ในการสเก็ตช์ภาพแต่ละภาพนั้น หลายต่อหลายคนก็มีการใช้ปากกาที่แตกต่างกันออกไป บางคนใช้ปากกาลามี่เพียงด้ามเดียวก็จบแล้วพกด้ามเดียววาดได้รอบโลก แต่บางคนที่สเก็ตช์ในสไตล์ทึ่เน้นรายละเอียดเพื่อให้ภาพสเก็ตช์นั้นดูสมบูรณ์แบบที่สุดก็จะพกปากกาติดตัวไว้หลายด้ามเพื่อที่จะวาดเส้นได้ในหลายๆ ขนาดที่ต่างกัน วัตถุบางอย่างอยู่ใกล้ก็จะใช้ปากกาเส้นใหญ่แต่บางวัตถุอยู่ไกลก็จะใช้เส้นเล็กๆ รวมไปถึงบางจุดที่ต้องการลงรายละเอียดเล็กๆ เช่นลายของผ้าก็จำเป็นที่จะต้องใช้ปากกาหัวขนาดเล็ก ไม่เพียงแค่นั้นไม่ว่าจะเป็นการวาดภาพก็ดีหรือเขียนตัวอักษร ในแต่ละเส้นที่เราขีดเขียนลงไปมันสื่อถึงอารมณ์ ณ ช่วงเวลาที่ตวัดเส้นนั้น บางทีอยากให้เส้นหนา-เส้นบางในการเขียนครั้งเดียวก็จะเป็นไปได้ยากเพราะปากกาส่วนใหญ่จะมีขนาดเส้นที่ตายตัว
ผมก็เช่นกันครับที่ในบางครั้งก็จำเป็นที่จะต้องใช้ปากกาอื่นเพิ่มเติมนอกจากลามี่ EF ด้ามโปรดของผม ซึ่งมันก็ยุ่งยากนะ เลยตั้งคำถามกับตัวเองไว้ว่า ถ้ามีปากกาอะไรที่สามารถให้เส้นได้หลายขนาดตามความต้องการและลงเส้นให้มีน้ำหนักได้ดังใจคิดก็คงจะดีไม่น้อย
ถึงแม้ว่าคราวก่อนนู้นผมจะเคยเขียนถึงปากกาหมึกซึม Hero 501-1 ที่เป็นปากกาแบบ Fude Nib ไปแล้ว ซึ่งมันก็ทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมเลยนะ เส้นที่ได้ก็มีหลากหลายขนาดขึ้นตามการชันข้อมือ แต่จุดที่ทำให้ไม่สะดวกที่สุดก็คือไอเรื่องการชันข้อมือนี่แหละเพราะมันฝืนธรรมชาติการเขียนของเราครับ อีกทั้งมันยังไม่ตอบโจทย์เรื่องน้ำหนักเส้นที่เปลี่ยนไปตามการเขียนของเรา นั่นจึงเป็นที่มาของการตามหาปากกา Flex Pen ในวันนี้ครับ
Noodler’s Ahab Flex Pen คือชื่อของเจ้าปากกาด้ามนี้ครับ มีผู้อ่านหลายท่านต่างถามเข้ามาอย่างไม่ขาดสายว่าเมื่อไหร่ผมถึงจะเอามารีวิวให้อ่านกันเสียที ทำให้รู้เลยว่านอกจากลามี่แล้วยังมีปากกาอื่นที่น่าสนใจอยู่นะ ผมจึงไม่รอช้า สั่งมา 1 ด้ามจาก gouletpen.com ครับ แต่ปัญหามันก็คือเจ้าปากกาด้ามนี้มันขาดตลาดมานานหลายเดือนครับ(แบบใส) ผมก็เลยลงชื่อรอว่าถ้าของมาแล้วให้แจ้งด้วย ผ่านไปเกือบ 2 เดือนก็มีเมลแจ้งว่าของกลับมาขายอีกครั้งแล้วยะ เอาเงินของแกมาให้ชั้นได้แล้ว ผมก็จัดการสั่งซื้อด่วนเลยครับ โดยราคาค่าตัวนั้นอยู่ที่ 20$ แต่ผมโดนค่าส่งไปอีก 25$ เพราะว่าผมสั่งขวดหมึกมาอีก 2 ขวดด้วยครับเลยหนักหน่อย คราวนี่ถือว่าพัสดุมาช้ามากๆๆๆๆ ใช้เวลาทั้งสิ้น 25 วันครับ นั่งรอจนหงอกขึ้นเป็นกระจุกเลย -*-
แกะกล่องเปิดประตู เปิดออกดู นั่นใครมา(เก่าโคตร) แน่นอนว่าวางใจได้เลยครับเรื่องการห่อพัสดุของเจ้านี้ ห่อมาได้อย่างดีมาก! พันพลาสติกไว้อย่างแน่นหนาพร้อมบุ bubble wrap กันกระแทกไว้ด้วย และแน่นอนว่า Goulet Pen มักจะทำให้เรายิ้มได้เสมอไม่ว่าจะเป็นการเขียนลงท้ายใบเสร็จด้วยลายมือและหมึกสีที่ชวนให้อยากซื้อ หรือจะเป็นการใส่อมยิ้มให้อมเล่นอีก 1 อัน พร้อมที่คั่นหนังสือของร้านเค้าด้วยนะ ประทับใจอีกแล้ว! …แต่เนื่องด้วยที่ผมไม่กินแป้งไม่กินน้ำตาล ผมจึงเอาอมยิ้มวางไว้บนโต๊ะทำงาน ผ่านไปหนึ่งคืนเปิดประตูมาตอนเช้า กองทัพมดบุกครับ!!
ขึ้นชื่อว่า Noodler’s ก็หายห่วงเรื่องความเห่ยของลายบนกล่องครับ ผมพยายามดูและวิเคราะห์สัญญะที่ปรากฏอยู่บนกล่องรอบแล้วรอบเล่า ดีไซน์เนอร์มันคิดอะไรของมันวะ?! แต่ช่างมันเหอะสิ่งที่เราสนใจอยู่ในกล่องนี้ต่างหากล่ะ แกะกล่องเปิดดูปากกาหน้ามน เทให้ไหลออกมาช้าๆ บนฝ่ามือ แต่ยังไม่ทันได้มองก็หงุดหงิดเลยครับ นี่มันกลิ่นบ้าอะไรฟระ?! คือปากกานี่มันเหม็นครับ แต่มันไม่ใช่เหม็นเน่านะ เนื่องด้วยวัสดุที่ใช้ทำปากกาเป็นเรซินธรรมชาติมันเป็นกลิ่นของตัวเรซินเองไม่ก็สารเคมีในกระบวนการผลิตอะไรสักอย่างนี่แหละกลิ่นหวานๆ แต่ฉุนมาก เรียกได้ว่ากลิ่นทำให้ปวดหัวได้เลยทีเดียว ผมก็แก้ด้วยการจับแยกชิ้นส่วนแล้วเอาไปแช่ในน้ำสบู่ไว้ 1 วันครับ ถือเป็นการล้างทำความสะอาดและขจัดกลิ่นไปในตัวเลย ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นการล้างแล้วดมดูก็พบว่ากลิ่นเหม็นจางลงเยอะ เปลี่ยนเป็นกลิ่นสบู่แทน แต่ถ้าเอาจมูกไปดมใกล้ๆ ก็จะได้กลิ่นตีกันมั่วไปหมดปวดหัวอ้วกกันไปใหญ่ครับ -*-
กลั้นใจทนกลิ่นเพื่อให้ได้สัมผัสเจ้าปากกาด้ามนี้ต่อ Noodler’s Ahab ด้ามนี้ผมเลือกแบบใส Clear Demonstrator มาครับเพราะอยากดูกลไกข้างในว่าเป็นอย่างไร แต่ก็ต้องผิดหวังครับ เนื่องด้วยวัสดุทึ่ใช้ทำตัวปากกานี้เป็นยางแข็งเรซินธรรมชาติ ทำให้ผิวค่อนข้างขุ่นไม่ใสปิ๊งเหมือนพลาสติกเช่น Lamy Vista และเมื่อลองสัมผัสและลูบดูจะรู้ได้ทันทีว่าผิวมันเป็นยางแข็งครับ ซึ่งมันเป็นรอยได้ง่ายมากถ้าเราเอาเล็บไปเผลอขูดโดนเข้าก็ไม่มีทางที่จะลบรอยออกได้ง่ายๆ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้มันเลยทำให้ปากกาด้ามนี้ดูไม่ค่อยมีราคาเท่าไหร่นะ แบบว่าไม่กล้าเหน็บกระเป๋าเสื้อเลย (โห พ่อคุณ) แต่ทั้งนี้ปากกานี้ก็ยังมีสีอื่นด้วยนะครับซึ่งผมดูแล้วก็มีสีสวยๆ เยอะเลยทีเดียว บางด้ามสีก็ดูแอบแพงนะ ยังก็ลองหามาใช้กันดูแล้วเอามาอวดผมบ้างล่ะครับ
เรื่องการออกแบบนั้น ตัวปลอกปากกาจะเป็นแบบหมุนเกลียวเพื่อคลายออก ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไปในปากกาหมึกซึมรุ่นใหญ่ เช่น Namiki Falcon ซึ่งผมว่ามันเป็นข้อดีนะคือมันแน่นหนาดีแต่สำหรับใครที่ไม่ชินอาจจะเผลอออกแรงดึงปลอกจนเกลียวเสียก็เป็นได้ต้องระวัง เรื่องคลิบนั้นเป็นคลิบเงินรูปร่างหน้าตาประหลาดซึ่งเมื่อจับโยกดูก็รู้สึกไม่ค่อยแน่นหนาครับแต่เมื่อลองเหน็บกระเป๋าเสื้อดูก็ใช้ได้ครัง ยึดกระเป๋าได้ดีไม่หลุดง่ายนะ ทีนี้ผมก็เลยลองไปหาขึ้อมูลมาดูว่าไอปากกาด้ามนี้มันมีความเป็นมายังไงก็เลยได้ทราบว่า ปากกา Noodler’s Ahab นั้นได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากวรรณกรรมเรื่อง Moby Dick โดยปากกาด้ามนี้สื่อถึงกัปตัน Ahab ที่มีขาเทียมเป็นไม้ครับ ส่วนไอคลิปเงินหน้าตาประหลาดนั้นสื่อถึงปลาวาฬ… เห้ย! คิดได้ไงวะ?! พอผมได้รู้เรื่องราวแบบนี้จู่ๆ ก็รักปากกาด้ามนี้ขึ้นมาทีเดียวครับ …ก็เป็นเรื่องราวดีๆ นะครับ…
หมุนปากกาถอดส่วนด้ามออกมาจะเห็นว่าปากกาหมึกซึมด้ามนี้เป็นระบบ Piston Fill ครับ …แล้วมันคืออะไรอ่ะ? มันคือปากกาหมึกซึมที่ไม่ได้ใช้หลอดสูบหมึกครับ แต่จะมีระบบสูบหมึกอยู่ในตัวเองโดยการเติมหมึกก็ง่าย เพียงแค่จุ่มหัวปากกาลงไปในหมึกแล้วดึงก้านสูบขึ้นเพื่อสูบได้เลย ไม่ต้องยุ่งยากเรื่องหาหลอดหมึกอีก ทีนี้เมื่อลองสังเกตุดีๆ จะเป็นว่าภายในตัวระบบสูบหมึกนั้นจะมีหลอดพลาสติกใสเล็กๆ เสียบอยู่ด้วย มันมีหน้าที่ก็คือช่วยให้สูบหมึกได้มากขึ้นครับ ยังไงนะเหรอ? เห็นตัวก้านจับที่ใช้สูบหมึกมั้ยครับ? ไอก้านนี่มันกลวงนะครับ!! คือนอกจากจะเก็บหมึกไว้ในหลอดสูบแล้ว ยังสามารถเก็บหมึกไว้ในก้านสูบได้ด้วย ซึ่งไอหลอดพลาสติกใสนี่แหละเป็นตัวช่วยให้หมึกมันดันขึ้นสูงเข้าไปในก้านสูบทำให้สูบหมึกได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น แต่ถ้าดันทำหายถึงไม่มีหลอดพลาสติกเล็กๆ นั่นก็ยังใช้ได้นะครับเพียงแต่เวลาสูบหมึกมันจะขึ้นมาไม่มากเท่านั้นเอง
แต่รู้มั้ยครับว่าไอปากกา Noodler’s Ahab ด้ามนี้มันยังมีทีเด็ดซ่อนอยู่เกี่ยวกับเติมหมึกนี้แหละนั่นก็คือ เราสามารถเติมหมึกใส่ไว้ในด้ามปากกาได้เลย ใช่ครับไอตัวด้ามจับนั่นแหละ เพียงเราหมุนถอดก้านสูบหมึกออกแล้วใช้เข็มฉีดยาเติมหมึกเข้าไปในตัวด้ามแล้วหมุนปิดเกลียวให้แน่น แค่นี่ปากกาด้ามนี้ก็จะมีความจุหมึกเยอะสุดๆๆๆ ไปเลยครับ เรียกได้ว่าเติมหมึกครั้งหน้าคงลืมไปเลยว่าเคยใช้หมึกอะไร
มาถึงเรื่องสำคัญที่พวกเรารอคอยกันครับ นั่นก็คือเรื่องของ flex nib ก่อนอื่นขออธิบายให้เข้าใจกันก่อนว่ามันคืออะไรนะครับ flex nib มันก็คือ nib ปากกาหมึกซึมที่ส่วนปลายมีความยืดหยุ่นทำให้เมื่อเรากดน้ำหนักเวลาเขียนหรือลากเส้น จะทำให้เส้นปากกาที่ได้นั้นมีขนาดเล็ก-ใหญ่ตามน้ำหนักมือที่กดลงไป ลงน่ำหนักน้อยเส้นก็บาง ลงน้ำหนักมากเส้นก็หนาขึ้น โดยหลักการทำงานก็คือเมื่อเราออกแรกลงน้ำหนักกดปากกาลงไป ปลาย nib ที่ถูกผ่ากลางแบ่งเป็น 2 ข้างนั้นจะแยกออกจากกันทำให้เส้นที่ได้หนาขึ้นครับ แต่ว่าถ้าหากเราลงน้ำหนักมากเกินไปจนเกินที่ nib จะเขียนได้ เส้นก็จะแยกออกมาเป็นสองเส้นหรือไม่ก็เขียนไม่ออกเลยทีเดียวดังนั้น flex pen แต่ละด้ามจะมีน้ำหนักรองรับที่ต่างกันไปผู้ใล้จึงต้องลองใล้ให้ชินมือก่อนครับ
แล้ว flex nib ของ Noodler’s Ahab เป็นอย่างไรบ้างล่ะ จากการที่ผมได้ทดสอบมาเป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์พบว่า ที่น้ำหนักมือปรกติ จะให้เส้นขนาด 0.4 เหมือนลามี่ซาฟารี EF ครับ แต่เมื่อลงน้ำหนักมากขึ้น เส้นก็จะหนาได้สูงสุดที่ 0.7 ซึ่งก็คือ M แต่ถ้าถามว่สแล้วมันยืดหยุ่นแค่ไหน ก็ตัองบอกว่าเนื่องด้วยวัสดุที่ใช้ทำ nib นั้นเป็นเหล็กทำให้การยืดหยุนไม่ค่อยดีเหมือนกับพวก nib ที่ทำจากทองคำแต่อาศัยการผ่ากลาง nib ที่ยาวมากทำให้สามารถ flex ได้นั่นเอง แต่ก็ต้องออกแรงกดพอสมควรนะเส้นถึงจะเปลี่ยนขนาดครับ อีกจุดนึงที่เป็นข้อสังเกตก็คือ เวลาที่ผมลากเส้นจากล่างขึ้นไปด้านบน เส้นจะไม่ค่อยออกครับ คิดว่าเป็นที่ nib ไม่ได้ทำมุมให้รองรับการลากเส้นขึ้นบนได้ดีเท่าที่ควร แต่ถ้าใครมีไว้ในครอบครองแล้วรบกวนแจ้งผมด้วยนะครับว่าเป็นเหมือนกันหรือเปล่า ไม่แน่อาจจะเป็นที่ด้ามของผมด้ามเดียวก็เป็นได้ครับ
Ink Flow ของปากกาหมึกซึมด้ามนี้เรียกได้ว่าไหลเป็นเขื่อนแตกครัง คือหมึกมันไหลดีจริงๆ ผมทดสอบด้วยหมึก Noodler’s Black Bulletproof ก็เขียนได้หมึกสม่ำเสมอ บางครั้งกดน้ำหนัปมากหมึกก็จะไหฃมาก เรียกได้ว่าปากกานี้เป็นแบบ wet type ได้เลยครับ ที่เป็นอย่างนี้ก็ไม่ต้องแปลกใจครับ ในกรณีของ flex pen นั้นจำเป็นจะต้องใช้หมึกในปริมาณที่มากกว่าปรกติเพราะเส้นมีน้ำหนักต่างกันได้ ดังนั้นถ้าหากปากกา ink flow ไม่ดีหรือไหลเพียงปานกลาง ก็จะทำให้จ่ายหมึกไม่ทันเส้นหนาๆ ก็เขียนไม่ออกครับ ดังนั้นใครที่ใช้ flex pen สเก็ตช์รูปต้องระวังหน่อยนะครับหมึกออกมากแห้งช้ามือไปโดนนี่เลอะเทอะเลย(ผมเจ็บมาแล้ว)
จบแล้วครับสำหรับการรีวิวปากกา Noodler’s Ahab Flex Pen ที่ยาวมากตอนนี้ ผมชอบมากครับโดยเฉพาะเวลาที่สเก็ตช์ภาพหรือวาดการ์ตูนเล่น เส้นที่ได้มันสื่ออารมณ์ได้ดีจริงๆ อยากเส้นเล็ก-เส้นใหญ่ก็สั่งได้ในด้ามเดียว วาดเส้นผมคนก็ดูพลิ้วไหวสวยงาม เขียนหนังสือก็ได้ตัวหนังสือที่สวยงามดูมีชีวิตชีวามาก ทำเอาผมซึ่งเป็นสาวกลามี่ยังแอบอิจฉาเลยครับว่าทำไมลามี่ไม่ทำ flex pen มาขายบ้าง นอกจากนั้นราคาก็ยังสบายกระเป๋าแค่เพียง 600 บาทก็ได้ปากกาคุณภาพสูงมาใช้ได้แล้วแถมยังใส่หมึกได้เยอะสุดๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องหมึกไม่พอใช้เลย หากคุณเป็นคนที่ใช้ปากกาสำหรับวาดการ์ตูน สเก็ตช์ภาพหรือชอบเขียนตัวอักษรสวยๆ ลองหามาใช้ดูสักด้ามนะครับ ปากกาด้ามนี้ผมแนะนำครับ