เคยมั้ยครับ? สิ่งของที่อยากได้มาก ราคาไม่สูง แถมอยู่ใกล้แค่เอื้อม …แต่เรากลับไม่สามารถที่จะซื้อหามาเป็นเจ้าของได้ คุณคงจะบอกว่า “เพราะเค้าไม่ขายใช่มั้ย?” เปล่าครับ! เค้าทำออกมาขายนี่แหละแต่การจะได้มานั้นช่างยากลำบากเสียเหลือเกิน สิ่งที่ผมกำลังพูดถึงนี้ไม่ใช่ผ้าเช็ดหน้าที่ใช้แล้วของนักร้องสาววง AKB48 หรือว่าจะเป็นถุงเท้าฟุตบอลของ ธีรเทพ วิโนทัย (ดูโรคจิตนะมุกนี้ -*-) หากแต่เป็นสมุดในตำนานที่ผมทั้งรักและบูชานามว่า Moleskine ครับ

หากพูดถึง Studio Ghibli หรือ สตูดิโอจิบลิ เชื่อแน่ว่าเด็กวัยรุ่นอย่างรุ่นเรา(เนียน) ต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีแน่ๆ …อันที่จริงผมว่าไม่มีใครไม่รู้จักหรอกครับ บางคนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อสตูดิโอจิบลินี้ แต่ถ้าหากลองได้ยินชื่อภาพยนตร์แอนิเมชั่นจากค่ายนี้ละก็ ผมพนันได้เลยครับว่าคุณจะต้องตะโกนออกมาว่า “อ้อ ใช่ๆๆๆ สนุกสุดยอด!!!” เรื่องที่ผมชื่นชอบและเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางนั้นก็อย่างเช่นเรื่อง Totoro (โตโตโร่เพื่อนรัก : อยากลองนอนบนพุงของโตโตโร่ดูสักครั้งจัง…พุงแตกตาย), Grave of the Fireflies (สุสานหิ่งห้อย : น้ำตาไหลอาบแก้มแบบเสียจริตชายมาก), Spirited Away (สปิริท อเวย์ : เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ผมได้รู้จักค่ายนี้ครับ ดูไปน้ำตาไหลไป…ทำไมวีซีดีมันไม่ชัดเลยฟระ!!), Kiki’s Delivery Service (แม่มดน้อยกิกิ), Porco Rosso (พอร์โค รอสโซ สลัดอากาศประจัญบาน) จริงๆ แล้วยังมีอีกหลายเรื่องเลยครับที่มีชื่อเสียงมากแต่ถ้าจะให้เขียนทั้งหมดตรงนี้ บล็อกตอนนี้คงยาวอ่านกันตาลายแน่ๆ (ซึ่งก็ดีนะ)

แล้วทำไมสมุด Moleskine ที่มีขายกันทั่วบ้านทั่วเมืองนี้มันถึงได้หายากนักเหรอ? อย่างมากก็แค่เข้าไปสั่งซื้อจากในเว็บต่างประเทศก็ได้แล้วนี่อย่ามาเว่อร์บอกว่าหายากนักเลย …ถ้าเป็น Moleskine รุ่นอื่นๆ หรือลิมิเต็ดอื่นๆ ก็ใช่ครับคุณเข้าใจถูกแล้ว แต่กับ Moleskine Ghibli Custom Edition นี้ไม่ใช่ครับ จากชื่อคุณผู้อ่านคงจะพอเดาได้แล้วใช่มั้ยครับว่ามันไม่ใช่รุ่นประเภท Limited Edition ที่จะทำออกมาจำนวนน้อยๆ วางขายไม่นานก็เลิก แต่มันเป็นรุ่น Custom Edition ซึ่งก็คือรุ่นที่สั่งทำเป็นพิเศษครับ เรื่องมันมีอยู่ว่า นอกจากทางบริษัท Moleskine จะทำสมุดของตัวเองในรุ่นปรกติและรุ่นลิมิเต็ดแล้ว ทางบริษัทเค้ายังรับผลิตสมุด Moleskine ให้สำหรับองค์กรหรือบริษัททั่วไปอีกด้วย อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่นะ ซึ่งรุ่นสั่งทำพิเศษเมื่อหลายปีก่อนที่เป็นที่เกรียวกราวและนักสะสมตามล่ากันจนถึงปัจจุบันนั้นก็คือรุ่น Harvard University Custom Edition และก็รุ่น An Analog Icon for Apple แน่นอนว่ารุ่นพวกนี้ไม่สามารถสั่งซื้อได้ง่ายๆ แน่ นอกจากจะไปยังมหาวิทยาลัยนั้นๆ หรือไม่ก็รับแจกสมุดจากในงานเท่านั้น นี่จึงเป็นการสะสมในระดับความยากที่สูงขึ้นมากว่าปรกติครับ และรุ่น Studio Ghibli ก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ

ผมยืมสมุด Moleskine Ghibli Museum และ Porco Rosso Custom Edition แบบไม่อยากคืนทั้งสองเล่มนี้มาจากเพื่อนรักของผมครับ มันมีชื่อไอป้อง…ไอหมอนี้มันมีตัวตนจริงๆ นะครับ!! ไม่เหมือนกับไอโป้ที่บ้าบอโผล่มาจากดงไม้ไหนก็ไม่รู้ คือเมื่อช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์เมื่อเดือนก่อน (ก็บอกไปสิว่าปลายเดือนที่แล้ว) ไอป้องมันมีโอกาสได้หนีงานละทิ้งหน้าที่ทั้งหมดที่รับผิดชอบอยู่(โห)ไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นกับผู้หญิงมาครับ(ได้ทีละเผาเพื่อน) และเนื่องด้วยมันเป็นติ่งของจิบลิขั้นเทพ ก่อนนอนต้องดูวิดีโอและร้องเพลงปอมโปโกะ (ทานูกิป่วนโลก) ชุดเครื่องนอนทั้งหมดเป็นลายแม่มดน้อยกิกิ (นายอยากจะใส่กระโปรงบินบนไม้กวาดสินะ?) ตื่นเช้าก่อนไปทำงานต้องทานอาหารในชุดจามชามโตโตโร่ (ใส่รองเท้าโตโตโร่ด้วย) ดังนั้นสถานที่ที่จะต้องไปเยี่ยมเยือนจึงเป็นที่ไหนไปไม่ได้นั่นก็คือ Ghibli Museum, Mitake : เว็บไซต์ ซึ่งที่นี่มันก็คือพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงงานทั้งหมดของสตูดิโอจิบลิครับ มีทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับงานของสตูดิโอนี้และแน่นอนว่าในเมื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวก็ย่อมต้องมีร้านขายของที่ระลึก ที่นี่แหละครับเป็นที่ๆ ไอป้องไปสอยสมุดสองเล่มนี้มา

สมุดทั้งสองเล่มนี้ เป็นขนาด pocket จำนวน 192 หน้า กระดาษแบบมีเส้นครับ (Ruled Notebook) ตั้งราคาขายไว้ที่ราคาเล่มละ 2,000 เยน เมื่อรวมภาษีอีก 8% ก็จะอยู่ที่ 2,160 เยนหรือประมาณ 690 บาท แน่นอนว่าไม่มีค่าส่งเพราะบินไปหิ้วมาเอง ว้าวๆๆๆ ถูกจริงๆ (แกลืมคิดค่าตั๋วเรือบินใช่มั้ย?!!) ซึ่งป้องมันเล่าว่า ตอนที่เข้าไปซื้อในร้านนั้นคนเยอะมากๆๆๆๆๆๆ แล้วลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นฝรั่งตาน้ำข้าวด้วยนะเพราะคนญี่ปุ่นกลับไม่ค่อยเยอะ และตอนที่อยู่ในร้านนี้เองไอป้องเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำครับว่าที่ร้านมี Moleskine 2 เล่มนี้ขายด้วยเพราะมัวแต่ไปถ่ายรูปนู่นนี่นั่นอยู่ รู้ตัวอีกทีก็ตอนจ่ายตังว่าในตะกร้ามีเจ้าสองเล่มนอนรอให้พาตัวออกไปแล้ว ของเค้าแรงจริงๆ!!

Moleskine Studio Ghibli Museum เป็นเล่มแรกที่นำมาให้ชมกันครับ เป็นเล่มที่ทำขึ้นในธีมของพิพิธภัณฑ์จิบลิ ลายบนกระดาษคาดสมุดก็แน่นอนว่าต้องเป็นลายโลโก้ของพิพิธภัณฑ์ สมุดปกดำเล่มนี้คงความคลาสสิคของ Moleskine ไว้อย่างครบถ้วนแต่พิเศษที่สุดนั่นก็คือบนปกจะมีลายปั้มลึกขนาดใหญ่เป็นรูปโลโก้ของพิพิธภัณฑ์จิบลิด้วย เปิดดูข้างในไม่ว่าจะเป็นปกในหรือรองปกก็ไม่มีอะไรพิเศษแตกต่างจากสมุดทั่วไปครับ แต่เมื่อเปิดมาถึงหน้าหลังที่กระดาษรองปกก็จะมีโลโก้ของ Ghibli Museum พิมพ์ไว้ที่ด้านล่างครับ เก๋!

 

Moleskine Porco Rosso เล่มที่สองเล่มนี้มีสีสันเตะตาเข้าเบ้าผมมากจริงๆ ครับ ตัวสมุดเป็นสีแดงล้วนแถมยังมีสายรัดสมุดและเชือกคั่นเป็นสีแดงอีกด้วย ตัวกระดาษคาดสมุดเองมีภาพลายเส้นของเครื่องบินรุ่นต่างๆ ที่ใช้เป็นแบบในภาพยนตร์เรื่อง Porco Rosso ด้วย เมื่อแกะกระดาษคั่นออกก็จะพบกับสมุดปกแดงที่มีโลโก้ Porco Rosso บนรูปเครื่องบินเล็กปั้มลึกอยู่ทางมุมซ้ายบน กำลังทยานออกจากกระเป๋าตังค์ไปสู่เครื่องคิดเงินครับ… ภายในเล่มในส่วนของปกด้านในไม่มีอะไรพิเศษเช่นเดียวกับเล่มแรกแต่เมื่อมาถึงรองปกด้านหลังก็จะมีภาพลายเส้นเป็นรูปพระเอกของเรื่อง มาร์โค พาก็อต อวบอ้วนและเครื่องบินคู่ใจของเค้าครับ

โดยสรุปแล้วสมุด Moleskine Ghibli Museum และ Porco Rosso Custom Edition ทั้งสองเล่มล้วนแต่สวยงามน่าสะสม ปกสมุดที่มีการปั้มโลโก้อันเป็นเอกลักษณ์เพิ่มความเท่และความจำเพาะให้กับสมุดได้ไม่มีใครเหมือน พกติดตัวไปวาดหรือนำไปจดบันทึกในร้านกาแฟก็ดูดีไม่หยอก วางไว้บนโต๊ะหากใครเดินผ่านมาเห็นรับรองว่าจะต้องหยุดมองดูเพราะว่าไม่เคยเห็นและหาซื้อไม่ได้ง่ายๆ แต่สิ่งที่ผมคิดเมื่อได้รีวิวสมุดทั้งสองเล่มแล้วนั่นก็คือ Moleskine ชุดนี้มันทั้งเท่และสวยงามนะ “แต่ไม่ว้าว” ก็ตามที่คุณผู้อ่านได้ชมนั่นแหละครับว่ามันเป็นเพียงแค่สมุดธรรมดาที่มีโลโก้ที่แตกต่างพิมพ์ไว้เท่านั้น ไม่ได้มีรองปกด้านในที่ทำเป็นลายพิเศษหรือมีสติกเกอร์เจ๋งๆ แถมมาให้ด้วย ในส่วนนี้ผมไม่แน่ใจครับว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ อาจจะเพราะด้วยข้อจำกัดของการจัดทำสมุดแบบ custom edition หรืออาจจะเป็นเพราะทางสตูดิโอจิบลิตั้งใจที่จะออกแบบสมุดไว้เพียงเท่านี้จริงๆ

อย่างไรก็ดี หากใครที่เป็นสาวกของสตูดิโอจิบลิตัวยง เฝ้าคอยติดตามดูภาพยนตร์จากค่ายนี้ทุกเรื่อง มีของสะสมมากมายตุ๊กตาเต็มห้อง สมุดทั้งสองเล่มนี้ควรค่าแก่การเป็นเจ้าของอย่างยิ่งครับ มันเป็นทั้งสมุดในตำนานสุดคลาสสิคและเป็นสมุดจากค่ายภาพยนตร์ที่เราชื่นชอบในเล่มเดียว และแน่นอนว่าจากที่ทราบมานั้นทางสตูดิโอจิบลิได้ออกแบบสมุดไว้หลายแบบหลายเล่มตามเรื่องของภาพยนตร์ที่เคยออกฉายไป ดังนั้น 2 เล่มนี้จึงเป็นเพียงแค่จุดเริ่มตั้นนะครับ ไม่แน่เร็วๆ นี้อาจจะมีเล่มอื่นๆ เดินทางตามมาวางบนชั้นหนังสือของคุณเพิ่มก็ได้ใครจะรู้ ;D

 

…ป้องเพื่อนรัก เรายืมมาแต่เรายังไม่คืนได้มั้ย? กะว่าจะรีวิวเนื้อกระดาษทุกแผ่นทุกหน้าด้วยน้ำหมึกให้ครบก่อน รีวิวเสร็จเมื่อไหร่นายค่อยมาทวงคืนอีกทีนะ ไปล่ะ บาย ฟิ้วววว

ปล. ขอบขอบคุณคุณป้องเพื่อนกระผมด้วยนะครับ ถ้าไม่มีนาย…เราว่าชาตินี้เราคงไม่ได้รีวิวสมุดสองเล่มนี้แน่นอน ทำไมนะเหรอ? นายคิดเหรอว่าถ้าเราได้ไปญี่ปุ่นเราจะเอาเงินไปซื้อสมุดหน่ะ? หึหึหึหึหึหึหึ #โดนตบ