ระเริงกรุง เมื่อผมต้องไปทำงานที่บางกอก แล้วบล็อกล่ะจะทำยังไง?!

in Talk by hackhq on 18 Jul 2013

ตกใจล่ะสิครับที่บล็อกตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องปากกาเหมือนทุกที หลายคนที่ติดตามผมบนทวิตเตอร์คงจะพอทราบกันแล้วใช่มั้ยครับว่าในอีกไม่กี่วันนี้ผมก็จะย้ายไปทำงานที่บางกอก แต่ผมไปไม่นานครับไปแค่ 3 เดือนเอง

bangkokเรื่องนี้มันค่อนข้างสำคัญกับผมมากเลยนะเพราะผมคิดไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าผมจะตั้งรกรากที่จังหวัดเชียงใหม่หรือไม่ก็บ้านเกิดผมที่จังหวัดเชียงรายและไม่เคยคิดที่จะไปทำงานที่บางกอกเลยเนื่องด้วยว่าผมเป็นคนชิล ชอบชีวิตชิลๆ เกลียดความวุ่นวายและคนเยอะๆ เป็นที่สุดเลย ไอเรื่องที่ต้องแย่งกันกินแย่งกันเที่ยวหรือต้องมาเบียดเสียดยัดเยียดเพื่อไปไหนมาไหนนี่ขอตายเลยดีกว่า(ดัดจริตมาก) และแน่นอนว่าผมไม่ต้องการให้ลูกของผมเติบโตมาในสภาวะแวดล้อมแบบนั้นด้วย(แต่ผมยังไม่ได้แต่งงานนะ -..-)

เหตุที่ผมต้องมาทำงานที่บางกอกนั่นก็คือเจ้านายของผมผู้ซึ่งร่วมงานกันมาโดยตลอดเค้าต้องการให้ผมไปทำงานด้วยเพราะบริษัทเค้ากำลังจะขยายใหญ่ขึ้นจึงต้องการคนที่ไว้ใจได้และเคยร่วมงานกันไปช่วย ทีแรกผมก็บอกว่าทำงานที่เชียงใหม่ก็ได้นะแต่เค้าก็ยื่นข้อเสนอมาว่าก็มาลองทำสัก 3 เดือนสิแล้วถ้าชอบหรือไม่ชอบยังไงก็ค่อยกลับมาเชียงใหม่ก็ได้ อีกทั้งยังมีที่พักให้ใกล้กับที่ทำงานเลย เดินลงจากโรงแรมก็ถึงออฟฟิตแล้วไม่ต้องเบื่อกับการเดินทางทุกเช้าเย็น ผมกับแฟนก็เลยโอเค และที่สำคัญคือการที่ผมได้รู้จักกับเพื่อนดีๆ อย่างคุณกั้ง @kangg แห่ง Siampod และเพื่อนๆ อีกหลายคนบนทวิตเตอร์ไม่ว่าจะเป็น @risingtop @simplywit @pi_pooh และที่ขาดไม่ได้เลยคือคุณ @xinnix_ann มือปรู๊ฟของบล็อกผมก็ยิ่งทำให้บางกอกเป็นเมืองที่น่าอยู่ยิ่งขึ้นไปอีกเยอะเลยครับ (เห็นว่าพวกเค้าเหล่านี้จะไปเดินรอบพระนครสเก็ตช์รูปกับผมด้วยนะ …อ้าวไม่ใช่หรอกเหรอ ขอโทษทีครับ -..-)

ไปบางกอกนี่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับผมทีเดียวครับ เรื่องแรกครอบครัวครับ ผมเป็นลูกคนเดียวของบ้าน การได้อยู่เชียงใหม่ถือเป็นการง่ายที่ผมจะได้กลับบ้านไปหาพ่อแม่ไปดูแลท่านที่เชียงรายได้บ่อยตามต้องการ แต่ถ้าอยู่ที่บางกอกการกลับบ้านแต่ละทีถึงแม้จะนั่งเครื่องบินแป็บเดียวแต่ค่าใช้จ่ายและระยะเวลาที่ได้หยุดอยู่บ้านก็น้อยเสียจนค่อนข้างหนักใจเลยทีเดียว เรื่องต่อมาคือการต้องย้ายบ้านย้ายออฟฟิตเพราะของเยอะมาก! ผมถึงกับต้องจ้างรถหกล้อมาขนเฉพาะปากกาลามี่กันเลยทีเดียว(ก็โม้กันไป) และเรื่องสำคัญคือเรื่องบล็อกครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมค่อนข้างหนักใจทั้งๆ ที่ก็ไม่รู้ว่าจะหนักใจมากมายไปทำไม ก็อย่างที่คุณผู้อ่านได้เห็นในบล็อกแต่ละตอนละครับว่ารูปที่ผมถ่ายนี่ผมตั้งใจมากเลยนะ เซ็ตฉากจัดแสงถ่ายรูปผมตั้งใจมาก กลัวคุณผู้อ่านเห็นภาพไม่ชัด กลัวว่าจะถ่ายทอดความงามออกมาให้รับรู้ไม่ได้ ทีนี้เมื่อผมไปบางกอกก็แน่นอนล่ะว่าไม่ได้เอาอุปกรณ์พวกนี้ไปด้วยแน่ๆ ครั้นจะให้เอาไอโฟนถ่ายโดยไม่จัดแสงก็เสียความรู้สึกแทนคุณผู้อ่าน เวลาทดสอบหรือทำนู่นนี่ก็อาจจะไม่สะดวกเหมือนฐานปฏิบัติการใต้ดินของผมที่เชียงใหม่ อีกทั้งผมยังไม่รู้เลยครับว่าจะมีเวลาเขียนบล็อกแล้วอัพทุกสัปดาห์เหมือนเดิมได้มั้ย ไม่รู้ว่างานยุ่งแค่ไหนหรือจะกินเที่ยวมากเพียงใด กลัวคุณผู้อ่านรอกันหน่ะครับ แฮ่ (เขียนแบบนี้ดูนอยด์จังเลยหว่ะ กร๊าาก)

แต่ข้อดีมันก็เยอะเหมือนกันนะ เรื่องแรกที่ผมว่ามันน่าสนใจคือผมจะตามล่าเครื่องเขียนเจ๋งๆ อุปกรณ์สเก็ตช์ที่ซื้อง่ายๆ มารีวิวกัน เพราะบางกอกถือเป็นเมืองแห่งเครื่องเขียนโลก คิดแล้วก็น่าสนุกแหะ! ส่วนเรื่องต่อมาก็คงหนีไม่พ้นถึงประสบการณ์ที่จะได้รับครับ ความเป็นเมืองใหญ่จะทำให้พัฒนาการในการทำงานของผมเติบโตไปอย่างก้าวกระโดด กลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้น งานที่ท้าทายขึ้น และผู้ร่วมงานที่หลายหลากมากด้วยความสามารถจะทำให้การทำงานของผมสนุกขึ้นแน่นอน(ใครสนใจก็เกาะหน้าจอไว้นะครับ เดี๋ยวผมจะประกาศรับสมัครครับ) และข้อสุดท้ายคือผมใฝ่ฝันอยากสเก็ตช์ “เสาชิงช้า” มาตลอดเลย ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่ผมชอบทั้งสี รูปทรง รวมถึงความเป็นมา ถึงแม้จะไม่ใช่หัวข้อที่ยากแต่ผมก็อยากสเก็ตช์ดูสักทีแหะ

ทั้งนี้ผมจะพยายามอัพบล็อกให้สม่ำเสมอเหมือนดังปัจจุบันครับ ถ้าหากมีช้าไปบ้างหรือไม่สามารถอัพได้ผมจะแจ้งให้ทราบทั้งในเพจและในทวิตเตอร์นะครับ หวังว่าคงจะไม่ทำให้คุณผู้อ่านผิดหวังจนพาลเลิกอ่านไปนะ

ปล. หลายคนอาจรำคาญแต่ผมชอบใช้คำว่าบางกอกแทนที่จะใช้คำว่ากรุงเทพครับ เพราะผมว่ามันเป็นคำที่ฟังดูไพเราะและเป็นมิตรกว่ากันมาก ผมว่าคำว่ากรุงเทพมันดูเย่อหยิ่งไปหน่ะ ก็แหม…มันไม่ใช่ที่ๆ เทพมาอยู่รวมกันเสียหน่อยนี่ …ยกเว้นรัชฎา -..-

ปล. 2 สัปดาห์นี้ขอไม่อัพบล็อกเลยนะครับ ต้องเก็บของไปบางกอกหน่ะครับ ขอโทษด้วยนะครับ T_T

หากอ่านแล้วถูกใจชอบใจ ฝากกดแชร์ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ \( - 3-)/
โพสตอนนี้อยู่ในหมวด Talk โพสเมื่อวันที่ .
hackhq

คนธรรมดาที่หลงใหลในการสเก็ตช์ ใช้ปากกาลามี่เป็นอาวุธ มีสมุด Moleskine เป็นผืนผ้าใบและมีจินตนาการในรูปของสีน้ำ หลงใหลรูป รส กลิ่น ของกาแฟ และเคลิบเคลิ้มกับเสียงของดนตรีแจ๊ส | ติดต่อผมบนทวิตเตอร์ได้ที่ @hackhq

เว็บไซต์ : https://www.bbblogr.com