“May the force be with you! ขอพลังจงสถิตอยู่กับตัวท่าน! ไป!! ออกไปไถนาได้แล้ว!!” อาจารย์เบนตะหวาด
“ข้าไม่ใช่ควายนะอาจารย์! ถึงจะออกเสียงใกล้เคียงกันแต่ข้าคือเจได! เจไดๆๆๆ ไม่ใช่ควาย!!” นี่คือคำพูดสุดท้ายที่ผมได้พูดกับอาจารย์ก่อนที่จะออกเดินทางข้ามกาแล็กซี่มาช่วยน้องสาวครับ
ผมออกเดินทางสู่ห้วงจักรวาลอันแสนกว้างไกลด้วยใจตั้งมั่นว่าจะเป็นอัศวินเจไดและช่วยเหลือน้องสาวและผู้คนจากสงครามอันโหดร้าย ผมรู้ดีครับว่าเส้นทางนี้มันไม่ได้เรียบง่ายเหมือนโรยด้วยขนมกลีบลำดวน(อุย พูดแล้วอยากกิน)…แต่ผมก็ไม่คิดเลยว่ามันจะช่างโหดร้ายถึงเพียงนี้
เพราะเจ้าโรคระบาด LIMITED30 จากบล็อกตอนก่อนแท้ๆ เลยครับที่ทำให้ช่วงนี้อัศวินเจไดอย่างผมต้องถึงกับต้องจนกรอบ ไม่มีอะไรจะยาไส้เลยทีเดียว(ต่อจากนี้แกจะเริ่มมั่วเนื้อเรื่องแล้วใช่มั้ย? -*-) ครั้นจะเอา Light Saber เฉือนเนื้อเพื่อนมากินก็กินไม่ได้เพราะว่ามันเป็นเหล็กทั้งก้อน ไอ้เจ้าหุ่นกระป๋องสองตัวนี่ก็เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ !! เฮ้อออ การเป็นอัศวินเจไดเท่ๆ แกว่งดาบไปมา วื้ดว๊าดนี่มันไม่เท่เลยจริงๆ แฮะ ถ้าดันไปหลงมัวเมากับพลังด้านมืด หลงกับกิเลสที่มีให้กับปากกาลามี่แล้วก็สมุดทั้งหลายเนี่ยะ เจไดถึงกับต้องขายดาบกิน!!
บ่นมาก็มากหลายคนเข้ามาอ่านแล้วก็แปลกใจสินะว่า เฮ้ย! ก็ดูนะหนังสตาร์วอร์อะไรนั่นหน่ะอัศวินเจไดเค้าก็ออกจะเท่ กวัดแกว่งดาบพิทักษ์จักรวาลแล้วทำไมไอเจไดนี่มันถึงได้ดูน่าอดสูจังวะ? …ผมบอกให้ก็ได้ครับ อัศวินเจไดคนอื่นๆ ต่างก็ได้ตายไปจนหมดแล้วนะสิ แต่ไม่ใช้เพราะสงครามกวาดล้างอะไรนั่นหรอกนะ แต่เป็นเพราะโดน Limited Edition กันไปตามๆ กันครับ เจไดแต่ละท่านก็เข้ามารายงานในเพจด้วยว่า “ผมสั่งเล่มมินนี่ไปแล้วนะครับ”, “อิชั้นแทบรอพัสดุมาส่งให้ไม่ไหวเชียวค่ะ” และอีกคนซึ่งเป็นอัศวินเจไดน้องใหม่ล่าสุดแต่โดนไปไม่น้อยก็มาบอกผมว่า “พี่ครับ เดือนนี้ผมโดนเซเบอร์ไปหลายด้ามเลยครับ กับโดนสมุดไปอีกสอง ปีนี้จนเลยครับ” …โถๆๆๆ เจ้าพวกเจไดบินเข้ากองไฟทั้งหลาย หึหึหึ…
ใช่ครับ….จากโรคระบาดครั้งนี้เองทำให้เหล่าเจไดทั้งหลายถึงกับสูญสิ้น ยังดีครับที่ผมยังเหลือรอดมาได้ด้วยการขายเซเบอร์เอาเงินมาประทังชีวิต แต่จนแล้วจนรอดเจ้าโรคระบาดนี้ก็แพร่มาถึงผมจนได้ เรื่องมันมีอยู่ว่าท่านพ่อของผม(เอ่อ…หมายถึงพ่อจริงๆ ไม่ใช่ดาร์ธ เวเดอร์นะ -*-) เค้าเห็นสมุดมินนี่ที่รีวิวไปคราวก่อนแล้วรู้สึกจี๊ดอยากครอบครองขึ้นมา(ใช่ครับ พ่อผมอยากได้สมุดสีแดงลายจุด -.,-) ไอกระผมก็เลยเดินทางไปยังดาว moleskineasia.com เพื่อถอยมาให้ท่านเล่มนึง ไอตอนกดจ่ายเงินไปก็ใช้สูตร 30 ตัวนั่นแหละลดราคา แต่หลังจากนั้นก็ดันทะลึ่งไงครับ กวาดเม้าส์ไปมาหานู่นหานี่ดูในเว็บแล้วก็ดันไปเจอของดีเข้ากับตัว…เพียงไม่ถึง 2 นาที…ค่าดาบเซเบอร์ก็กลายมาเป็นสมุดเล่มนี้ในบัดดล
Moleskine Star Wars Limited Edition 2014 คือความบ้าคลั่งในครั้งนี้ครับ ถ้าหากลองเข้าไปดูบน หน้า Star Wars 2014 moleskineasia.com หน้านี้จะเห็นว่าทั้ง 4 เล่มนั้นเป็นสมุดแบบ “ทั่วไป” ที่เป็น Star Wars Limited Edition ของปี 2014 ครับซึ่งจะเป็นชุดที่ผมจะพูดถึงในวันนี้ แต่ถ้าสนใจสมุดแบบอื่นเช่นพวกไดอารี่ก็ลองเข้ามาดูได้ที่ หน้า Star Wars อันนี้นะ จะมีอีกหลายรุ่นให้เลือกซื้อกันครับ (เอาไว้ถ้ามีโอกาสจะสอยมาให้ชมกันนะ)
กลับมาที่พระเอกของเรากันต่อครับ สำหรับ Limited Edition 2014 แบบสมุดทั่วไปนั้นก็ตามที่ผมเรียกแหละครับว่าเป็นสมุดทั่วไปคือแบบกระดาษมีเส้นและไม่มีเส้นครับสองขนาดยอดนิยมก็คือขนาด Pocket และ Large ให้เลือกใช้ ขนาดเล็กไซส์ Pocket ราคาอยู่ที่ 168 HKD หรือ 675 บาทครับ ซึ่งเมื่อติดเชื้อป้อนรหัส LIMITED30 ก็จะลดลง เหลือเพียงแค่ 117.6H KD หรือ 470 บาท ส่วนเล่มใหญ่นั้นราคาขายอยู่ที่ 228 HKD หรือ 912 บาท แต่เมื่อ ลดแล้วจะเหลือเพียง 160 HKD หรือ 640 บาท ซึ่งก็แน่นอนครับว่าผมต้องเลือกแบบไม่มีเส้นเล่มเล็กอยู่แล้วครับเพราะเหมาะมือที่สุด แต่ที่นี้จุดสังเกตก็คือถ้าเป็นสมุด Moleskine Limited รุ่นอื่นๆ ทั่วไปลายบนหน้าสมุดของทั้งขนาดเล็กและใหญ่ก็จะเป็นลายแบบเดียวกันใช่ไหมครับ? แต่เจ้า Star Wars 2014 นั้นทำแสบมากกกก!!! แต่ละเล่มแต่ละขนาดดันทำออกมาไม่ซ้ำลายเลยทีเดียว!! แล้วแต่ละเล่มนั้นก็เท่ๆ ทั้งนั้นครับ ไม่ว่าจะเป็น
- ลายปรมาจารย์เจได : โยดา – Do, or do not. There is no try.
- ลายพ่อของผม : ดาร์ธ เวเดอร์ – Don’t underestimate the force. …เหยดดดดโคตรเท่เลยครับแต่ถ้าเป็น I’m your Father นี่จะฮามากเลยนะ
- ลายเพื่อนที่ดันมาฟาดน้องผม : ฮัน โซโล – Here’s where the fun begins.
- ลายของผมเอง : ลุค สกายวอร์กเกอร์ – May the force be with you. ที่สุดแห่งวลีเด็ดจากเรื่องสตาร์วอร์สครับ! ขอพลังจงสถิตอยู่กับท่าน ไปๆ พลังเยอะก็ไปไถนาไป๊!
นอกจากบนปกของแต่ละเล่มจะมีประโยคเด็ดที่เกี่ยวข้องกับตัวละครนั้นๆ แล้ว ภายในเล่มก็จะมีส่วนต่างๆ ต่างกันไปด้วยครับ ส่วนเล่มอื่นเป็นอย่างไรนั้นเชิญกดเข้าไปดูกันได้เองนะครับ แต่วันนี้ก็ต้องเล่มนี้เท่านั้น ลุค จอห์นนี่วอล์กเกอร์! …ไอบ้า! สกายเว้ย!
พัสดุมาเร็วเช่นเคยครับผมไม่ขอนับวันแล้วกันนะรู้แต่ว่าปลอดภัยก็พอ(พูดถึงอะไรวะ?) หน้าปกสมุดสีดำอันเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของ Moleskine จะมีกระดาษคาดสมุดเป็นรูปของตัวละครจากเรื่อง Star Wars พิมพ์ไว้ครับซึ่งเล่มนี้เป็นแบบไม่มีเส้นขนาดเล็กจะเป็นเล่มของลุค สกายวอร์กเกอร์ เจไดคนสุดท้ายของกลุ่มเจไดเก่า เสียดายไปนิดนึงครับตอนที่เค้าขอถ่ายรูปผมมาพิมพ์นั้น ผมดันเขินมากไปหน่อย หน้าตาเลยออกมาเหมือนลูกหมาหิวนมเลยดูสิ -*-
แกะกระดาษคาดสมุดออกมาก็ไม่รอช้าขอสำรวจสมุดเล่มงามเล่มนี้เลยครับ โดยในส่วนของปกสมุดนั้นจะเป็นสมุดปกดำเหมือนเล่มปรกติทั่วไปครับแต่ที่ส่วนบนของสมุดจะมีตัวหนังสือปั๊มลึกสีขาวเขียนเป็นวลีเด็ดเอาไว้ เล่มนี้ก็คืออย่างที่ผมบอกไปตอนต้นครับคือ May the force be with you วลีเด็ดที่สุดจากภาพยนต์เรื่องนี้เลยครับ เท่มาก! ทีนี้ลองสังเกตที่ส่วนล่างของปกสมุดด้านหน้าครับจะเห็นว่ามีตรา Star Wars ปั๊มลึกลงบนสมุดด้วย ต้องสังเกตดีๆ หน่อยครับถึงจะเห็นนะซึ่งสวยมากเลย มองไกลๆ จะเห็นวลีเด็ด แต่พอมองเข้ามาใกล้ๆ ก็สัมผัสได้ถึงความเป็น Star Wars ได้เป็นอย่างดี
เปิดปกสมุดเข้ามาสำรวจด้านในกันต่อครับ เห็นครั้งแรกผมถึงกับผงะ เจอหนอน! ไม่ใช่แล้ว!! ทั้งปกในด้านหน้าและรองปกเป็นภาพอวกาศสองหน้ากระดาษต่อกันเลยครับซึ่งแม่งโคตรสวยเลยอ่ะ ดวงดาวสีสดบนผืนอวกาศสีดำมืดช่างได้อารมณ์อยากออกไปขับยานเล่นจริงๆ เลย และที่เท่อีกจุดก็คือตรงส่วนรองปกนั้นก็ยังมีวลีเด็ดอีกประโยคพิมพ์ไว้ด้วยนั่นก็คือ I have a very bad feeling about this. – Luke Skywalker โอ้วมายก๊าซซซ! but I have a really good feeling about this notebook จริงๆ เล้ย!!
เปิดผ่านแต่ละหน้าไปจนถึงปกหลังแต่เอ๊ะ อะไรแว๊บๆ นะ? ผมเปิดย้อนกลับไปดูเชือกคั่นสมุดครับแล้วก็นั่งจ้องเหมือนคนบ้าอยู่นาน พอหลุดจากภวังค์ได้ผมก็ลุกขึ้นไปหยิบ Moleskine เล่มธรรมดาที่ผมใช้อยู่ออกมาดูก็พบว่า สีของเชือกคั่นสมุดเป็นสีน้ำตาลแทนที่จะเป็นสีเทาเหมือนแบบทุกที ซึ่งจุดนี้ผมว่ามันเท่มากเลยนะคือใส่ใจรายละเอียดมากครับ ลองนึกดูว่า Moleskine Star Wars ชุดนี้นำตัวละครหลักจากภาค 4 ซึ่งเป็นภาคที่ถ่ายทำก่อนหน้ามันจึงให้ความรู้สึกที่เป็นภาพยนต์เก่า เค้าเลยตั้งใจใช้เชือกสีน้ำตาลเพื่อให้เกิดอารมณ์ร่วมกันไปตั้งแต่เปิดหน้าแรกเลยครับ เท่มาก ลุครักเลย!
เปิดมาถึงปกในด้านหลังก็เจอภาพจักรวาลเหมือนเราอยู่บนยานอวกาศแล้วมองออกไปตอนที่จะนำยานลงจอดครับดูกว้างใหญ่ราวกับเราลอยอยู่ในอวกาศจริงๆ เลย และแน่นอนว่ายังคงมีช่องสำหรับเก็บของเหมือนเดิมแต่ เอ๊ะ นั่นอะไรหน่ะ?! ผมแง้มเปิดช่องเก็บของอย่างเบามือแล้วค่อยๆ หยิบแผ่นกระดาษที่ถูกพับไว้มากางออกช้าๆ เท่มากกกกกกกก!! มันคือ Star Wars 1977 original movie artwork ภาพอาร์ตเวิร์คจากภาพยนต์เรื่อง Star Wars ภาค 4 ซึ่งเป็นภาคแรกที่ปรากฎสู่สายตาชาวโลกในปี 1977 ครับ!! ผมบรรยายความงามของภาพนี้ไม่ถูกจริงๆ ครับเพราะปรกติเห็นแต่เป็นรูปบนเว็บแต่พอเห็นแบบพิมพ์ออกมาให้จับต้องได้แล้วมันสวยงามจริงๆ อยากเอาไปใส่กรอบรูปแล้วแขวนที่บ้านเลยอ่ะ เท่!
ไม่ไหวครับครั้งนี้ ถึงแม้ว่าผมจะเป็นเจไดคนสุดท้ายที่ใครหลายคนต่างยกย่องก็ตาม แต่เมื่อได้พบกับสมุด Moleskine Star Wars Limited Edition 2014 เหล่านี้เข้าไปก็ไม่อาจระงับกิเลสเอาไว้ได้ LE นี้ไม่เพียงแค่สวยแต่มันยังเท่ในระดับที่ผมถือเองยังหุบยิ้มไม่ได้เลย ทุกรายละเอียด ทุกวลีที่บรรจงเลือกสรรมา รวมไปถึงภาพโปสเตอร์ต้นฉบับ ทั้งหมดทั้งมวลนี้มันทำให้แฟนภาพยนต์ Star Wars อย่างผมรู้สึกมีความสุขเป็นที่สุดครับ ความคิดที่ว่าผมจะไม่ซื้อสมุดที่กระดาษมีเส้นเริ่มที่จะสั่นคลอนครับ ด้วยความสวยงามน่าหลงใหลขนาดนี้…คาดว่าในไม่ช้าคุณผู้อ่านคงได้เห็นเล่มอื่นๆ ตามมาอย่างแน่นอนครับ
…เจไดทุกท่านครับ May the Moleskine be with you