หลายคนที่ติดตามเพจบนเฟสบุคคงจะทราบกันดีแล้วจากข่าวชี้เป้าที่ผมได้แปะไป โดยคุณ Narong Mutiwattanasawad เป็นผู้ชี้เป้าส่งมาอีกทีครับ โพสอันนี้ แต่สำหรับบางคนที่ยังไม่ทราบผมขอเล่าท้าวความสั้นๆ นิดนึงนะครับนั่นก็คือ มันเป็นงานแสดงและขายสินค้ากลุ่มอุปกรณ์ศิลปะงานที่มีชื่อว่า ART and PAPER ครับจัดโดยบริษัท HHK Intertrade ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ซึ่งงานนี้มีความพิเศษสุดๆ นั่นก็คือเราจะสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ในราคาลดพิเศษ มีสินค้าใหม่ๆ ที่เพิ่งนำเข้ามาวางจำหน่ายในไทยดังนั้นไม่เคยเห็นตามร้านค้าแน่ๆ อีกทั้งยังมีเวิร์คชอปศิลปะจากศิลปินชื่อดังหลายๆ ท่านด้วยครับ…งานแบบนี้มีเหรอผมจะพลาดได้

งานจัดที่ตึกฟอร์จูนทาวน์ (สถานีรถไฟใต้ดินพระราม 9) ชั้น 3 บริเวณลานกิจกรรมครับ โดยจะจัดตั้งแต่วันที่ 18 – 28 เมษายน 10 วันไปกันให้จุใจเลย ผมซึ่งเป็นคนที่บ้าของพวกนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วเลยขอไปตั้งแต่วันแรกหลังเลิกงานเลยครับ และนี้ก็เป็นภาพบรรยากาศเล็กๆ น้อยๆ และสิ่งที่ผมไปเสียทรัพย์ในงานนี้มาครับ

เดินไปลานกิจกรรมหรือก็คือพื้นที่ว่างๆ ที่มักจะจัดงานขายสินค้าหรืออะไรต่อมิอะไรนั่นแหละครับก็จะพกกับซุ้มงานใหญ่โตทางเข้าเขียวแสบตามากเกือบหยิบแว่นตากันแดดขึ้นมาใส่แล้วล่ะแต่กลัวเค้าไม่ให้เข้างาน…เข้าไปก็ไม่รอช้าเดินมั่วไปทั่วเลยครับเพื่อดูโดยรวมก่อนว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง จากนั้นก็ยกกล้องมือถือขึ้นมาถ่ายภาพกะจะทำข่าว แต่ก็มีคุณผู้จัดการเดินเข้ามาถามครับว่าจะถ่ายไปทำอะไร? ใช่ครับงานนี้เป็นงานที่สงวนสิทธิห้ามถ่ายรูปนะครับดังนั้นหากจะถ่ายรูป selfie ในงานต้องแอบๆ ทำนิดนึงนะ

ผมก็อธิบายอยู่พักนึกครับว่าผมมาจากเว็บ bbblogr.com ที่เป็นเว็บรีวิวเกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องเขียนครับกะว่าจะมาทำข่าวแจ้งให้คุณผู้อ่านและสมาชิกได้ทราบกันไม่ได้มีเจตนามาทำอะไรไม่ดีนะ เค้าจึงอนุญาตให้สามารถถ่ายรูปและเก็บข้อมูลได้อย่างเต็มที่เลยครับ แถมมีน้องพนักงานขายมาคอยต้อนรับและให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าแต่ละตัวด้วยครับ ประทับใจสุดๆๆๆ (แต่ไม่มีใครรู้จักเว็บ bbblogr.com เลยอ่ะ อันนี้แอบเสียใจที่เว็บยังดังไม่พอ)

น้องพนักงานและคุณผู้จัดการให้ข้อมูลสินค้าได้ดีมากเลยครับ ไม่ว่าจะเดินไปซุ้มไหนที่ผมไม่เคยเห็นสินค้าชนิดนั้นมาก่อนก็จะแนะนำและให้ข้อมูลที่ครบถ้วนมากครับแถมยังมีการนำตัวอย่างสินค้าเกรดอาร์ตทิสมาให้กลับไปลองใช้ที่บ้านด้วยนะ! แต่ก่อนจะไปดูว่ามีอะไรกันบ้างนั้นมาดูผลิตภัณต์ต่างๆ ที่น่าสนใจกันก่อนครับ (ผมสนใจนะแต่ถ้าสอยมาด้วยแต่คงจนยาวถึงศตวรรตที่ 28 แน่ๆ)

เริ่มด้วยมุมที่ผมหมายมั่นปั้นมือว่าจะมาโดนแน่ๆ นั่นก็คือสีน้ำสูตรน้ำผึ้งของ Sennelier ครับ เพราะในงานนี้จะมีชุดสี 12 สีที่ถ้าใช้คูปองแลกซื้อก็จะสามารถซื้อได้ในราคาพิเศษมากๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตามที่ผมได้บอกไปบนเพจว่าจะต้องมีคูปองถึงจะได้ลดแต่ผมไม่มี แล้วก็มีสมาชิกเพจท่านนึงแจ้งมาว่าสามารถปริ้นท์จากเว็บไปใช้ก็ได้นะแต่ผมไม่มีปริ้นเตอร์ ผมจึงขอมาตายเอาดาบหน้ากะว่าถ้าไม่ได้ลดก็จะลงไปดิ้นๆ ร้องไห้โวยวายแทน แต่แค่เพียงผมหยิบกล่องสีน้ำขึ้นมาดูเท่านั้น น้องพนักงานขายผู้ชายเค้าก็แนะนำคุณสมบัติของสีเป็นอย่างดีเลยครับ แถมมีการส่งคูปองแนะนำด้วยว่าถ้าพี่ซื้อชุดนี้นะจะได้ลดในราคาพิเศษ ไม่ต้องลงไปดิ้นแล้วเว้ย!!!

หลังจากเล็งเสร็จก็เดินดูของอื่นๆ ต่อ ก็มาสะดุดกับมุมกระดาษของ Arches รุ่นใหม่ที่ยังไม่เคยวางจำหน่ายในประเทศไทยมาก่อน ผมก็ปรี่เข้าไปดูครับและน้องพนักงานก็อธิบายว่ามันเป็นกระดาษที่สามารถใช้ได้ทั้งกับสีน้ำมันและสีน้ำซึ่งเป็นเกรดอาร์ตทิสครับ และยังมีสินค้าตัวใหม่อย่างสมุดกระดาษสีน้ำ Arches ที่ปรกติเราจะเห็นแต่แบบเป็น block วางขาย พอจะใช้ทีนึงเสร็จแล้วก็ต้องกรีดออกมายุ่งยากไม่เหมาะกับการพกออกไปนอกบ้าน แต่คราวนี้มาในรูปแบบสมุดเย็บห่วงเหล็กเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งานเข้าไปอีกครับ เปิดทีละหน้าสเก็ตช์ๆๆ ด้วยกระดาษคุณภาพสูงได้เลย ซึ่งอันนี้ผมถูกใจมาก! แต่ด้วยเพราะที่บ้านมีกระดาษเยอะแยะแทบจะกางนอนไปถึงดวงจันทร์ได้…ผมเลยตัดใจวางไว้แล้วถอยออกมา

แต่ก่อนจะออกมาผมก็ดันไปเห็นบล็อคสีน้ำฉลากน้ำเงินอันนึงเข้าครับซึ่งผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน น้องเค้าก็บอกว่าบล็อคอันนี้เป็นกระดาษสีน้ำความหนา 640 แกรม กึ่งเรียบกึ่งหยาบ (cold pressed) …ผมยืนถือแล้วก็สตันไปพักนึง ใช่ครับไอกระดาษนี่มันหนา 640 แกรม เรียกได้ว่าฉีกมาตีหัวเจ็บได้เลยนะ ผมได้ลองสัมผัสน้องเค้า เห้ย! สัมผัสตัวอย่างกระดาษที่น้องเค้าหยิบมาให้ดูก็หนาจริงๆ ด้วย ผมก็เลยคุยกับน้องเค้าว่าหนาแบบนี้ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย น้องเค้าก็เลยเล่าเรื่องศิลปินชาวอิตาเลียนคนนึงให้ผมฟังครับว่า

“เคยมีศิลปินจากอิตาลีคนนึงได้สร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะให้ลูกค้า แต่แล้วลูกค้าคนนั้นกลับไม่ชื่นชอบ ไม่พอใจในภาพนั้นเลย ด้วยเหตุนี้ศิลปินจึงทำการเอาสก็อตไบรท์มาจุ่มน้ำ ขัดๆๆๆ เช็ดๆๆๆ ภาพวาดบนกระดาษ 640 แกรมแผ่นนี้จนไม่เหลือร่องรอยและสีหลงเหลืออยู่เลย จากนั้นก็เอาไปตากแดดให้แห้งแล้วก็นำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้งนึง”

ผมฟังจบแล้วก็เงยหน้ามองตาน้องเค้าแล้วก็พูดว่า “นี่น้องอำพี่ใช่มั้ย?” น้องเค้าก็บอกว่าจริงๆ ค่ะพี่ ถ้าเป็นกระดาษ 300 แกรมที่เราใช้กันทุกวันนี้ไม่มีทางทำได้แน่ๆ เพราะกระดาษมันจะบวมน้ำและพังไปเสียก่อน แต่เจ้ากระดาษ 640 แกรม นี่มันหนามากทนมากแต่ยังคงคุณสมบัติที่ดีของกระดาษสีน้ำไว้อย่างสมบูรณ์ครับ ผมก็บอกว่าโอเคถ้าน้องยืนยันอย่างนั้นงั้นพี่ขอเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้คุณผู้อ่านฟังละกันนะครับ…อยากซื้อมาใช้บ้างจังแต่บล็อคละ 5,250 บาท พี่คงต้องเก็บตังข้ามปีแน่ๆ เลยค่ะ

อีกจุดนึงที่ผมไม่รู้มาก่อนเลยก็คือเค้ามี “มุมแลกซื้อ” ด้วยนะซึ่งมันเด็ดมาก! อันที่จริงทางผู้จัดน่าจะเอามาเป็นจุดขายในการโฆษณาด้วยนะเพราะสินค้าที่เราสามารถแลกซื้อได้นั้นก็เป็นสินค้าเกรดศิลปินที่แพงมาก แต่พอแลกซื้อแล้วก็ลดลงไปเกือบครึ่งเลยแหนะ โดยเงื่อนไขก็คือว่าเมื่อซื้อสินค้าภายในงานครบ 500 ก็จะได้สิทธิแลกซื้อสินค้าที่จัดโปรโมชั่นได้ในราคาพิเศษ แต่ทีนี้จะมีการแบ่งช่วงของสินค้าด้วยครับนั้นก็คือถ้าใช้สิทธิ 500 บาทก็แลกซื้อสินค้าได้กลุ่มสำหรับยอด 500 บาท แต่ถ้าเกิน 1,000 บาท ก็จะสามารถแลกซื้อของที่เจ๋งกว่านั้น เช่นบล็อกกระดาษ Arches ขนาดใหญ่ราคาก็จะลดลงมาเป็นพันเลยครับ ตายแล้วๆ มือล้วงกระเป๋าตังค์ไปโดยไม่รู้ตัว

นอกจากนั้นงานนี้ยังมี workshop ศิลปะโดยศิลปินหลายท่านครับจะเป็นอาจารย์ท่านใดบ้างนั้นขอเชิญดูได้จากภาพปลากรอบนะ แต่ตอนแรกผมเข้าใจว่าใครก็สามารถเข้าชมได้แต่กลับมีเงื่อนไขที่ว่าต้องช๊อปสินค้าครบ 1,500 บาทก่อนครับถึงจะสามารถเข้าชมได้ซึ่งผมมองว่าไม่แพงเลยสำหรับคลาสเรียนศิลปะเวลากว่า 3 ชั่วโมง (13.30 – 16.30) เพราะอย่าลืมว่าไอเงิน 1,500 บาทนั้นมันก็เป็นของที่เราจะซื้อนั่นแหละ ได้ของมาใช้แถมยังได้ฟังบรรยายพ่วงเข้าไปอีกด้วย ผมอยู่ได้ทั้งวันเลยอ่ะงานนี้!

เอาล่ะเดินเที่ยวกันมานานก็ถึงเวลานั่งอวดของกันบ้าง และนี่ก็เป็นของทั้งหมดที่ผมได้มาจากงานนี้ครับ มีทั้งที่เสียทรัพย์ได้มาเองและทางบริษัท HHK จัดมาให้ครับ เริ่มต้นกันด้วยของที่ผมไปสอยมาจากงานนี้นั่นก็คือ

1. สีน้ำสูตรน้ำผึ้ง Sennelier 12 สี (แบบก้อน) มูลค่า 2,975 บาท
2. สีพาสเทลสำหรับเด็ก (ซื้อไปฝากหลานอ่ะ) 50 บาท (ทีของหลานนี่ถูกเชียว)
3. กระดาษสีน้ำ Canson Montval Tradition 6 แผ่น ผิวหยาบ 300 แกรม 198 บาท

มาถึงตอนนี้คุณผู้อ่านคงจะมองว่าไอที่ซื้อมาทั้งหมดนี่มันรวมแล้ว 3,223 บาทเชียวนะ!! แต่ช้าก่อนครับ! จำที่ผมบอกว่าหากใช้คูปองแล้วจะสามารถซื้อสินค้าที่ร่วมรายการได้ในราคาพิเศษซึ่งสีน้ำกล่องนี้ก็ร่วมรายการครับเลยลดเหลือเพียง 1,880 บาท!! แม่เจ้าถูกเว่อร์!! แต่ทีนี้น้องคนขายเค้าก็มาสะกิดผมครับว่าพี่ลองมองดูข้างล่างนี่สิครับ…ผมก็มอง…น้องก็บอกว่า มองที่กระดาษคูปองสิครับพี่!! …เห้ย! น้องอำพี่ใช่มั้ยครับ?! ที่น้องเค้าบอกผมก็คือถ้าหากว่าเราซื้อสินค้าในงานรวมมูลค่าเกิน 2,000 บาท ก็จะสามารถใช้คูปองพิเศษแผ่นใหญ่ทำคอมโบ้ลดเพิ่มเติมได้อีก 800 บาททันที ใช่ครับ! จากราคา 1,880 บาทก็จะเหลือ 1,080 บาทสำหรับสีน้ำเกรดอาร์ตทิสระดับท๊อป นี่มันถูกกว่าสี Cotman อีกนะเนี่ยะ! แต่ทีนี้ยอดรวมของผมกับสีที่ซื้อให้หลานมันได้แค่ 1,930 บาทผมเลยไปหยิบกระดาษสีน้ำมาซองนึงเพื่อให้ยอดเกิน 2,000 ครับ หยิบอะไรมาก็ไม่รู้เพราะน้องคนขายพนักงานสาวสองคนมายืนประกบคอยแนะนำนู่นนี่ให้อีกที ไอผมก็ตื่นเต้นไง หยิบมั่วแล้ววิ่งไปจ่ายตังเลย …กลับถึงบ้านถึงได้รู้ว่าเป็นกระดาษแบบหยาบซึ่งมีอยู่เต็มบ้าน…สรุปวันนี้ผมเสียเงินไปทั้งสิ้น 1,328 บาทครับ ถูกเหลือเชื่อจริงๆ (ไม่ได้แลกซื้ออะไรเพิ่มครับผม)

มาถึงของที่ทางบริษัทให้มาลองใช้ดูมั่งครับซึ่งแต่ละตัวก็เด็ดๆ ทั้งนั้นเริ่มด้วยตัวอย่างสีน้ำ Sennelier ชนิดหลอด ให้มาในซองกระดาษแบบหยาบสีส้มปรี๊ดสวยมากผมรักเลยครับเพราะมันเข้ากันกับบีบีบล็อคเป็นที่สุด ภายในซองบรรจุสีน้ำไว้ให้สามหลอด(หลอดทดลอง) เหลือง ชมพู(แดง) น้ำเงิน ครบถ้วน 3 แม่สี สามารถเอาไปใช้สเก็ตช์หากินได้เลยทีเดียว (ไว้ค่อยรีวิวให้อ่านอีกทีนะครับ)

ต่อมาเป็นตัวอย่างกระดาษ Canson ทุกเกรดและเกือบทุกรุ่นครับ มีตั้งแต่เกรดล่างอย่าง XL ไปจนถึงเกรดใหญ่สุดคือ Arches แต่ที่เด็ดคือมีตัวอย่างกระดาษรุ่นใหม่ที่ผมอยากลองมากแต่ยังไม่มีแบบแบ่งขายนั่นก็คือกระดาษ Moulin du Roy (มูแลง ดู รอย) ซึ่งก็มีมาให้ทั้ง 3 ชนิดให้ลองกันสะใจไปเลย ส่วนอันอื่นที่น่าสนใจก็คือกระดาษ Fontenay (ฟงเตเน) เป็นกระดาษ Cold Pressed ที่หน้านึงจะผิวเรียบแต่อีกด้านนึงจะหยาบ ซื้อแผ่นเดียวเลือกใช้ได้ตามอารมณ์เลย

สุดท้ายคือดินสอสีระบายน้ำทั้งสองรุ่นครับคือรุ่น Artist และรุ่น Prismalo ของ Caran d’Ache ซึ่งตัว Artist อันนี้น้องเค้าให้ข้อมูลมาว่าในตัวอย่างจะมีทั้งแบบ permanent color, technalo, technograph และ supracolor II soft ซึ่งน้องเค้าให้ข้อมูลว่าแต่ละประเภทมีคุณสมบัติอย่างไร ใช้ในงานลักษณะไหนบ้าง …ขอบอกว่าผมลืมหมดแล้วครับ!! เนื่องด้วยไม่คุ้นเคยกับดินสอสีไม้ระบายน้ำเลยเอาไว้ถ้าจะเขียนรีวิวเจ้าตัวนี้ผมจะไปหาข้อมูลมาเล่าให้ฟังอีกทีนะ…พี่มัวแต่มองหน้าน้องจนลืมทุกสิ่งทุกอย่างไปหมดเลยค่ะ (สบช่องเราก็หลี)

อีกรุ่นก็คือ Prismalo เป็นรุ่นท๊อปของดินสอไม้ระบายน้ำของ Caran d’Ache ครับ โดยน้องเค้าบอกว่าเป็นรุ่นเดียวกันกับที่ศิลปินชื่อก้องโลกคือ “ปิกัสโซ” ใช้ครับดังนั้นเชื่อมั่นในเรื่องคุณภาพได้เลย จบครับจบเจอปิกัสโซ่เข้าไป ปอนด์กัสซ่ากิเลศพุ่ง

นี่คือทั้งหมดทั้งมวลของงานในวันนี้ครับ เด็ดจริงๆ ทั้งในเรื่องราคาและข้อมูลที่ทางผู้จัดงานเตรียมไว้ให้ ผมว่าทีมขายของบริษัทนี้เก่งทีเดียวนะ ผมรู้จักพนักงานขายคนนึงที่ประจำอยู่ B2S เซ็นทรัลพระราม 9 เค้าคนนั้นเก่งมากเลยครับรู้ทุกรายละเอียดของสินค้าและอธิบายได้อย่างครบถ้วนจริงๆ พอมาเจอทีมอีเว้นท์ในงานนี้ก็ทำให้รู้ว่าบริษัทนี้เค้าอบรมและฝึกสอนพนักงานได้ดีเยี่ยมครับ ผมพูดคุยกับพนักงานขาย 3 คน ทุกคนสามารถให้ข้อมูลผลิตภัณท์ได้อย่างสมบูรณ์มาก ไม่เหมือนท่องมาแค่ใช้ในงานเหมือนเช่นพริตตี้ขายรถ แต่เป็นการเข้าใจในตัวสินค้าจริงๆ อันนี้ประทับใจครับชื่นชมๆ

ทั้งนี้ต้องขอขอบพระคุณบริษัท HHK Intertrade เว็บไซต์, เฟสบุคเพจ ที่เอื้อเฟื้อให้ผมได้เข้าไปเก็บภาพภายในงานและให้ข้อมูลอย่างละเอียดของสินค้าแต่ละชนิดด้วยนะครับ รวมถึงยังให้ตัวอย่างผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดมาให้ลองใช้อีกด้วย หากคราวหน้ามีงานดีๆ แบบนี้อีกผมจะขอรบกวนพุ่งไปเอาของฟรี เอ้ย! พุ่งไปทำข่าวอีกนะครับ ขอบคุณมากครับ เย

…กลับมาถึงเหล่าสาวกกันบ้าง อย่าลืมนะครับว่าโอกาสที่คุณจะได้ซื้อสินค้าเกรดอาร์ทิสในราคาที่ถูกแสนถูกแถมเบิ้ลโปรลดอีก 800 สีน้ำสามพันเหลือพันสามแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ ยังไม่พอ! ยังทริปเปิ้ลสามารถแลกซื้อสินค้าอื่นๆ ได้ในราคาพิเศษอีก ไปครับไป! เหล่าสาวกทั้งหลาย! ยกพวกไปใช้คูปองถล่มงานนี้ให้ราบเป็นหน้ากลองกันเถอะ กร๊าาาากกกก

…คราวหน้าเค้าคงไม่ให้ผมเข้างานล่ะ -*-