ผมเคยสัญญากับตัวเองไว้ว่าต่อไปจะไม่เขียนรีวิวปากกาหมึกซึมที่มีราคาถูกอีกต่อไปแล้ว เนื่องด้วยจากการอกหักช้ำรักในคราวก่อนกับ ปากกา Miffy ทำให้ไม่อยากจะชายตามองปากกาหมึกซึมราคาถูกด้ามใดอีกเลย แต่จนแลัวจนรอด …ผมก็ไม่อาจหนีมันได้พ้นจริงๆ

วันก่อนผมไปเดินห้างใกล้บ้านเซนทรัลพระราม 9 ครับและก็แวะร้านสมใจเพื่อที่จะซื้อหมึกโปร่ง กร๊ากกก! หมึกโปร่ง! กร๊ากกๆๆ ชื่อโคตรเชยเลย เค้าเรียกว่าหลอดสูบหมึกเฟ้ย!! ผมก็ไปถามเค้าครับว่ามีหลอดสูบหมึกขายมั้ย? เค้าก็บอกมาว่า “อ้อ! ‘โปร่งสูบหมึก’ ของลามี่นะเหรอ? มีสิ! ราคา 130 บาท” …ยังไงผมก็ทำใจรับคำนี่ไม่ได้ครับฟังทีไรมันชวนนึกไปถึงดินโป่งในป่าที่ผมเคยกินอยู่บ่อยๆ…แกเป็นควายป่าสินะ

จ่ายเงินเรียบร้อยก็เดินออกมาจากร้านครับ ไอตอนที่กำลังจะกัาวเท้าออกมานั่นแหละ ดันเหลือบไปเห็นปากกาหมึกซึมกองสุมๆ กันในกล่องพลาสติกช่างแลดูไรัค่าเสียจริง พอลองกัมหน้ามองเข้าไปใกล้ๆ กลับพบว่าไอปากกาพวกนั้นมันเป็นปากกาหมึกซึมครับแถมที่คลิบหนีบยังพิมพ์ยี่ห้อ Pentel เอาไว้ด้วย เอาแลัวไง!! พอได้ยินชื่อเสียงของยี่ห้อผู้ผลิตรายนี้เข้าหน่อย ดวงเสียเงินก็ปรากฎทันทีครับ “พี่ครับ ไอปากกาด้ามนี่ราคาเท่าไหร่ครับ?” อ๋อ ของเพนเทลอันละ 130 บาทน้อง! …ไม่นึกไม่ฝันว่าหนังหน้าในวัยขนาดนี้แล้วยังมีคนเรียกว่าน้องกันอีก -*-

ผมควานหาปากกาเพนเทลในกล่องเพื่อให้ได้สีที่ถูกใจแต่กลับพบว่าทั้งกล่อยมันมีขายแค่ 3 สีเท่านั้นนั่น!! ก็คือ ม่วง ส้ม และชมพูครับ แน่นอนว่าหนุ่มเจัาสำอางหน้าตาดีแบบผมจะเลือกสีอื่นใดไปไม่ได้เลยหากไม่ใช่สีนี้ครับ สีชมพู!!! จ่ายเงินแล้วก็เดินออกจากร้าน หยุดนิ่งสักพักแล้วก็คิดในใจว่า “กูชอบสีส้มนี่หว่า แล้วเอาสีชมพูมาทำม้าอะไรวะ?”

Pentel TRFS Tradio Mini ปากกาหมึกซึมด้ามนี้ถูกออกแบบให้มีขนาดกระทัดรัดพกพาสะดวก เหมาะกับเด็กนักเรียนที่ต้องการฝึกใช้ปากกาหมึกซึม ราคาตั้งขายหน้าร้านอยู่ที่ 130 บาท วัสดุที่ใช้ทำตัวปากกานั้นผมต้องขอเรียกว่า ห่วยแตกครับ คือด้วยราคา 130 บาท ปากกาด้ามนี้ควรจะใช้พลาสติกที่คุณภาพดีกว่านี้หน่อย ที่ผมพูดแบบนี้นั่นก็เพราะตัวด้ามนั้นเป็นรอยง่ายมาก ผมพยายามเลือกดูทุกด้ามที่อยู่ในกล่องปากกาว่าด้ามไหนมีสภาพสวยที่สุด แต่กลับพบว่าทุกด้ามเป็นรอบขนแมวทั่วทั้งด้ามเลยครับ จากที่ควรจะเงางามใส่สวยแต่เป็นรอยเยอะมากจนกลายเป็นขุ่นไปหมด กากจริงๆ รูปร่างหน้าตาก็ขี้เหล่มากครับ ปากกาหมึกซึมราคา 130 บาท มันควรที่จะสวยงามกว่านี้แต่ปากกาด้ามนี้เหมือนออกแบบมาให้เป็นปากกาลูกลื่นราคาไม่เกิน 20 บาท แต่ทีหลังไอตัวเจ้าของดันเปลี่ยนใจอยากขายหมึกซึมบ้างเลยเอามายำใหม่ใส่ nib ซะเลย กลายเป็นปากกาหมึกซึมที่หน้าตาแย่ไปเลยครับ

หมุนเกลียวแกะปากกาออกก็จะพบกับหลอดหมึกแถมมาให้ในด้ามหนึ่งหลอดครับ ผมลองถามคนขายดูว่าไอปากกานี้มันมีหลอดสูบหมึกขายแยกต่างหากมั้ยเพราะจะได้เอาไปเติมหมึกได้เอง คนขายเค้าก็หวังดีนึกว่าเราไม่มีหมึกใช้เลยพยายามขายหมึกหลอดเป็นกล่องให้เลยจร้าาา “ขอบคุณครับ ขอเอาไปลองก่อนละกันนะครับแล้วเดี๋ยวค่อยตัดสินใจ” …แล้วผมก็วิ่งออกมานอกร้านครับ

กลับถึงบ้านก็จัดแจงปากกาวางบนเตียงนอนแล้วผมก็ล้มตัวลงพินิจพิเคราะห์น้องเค้าตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าอย่างถ้วนถี่(ก…แกจะทำอะไรปากกาฟระ?!!) หยิบขึ้นมาลองจับ “ไม่ถนัด” ด้วยเพราะรูปร่างที่เล็กและสั้นเสียเหลือเกินทำให้จับได้ไม่ถนัดมือ ซึ่งตรงส่วนนี้มันถือเป็นข้อดีในกรณีที่ว่าคุณต้องการพกพาปากกาด้ามเล็กๆ ครับ ตัวด้ามของปากกาเป็นแบบกลม ไม่มีร่องหรือเหลี่ยมรองรับการจับถือ ซึ่งตรงนี้ผมไม่โสภาเท่าไหร่นะเพราะยิ่งผมเป็นคนที่ที่ไม่ค่อยถนัดกับปากกาด้ามกลมๆ อยู่เป็นทุนเดิมทำให้เวลาเขียนจึงไม่สบายมือเลยครับ ด้ามสั้นแถมหมุนตลอดเวลา เขียนนานๆ ไม่สนุกมือแน่

มาพูดถึงเรื่องหมึกกันบ้าง ปากกาด้ามนี้ให้หมึกมาด้วย 1 หลอดเป็นหมึกน้ำเงินครับ หลอดหมึกเสียบไว้ในตัวด้ามพร้อมใช้งาน โดยวิธีการเสียบหลอดหมึกนั้นจะต้องให้หลอดหมึกด้านที่มันเรียวกว่าเสียบเข้าไปด้านใน ตรงส่วนปลายของหลอกหมึกเป็นแบบลูกบอลกั้นหมึกครับ ออกแรงกดนิดหน่อยก็เป็นที่เรียบร้อย รอสักพักให้หมึกไหลแล้วจึงเริ่มเขียนได้ล่ะครับ หมึกหลอดที่แถมมานั้นเป็นสีน้ำเงินที่ค่อนข้างเหลวครับ เนื้อสีก็น้อยด้วยทำให้สีน้ำเงินนั้นอ่อนไม่สดใสชัดเจนเลยและทำให้เขียนได้ฝืดด้วย

ความรู้สึกในตอนที่ปลายปากกาสัมผัสกับกระดาษนั้นมีทั้งสองแบบครับคือทั้งประทับใจและผิดหวังในเวลาเดียวกัน ที่ประทับใจคือปากกานี้เขียนได้ลื่นในระดับที่ “รับได้” เขียนได้ลื่นปานกลางแต่ไม่ได้เลวร้ายเหมือนกับไอเจ้าปากกา Miffy นั่นนะ ส่วนที่ผมบอกว่าผิดหวังก็คือเรื่อง ink flow ที่ไหลได้ไม่ค่อยดี สังเกตได้จากทั้งตอนที่เสียบหมึกเข้าไปและตอนเขียนไวๆ ลากเส้นเร็วๆ หมึกมันไหลไม่ค่อยทันครับ ยิ่งมาเจอกันหมึกที่แถมมาด้วยแล้วทำให้รู้สึกฝืดเขียนไม่สนุกเลย ส่วนอีกเรื่องก็คือเรื่องเขียนลื่นครับ เพียงอีกแค่นิดเดียวเท่านั้นปากกาด้ามนี้ก็จะเขียนได้ลื่นมากๆ แล้ว แต่ด้วยกระบวนการผลิตที่ต้องการลดต้นทุน ทำให้ผิวหน้าสัมผัสของปลาย nib มันไม่เนียนเรียบพอครับ คล้ายๆ กับว่าขัดผิวหน้าด้วยกระดาษทรายที่ไม่ละเอียดพอ เวลาเราเขียนเลยสากๆ ฝืดนิดๆ

ผมลองใช้ปากกาด้ามนี้ขีดเขียนบนกระดาษเพื่อดูขนาดเส้นและเมื่อเทียบกับ nib ของ Lamy ก็พอจะเทียบได้ว่าขนาดของ nib Pentel ด้ามนี้ให้เส้นใหญ่กว่า EF จนเทียบเท่าขนาด F ครับ แต่ก็นั่นแหละในเมื่อหมึกไหลไม่ทัน ถึงจะเส้นใหญ่แค่ไหนก็เขียนไม่สนุก เส้นขาดก็เป็นกันจบ พอลองส่องดูที่ nib ก็มีการสลักคำว่า iridium point ไว้ด้วยเพื่อเป็นการบอกว่าปลาย nib อันนี้ทำมาจาก Iridium ครับ

ถามว่าราคา 130 บาทนี่ควรซื้อปากกาด้ามนี้ไหม? ผมก็ต้องขอตอบว่า ถ้าอยากลองปากกาหมึกซึมอื่นๆ ที่ราคาถูกก็เชิญเลยครับเพราะปากกาด้ามนี้ถือเป็นปากการาคาถูกที่คุณภาพปานกลาง ไม่หนักไปทางแย่หรือทางดี โดยในทีแรกนั้นผมเกือบจะยกให้เป็น “ปากกาถมที่” ตามรุ่นพี่ Miffy ไปแล้วแต่พอมานึกถึงเรื่องที่ยังพอเขียนลื่นอยู่บ้างและอื่นๆ ก็เลยยังปล่อยให้รอดมาได้ครับ (เก็บเงินไว้ซื้อหมึกโปร่งเหอะ) แต่ถ้าจะให้แนะนำปากกาหมึกซึมราคาถูกยี่ห้ออื่น ผมขอแนะนำให้ไปซื้อปากกา Platinum Preppy จะคุ้มเงินมากกว่าครับ ราคาถูกกว่า เขียนลื่นเขียนดีกว่าแถมจับถนัดมือกว่าด้วยครับ

…แต่ถ้าคันไม้คันมือจริงๆ ก็เชิญเหาะไปสอยกันมาได้เลยนะครับ ผมเตือนแล้วนะ กรั่กๆๆๆๆๆ