค้าก็เลือกกลัวเราสับสนเปิดไปมาเวียนหัว เค้าเลยใส่เชือกคั่นสมุดมาให้เราถึง 3 เส้นครับ! โอ้วมันเท่มาก เชือกคั่นสมุดสามเส้นสี ส้ม แดง และน้ำตาล นอกจากจะเข้ากับสมุดแล้วยังสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่จริงๆ

ในส่วนตอนท้ายของเล่มก็จะมีหน้าสารบัญให้เราบันทึกว่าอะไรอยู่หน้าไหนเพราะว่าที่มุมกระดาษแต่ละหน้าจะมีเลขหน้าพิมพ์ไว้ทั้งหมด จดอะไรไว้ที่หน้าไหนก็หาเจอได้ง่ายแล้วล่ะ พลิกไปอีกไม่กี่หน้าก็จะพบหน้าสำหรับเอาไว้สำหรับจดรายการข้าวข้องที่เราต้องจัดกระเป๋าและสิ่งที่ต้องทำ (To do list) ซึ่งมีรอบปรุให้สามารถฉีกออกไปได้ จัดของไปถือลิสต์ไปสะดวกจริงๆ

ที่ช่องเก็บของด้านหลังก็มีสิ่งให้ต้องตื่นตาตื่นใจกันอีกสักหน่อยนั่นก็คือสติ๊กเกอร์!!! ให้ตายเหอะผมนี่ชองสติ๊กเกอร์ของ Moleskine เสียจริงและเล่มนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลยครับ สติ๊กเกอร์สีน้ำตาลเหลือบทองที่ให้มานั้นจะเป็นรูปสัญลักษณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มือไลค์ ลูกศร ดาว หัวใจ ปักหมุด ฯลฯ ซึ่งมีให้แปะจุใจ บันทึกอะไรไว้และอยากเน้นเป็นพิเศษก็เอาสติ๊กเกอร์แปะลงไปได้เลย สมุดเล่มนี้เท่ทุกอณูจริง!

ผมไม่สามารถหาเหตุผลมาโต้แย้งให้ไม่ซื้อสมุดเล่มนี้ได้เลยครับถ้าหากคุณเป็นนักเดินทางที่ชอบจดบันทึก Moleskine Voyageur เล่มนี้คือเพื่อนที่ดีที่สุดจริงๆ ราคาที่ลดแล้วจากโปรโมชั่นก็ทำให้ถูกลงไปกว่าครึ่ง ข้อมูลสำคัญประกอบการท่องเที่ยวทั่วโลกก็มีบอกไว้ หน้าสมุดแต่ละหน้าเหมาะสำหรับการบันทึกในหลายรูปแบบ เชือกคั่นสุดเก๋สามสีสามเส้นสำหรับคั่นหน้าสำคัญ สติ๊กเกอร์หลากหลายความหมายเพื่อเน้นบันทึกให้โดดเด่นยิ่งขึ้น และที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือคือ “รูปเล่มสวยงามมาก” หากคุณเป็นนักเดินทางที่มักจะหาโอกาสออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์การท่องเที่ยวพร้อมกับบันทึกเรื่องราบลงบนสมุดอยู่เสมอ Moleskine Voyageur เล่มนี่คือเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณจริงๆ ครับ

ปล. ขอทิ้งท้ายด้วยวิดีโอเท่ๆ ชวนให้ออกไปเที่ยวจาก Moleskine

ปล.2 ตอนนี้รูปเยอะหน่อยนะ โหลดบ้าสนั่นเมืองจริงๆ

ปล.3 ผมแอบแปะลิ้งค์โปรเจคที่ผมทำอยู่ตอนนี้ไว้ด้วยนะ ใครหาเจอบ้างเอ่ย? เอาไว้ว่างๆ เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังนะ

ปล.4 พอ!!