บนโต๊ะทำงานของคุณมีอะไรเท่ๆ เก๋ๆ บ้างไหมครับ? อะไรที่มันแบบว่าเอิ่ม ดูดีมีสไตล์ ไร้ที่ติ คูล ชิค ใครเดินผ่านเป็นต้องเหลียวแลหลังเมื่อมาดู คนผ่านไปมาที่โต๊ะทำงานก็จะต้องจ้องมองด้วยความอยากรู้อยากเห็น เลขาเข้าห้องทำงานเพื่อเอาเอกสารมาให้แต่ก็ไม่สามารถอดกลั้นความรู้สึกอยากสัมผัสและอยากลูบคลำ คุณมีไหมครับ? ส่วนตัวผมนั้น…ใช้ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวมาก็เยอะ มีขวดหมึกมากมายผ่านเข้ามาในชีวิต ถึงแม้ว่าหมึกที่ผมได้ครอบครองจะมีความงามหยดย้อยอยู่มากแล้ว จำได้ไหมครับไม่ว่าครั้งนึงผมเคยเขียนเกี่ยวกับหมึกที่มีขวดสวยงามเช่นหมึก Pilot Iroshizuki, Sailor Kiwa-Guro หรือล่าสุดคือ J.Herbin 1670 Rough Hemitite สวยงามจนผมคิดว่าชาตินี้ผมคงไม่ได้เห็นหมึกใดที่จะงามทั้งรูปโฉมและน้ำหมึกได้เท่านี้อีกแล้ว…
Pelikan Edelstein ชื่อนี้ที่ทำให้ผมหวั่นไหว ดลให้ใจผมสั่นคลอน เสียงรัวระงมก้องทุกห้องหัวใจ เลือดสูบฉีดไหลเวียนแบบที่ไม่เคยรู้สึกตั้งแต่เกิดมา เจ้านกกระทุงขาวตัวนี้ที่คุ้นชื่อกันมาอย่างยาวนาน หมึกคุณภาพดีที่ใช้กันมาตั้งแต่รุ่นพ่อ วันนี้เจ้าโบยบินสูงขึ้นไปอีกขั้น สวยสง่ากลางผืนฟ้าที่กว้างใหญ่ ผลัดขนเปลี่ยนร่างเป็นอัญมณีที่สวยงามเปล่งประกายระยิบพราวใส Edelstein โอ้ Edelstein
ผมรู้น่าว่าคุณคงอยากจะรู้แล้วล่ะสิว่าไอหมึกสวยเว่อร์ที่ผมพยายามบิ้วท์อย่างไร้เหตุผลอยู่นี่หน้าตามันเป็นยังไง อะไรมันจะสวยงามเว่อร์ได้ขนาดนั้น บัดนี้ได้เวลาแล้วครับ! หมึกที่ผมพูดถึงในวันนี้คือหมึก Pelikan Edelstein : Topaz เป็นหมึกปากกาหมึกซึมรุ่นพิเศษเกรดพรีเมี่ยมของ Pelikan ที่ตั้งชื่อหมึกแต่ละสีตามชื่อของอัญมณีล้ำค่า โดยชื่อซีรี่ส์ก็อย่างที่ได้เห็นไปก็คือ Edelstein ซึ่งเป็นภาษาเยอรมันที่แปลว่าอัญมณียังไงล่ะครับ โดยหมึกทั้งหมดในซีรีส์นี้มีด้วยกัน 10 สี ดังต่อไปนี้
Edelstein Ink Amber “Ink of the Year 2013” (น้ำตาลทอง)
Edelstein Ink Ruby (แดง)
Edelstein Ink Mandarin (ส้ม)
Edelstein Ink Aventurine (เขียว)
Edelstein Ink Jade (เขียวอ่อน)
Edelstein Ink Topaz (น้ำเงิน-ม่วง) *
Edelstein Ink Sapphire (น้ำเงิน)
Edelstein Ink Onyx (ดำ)
Edelstein Ink Tanzanite (น้ำเงิน-ดำ)
Edelstein Ink Turmaline “Ink of the Year 2012” (ชมพู)
Pelikan Edelstein : Topaz สีน้ำเงิน-ม่วงขวดนี้ผมสั่งมาจากเว็บ pengallery.com เจ้าประจำครับ ราคาค่าตัวอยู่ที่ 16$ ปริมาณบรรจุ 50ml ถือว่าเป็นหมึกที่ราคาไม่แพงเลยครับแต่ความหรูนี่จัดมาเต็มจริงๆ หรูตรงไหนเหรอ? มาดูกล่องกันก่อนครับ กล่องของ Edelstein ถูกออกแบบและผลิตมาอย่างดี มีการซ้อน 2 ชั้นเพื่อความสะดวกในการหยิบขวดหมึกออกมาจากกล่องผิดกับหมึกอื่นทั่วไปที่กล่องมักจะทำมาเป็นแบบกล่องกระดาษสี่เหลี่ยมธรรมดาชั้นเดียว นอกจากนั้นเพื่อเป็นการปกป้องขวดหมึกที่ล้ำค่านั้น เค้ายังใจดียัดก้อนฟองน้ำกันกระแทกให้มาในกล่องด้วย ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าขวดหมึกที่ล้ำค่าจะถึงมือคุณได้อย่างปลอดภัยไร้ริ้วรอย (แต่ถ้าเอาไปปาหัวหมา ขวดหมึกก็อาจจะแตกได้นะ …ใครจะไปทำเล่า?!!)
เมื่อดึงชั้นกระดาษด้านในกล่องเพื่อหยิบขวดหมึกออกมา ความรู้สึกแรกที่คิดในหัวก็คือ หมึกมันขวดใหญ่หว่ะ! ดูรูปในเว็บก็ไม่คิดว่าขวดตัวจริงจะใหญ่โตขนาดนี้ ไม่เท่านั้นขวดยังหนักมากอีกด้วย พอหยิบขวดขึ้นมาดูทุกซอกทุกมุมจึงได้รู้ว่าทำไมมันถึงหนักได้ถึงเพียงนี้ นั่นก็เป็นเพราะขวดหมึกมันถูกหล่อด้วยแก้วซึ่งผนังขวดหนามาก ไม่เท่านั้นก้นขวดก็เป็นแก้วหนาพิเศษอีก ด้านหน้าของตัวขวดยังมีการพิมพ์โลโก้และชื่อของสีเอาไว้อีกด้วยซึ่งดูดีมากกว่าหมึกหลายตัวที่ใช้วิธีแปะฉลากเอา ฝาขวดเป็นพลาสติกแข็งสีดำคุณภาพดีเนื้อแน่น ลองเอานิ้วดีดดูจะได้ยินเสียงใสไม่ตันเหมือนพลาสติกธรรมดาๆ ทั่วไป ด้านบนของฝาขวดมีโลโก้นกกระทุง Pelikan ฉาบสีเงินไว้เพื่อให้ต้องแสงสะท้อนบนพื้นสีดำ เปิดฝาขวดเพื่อสำรวจภายใน บ่อบรรจุหมึกภายในขวด(ink well) ถูกออกแบบให้โค้งเว้าลึกลงไปเพื่อให้ง่ายต่อการสูบหมึกให้หมดจนถึงหยดสุดท้าย ต้องขอบอกว่าทุกส่วนของขวดหมึกถูกออกแบบได้อย่างสวยงามมาพร้อมกับมาตรฐานการผลิตที่ประณีตบรรจง และสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือเมื่อมีหมึกสีสวยใสบรรจุอยู่ในขวดด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้หมึกขวดนี้เข้าใกล้คำว่าสมบูรณแบบได้มากที่สุด
และแล้วก็ได้เวลาเปิดฝาทดสอบหมึกกันแล้วครับ ดูจากภายนอกขวดแล้วสีของหมึกช่างสวยงามยิ่งนักแต่ก็ไม่อาจคาดเดาได้ว่าเมื่อถึงเวลาเขียนจริงสีจะสวยดั่งที่ใจหวังหรือไม่
Color ช่างเป็นสีน้ำเงินที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเคยใช้มาเลยครับ น้ำหมึกมีเม็ดสีเยอะมากจนสามารถรู้สึกได้ชัด เพียงแค่จรดปลายปากกาเพื่อเขียนตัวอักษรหรือวาดเส้น สีที่ออกมานั้นคมชัดและสวยสดใสไม่จืดจางไปตามปริมาณน้ำหมึกเลย
Dry Speed หมึกสีสดที่ไหลดีขนาดนี้คงคิดล่ะสิว่ามันต้องมาพลาดที่แห้งช้าแน่ๆ แต่คุณผิดแล้วครับ!! หมึกตัวนี้แห้งไวเว่อร์ เรียกได้ว่าเขียนปุ๊บหายใจเข้ายังไม่ทันถึงครึ่งปอดก็แห้งแล้ว เพียงแค่ 5 วินาทีก็ปลอดภัยเอามือถูเล่นได้เลย (ไม่มีอะไรถูแล้วเหรอ? มือซนจริงๆ)
Feather ไม่มีเส้นแตกเลยครับถึงแม้ว่าผมจะลองทดสอบบนกระดาษ Moleskine ธรรมดาก็ตาม แต่ก็มีบางครั้งแหละครับที่แตกบ้างนั้นก็ต้องใช้กล้องส่องพระดูเอาอ่ะนะถึงจะเห็น (“เธอจะดิสเครดิตชั้นใช่มั้ย?!!” ..หมึกกล่าว)
Bleed มีเหรอจะไม่ซึมไอน้อง! ซึมสิครับกระดาษบางๆ ของ Moleskine ไม่มีทางเอาอยู่เลยจริงๆ ถึงแม้ว่าหมึกจะสีสวยสดแค่ได้แต่สุดท้ายก็เขียนได้แค่หน้าเดียวนะ
Ink Flow หมึกไหลเรียกได้ว่าดีเยี่ยมเลยครับ ไม่ว่าจะเขียนเร็วเขียนช้าหมึกก็ไหลสม่ำเสมอ รักษาจังหว่ะการไหลได้ดีทำให้เส้นและตัวอักษรที่ได้มีความชัดเท่ากันหมดไม่มีอาการหมึกจางเมื่อเขียนเร็วเลย
Waterproof ลองเอาแช่น่ำพร้อมกับความคิดที่ว่าหมคกแบบนี้ยังไงก็ต้องสิ้นสลายไปกับสายน้ำ แต่ผลปรากฏว่ายังเหลือชีวิตรอดกลับมาได้ครับ ผมส่งให้ไปรบในลำธารพร้อมแขนขาครบ 32 ประการ ลงไปสู้ฟัดในสายน้ำกลับมาพร้อมชัยชนะเหลืออยู่ครึ่งตัว(แต่ไข่หายไปด้วยนะ กร๊าาก) คือหมึกโดนน้ำชะล้างออกไปบางส่วนครับแต่ก็ยังพอหลงเหลือเส้นหมึกพอเห็นชัดอยู่บนกระดาษด้วย นี่ถ้าพี่มากส่งจดหมายหาน้องใหม่นากแต่บุรุษไปรษณีย์ดันกลัวผีทำตกน้ำเสียก่อน น้องใหม่นากก็ยังคงอ่านจดหมายรู้เรื่องนะ (ขอเขียนถึงหน่อยเหอะเค้ากำลังดัง)
โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ชอบหมึกโทนสีน้ำเงินเลยครับ ขอเป็นดำไม่ก็น้ำตาลไปเลยจะดีกว่า แต่พอได้ลองหมึกตัวนี้เข้าก็ต้องคิดใหม่เลย สีของหมึกมันช่างสวยเป็นเอกลักษณ์มาก เป็นน้ำเงินที่ให้ความรู้สึกแตกต่างและอยากเขียนทุกครั้งเมื่อเปิดปลอกปากกา ราคาไม่แพงคุ้มค่ายิ่งแต่บรรจุความหรูหรามีระดับไว้จนล้นกล่อง ถึงไม่ได้นำมาใช้เขียนแค่ขอเพียงได้วางขวดหมึกประดับโต๊ะก็คุ้มค่านัก ใครที่เป็นแฟนตัวยงของหมึกสีน้ำเงินและอยากได้สีที่เป็นเอกลักษณ์ ลองหา Pelikan Edelstein : Topaz มาใช้สักขวดสิครับ คุณจะติดใจและอยากเขียนจนไม่อยากวางปากกาอีกเลย
ปล. หากท่านชอบบล็อกตอนนี้หรือตอนไหนของผม รบกวนช่วยกด Like หรือจะให้ดีก็กด Share ไปเลยนะครับ ผมอยากจะเผยแพร่ลัทธิมารกิเลสหนาแห่งนี้ออกสู่สาธารณะให้กว้างที่สุดครับ ก็ผมมันโรคจิตชอบเห็นคนอื่นเสียเงินกับเรื่องเครื่องเขียน เห็นแล้วมันเสียวซ่านเต็มไปด้วยความสุขครับ กร๊ากกกก แชร์ แชร์ แชร์!
ปล. 2 ชอบระบบคอมเม้นต์ใหม่แบบ facebook ไหมครับ? ชอบไม่ชอบ สะดวกหรือไม่อย่างไรก็บอกกันในคอมเม้นต์ได้เลยนะ ขอบคุณครับ