…กระผ้มอุตส่าห์ปล่อย teaser พ่วงด้วยคำลวงต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น เตรียมพบกับปากกาลามี่สีพิเศษบ้างล่ะ รับรองว่าทายไม่ถูกมั่งล่ะ ถ่ายรูปแบบวับๆ แวมๆ บ้างล่ะ (อะไร?) แต่สุดท้ายก็ไม่พ้นสายตาที่เฉียบคมของแฟนพันธุ์แท้ลามี่ไปได้ แต่ก็ช่างเถอะถึงแม้ผมจะโดนจับไต๋ได้แต่ไอปากกาด้ามนี้มันก็น่าสนใจจนอยากจะเขียนอยู่ดีนั่นแหละ เพราะในเมื่อมีคนมาย่ำยีกับปากกาลามี่ปากกาที่รักยิ่งของพวกเรา!! รับรองว่าบล็อกตอนนี้ได้ลุกเป็นไฟแน่นอนครับ!! สาวกทั้งหลาย!! มายำใหญ่ปากกาด้ามนี้กันเถอะ!!
บล็อกตอนนี้คุณผู้อ่านอาจจะได้เห็นคำเย้ยหยัน โจมตี ประสงค์ร้าย แบบแปลกๆ บ้าบออะไรวะกันเยอะหน่อยนะครับ โปรดทำความเข้าใจและจินตนาการว่าคนบ้าเค้าคิดอะไรประกอบการอ่านไปด้วย -.,-
Hero 359 Summer Color : Purple คือปากกาหลอกลวง ปลิ้นปล้อน ขี้ฉ้อ ก็อปปี้ กลากเกลือ ขี้เรื้อน เดือนมืด อืดร้อยวัน ที่ผมจะนำมาให้ดูกันในวันนี้ครับ (นั่นไง เริ่มแล้ว) เห็นครั้งแรกผมแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่าบริษัทผลิตปากกาจากแผ่นดินจีนนามว่า Hero ผู้โด่งดังและทำ ปากกาที่น่าสนใจเช่น Hero 501–1 มามากมายอย่างบริษัทนี้จะใจกล้าหน้าไม่นุ่มผลิตออกมาขายได้ จริงอยู่ที่ว่าบริษัท Hero นี้เองก็เคยก๊อป ลอก ทำซ้ำ เลียนแบบ ปากการุ่นดังๆ ของยี่ห้ออื่นๆ มาไม่น้อย แต่ไม่นึกว่าวันนี้จะมาถึงเลยครับ! วันที่ประวัติศาสตร์จะต้องจารึกว่าปากกาลามี่ซาฟารีจะมีพี่น้องต่างพ่อต่างแม่แหกสายพันธุ์ถือกำเนิดขึ้นมา ก็แน่นอนล่ะครับยุคนี้เป็นยุคของลามี่ซาฟารีจริงๆ นี่ครับ ใครเห็นก็ล้วนแล้วแต่อยากจะเป็นเจ้าของ ราคาไม่สูงจับต้องง่าย ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเสียขนาดนี้ Hero มีหรือจะยอมปล่อยโอกาสให้หลุดมือ ก๊อปขายเลยจร้าาาา
แน่นอนว่าผมเคยพูดถึงปากกาขี้ก๊อปด้ามนี้ไปแล้วบนเพจครับ แต่ก็เป็นเพียงแค่การเอาลิ้งค์มาแปะให้กรี๊ดกร๊าดกันชั่วประเดี๋ยวประด๋าวเท่านั้น ไม่ได้ลงลึกถึงรายละเอียดปลีกย่อยแต่อย่างใด เผอิญว่าช่วงปีใหม่ผมว่างจัดแฟนไม่อยู่แถมเป็นผู้ชายอบอุ่นที่รักเดียวใจเดียวด้วยเลยไม่ได้แอบออกไปเดทกับใคร(อุ๊ย! ฟ้าร้อง) วันๆ เลยไม่รู้จะทำอะไรครับ รู้สึกเซ็งชีวิตเบื่อกิจกรรมทุกประเภท ทางเดียวที่จะสามารถคลายความเบื่อของผมนี้ได้นั่นก็คือเข้าไปช๊อปปิ้งใน Ebay ครับ…(เตือนตัวเองไว้นะว่าคราวหน้าอย่าเบื่อชีวิตและใช้เงินอย่างไร้สติอีก เพราะอาจจะโดนแฟนวางยาเบื่อโทษฐานมือไม่พายดันเอาตีนคลิก add to cart…) เข้าเรื่องเหอะ!! ผมก็ลองไถๆ ดูนู่นนี่ดูหมึกบ้าง ดูราคาลามี่บ้าง แล้วตาผมก็ดันไปสะดุดเข้ากับเจ้าปากกาลามี่สีม่วงเข้าครับ เค้นสมองดูแล้วว่าลามี่รุ่นซาฟารีไม่มีทางมีสีม่วงไปได้แน่ แถมถ้าเป็น Limited Edition ของปี 2014 ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่เพราะบริษัทที่เยอรมันยังไม่โทรมาบอกเรื่องนี้กับผมเลย(เว่อร์ตกขอบโลก) ผมเลยลองกดเข้าไปดูก็ถึงบางอ้อ มันคือปากกา Hero 359 ขี้ฉ้อนั่นเอง!
ประจวบกับว่าผมอยากหาอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ มารีวิวพอดีครับ แถมก็มีคำถามถามเข้ามาเยอะมากว่าปากกาลามี่นี่มันมีของปลอมบ้างมั้ย? ของก็อปจะดูยังไง? ผมก็เลยตัดสินใจ “ลดตัว” ซื้อไอปากกาลวงหลอกกลากเกลื้อนด้ามนี้มารีวิวให้แปดเปื้อนบีบีบล็อกแห่งนี้ดูสักครั้งก็ได้ครับ (ได้ข่าวว่าหมดมุกเลยไม่มีอะไรจะเสีย -*-)
Hero 359 มีคนขายหลายรายประกาศขายครับ บางคนก็ขายเป็นชุดครบทุกสีเลย (ขาว เหลือง แดง ดำ น้ำเงิน และม่วง) บางคนก็แยกสีแต่ทำเป็นใส่คำประกาศพ่วงคำว่าลามี่เข้าไปด้วยกะเนียน และคนขายแทบทุกคนจะเป็นคนจีนครับ ซึ่งผมก็ลองเลือกดูคนขายที่น่าไว้ใจที่สุด ได้คะแนนสูงๆ หรือขายออกไปแล้วหลายด้าม รวมถึงรายละเอียดอื่นๆ เช่นค่าส่งถูกๆ เป็นต้นครับ จนผมได้มาคลิกกับคนขายคนนึงเข้า โดยไอปากกาด้ามนี้คนขายเค้าตั้งราคาไว้ที่ 15 USD ครับแถมส่งฟรีอีกด้วย(ต้นทุนคง 10 บาทสินะ ปากกากากขิง) แต่ด้วยความน่ารังเกียจของมันทำให้ผมไม่อาจทำใจที่จะซื้อที่ราคานี้ได้ครับ บังเอิ้ญบังเอิญที่คนขายเค้าดันตั้งราคาให้เป็นแบบ Make Offer หรือก็คือคนซื้อสามารถเสนอราคาที่อยากซื้อได้ โดยการยื่นเสนอราคานั้นจะทำได้เพียง 3 ครั้งเท่านั้นถ้ามากกว่านี้ก็ต้องไปเริ่มเสนอราคากันใหม่ครับ ครั้งแรกผมก็ใจกล้าหน้าไม่อายต่อด่วนเลยจ้าาา! โดยเสนอราคาไปที่ 10 USD …ใช่ครับ ผมต่อให้มันลดไป 1 ใน 3 ของราคาปรกติเลย กดส่งปุ๊บคนขายก็หายไปสักพักครับแล้วก็เสนอราคากลับมาว่า “เห้ย! แกต่อมากไปป่าววะ? ขอเป็น 13 USD ได้มั้ย?” ก็เข้าตามตำราการต่อสิครับ ผมก็บอกว่า “ไม่เอาเว้ย! ให้ได้มากสุดที่ 12 USD ล่ะ!” คนขายหายไปสักพักแล้วก็กลับมาพร้อมด้วยราคาที่ 12.50 USD ผมก็เห็นว่านี่มันเป็นการยื่นราคาครั้งสุดท้ายล่ะก็เลย “เออวะ! เอาก็ได้!” จ่ายเงินเรียบร้อยเป็นอันได้ไอปากกาก๊อปปูล่ามาในราคา 12.50 USD หรือ 410 บาท ครับ
อัพเดตเนื้อหาหน่อยนึงครับ 2014–01–24 13:00
มีคุณผู้อ่านท่านนึงแจ้งมาว่า เจ้าปากกาขี้ก๊อปด้ามนี้ถ้าหากหิ้วมาเองจากประเทศจีนราคาค่าตัวจะตกอยู่ที่ประมาณด้ามละ 200 บาท… เห้ย!! ถูกกว่าที่ผมไปซื้อบน Ebay กว่าครึ่งเลย!! ยังไงหากมีโอกาสได้ไปจีนหรือมีเพื่อนที่นู่นก็หิ้วมาก็จะถูกกว่ามากครับ คุณภาพค่อยสมกับเป็นปากกาก๊อปขึ้นมาหน่อยถ้า 200 อ่ะนะ…อุฮิ
รออยู่วันนึงมั้งครับจำเวลาชัดเจนไม่ได้ คนขายเค้าก็ส่งปากกาขี้ก๊อปมาให้ครับ ออกเดินทางจากประเทศจีนในวันที่ 4 มกราคมครับ ของมาถึงมือผมวันที่ 20 มกราคมครับ รวมแล้ว 16 วันสำหรับการส่งฟรี ห่อพัสดุเรียบร้อยดีไม่มีอะไรเสียหายเพราะเค้าเอา Bubble Wrap พันๆๆ เป็นก้อนแล้วห่อด้วยกระดาษสีเหลืองอีกที ตอนที่รับพัสดุพนักงานต้อนรับข้างล่างที่พักไม่กล้าเรียกว่าพัสดุครับเพราะหน้าตามันเป็นก้อนน่าเกลียดเชียวครับ โถ่…(ขออภัยผมถ่ายรูปตอนยังเป็นก้อนๆ ไม่ทันครับ เพราะว่าด้วยความอยากเห็นอันท่วมท้น ผมเลยกระชากซองขาดด้วยมือเปล่าในครั้งเดียว -.,-)
ว้าว!! ไม่น่าเชื่อเลยครับว่าผมจะอุทานคำว่าว้าวให้กับเจ้าปากกาหนอนกินขยะด้ามนี้ได้ แต่ที่ผมว้าวนั่นก็คือพอแกะห่อออกมาปุ๊ปก็ได้เห็นกล่องบรรจุปากกาด้ามนี้ครับ เป็นกล่องใสขนาดพอดีด้ามปากกาหนึ่งด้ามแวววาวสวยงามเชียวครับ เวลาเปิดก็เปิดออกมาทางแนวยาวก็จะพบกับปากกากาฝากด้ามนี้นอนอยู่ครับ แน่นอนว่าหมึกก็ต้องมีมาด้วยสิครับไม่อย่างนั้นจะเอาหมึกที่ไหนเขียน คนขายเค้าก็เลยใส่หมึกแบบหลอดมาให้ด้วย 1 แพ็คครับ แพ็คนึงมี 6 หลอดครับแต่ไม่รู้ว่าคุณภาพของหมึกจะดีหรือเปล่า เดี๋ยวเราค่อยไปทดสอบพร้อมกันอีกทีตอนท้ายนะครับ
สัมผัสแรกที่ผมหยิบปากกา Hero 359 โจรใจบาปด้ามนี้ขึ้นมานั้นบอกได้คำเดียวครับว่า “สีสวยจังเลยนะฮ้าาาาา” ไอบ้า!! เห็นสีม่วงเป็นไม่ได้เลยนะ!! คือก็พูดกันตามตรงอ่ะครับว่าสีม่วงมันสวยจริงๆ และเพราะว่าลามี่ซาฟารียังไม่เคยทำสีม่วงออกมา มันเลยเป็นสีที่น่าสนใจทีเดียวครับถึงแม้จะเป็นของปลอมก็ตาม
ผมลองหยิบปากกาเข้ามาดูใกล้ๆ ความคิดแว็บต่อมานั้นจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลยครับถ้าไม่ใช่คำว่า กาก อย่าหาว่าผมพูดโจมตีเลยนะครับ ผมต้องขอเรียนตามตรงด้วยเหตุผลว่าทำไมมันถึงกาก นั่นก็เพราะมาตรฐานการผลิตมันต่ำยังไงล่ะครับ คุณผู้อ่านลองหยิบปากกาลามี่ที่คุณพกอยู่ตอนนี้ขึ้นมาครับ แล้วลองลูบๆ คลำๆ พินิจพิเคราะห์ตามส่วนต่างๆ ดูสิครับแล้วคุณจะพบว่ามัน “ประณีต” แต่กับเจ้าปากกา Hero 359 ผมไม่นึกถึงคำนี้เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นรอยตัด รอยหล่อ หรือเกลียวปากกาก็ดูธรรมดาและให้ความรู้สึกไม่ได้มาตรฐานเพราะตอนหมุนเกลียวปากกามันจะหลวมๆ แกว่งๆ ไม่มั่นคงครับ รวมไปถึงส่วนเล็กๆ น้อยๆ เช่น O-ring ล้วนแล้วแต่ดูเหมือนปากกาของเล่น ความคมชัดของการหล่อแทบไม่มีเลยครับ เอามือจับแล้วมันจะมนๆ ดูเบลอๆ ไม่สวยคมเหมือนกับลามี่ซาฟารีต้นแบบ แต่ที่น่าเกลียดที่สุดก็คือตรงส่วนของรอยหล่อครับ คือมันก็เป็นเส้นๆ คมๆ ที่เหลือจากการหล่อออกมาอยู่กลางด้ามเลย ไม่มีการซ่อนตามขอบปากกาแม้แต่น้อย หยิบมาถือๆ ดูจะรู้สึกถึงไอรอยหล่อน่ารำคาญนี้ได้อย่างชัดเจนครับ ส่วนเรื่องคลิปนั้นถือว่าไม่มีอะไรติเป็นพิเศษครับ มันก็หนีบกระเป๋าเสื้อได้แน่นหนาอยู่พอสมควรครับ
อีกจุดนึงที่ผมคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ของปากกาปลอมลอกข้อสอบด้ามนี้ก็คือเรื่องตอนที่เราปิดปลอกปากกาครับ คุณผู้อ่านใช้ลามี่คงจะคุ้นเคยกับสัมผัสตอนที่ปิดปลอกปากกากันดีใช่มั้ยครับ? มันจะมีเสียงคลิกเล็กๆ และความรู้สึกถึงปากกาเก็บเข้าปลอกอย่างเรียบร้อยแน่นหนา แต่ไอปากกา Hero นี้มันรู้กึกๆ งงๆ ครับ มันเหมือนจะเก็บเข้าที่แล้วแต่ก็ต้องใช้แรงกดมากกว่าลามี่แท้เล็กน้อย เอาเป็นว่ามันรู้สึกกิ๊กก๊อกและกระจอกแบบบอกไม่ถูกอ่ะครับ (คือจะหาเรื่องว่าเค้าว่างั้นเหอะ)
หลังจากผ่านช่วงตำหนิไปมากแล้ว จุดที่เค้า “พยายามทำให้แตกต่าง” หรือประมาณว่าไปลอกของแท้มาทั้งทีแต่ก็ไม่กล้าที่จะลอกไปตรงๆ (นี่ยังไม่ตรงอีกเหรอ???) เลยพยายามเปลี่ยนนู่นนิดเปลี่ยนนี่หน่อยให้ดูไม่เหมือนกันมากจนเกินไป โดยแบ่งเป็นจุดสังเกตได้ดังนี้
- โลโก้ที่ปลายด้ามปากกา จากเดิมที่เป็นคำว่า LAMY แน่นอนอยู่แล้ว มันก็เปลี่ยนมาเป็นคำว่า HERO ฟ้อนต์เดียวกันเลยด้วยความภาคภูมิใจ แหม้!…มันน่าจิกหัวตบจริงๆ!! (เห้ย อย่าหลุดๆๆ)
- จุกปากกา เป็นแบบตันปั้มนูนโลโก้ของ Hero ครับ (ดอกบ๊วยเหรอ?) จากที่ปรกติถ้าเป็นลามี่ซาฟารีแบบหมึกซึมจะเป็นจุดที่มีรอยบากเป็นรูปกากบาท แต่ของก๊อปนี้เป็นโลโก้นะครับ
- ท้องปากกา ถ้าหยิบลามี่ของคุณขึ้นมาดูจะเป็นที่ตัวด้ามปากกาจะเป็นแบบเรียบทั้งด้านบน(ด้านที่มีโลโก้ LAMY)และด้านล่าง(ด้านตรงข้าม)ใช่มั้ยครับ? แต่เจ้า Hero 359 ตัวนี้ด้านที่มีโลโก้ก็จะเรียบนี่แหละครับแต่ด้านล่าง(ตรงกันข้าม)กลับเป็นแบบโค้งไม่ตัดเรียบเหมือนตัวต้นแบบครับ
- nib แน่นอนว่าก็อปมาก็จะต้องพิมพ์ยี่ห้อ Hero ของตัวเองเข้าไปครับ
- เกลียวปากกา ถ้าเป็นลามี่ซาฟารีจำได้ไหมครับที่ผมเคยบอกว่าว่า gen 4 รุ่นปัจจุบันนั้นตรงส่วนเกลียวจะมีช่องเล็กๆ เอาไว้ยึดหลอดหมึกแต่ของ HERO นี้จะไม่มีช่องเล็กนั้นครับ มีก็แต่เพียงช่องใหญ่เท่านั้น(สงสัยขี้เกียจเจาะ)
- ก้นปากกา จากที่ลามี่ของแท้จะมีการสลักคำว่า Germany ไว้บนก้นพลาสติกพ่นทรายให้ดูขรุขระเล็กน้อยพอสวยงาม แต่ไอเจ้าปากกาขี้ก๊อปนี่มันไม่สนเลยจ้า มันไม่มีแม้แต่จะสลักหรือพ่นทราย เรียกว่าหล่อออกมายังไงก็ขายกันอย่างนั้นเลย
หลอดสูบหมึกก็มีการแถมมาให้เหมือนกันนะครับ แต่ดันกลายเป็นว่าไปเอาหลอดสูบของรุ่น Z26(สีเงิน) แทนที่จะเอาของรุ่น Z24 (ก้านแดง) มาเป็นต้นแบบ ปลอมทั้งทีก็ไม่หัดปลอมให้เหมือนนะ กากจริงๆ …แต่ใช้สีเงินก็สวยดีนะ กรั่กๆๆ ผมลองหมุนๆ ก้านสูบหมึกดูครับกลับกลายเป็นว่าผลิตมาไม่ดีเลยครับ ไม่รู้สึกถึงความแน่นหนาของตัวหลอดสูบหมึกเลย รอยต่อระหว่างตัวหลอดกับตัวก้านดูหลวมและมีความห่างอยู่เล็กน้อย ไม่แน่ว่าใช้ๆ ไปวันดีคืนดีหมึกรั่วออกจากรอยต่อตรงนี้ทำกระเป๋าเสื้อเลอะเทอะซักไม่ออกก็เป็นได้…เดี๋ยวถ้ารั่วเลอะเทอะแล้วจะมาเล่าให้ฟังอีกทีนะ
มาถึงตรงนี้ผมคิดว่าคุณผู้อ่านบางท่านจะต้องสงสัยแน่นอนว่าไอปากกาขี้ลอกด้ามนี้ในเมื่อมันตั้งใจลอกมาเสียขนาดนี้ แล้วมันจะสามารถใช้หลอดหมึกร่วมกันกับหลอดหมึกของลามี่ได้หรือไม่ ผมไม่รอช้าครับคว้าหลอดสูบหมึกของลามี่ที่มีหมึกของ Noodler’s เติมอยู่แล้วเสียบเข้าไปในตัวปากกาดู หลอดสูบหมึกสามารถเสียบเข้าได้พอดีเลยครับและแน่นหนาดีทีเดียว เสียอย่างเดียวตรงตุ่มที่ยื่นออกมาจากหลอดสูบหมึกมันไม่มีช่องให้ยึดครับ เลยต้องใส่เข้าไปตรงช่องใหญ่ ซึ่งเมื่อเราหมุนเกลียวปากกาเข้าที่แล้วเราจะยังเห็นไอตุ่มนี่ผ่านทางรูตรงส่วนด้ามนะน่าเกลียดที่สุด
น่าเสียดายจริงๆ ครับที่ผมไม่สามารถแกะแยกชิ้นส่วนเจ้าปากกากากด้ามนี้ออกมาให้ชมกันได้ ไม่รู้ว่ามันล็อคแน่นหนาหรือทากาวบ้าบออะไรไว้หรือเปล่า ถอดยังไงก็ไม่ออก ขนาดตัว nib เองยังติดแน่นเลยครับ ผมจึงทำได้เพียงแต่ใช้มีดค่อยๆ แกะ nib ออกมาเท่านั้นและพอมองเห็นส่วน ink feed เพียงเล็กน้อย แต่พอส่องดูแล้วก็พบว่าหน้าตามันคล้ายๆ กับ ink feed ของลามี่อยู่เหมือนกันครับ
เข้าถึงช่วงเวลาสำคัญล่ะครับนั่นก็คือการทดสอบการเขียนครับว่าไอปากกาของปลอมลวงโลกด้ามนี้จะเขียนได้พอจะเทียบเท่าปลายเล็บเท้าของลามี่ต้นแบบได้หรือไม่ โดย Hero 359 ที่ผมสั่งมานั้นจะเป็น nib F ครับเพราะผมอยากให้ชัวร์ว่า “น่าจะ” เขียนได้ลื่นพอประมาณ ไม่รอช้าผมแกะห่อหมึกหลอดที่แถมมาให้ กดหลอดหมึกเข้าไปในปากกาแล้วให้เวลาหมึกมันไหลสักครู่จึงเริ่มเขียน
หมึก
หมึกหลอดที่แถมมาให้ด้วยนั้นเป็นแบบใช้ลูกกลมเป็นตัวกั้นหมึกออกแล้วครับ การจะใช้จะต้องออกแรงกดหลอดหมึกเข้าไปในปากกานิดนึงเพื่อให้หลอดหมึกแนบสนิทกับตัวปากกาครับ ซึ่งหมึกที่แถมมาให้นั้นเป็นสีน้ำเงินเข้มครับหรือจะเรียกได้ว่าเป็นหมึกสี Blue-Black น้ำหมึกที่ได้ค่อนข้างเหลวเนื้อสีไม่ข้นมากเวลาเขียนบนกระดาษ A4 ธรรมดานี่เส้นแตกกระจายเลยครับ อ้อ แล้วก็ไม่กันน้ำนะจ๊ะหนูๆ
การเขียน
เจ็บใจจริงเว้ย!
ผมคาดหวังว่าผลการทดสอบการเขียนจะต้องยอดแย่น่าถ่มถุยแต่กลับไม่ใช่ครับ! ไอปากกา Hero 359 ถึงแม้จะเป็นปากกาที่ลอกแทบจะตั้งแต่หัวจรดท้ายแต่กลายเป็ยว่า nib มันไม่ได้แย่มากมายสมกับเป็นปากกาก๊อปเลย หลังจากใส่หมึกเข้าปากกาแล้วรอสักพักผมก็ซัดลงบนกระดาษสมุดที่เตรียมไว้เลย ไอปากกานี่มันเขียนลื่นใช้ได้เลยแฮะ ถึงแม้จะไม่ได้ลื่นเทียบเท่า nib ลามี่ขนาด F แต่ถือว่าเขียนลื่นในระดับที่น่าพอใจ จะมีบ้างบางมุมที่รู้สึกว่ามันฝืดหน่อยๆ เนื่องมาจากหน้าสัมผัสในส่วนของ nib ยังไม่เรียบพอแต่โดยรวมแล้วใช้ได้เลยครับ ที่สำคัญก็คือ ink flow ของ ink feed ไหลดีมากกกกกกกก!!! หมึกไหลลื่นท่วมท้นไม่มีอาการหมึกหยุดไหลหรือเส้นขาดเลยแม้ผมจะเขียนหนังสือตวัดรวดเร็วเพียงใดหรือลากเส้นไวว่องแค่ไหนก็ตาม ปากกาด้ามนี้ส่งหมึกได้สม่ำเสมอซึ่งหมั่นไส้เว้ย!! ลองดูตัวหนังสือและภาพสเก็ตช์แบบลวกๆ ของผมดูสิครับจะรู้ได้เลยว่าผมตั้งใจวาดเร็วมากแต่หมึกมันยังไหลต่อเนื่องไม่มีเลยเส้นลากยาวๆ ที่เส้นขาด หมึกไหลดีจริงๆ
ผมลองลากเส้นเทียบขนาดกับ nib ขนาด f ของลามี่ซาฟารีดูครับว่าขนาดเส้นเท่ากันหรือเปล่าก็ปรากฎว่า nib ของปากกากากก๊อปนั้นมีขนาดที่ใหญ่กว่าของฝั่งลามี่นะครับ มิน่าล่ะมันถึงเขียนลื่นและหมึกไหลดีเพราะนี่ก็เป็นปัจจัยประกอบด้วยเช่นกันนะครับ
เป็นอันจบสิ้นครบถ้วนทุกกระบวนท่าการทดสอบของเจ้าปากกาขี้ก๊อป Hero 359 ด้ามนี้ ถึงแม้ว่ามันจะพยายามทำออกมาให้หน้าตาเหมือนกับปากกาลามี่แต่สุดท้ายก็ไม่อาจเทียบชั้นกับปากกาต้นฉบับได้จริงๆ ราคาขายอยู่ที่ 410 บาท ซึ่งหากคุณเพิ่มเงินอีกเพียง 200 บาท(ใช้โปรลด 30%) ก็จะได้ปากกาลามี่แท้ๆ ไปครอบครองแล้ว ทั้งสวยกว่า เขียนลื่นกว่า ได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่า ผมจึงแนะนำให้ซื้อของจริงไปเลยจะดีกว่านะครับไม่ต้องไปซื้อเจ้า Hero นี้มาใช้หรอก นอกเสียจากว่าคุณผู้อ่านอยากจะลองหามาใช้เปรียบเทียบเล่นๆ หรือจะซื้อเอากล่องมาใช้ก็ตามที
…หรือเบื่อมากจนอยากจะเสียเงินเล่นแบบผม ก็ลองหามาเป็นเจ้าของกันได้นะครับ