กลับมาอีกครั้งครับสำหรับการรีวิวเชิงทดสอบสมุด Moleskine ในตำนาน หลายคนคงตั้งคำถามว่า Moleskine มันก็เหมือนๆกันไม่ใช่เหรอ? จะต้องมีการทดสอบอะไรอีก? คุณคิดผิดครับ! ถึงแม้รูปร่างหน้าตาภายนอกจะเหมือนกัน บางเล่มเป็นปฏิทิน Daily Planner, Weekly Planner แต่จริงๆ แล้วยังมีเพชรเม็ดงามซ่อนอยู่มวลหมู่ใน Moleskine เหล่านั้น
หากว่าคุณเป็นคนที่ชอบวาดภาพ สเก็ตช์รูปสถานที่ต่างๆ ที่คุณท่องเที่ยวไป วาดภาพอาหาร สิ่งของ หรือบันทึกช่วงเวลาไว้ด้วยปากกา ดินสอ และสมุด กระดาษธรรมดาของ Moleskine อาจจะไม่เพียงพอกับอารมณ์ศิลป์ของคุณต้องใช้กระดาษหนาพิเศษของ Moleskine Sketchbook เท่านั้น!
เขียนซะอย่างกับจะขายของ ทั้งที่จริงเขียนเอามัน ฉันกินแกลบ …เข้าเรื่อง! Moleskine Sketchbook เล่มนี้เป็นสมุดสำหรับการวาดรูปโดยเฉพาะเลยครับ บริษัทเค้าอ้างว่าด้วยกระดาษพิเศษนี้สามารถรองรับการวาดด้วยดินสอ ถ่านหรือปากกาได้เป็นอย่างดี ก็เพราะด้วยลักษณะเนื้อกระดาษที่เรียบ แน่น และไม่ลื่นจนเกินไปจึงเหมาะนักกับวัสดุจำพวกถ่าน Charcoal รวมไปถึงสีไม้ต่างๆ
Moleskine Sketchbook จริงๆ แล้วสามารถแยกเป็นรุ่นใหญ่ๆ ได้ 2 รุ่น คือแบบ Sketchbook ทั่วไปและแบบ Folio โดยแบบแรกนั้นจะมีด้วยกัน 2 ขนาด คือ Pocket (เล่มนี้แหละ) 114 $HK(460 บาท) และขนาดใหญ่ 178 $HK(710 บาท) แต่ช้าก่อน! สองขนาดนี้ยังมีแบบที่ปกเป็นสีแดงและเชือกคั่นกระดาษเป็นสีแดงด้วย เรียกได้ว่าเหมาะสำหรับคนสุขุมและคนแสบซ่าร่าเริงเลยทีเดียว #เกี่ยวเหรอ
อีกรุุ่นก็คือ Folio จะเรียกได้ว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นโคตรยักษ์ม้าเลยก็ว่าได้ ก็ด้วยขนาดของตัวเล่มคือขนาด A4 278 $HK(1,100 บาท) และขนาด A3 388$HK(1,540 บาท) ไม่ว่าคุณจะอยากวาดอะไร ใหญ่แค่ไหนฟุ้งซ่านเพียงใด Folio ก็สามารถรับใช้คุณได้สบายมากแต่ราคาโคตรแพงมหาโหดไม่สบายกระเป๋า ผมไม่มีวันเอามาใช้หรอกครับเจ้าเล่มนี้ ขืนถือไปไหนต่อไหน คงได้มีคนคิดว่าเป็นกระหังล้านนาแน่ๆ #จะบินขึ้นเหรอว้าาาา
Moleskine Sketchbook ที่ผมจะรีวิวในวันนี้ แน่นอนครับว่าต้องเป็นขนาด Pocket ปกแข็ง จำนวน 80 หน้า ก็ด้วยเพราะความชอบส่วนตัวที่ชอบพก Moleskine ไปที่ต่างๆติดตัวด้วยเสมอ เจออะไรก็วาด เห็นอะไรก็เขียน ขนาด Pocket จึงเหมาะมือผมที่สุดครับ (อันที่จริงเงินน้อย จึงสอยมาได้เพียงแค่นี้) โดยปรกติแล้วผมไม่ชอบวาดรูปด้วยดินสอครับเพราะใช้แต่ Lamy ซะชินมือ ดินสอ ยางลบ เลยกลายเป็นของเกะกะไป แต่ในเมื่อเค้าโม้มาว่ากระดาษดีอย่างงั้นดีอย่างโง้น วาดด้วยดินสอจะแจ๋วมาก เอาก็เอาฟระ! ลองแหย่ดูซักหน่อยละกัน!
ถึงแม้ว่าผมไม่ชอบการสเก็ตซ์รูปด้วยดินสอ แต่เมื่อก่อนตอนยังไม่มี Lamy ใช้(บ้านจน…แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตอนนี้รวยนะ กร๊าก) ผมก็ใช้แต่ดินสอนี่แหละวาดภาพมาตลอด เพียงครั้งแรกที่ผมจรดปลายดินสอกดไส้ 2B ลงบนกระดาษแล้วลองร่างเส้นดู ความรู้สึกแปลกประหลาดปนอัศจรรย์ใจก็บังเกิดขึ้น! ผมสามารถวาดเส้นดินสอได้อย่างง่ายดาย ลื่นมือแต่สามารถควบคุมเส้นได้ดี จะลากเส้นหรือตวัดขึ้นลงซ้ายขวาก็ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่มีอาการสะดุดมือเลยสักครั้ง คงด้วยเพราะที่กระดาษหนาแต่ผิวเรียบจึงทำให้ไม่ว่าเราจะออกลีลาท่าทางยังไงก็ไม่มีการพับ การยับยู่หรือถลอกเลย ถ้าคุณนึกไม่ออกลองนึกถึงตอนที่คุณใช้ดินสอวาดภาพบนกระดาษสมุดธรรมดาทั่วๆ ไปหรือจะเป็น A4 ก็ได้ ถ้าวาดแบบใส่อารมณ์ปนความมันส์ กระดาษพวกนี้ไม่มีทางเอาอยู่แน่หรือลองนึกภาพถึงกระดาษปอนด์ที่เราเห็นเย็บห่วงเป็นเล่มแล้วเอามาขายเราโดยพิมพ์ปกว่าสมุดสเก็ตซ์ พนันได้เลยว่าลากเส้นยังไงก็ไม่ลื่นมือเท่ากระดาษ Sketch ของ Moleskine แน่นอน (โหยไอ้สาวก)
พอครับเบื่อดินสอแล้ว มาถึง Lamy กันบ้าง ให้ลองย้อนไปอ่านที่ผมได้ทดสอบไปคราวก่อนโดยใช้หมึก Noodler’s Black ผลเป็นอย่างไรคงจะจำกันได้ (แต่ถ้าจำไม่ได้ก็ไปอ่านอีกรอบซะนะ) มาคราวนี้ผมได้หมึกใหม่มาใช้งานครับคือหมึก Sailor Kiwa-Guro Nano Black (ติดตามอ่านรีวิวได้เร็วๆ นี้) โดยผมเขียนทับภาพที่ร่างด้วยดินสอไปเลยครับ ผลก็ตามคาดและเหมือนกับเมื่อคราวก่อน หมึกไม่ค่อยติดกระดาษเลยหว่ะ! จะติดก็มีบ้างแต่เห็นได้ชัดเลยว่าเส้นที่ได้นั้นไม่สวยเลย คือมันไม่คม อีกทั้งมันยังแยกออกเป็น 2 ข้างตามแรงกดของหัวปากกา บอกตรงๆเลยครับว่าผมผิดหวังอย่างแรง กลายเป็นว่าหมึกเทพที่ผมใช้อยู่ทุกวันกลับเขียนได้ไม่ดีกับกระดาษ sketchbook ซะงั้น แต่ช่างเหอะอย่างน้อยก็วาดได้ละว้า (สาวกแถ)
มาถึงสีน้ำกันบ้างครับ ผมทิ้งกระดาษไว้ให้หมึกแห้งซัก 10 นาทีเห็นจะได้ แล้วจึงเริ่มลงมือละเลงสีน้ำของ Cotman ลงไป ผมถึงกับผงะ! สีน้ำก็ไม่ติดกระดาษเว้ยเห้ย! คือเวลาปาดสีน้ำลงไปสีจะไม่ค่อยติดบนกระดาษเหมือนกับว่าผิวกระดาษมันลื่นสีเลยไม่ค่อยเกาะเท่าที่ควร ผมเลยต้องแก้โดยพยายามทาสีช้าๆ ค่อยๆ เน้นทับไปซัก 2-3 รอบ สีจึงติดและซึมในที่สุด ข้อสังเกตุก็คือกระดาษนี้ไม่ชอบน้ำครับ ในบางจุดผมลงสีทับลงไปหลายครั้ง เช่นที่ถ้วยซุปหรือเงาของถ้วย ผิวของกระดาษก็จะหลุดร่อนเป็นขุยสีเหลืองๆออกมาครับโดยจะเหลือเป็นเนื้อกระดาษสีขาวถลอกๆไว้แทน ดังนั้นคุณก็ยังคงใช้สีน้ำบนกระดาษนี้ได้นะครับถึงแม้ว่าจะใช้ได้ไม่ดีนักแต่ถ้าคุณเป็นสไตล์มือไม่หนักลงสีน้ำเบาๆ บางๆ กระดาษ sketchbook ก็ยังใช้ได้ดีสำหรับคุณครับ
แน่นอนเมื่อเราลงสีเสร็จก็ต้องประทับวันที่และชื่อรูปหรือข้อความกันหน่อย ผมเลยลองใช้ปากกา Pigma ของ Sakura เขียนดู ช๊อคครับช๊อค! เขียนได้ดีมากเลย! เส้นปากกาคมชัดสวยงาม หมึกปากกาติดกระดาษดีมาก เขียนลื่นไม่มีสะดุด กลับกลายเป็นว่ากระดาษ Moleskine Sketchbook เหมาะที่จะใช้กับปากกาพวกหมึก Pigment ด้ามละ 50-60 บาทซะงั้น! ทีหมึกขวดละตั้งหลายร้อยทำไมเมินกันซะได้? ขัดใจๆๆๆๆ
Moleskine Sketchbook เป็นสมุดที่ดีเล่มหนึ่งทีเดียวครับ ถึงผมจะบ่นอย่างโง้นอย่างงี้ก็เถอะ แต่ถ้าลองได้จับคู่กับอุปกรณ์ที่เกิดมาคู่กันบวกกับสไตล์ของคนวาดที่เหมาะสม เชื่อแน่ว่าผลงานชิ้นเอกของคุณก็จะถูกบันทึกไว้อย่างวิจิตรบนสมุดเล่มนี้ กลายเป็นสมุดรวมภาพที่สวยงามประเมินค่าไม่ได้ไร้กาลเวลาและยากจะหาสมุดเล่มใดมาแทนเทียม
ปล. รูปบางรูปผมใช้วิธีสแกน บางรูปถ่ายด้วยไอโฟน บางรูปก็กล้อง DSLR ถ้าหากคุณภาพของรูปมันแตกต่างกันดูน่ารำคาญตาก็ขออภัยด้วยนะครับ (และผมก็จะทำต่อไปเพราะถือว่าบอกแล้ว)
ปล.2 ผมอยากรีวิวหมึก Sailor Kiwa-Guro Nano Black ใจจะขาดครับ แต่มีเรื่องนู้นเรื่องนั้นให้เขียนแทรกเยอะไปหมด ใครที่เป็นแฟนหมึกอดใจรอกันหน่อยนะ
ปล.3 ผมอยากได้สมุด Rhodia มารีวิวจริงแหะเห็นมีแต่คนชมนักชมหนาว่ากระดาษนี้มีเทพเจ้าสิงสถิตอยู่ไอเราก็อยากรู้ว่าจะซักแค่ไหนเชียว(พูดไม่กลัวโดนของ) ใครพอรู้แหล่งซื้อออนไลน์หรือร้านขายที่เชียงใหม่ รบกวนฝากบอกด้วยนะครับที่ทวิตเตอร์ @hackhq ก็ได้นะ ขอบคุณครับ (กรรมของคนบ้านนอก)