บ่ายแก่ๆ ในวันว่าง ออกจากบ้านเดินไปตามท้องถนนและตรอกซอกซอย ชื่นชมกับวิถีชีวิตของผู้คนในชุมชน ใช้ชีวิตช้าๆ เดินมองหาความน่าสนใจที่ปรกติเรามักจะมองข้ามไปกับเวลาที่เร่งรีบ เดินเหนื่อยนักกับอากาศที่ร้อนก็แวะใต้ต้นไม้ข้างทาง หยิบขวดน้ำขึ้นมาจิบเพื่อดับกระหาย หมุนตัวจากซ้ายไปขวามองทิวทัศน์บ้านเรือนในมุมกว้าง บ้านไม้ทรงไทย ห้องแถวจีน ร้านค้าหน้าตาฝรั่ง วัด โบสถ์และเจดีย์เก่าแก่ของไทยที่สวยงาม เจอแล้ว! มุมมองนี้แหละที่น่าสนใจ! นั่งลงบนทางเท้าเปิดกระเป๋าและหยิบสมุดสเก็ตช์ขึ้นมาบรรจงวาดมุมมองนั้นลงบนกระดาษ โดยไม่ลืมที่จะลงสีเติมสวยให้ภาพดูมีชีวิตชีวา นี่แหละครับคือวันว่างของ Urban Sketcher

Urban Sketcher คือคนที่รักและหลงใหลในการสเก็ตช์รูป สเก็ตช์เก็บภาพผู้คนที่ใช้ชีวิตธรรมดาในแต่ละวัน ไม่ก็เก็บภาพตึกรามบ้านช่องที่แสดงถึงความเป็น “เมือง” ที่น่าสนใจ เค้าเหล่านี้เลือกที่จะ “วาด” แทนการถ่ายรูป วาดเพื่อให้มีเวลาได้ซึมซับถึงความเป็นเมือง วาดเพื่อให้ได้ปลดปล่อยความเป็นตัวของตัวเองลงในภาพนั้น และวาดเพื่อให้ภาพนั้นมีชีวิตชีวาในมุมมองที่แตกต่างออกไป

มีเพียงแค่นี่ก็วาดภาพลงสีได้สบายหล่ะ

อุปกรณ์ในการวาดภาพของ sketcher นั้นหลากหลายมากมายแตกต่างตามแต่ละบุคคลไป สมุดกระดาษสีน้ำไม่ก็สมุดกระดาษสเก็ตช์ บางคนชอบวาดเส้นโดยใช้ดินสอ บางคนใช้ปากกา บางคนใช้สีไม้ บางคนใช้สีน้ำ ไม่มีอะไรเป็นข้อบังคับหรือกฎเกณฑ์ที่ตายตัว อิสระเป็นของเราเพราะไม่ว่าจะเลือกอุปกรณ์ชนิดใดก็ตาม มันก็เป็นภาพในแบบของเรา ไม่มีถูกไม่มีผิด ขอแค่วาดด้วยความรู้สึกสนุกและได้ใช้เวลาชื่นชมกับความเป็นเมือง แค่นั้นเป็นพอ…

ความยาวกำลังพอดีไม่ทิ้งกับปากกาลามี่ครับ พกพาง่าย

ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบที่จะสเก็ตช์รูปสิ่งต่างๆ รอบตัว บ้านเมืองหรือตึกแถวหน้าตาน่าสนใจ ตลาดหรือแผงลอยขายของเล็กๆ ที่มีผู้คนจับจ่ายซื้อข้าวปลาอาหารสำหรับมื้ออาหารที่จะมาถึง แม้ว่าด้วยหน้าที่การงานที่รัดตัวทำให้ไม่ค่อยมีเวลาได้ออกไปสเก็ตช์รูปมากนักแต่เมื่อมีโอกาสเมื่อใดก็จะไม่พลาดที่จะสเก็ตช์รูปอยู่เสมอ วันไหนมีเวลาหน่อยก็จะไปพักจิบกาแฟแล้วก็สเก็ตช์ร้านฝั่งตรงข้ามด้วยปากกาลามี่คู่ใจ ลงสีให้สวยด้วยสีน้ำและพู่กันอันโปรด อ่านถึงตรงนี้คุณคงนึกสงสัยว่า ทำไมการสเก็ตช์รูปถึงต้องยุ่งยากขนาดนี้ด้วยนะ? ไหนจะวาดแล้วต้องลงสีน้ำอีก กว่าจะบีบสีจากหลอกลงจาน พู่กันแต่ละอันที่พกพาลำบาก ไหนจะผสมสีไหนจะล้างอีก แล้วจะไปเอาน้ำมาจากไหน ถังล้างพู่กันหล่ะ? ไม่ครับมันไม่ได้ยากเลย! ลงสีน้ำนอกสถานที่จะเป็นเรื่องง่ายดายขอแค่คุณมี waterbrush!

เจ้าตัวที่แยกส่วนเพื่อเก็บได้นั้นยี่ห้อ Sakura ครับ ส่วนอันกลางนั้นของ Pentel ครับ

…กว่าจะเข้ามาเรื่องนี้ได้ผมถึงกับล่องเรือออกทะเลข้ามแกรนด์ไลน์ลงเมืองเงือกแล้วมาโผล่ที่เรื่อง waterbrush ได้นี่สาหัสเอาการแหะ ผู้อ่านหลายคนเปิดตอนนี้ขึ้นมาเจอพล่ามไปหลายย่อหน้าอย่าเพิ่งท้อครับ ผมมาแล้ว! วันนี้ผมจะมาพูดถึงเจ้า waterbrush หรือชื่อไทยที่ร้านเครื่องเขียนหลายร้านเรียกกันว่า พู่กันแท้งก์ …มันแท้งก์ยังไงเดี๋ยวก็รู้ครับ สามารถหาซื้อได้ตามร้านเครื่องเขียน “ใหญ่ๆ” เท่านั้น และมีเป็นบางจังหวัดด้วย! ผมเคยตามหาทั่วเชียงใหม่ไม่มีขายครับ เลยลามไปจนถึงภูเก็ตจึงได้พบที่ร้าน B2S ในเซ็นทัลภูเก็ตแถมดันมีขายแค่ยี่ห้อเดียวด้วย(Seikai) ผมคิดว่าที่บางกอกน่าจะมีให้เลือกบ้างไม่น้อยก็น้อยมากเพราะมันยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมและใช้กันในวงแคบอยู่ครับ อีกทางเลือกหนึ่งที่ผมใช้ก็คือสั่งจาก ebay มันเลยครับ มีทุกยี่ห้อทุกขนาด ราคาไม่แพงแต่จะมีค่าจัดส่งอีกนิดหน่อยนะ รวมๆ แล้วก็อยู่ระหว่าง 200-350 สูงหน่อยแต่ได้ของที่ถูกใจครับ ส่วนขนาดของหัวพู่กันเท่าที่พบเห็นได้บ่อยจะเป็นแบบหัวกลมขนาด S, M, L เทียบกับที่เราคุ้นเคยก็จะประมาณ 2, 6, 8 ครับ นอกจากนี้บางยี่ห้อก็ทำหัวพู่กันแบบอื่นด้วยนะ เช่น แบบหัวแบน เป็นต้นครับ

เอาไว้ถ้าสนใจจะจับรีวิวรายตัวให้ชมกันครับ

waterbrush ที่วางขายกันในตลาดมีหลายยี่ห้อมากครับ และแต่ละตัวก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันไปก็เหมือนกับพู่กันที่เราใช้กันนั่นแหละ บางยี่ห้อขนแปรงนุ่ม บางยี่ห้ออุ้มน้ำดีมาก บางยี่ห้อก็มีการไหลของน้ำ (water flow) ที่มากน้อยแตกต่างกันไป ดังนั้นควรเลือกยี่ห้อที่เราถนัดที่สุดเพื่อจะได้ลงสีได้ดั่งใจครับ เคยมีครั้งนึงตอนที่ผมเปลี่ยนมาใช้ waterbrush ของ Pentel ใหม่ๆ เผลอบีบด้ามแรงไปเพราะชินกับของ Sakura ที่น้ำไหลน้อย ทำให้น้ำหยดท่วมจานสีเลยครับ -..- จะว่าไปผมก็สะสม waterbrush ไว้หลายยี่ห้อเหมือนกันครับแต่บล็อกตอนนี้ผมจะยังไม่ลงรีวิวแต่ละยี่ห้อนะ จะเขียนถึงวิธีใช้ก่อนละกันครับ

จับแยกส่วนก็มีแค่นี้หล่ะ ส่วนหัวไม่แยกหล่ะเดี๋ยวน้ำรั่ว

เจ้าพู่กัน waterbrush นี่มันเป็นพู่กันที่มีน้ำอยู่ในตัวเองครับ ใช้สำหรับการวาดรูปด้วยสีน้ำหรือแม้แต่สีไม้ระบายน้ำก็สามารถทำได้โดยง่าย เพราะตัว waterbrush นั้นจะมีด้ามจับเป็นที่เก็บน้ำหรือแท้งก์น้ำและสามารถปล่อยน้ำจากด้ามนั้นให้ไหลออกมาทางปลายพู่กันได้ง่ายๆ โดยอาศัยแค่การบีบด้ามเท่านั้น ขั้นตอนการจุ่มน้ำ ผสมสี หรือล้างพู่กัน จึงสามารถทำได้ในด้ามเดียวครับ

บิดเกลียวแล้วเติมน้ำในด้ามนะ

การเตรียม ไม่มีอะไรยากเลยครับเพียงแค่เราบิดด้ามพู่กันกับส่วนหัวออกจากกัน แล้วก็เปิดน้ำเติมลงไปในด้ามจับที่เป็นแท้งก์น้ำ ไม่ตัองใส่จนล้นนะเอาพอประมาณ บิดเกลียวปิดพู่กัน แค่นี้ก็พร้อมใช้งานแล้วหล่ะครับ พกออกนอกบ้านทั้งแบบนี้ได้เลยน้ำไม่รั่วครับ

บีบน้ำหยดลงบนสี รอซัก 1-2 นาที ก็กินได้หล่ะ

การผสมสี แค่เพียงบีบที่ตัวด้ามจับเพื่อให้น้ำไหลเป็นหยดลงมาที่หลุมสี ยิ่งถ้าเป็นสีน้ำแบบก้อน ก็เพียงแค่หยดน้ำลงไปบนก้อนสีก่อน รอซัก 1-2 นาทีให้สีน้ำละลายก็สามารถจุ่มสีมาระบายได้แล้วครับ หรือถ้าไม่อยากหยดน้ำลงไปก็สามารถเอาพู่กันไปถูๆ กับก้อนสีได้เลย เพราะขนพู่กันมันเปียกอยู่แล้ว(น้ำจากด้ามมันจะไหลตลอดเวลาแต่จะน้อยมากๆๆๆๆๆ ถ้าไม่บีบน้ำก็จะไม่ไหลเยอะ ทำให้ขนพู่กันเปียกอยู่เสมอ) แต่ทั้งนี้การจะใช้วิธีนี้ได้สีน้ำต้องเป็นเกรดดีหน่อยนะครับ(เกรดดีไม่ใช่ เกรด D นะ อย่ามามุก) เพราะบางยี่ห้อถูไปสีอาจไม่ละลาย พาลจะทำให้ขนพู่กันเสียเอาได้ง่ายๆ

บีบด้ามแล้วปาดๆ กระดาษเช็ดปากของร้านกาแฟก็ได้ สะอาดไวง่ายจัง

การล้างพู่กัน ไม่จำเป็นต้องเตรียมแก้วใส่น้ำหรือถังใดๆ แค่เพียงกระดาษทิชชูพับให้หนาหน่อย จากนั้นบีบด้ามพู่กันเล็กน้อยให้น้ำไหลผ่านขนพู่กันลงบนกระดาษทิชชูพอหมาด จากนั้นก็เอาพู่กันปาดกระดาษตรงบริเวณที่เปียกนั้นไปมา ปาดจนกว่าสีที่ติดอยู่จะออกหมด เพียงเท่านี้พู่กันก็จะสะอาดพร้อมสำหรับจุ่มสีอื่นเพื่อมาระบายต่อแล้วละครับ

*สำหรับสีไม้ระบายน้ำ ก็ระบายสีไปตามปรกตินั่นแหละครับ เวลาจะระบายให้เป็นสีน้ำก็ใช้ waterbrush ปาดลงไปเลย ง่ายกว่าใช้พู่กันธรรมดาอีกครับไม่ต้องจุ่มน้ำให้ยุ่งยากเลย

waterbrush อันแรกของผมครับ ใช้มาเกือบ 2 ปียังใช้ได้ดียู่เลย ชอบที่มันเล็กพกง่ายนี่แหละ ใส่กล่องหมากฝรั่งยังที่มีเหลือ

เห็นมั้ยครับว่าสะดวกแค่ไหน ออกไปสเก็ตช์รูปนอกบ้านก็พกไปเพียงแค่สมุด Moleskine ปากกาลามี่ก็ใช้ที่เหน็บอยู่กับกระเป๋าเสื้อนี่แหละ ส่วนจานสีและ waterbrush ก็ใส่กระเป๋าพกไป แต่อย่าลืมขวดน้ำและกระดาษทิชชูนะครับ เผื่อวาดเพลินน้ำหมดจะได้เติมได้ง่ายแถมจิบดื่มยามกระหายได้อีกด้วย ลองหามาใช้ดูกันนะครับผมว่าเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้คุณวาดรูปได้สนุกมากยิ่งขึ้นจริงๆ สามารถวาดได้บ่อยครั้งขึ้นเพราะข้ามข้อจำกัดของความยุ่งยากไปเลย ออกนอกบ้านไปสเก็ตช์รูปครั้งหน้าอย่าลืมพก waterbrush ไปด้วย วาดแล้วรูปที่ได้เป็นอย่างไรก็อย่าลืมแชร์กันให้ชมบ้างนะครับ

ปล. หากอยากอ่านรีวิว waterbrush ยี่ห้อต่างๆ รบกวนแจ้งทางเพจ http://www.facebook.com/bbblog.sketchblog ด้วยนะครับ หากมียอด like หรือยอด share เยอะๆๆๆ เดี๋ยวผมจะจัดรีวิวรายยี่ห้อมาให้ชมกันเลย!! มีเรื่องเขียนต่อแล้ว! เย (หมดมุก)