ผมนั่งเขียนบล็อกตอนนี้ไปกัดฟันกรอดๆ ไปครับ คุณก็รู้นี่ว่าผมหน่ะเป็นสาวกปากกาลามี่ที่เรียกได้ว่าถ้าคืนไหนไม่ได้นอนกอดก็จะนอนไม่หลับ วันไหนไม่ได้จับมาเขียนก็จะรู้สึกกระวนกระวายใจจนถึงขั้นไข้ขึ้นเอาได้ (ไปถ้ำกระบอกมั้ย?) เหตุที่ทำให้ต้องกัดฟันจนระบมไปทั้งปากนั้นก็ไม่ใช่อะไรอื่นครับนั่นก็คือ “มีคู่แข่งตัวฉกาจสำหรับลามี่ปรากฏตัว!” และที่ยิ่งทำให้เจ็บใจมากนั่นก็คือ …มันดันเขียนดีซะด้วย!!
อันที่จริงผมได้ยินชื่อเจ้าปากกาด้ามนี้มาตั้งนานนมแล้วครับและเคยได้ยินเสียงสรรเสริญบูชาชื่นชมนักหนามาจากตาท๊อป @risingtop ว่า “มันเจ๋งมากพี่ ใช้โคตรดี โหยยย ตอนนี้ผมไม่ได้แตะปากกาลามี่เลย” …ตอนที่ได้ยินประโยคนี้ลอยเข้าหูผมแทบอยากจะกระโจนเข้าไปตะลุมบอนเลยจริงๆ เพราะขนาดสาวกลามี่อย่างตาท๊อปถึงขั้นเปลี่ยนใจตีตัวออกห่างจากลัทธิ มันช่างน่าแค้นใจยิ่งนัก! แต่ก็ด้วยความรักหนักแน่นของผมที่มีต่อลามี่ ผมเลยยังไม่หยิบหาเจ้าปากกาด้ามนี้มาทดสอบให้รู้ดำรู้แดงเลยสักที…
จนกระทั่งเมื่อผมได้พูดคุยกับเจ้าของ Fontoplumo.nl เค้าก็เลยเอ่ยปากว่า คุณชอบปากกาหมึกซึมอย่างลามี่ใช่มั้ย? ผมมีของเด็ดอย่างนึงอยากแนะนำให้รู้จักเผื่อถ้าคุณถูกใจจะเอาไปรีวิวบนบล็อกก็ได้นะ ผมก็สงสัยว่าเค้าจะส่งปากกาอะไรมาให้กันแน่เพราะสาวกลามี่อย่างผมไม่มีวันใจอ่อนเหลียวแลแน่ๆ และแล้วเค้าก็ส่งรูปพร้อมข้อมูลมาให้ตัดสินใจครับ
Kaweco Sport Skyline “Mint” (อ่านว่า คา-เวะ-โค) คือชื่อของเจ้าปากกาด้ามนี้ที่ทำให้ผมหวั่นไหวครับ เชื่อแน่ว่าแฟนๆ ปากกาหมึกซึมจะต้องเคยรู้จักและได้ยินชื่อกันมาบ้างแล้ว แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก เจ้าปากกานี้เป็นปากกาสัญชาติเยอรมันเช่นเดียวกับปากกาลามี่เลยครับ ศึกครั้งนี้ถือเป็นศึกแห่งเชื้อชาติเลยก็ว่าได้! ก่อตั้งบริษัทตั้งแต่ปีค.ศ. 1883 โดยเริ่มจากการทำปากกาแบบจุ่มหมึกครับ ถือเป็นยี่ห้อปากกาที่เก่าแก่มากยี่ห้อหนึ่งเลยทีเดียว โดย Kaweco รุ่นที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมกันอย่างกว้างขวางนั้นก็คือ Kaweco Sport ซึ่งจัดอยู่ในประเภทของ pocket pen ครับ อะไรนะ? ปากกากระเป๋า? เหมือนกับหมากระเป๋าหรือเปล่า? …ก็กล้าเล่นกันไป
*ใครอยากชมเว็บไซต์ของปากกายี่ห้อนี้ขอเชิญ คลิกลิ้งก์เข้าไปอ่านได้ที่นี้ นะครับ
แน่นอนว่าผมได้ปากกาด้ามนี้มาแบบฟรีๆ ไม่ต้องเสียตังสักบาทแม้แต่ค่าส่งก็ไม่ต้องเสีย ต้องขอขอบพระคุณทาง fontoplumo.nl มา ณ ที่นี้ด้วยครับ แต่!! ยิ่งถ้าได้ของฟรีมารีวิวแบบนี้คุณผู้อ่านไม่ต้องห่วงนะครับว่าผมจะอวย ผมไม่มีทางรีวิวแบบอวยเอาใจแน่ๆ เสียชื่อคนทำเว็บเอามันแบบผมกันพอดี! (รายได้ล่ะ?) ยิ่งไม่ว่าอะไรก็ตามที่บังอาจจะมาเทียบชั้นกับปากกาลามี่สุดรักของผมนั้น ผมยิ่งจะต้องจัดให้หนักจัดให้ละเอียด ถ้าไม่มีข้อเสียก็จะต้องหาให้เจอให้จงได้ครับ วะฮ่าฮ่า (ประมาณพวกแพ้แล้วพาลอ่ะ -*-)
ถึงแม้ว่าผมจะได้ปากกา Kaweco Sport Skyline Mint ด้ามนี้มาฟรีๆ แต่ว่าราคาค่าตัวบนเว็บ fontoplumo.nl นั้นจะมีราคาอยู่ที่ 16.95€ แต่ทีนี้ปากกา Kaweco นั้นเป็นปากกาที่ไม่มีคลิปหนีบมาด้วย (ตลกมั้ย?) ผมเลยขอให้เค้าส่งคลิปมาให้ด้วยอีกหนึ่งอันมูลค่า 1.95€ ยังไม่หมด! ผมยังขอให้เค้าส่งหลอดสูบหมึกมาให้อีกเพราะมันไม่มีแถมมาด้วย ก็โดนไปอีก 2.35€ รวมทั้งสิ้นเป็นราคา 21.25€ ครับ โอกาสมาแล้วไหนๆ ก็จะส่งมาให้ฟรีก็เลยขอของมาให้ครบเลยอ่ะ กรั่กๆๆๆ
แต่ช้าก่อน!!
คุณผู้อ่านคงจะรู้กันดีอยู่แล้วจากป้ายโฆษณาที่แปะอยู่บนเว็บแห่งนี้ว่าที่เว็บ fontoplumo.nl แห่งนี้ หากเราเป็นลูกค้าที่เป็นชาวไทยหรืออาศัยอยู่นอกยุโรป เราจะได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 21% ครับ! ดังนั้นจากราคาที่เห็นกันไปเบื้องต้น เมื่อลองสมัครสมาชิกเลือกประเทศเป็นประเทศไทยและล็อคอินเข้าไป เราก็จะเห็นราคาสินค้าที่แท้จริงที่ปลอดภาษี 21% นั่นแลัวครับ ทำให้ราคาสินค้าถูกลงพอสมควรเลยครับ! โดยปากกา Kaweco ด้ามนี้จะอยู่ที่ 14.01€ (623.08 บาท) ส่วนคลิปก็ได้ลดเหลือเพียง 1.61€ (71.60 บาท) และหลอดสูบหมึกอีก 1.94€ (86.28 บาท) ส่วนค่าส่งพัสดุมาประเทศไทยอยู่ที่ 3.50€ (155.66 บาท) ดังนั้นเมื่อรวมราคาทั้งหมดทั้งมวลของตัวปากการวมทั้งคลิปและหลอดสูบหมึกด้วยแล้วจึงอยู่ที่ 21.06€ หรือเท่ากับ 936.62 บาทครับ
คุณคงจะตั้งคำถามว่าราคาปากกา Kaweco Sport Skyline นี้รวมทั้งคลิปและหลอดสูบนี่มันถือเป็นราคาที่แพงมั้ย? ผมก็ต้องขอบอกว่ามันถูกมากครับ! นั่นก็เป็นเพราะราคาปากกา Kaweco รุ่นนี้ในไทยที่มีการขายอย่างเป็นทางการนั้นอยู่ที่ 1,350 บาทครับ เฉพาะตัวปากกาด้วยนะ ซึ่งถือว่าที่ขายในไทยนั้นอัพราคาเพิ่มขึ้นไปเยอะเยอะครับ เพราะแค่ตัวปากการวมค่าส่งจากเว็บ fontoplumo.nl ก็มีราคาเพียงแค่ 17.51€ หรือ 778.73 บาท ดังนั้นจึงถูกกว่าซื้อในไทยไปถึง 571.27 บาท เห้ย! แทบจะซื้อปากกาได้อีกด้ามเลยนะ!! ทั้งนี่จากที่ผม “เดา” ว่าทำไม fontoplumo.nl สามารถทำราคาได้ต่ำขนาดนี้ อาจเป็นเพราะเป็นร้านปากกาที่อยู่ในประเทศเนเธอแลนด์ (ฮอลแลนด์) ซึ่งอยู่ใกล้กับประเทศเยอรมนีทำให้ต้นทุนค่าขนส่งและภาษีในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปอยู่ในระดับที่ต่ำ อีกทั้งการที่เราเป็นผู้ซื้อจากนอกยุโรปทำให้เราได้รับการงดเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 21% ก็ยิ่งทำให้ราคาถูกลงยิ่งขึ้นไปอีกครับ (เดี๋ยวรอผู้รู้ลึกมาเสริมอีกทีนะครับ)
เนื่องจาก Kaweco Sport รุ่น Skyline นี้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งจะผลิตออกมาจำหน่าย ดังนั้นตอนนี้จึงยังไม่มีจำหน่ายครบทุกสีครับ จะมีก็แต่ Skyline สีดำเท่านั้นที่มีวางขายบนเว็บไซต์ ส่วนสีอื่นๆ รวมถึงสี Mint นี่ต้องพรีออเดอร์ไปก่อนนะครับโดยเค้าแจ้งมาว่าของจะเข้าในช่วงต้นเดือนหน้า(กรกฏาคม)ครับ [ดูสีอื่นๆ คลิกที่นี่] แล้วช่วงนี้ก็เป็นช่วงหยุดร้านของเค้าด้วยครับ โดยจะหยุดวันที่ 5 ถึง 10 มิถุนายน และจะเริ่มส่งของได้อีกทีวันที่ 11 มิถุนายนนะครับ ใครอ่านแล้วเกิดกิเลสผมก็ต้องขอเรียนตามตรงว่า “น่าสงสารจัง” กร๊าาากกกก (แลดูเป็นคนไร้น้ำใจนักกีฬาจริงๆ -*-)
เข้าเรื่องปากกาสักทีเถอะ! Kaweco Sport Skyline Mint แน่นอนว่าต้องเป็นสีมิ้นต์ครับ…นั่นก็คือสีฟ้าอ่อนอมเขียวนิดๆๆๆๆ เป็นสีที่ผมเห็นจากรูปครั้งแรกแล้วก็ชอบเลย เพราะส่วนใหญ่ปากกาหมึกซึมมักจะไม่ค่อยทำสีประมาณนี้ออกมาขาย จะมีก็แต่เป็นสีกลางๆ ขาว เทา หรือฟ้า เขียว อะไรไปเลย สีพิเศษแบบนี้ผมจึงไม่ลังเลที่จะสอยมาครับ พอได้รับปากกาเนื่องจากที่ไม่เคยสัมผัสอย่างจริงๆ จังๆ มาก่อน ตอนจับครั้งแรกนี่ผมงงไปพักนึงครับ ปากกาอะไรมันจะทั้งเล็กและเบาได้ขนาดนี้ ใช่ครับปากกา Kaweco Sport เป็นปากกาหมึกซึมประเภท Pocket Pen ที่เน้นความเล็กกระทัดรัด พกพาสะดวกเพราะไม่กินเนื้อที่ในกระเป๋ามากผมก็ตั้งข้อสังเกตก่อนเลยว่าในเมื่อมันเล็กขนาดนี้มันจะไปจับถนัดมือเขียนได้คล่องได้ยังไงว้า?
ผมดึงปลอกปากกาเพื่อจะพิสูจน์ว่าด้ามมันเล็กแล้วจะจับได้ถนัดมือมั้ย? …เปิดไม่ออกครับ ก็ใช่นะสิ!! เพราะปลอกปากกาของ Kaweco Sport นั้นเป็นปลอกแบบหมุนเกลียวครับ ดังนั้นการที่จะเปิดปลอกปากกาออกมาจะต้องหมุนเกลียวก่อนนะซึ่งข้อดีก็คือแน่นหนาดีครับรับรองว่าปลอกไม่มีหลุดร่วงตกหายแน่ๆ แต่ข้อเสียคือรุงรัง คนที่ใช้ลามี่มาตลอดทั้งชีวิต(เว่อร์มะ?)แบบผมก็จะเผลอดึงอยู่ตลอด ต้องปรับนิสัยอยู่พักนึงต้องเสียจังหวะนิดหน่อยจึงจะสามารถเปิดมาเขียนได้…จนตอนนี้ติดนิสัยหมุนปลอกปากกาลามี่ไปด้วยเลย -*-
เปิดปลอกออกดูก็พบกับตัวด้ามที่สั้นจริงๆ ตามคาดครับ ผมลองหยิบขึ้นมาเขียนดูก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนใช้ดินสอไม้ที่เหลาไปแล้วครึ่งแท่ง สามารถเขียนได้นะแต่ก็ไม่ถนัดมือเท่าไหร่ แต่เนื่องด้วยการออกแบบของปากกาด้ามนี้ที่ทำให้ส่วนของปลอกยาวเป็นพิเศษ เวลาที่เรานำปลอกปากกามาสวมเข้าที่ตัวด้ามขนาดของปากกาก็จะยาวเท่าความยาวมาตรฐานของปากกาครับ ผมลองเทียบความยาวของ Kaweco Sport เมื่อสวมปลอกปากกาแล้วกับปากกาลามี่ดูก็พบว่าขนาดใกล้เคียงกันเลยครับตรงนี้แหละครับที่ผมชอบ ถือเป็นการออกแบบทดแทนความสั้นของปากกาที่เก๋ทีเดียว
ผมไล่ดูส่วนประกอบต่างๆ ของปากกา Kaweco ที่เป็นเอกลักษณ์ในหลายๆ จุด เริ่มด้วยส่วนของปลอกปากกาและตัวด้าม รูปร่างของปลอกปากกานั้นจะเป็นรูปหกเหลี่ยมตามหน้าตัดในขณะที่ตัวด้ามเป็นรูปหน้าตัดวงกลมครับซึ่งแปลกดีที่นำเอาทั้งความโค้งมนและความมีเหลี่ยมคมมารวมในด้ามเดียว ประโยชน์ของมันก็คือตัวด้ามที่กลมทำให้จับได้ถนัดมือ ลองคิดดูเล่นๆ ว่าถ้าด้ามเป็นหกเหลี่ยมด้วยคงไม่สนุกแน่ๆ และในส่วนของปลอกปากกาที่เป็นหกเหลี่ยมก็ยังช่วยให้สามารถตั้งปากกาไว้บนโต๊ะได้อย่างมั่นคง ไม่กลิ้งไหลตกพื้นหากมีหมากระโจนเข้าใส่ เราต้องอย่าลืมครับว่าโดยพื้นฐานแล้วปากกา Kaweco Sport นั้นไม่ได้ขายมาพร้อมกับคลิปด้วย ดังนั้นความเหลี่ยมของปลอกจะช่วยได้ครับ
ในส่วนของ nib ก็ต้องขอบอกว่าหน้าตาเชยจริงๆ กร๊าาากกก การออกแบบ nib เป็นแบบคลาสสิคครับ จะเห็นว่ามีลายมากมายเลี้ยวเวียนวนน่าเวียนหัวรวมถึงขนาดของ nib และโลโก้สลักอยู่บน nib สีเงินด้วย พอไล่มาถึงส่วนจุกด้านบนของปลอกปากกาก็เป็นจุกสีเงินที่เป็นโลโก้ของปากกาในลักษณะนูนเด่นกระทบแสงได้ดีทีเดียว
หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้แล้วคงจะตั้งข้อสังเกตว่าแล้วไอรุ่น Skyline นี้มันต่างจากรุ่นธรรมดา Kaweco Classic Sport ยังไงล่ะ? หน้าตาก็เหมือนกันเป๊ะๆ ต่างกันแค่สีตัวด้ามก็เปลี่ยนชื่อรุ่นเลยเหรอ? ผิดครับ!! Kaweco Sport ในรุ่นธรรมดาหรือที่เรียกกันว่า Classic Sport นั้นทั้งตัว nib และจุกบนปลอกปากกาจะเป็น “สีทอง” เชยๆ ครับ ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลหลักที่ผมไม่ยอมซื้อมารีวิวเสียทีเพราะรับไม่ได้กับที่มันเป็นสีทองแสนเชยนี่แหละ …คือ…เหมือนปากกาคนแก่ กร๊าาาากก ป๊าบ!! (โดนพ่อตบหัว) แต่กับรุ่น Skyline นั้นเป็นการเปลี่ยนมาใช้ “สีเงิน” ในการทำ nib และจุกครับ มันจึงทำให้หน้าตาโดยรวมของเจ้าปากกาด้ามนี้ดูทันสมัยขึ้น ดูแก่น้อยลง ผมจึงมั่นใจกล้าที่จะพกไปในที่สาธารณะมากขึ้นครับ หากเป็นสีทองตอนชักออกมาเซ็นเอกสารละก็ “อุ้ยพี่ปอนด์ พี่เผลอหยิบปากกาคุณพ่อมาใช้เหรอคะ?” จึงอาจจะก่อเกิดศึกภายในออฟฟิศขึ้นได้ครับ (…แต่ผมก็อยากรบกับน้องเค้านะ -.,-)
ตลกมั้ย? ซื้อปากกาแล้วต้องมาซื้อคลิปแยกต่างหาก เพราะด้วยคอมเซ็ปการออกแบบให้เป็นปากกาที่พกง่ายและมีขนาดเล็ก เค้าจึงไม่ทำคลิปมาให้เลยครับจะได้ minimal กันสุด ซึ่งก็แบบว่า…แถมมาด้วยก็ไม่มีใครว่านะ ผมเลือกซื้อคลิปรุ่น Kaweco Clip Sport chrome มาครับเพราะรูปร่างหน้าตาทันสมัยและเป็นสีเงินเข้ากับรุ่น Skyline วิธีใส่ก็ใส่มันตรงๆ สวมตรงส่วนปลอกปากกาจากด้านบนลงมาครับ จัดตำแหน่งให้เข้าที่ให้มั่นใจว่าระดับความสูงแบบนี้แหละที่จะเหน็บกระเป๋าแล้วสวยงามก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ (ทั้งนี้ตัวคลิปนั้นยังมีอีกรุ่นนะครับนั่นก็คือรุ่น Kaweco Clip Retro Sport chrome ซึ่งถ้าใครชอบแบบย้อนยุคก็ไปเลือกซื้อกันได้ครับ)
ข้อสังเกต! เนื่องจากตัววัสดุที่ใช้ทำตัวปากกานั้นเป็นพลาสติกที่มีการเคลือบผิวเพื่อความเงางามและทนต่อรอยขีดข่วนได้ในระดับนึง นั่นจึงเป็นเป็นข้อดีและข้อเสียในตัวมันเองครับ เนื่องจากที่มันลื่นมากทำให้ตัวคลิป ไม่ยึดติดกับปลอกปากกา เวลาเสียบปากกาเหน็บหรือดึงออกจากกระเป๋าเสื้อก็จะทำให้ตัวปากกาหลุดออกจากคลิปไปเลยครับซึ่งมันบ้ามาก! กลายเป็นว่าเวลาจะดึงหรือเหน็บเราต้องเปลี่ยนมาจับที่ตัวคลิปแทนห้ามจับที่ตัวปากกา ซึ่งหงุดหงิดน่ารำคาญมากครับ ครั้นจะให้เอาตะไบมาถูๆ ที่ด้านในของคลิปก็จะบ้าเกินไปทำปากกาเป็นรอยเปล่าๆ ลองเอาสก็อตช์เทปใสมาติดด้านในคลิปเพื่อเพิ่มความแน่นหนาก็ไม่ได้เพราะมีพื้นที่ระหว่างผิวปลอกปากกาและคลิปน้อยมากไม่ถึงมิลลิเมตร ดังนั้นถ้าไม่อยากใช้กาวติดก็ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกันแทนนะ –– (แต่แปลกที่รุ่น Classic Sport ไม่พบปัญหานี้ครับ คลิปติดแน่นหนาต่างกับ Skyline เลยตั้งข้อสังเกตว่ารุ่น Skyline อาจจะมีขนาดปลอกที่เล็กลง นิ๊ดๆๆๆๆๆ เดียวหรือไม่ก็เปลี่ยนกรรมวิธีเคลือบผิวครับ)
จากภายนอกมาสู่ภายใน…หมุนเกลียวที่ด้ามปากกาออกเพื่อจะจัดแจงเติมหมึกเข้าไปก็พบว่ามีหมึกสีน้ำเงินแบบสำเร็จแถมมาให้ด้วยหนึ่งหลอดครับ ตัวหลอดหมึกก็เล็กน่ารักสมเป็นปากกาหมากระเป๋า ส่วนจุกกั้นหมึกเป็นแบบลูกบอลที่ต้องกดเข้าไปในปากกาเพื่อดันลูกกลมนั้นให้หลุดออกครับ…แต่ผมไม่สนใจหมึกแถมนั้น ผมสั่งหลอดสูบหมึกสำหรับ Kaweco Sport มาด้วย 1 หลอดซึ่งหลอดสูบที่ว่านี้เป็นแบบบีบปั๊มชื่อว่า Kaweco converter for Sport, squeezable ซึ่งเป็นหลอดสูบหมึกชนิดเดียวที่สามารถใช้กับปากการุ่นนี้ได้
…ผมไม่รู้จะเรียกว่ายังไงดีครับคือมันเป็นหลอดสูบหมึกแบบเดียวกันกับปากกาหมึกซึมรุ่นเก่าที่เวลาเราจะใช้งานจะต้องเอาปลายปากกาจุ่มลงไปในขวดหมึกแล้วก็ค่อยๆ บีบตัวหลอดสูบหมึกเข้า-ออกเพื่อปั๊มสูบหมึกขึ้นมาครับ ต่างจากหลอดสูบหมึกของลามี่เราจะใช้วิธีการหมุนแกนเพื่อสูบขึ้นมา ซึ่งแบบปั๊มนี้มันแย่มาก!! นั่นก็เป็นเพราะต่อให้เราบีบๆ นวดๆ กี่ครั้งก็ตาม เราจะไม่มีทางได้หมึกที่เต็มหลอดสูบได้ครับเพราะด้วยลักษณะของหลอดสูบเองทำให้มีอาการไหลเข้าไปในหลอดขณะเดียวกันกับหมึกเป็นจำนวนมาก ผมลองบีบปั๊มเข้า-ออกหลายครั้งมากครับเพื่อจะดูว่าผมจะสามารถได้หมึกเต็มหลอดได้มั้ย? สรุปคือไม่ได้! ได้หมึกอย่างมากสุดแค่เพียง 50%–60% ของหลอดครับ ผมจึงไปหยิบเข็มฉีดยามาแล้วจัดการสูบหมึกใส่เข้าไปตรงๆ เลยครับก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยหมึกเต็มหลอดพร้อมใช้งานล่ะ พอหมึกเต็มหลอดก็สบายใจ พอสบายใจผมก็สามารถไปเกิดได้แล้ว!! เย้!
ตัดเข้าเรื่องที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือการใช้งานจริงครับ คุณศา Sa Kanjanahattakij ผู้สนับสนุนทางการเงินรายแรกๆ ของบีบีบล็อก และตาท๊อป @risingtop ผู้สนับสนุนทางจิตวิญญาณ (ประมาณไสยศาสตร์อ่ะครับ) ต่างมีความเห็นแตกเป็นสองทาง คุณสาเล่าว่า “ไม่ประทับใจเพราะต้องกดแรงๆ หมึกถึงจะออก” ส่วนจ้าวแห่งศาสตร์มืดท๊อปกลับบอกว่า “เขียนลื่นหัวแตกลืมลามี่ไปเลยพี่!” …ช่างน่าหมั่นไส้นัก! ซึ่ง!! ผมพบเจอกับทั้งสองปัญหานี้เลยครับ!! ตอนที่ผมได้ปากกามาในตอนแรกนั้นก็ใจเร็วด่วนได้ประสาเด็กวัยรุ่นอายุ 20 ปีต้นๆ เติมหมึกปากกาเข้าไปเลยโดยไม่ล้างไม่เลิ้งอะไรทั้งนั้น! ผลก็คือ กว่าหมึกจะไหลมาตาม feed จนสามารถเขียนออกได้นั้นใช้เวลานานพอสมควรเลยครับ นั่นอาจเป็นเพราะอาจมีคราบหมึกติดค้างอยู่จากกระบวนการทดสอบหรือการผลิต ทำให้หมึกไหลได้ไม่คล่องครับ ทีนี้ผมก็ทดลองใช้เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ก็ไม่มีปัญหาหมึกไม่ไหลแต่อย่างใด
จากการทดสอบอย่างละเอียดและเติมหมึกไป 2 รอบพบว่า ในรอบแรกที่ไม่มีการล้างปากกา ในช่วงแรกหมึกจะไหลได้ช้าครับแต่พอใช้ไปสักระยะหนึ่งก็จะไหลเป็นปรกติทั่วไป ซึ่งหลังจากการล้างและเติมหมึกในรอบที่ 2 ปัญหานี้จะหมดไปครับ หมึกไหลเป็นปรกติในระดับปานกลาง กล่าวคือปากกา Kaweco Sport จัดได้ว่าเป็นปากกาที่หมึกไหลในระดับปรกติ ไม่ไหลมากเกินไป เขียนได้เรื่อยๆ แต่ถ้าลากเส้นเร็วๆ ยาวๆ หมึกก็ไหลไม่ทันเหมือนกันนะ
มาถึงเรื่องที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือเรื่องของ nib นี่เป็นเรื่องที่ผมอยากจะเบือนหน้าหนีออกจากโลกแห่งความจริงมากที่สุดครับ ผมได้แต่ร้องกรี๊ดๆๆ อย่างไม่อาจยอมรับผลการตัดสินในครั้งนี้ได้ แต่เมื่อสงบลงและเริ่มได้ยินเสียงหวอของรถตำรวจที่หน้าบ้าน ผมก็ต้องยอมรับกับความจริงข้อนี้ครับ nib ที่ผมเลือกมานั้นเป็นขนาด F ครับเพราะการจะทดสอบมาตรฐานของปากกาว่าเขียนลื่นไหลดีหรือไม่นั้นผมจะต้องทดสอบจากขนาด F และผลก็คือว่าเขียนได้ลื่นหัวแตกเย็บ 13 เข็มเลยครับ! ผมไม่เข้าใจจริงๆ ว่าปากการาคา 700 กว่าบาทที่อยู่ในระดับเป็นคู่แข่งของลามี่ได้นั้นจะมีใครสามารถสู้เรื่อง nib ได้ทัดเทียม แต่ Kaweco กลับสามารถทำได้อย่างไม่น่าเชื่อ ผมทั้งลองเขียนตัวอักษรและตวัดมือลากเส้นไปมา เปลี่ยนมุมการจับหันขึ้นหันลงก็ไม่พบอาการสะดุดรักแต่อย่างใดครับสามารถเขียนได้ลื่นตลอดทุกเส้น พอลองลากเส้นเทียบกับ Lamy Safari จะพบว่าขนาดของเส้นจะเท่ากันกับขนาด F ของลามี่ครับ แต่อาจจะเล็กกว่าสักเล็กน้อยมากๆ (ถ้าสายตาของผมมองไม่ผิดนะ) ทั้งนี้ผมยังไม่เคยลอง nib ขนาดอื่นๆ ของเจ้าปากกาด้ามนี้นะครับ ก็ได้แต่หวังว่าถ้าหากขนาด EF ที่ผมชอบใช้ดันเขียนลื่นหัวแตกขึ้นมาละก็ลามี่คงจะต้องหวั่นๆ เพราะผมคงหยิบ Kaweco มาใช้บ่อยขึ้นแน่ๆ จาก 3 วันต่อปีเป็น 6 วันงี้ กร๊าาากกก (ทำไมรู้สึกเขียนเองแล้วก็หมั่นไส้ตัวเองวะ?)
ผมลองถอดส่วนของ nib ออกมาดูให้ลึกถึงแก่นแท้วิชาปากกา Kaweco ก็ทำให้พบกับความจริงที่ว่าทำไมหมึกมันถึงไหลได้ดีในระดับธรรมดา นั่นก็เป็นเพราะรางส่งหมึกของ ink feed นั้นมีขนาดรางที่ค่อนข้างแคบครับ ซึ่งความแคบนี้เองเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการไหลของน้ำหมึกครับ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ถือว่าแคบจนเกินไปครับถือเป็นระดับปรกติครับ และในส่วนของ nib ก็เป็นแผ่นเหล็กที่มีปลายเป็น iridium ตามสมัยนิยมครับ
แน่นอนว่าเราเป็นนักสเก็ตช์ก็ต้องหยิบสเก็ตช์บอร์ดออกไปไถนอกบ้าน…บ้า! ผมหยิบเจ้าปากกาด้ามนี้ออกไปสเก็ตช์ด้วยครับ ผมเติมหมึกเทพกันน้ำตัวใหม่ที่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้จนเต็มหลอดแล้วจึงหาอะไรมาเป็นแบบในการสเก็ตช์ ก็ได้ตึกแถวบริเวณบ้านที่ผมมักจะนั่งมองเป็นประจำเวลานั่งกินข้าวมาเป็นแบบ ผมไม่รอช้าลงมือสเก็ตช์อย่างรวดเร็ว เส้นแต่ละเส้นที่ออกมาให้หมึกสม่ำเสมอและลื่นไหลดีครับ ผมวาดเส้นขยุกขยุยตรงส่วนของเถาวัลย์ที่เลื้อยพาดลงมาจากตึกชั้นบนก็ได้เส้นที่ต่อเนื่องไม่มีอาการขาดห้วนหรือสะดุดแต่อย่างใด วาดไปก็ได้แต่เจ็บใจไปช่างน่าแค้นใจยิ่งนัก! ในบางจุดที่ต้องการรายละเอียดเล็กๆ เส้นบางๆ ผมก็หงาย nib ปากกาขึ้นครับแล้วก็ลากเส้นรวมถึงจุดๆ แม้การหงายจะทำได้ไม่ดีเท่าลามี่เพราะหมึกไหลได้ไม่เยอะแต่ถ้าลากช้าๆ ก็พอใช้ได้ครับ ลากเส้นบนภาพจนเสร็จและลงสีน้ำต่อก็กลายมาเป็นผลงานอย่างที่เห็นนี่แหละครับ
ความเห็นส่วนตัว: ผมมานั่งพิจารณาภาพรวมของเจ้าปากกาด้ามนี้แล้วตั้งคำถามถามตัวเอง ว่าจริงๆ แล้วผมชอบเจ้า Kaweco Sport Skyline ด้ามนี้มั้ย? หากเป็นเรื่องหน้าตาก็ต้องขอตอบว่า “พอรับได้” กร๊าาากกก คุณก็รู้ว่าไม่มีทางที่ปากกาด้ามไหนในโลกจะมาสวยไปกว่าปากกาลามี่ของผมไปได้หรอกแต่ในที่นี้ผมจะพูดถึงเรื่องวัสดุครับ ถึงแม้วัสดุที่ใช้ทำตัวปากกาจะเป็นพลาสติกเหมือนๆ กับปากกาลามี่ซาฟารีแต่ของ Kaweco กลับทำให้ผมรู้สึกว่ามันเป็นปากกาที่ดูไม่ค่อยมีราคาเลยครับซึ่งไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะสีฟ้า Mint ของด้ามนี้ แต่จากการที่ผมไล่ดูภาพบนเว็บไซต์ด้ามสีอื่นๆ ในรุ่นเดียวกันก็ยังไม่ก่อให้เกิดถึงความมีมูลค่าเท่าที่ควรครับ
ถึงแม้ด้านวัสดุจะดูกิ๊กก๊อกแต่ทางด้านการออกแบบผมเห็นว่า ปากกาหมึกซึมส่วนใหญ่บนโลกนี้มักจะมีสไตล์การออกแบบไปในแนวคลาสสิค ดังนั้นหน้าตาของปากกาส่วนใหญ่ก็จะเชยๆ น่าเบื่อๆ (ที่เด็ดๆ เก๋ๆ ก็มีนะเดี๋ยวหามารีวิวให้อ่านกัน) แต่เจ้า Kaweco Sport ถือเป็นปากกาที่มีการออกแบบผสมผสานที่ให้อารมณ์คลาสสิคและทันสมัยไปพร้อมๆ กัน ในเรื่องการใช้งานนี่ก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีทีเดียวครับ ทั้งเล็กพกง่ายเหมาะกับการโยนใส่กระเป๋าพกแล้วออกไปข้างนอก แถมยังเขียนลื่นอีกซึ่งน่าประทับใจจริงๆ คะแนนหักล้างวัสดุที่ดูเหมือนปากการาคาถูกก็เพราะชอบก็ตรงที่เขียนได้ลื่นนี่แหละครับ
เนื่องด้วยผมมองว่าปากกา Kaweco Sport Skyline Mint นี้เป็นคู่แข่งโดยตรงในทุกๆ ด้านของ Lamy Safari ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคา การออกแบบ กลุ่มเป้าหมาย การใช้งาน ทั้งหมดนี้ถือว่าสามารถสู้กับปากกาลามี่ได้สบายๆ เลยครับ ใครที่สนใจและกำลังมองหาปากกาหมึกซึมที่เล็กกระทัดรัดพกพาสะดวกแต่เมื่อหยิบมาใช้ก็สามารถใช้ได้ถนัดมือ ปากกาด้ามนี้ถือเป็นคำตอบที่ดีทีเดียวครับ ที่สำคัญยังสามารถเขียนได้ลื่นมือตวัดมุมไหนก็ต่อเนื่องยิ่งทำให้น่าใช้งานยิ่งขึ้นไปอีก จะมีบ้างที่น่าหงุดหงิดก็ตรงคลิปปากกาที่เลื่อนหลุดง่ายแต่ถ้าเปลี่ยนวิธีจับก็ไม่มีปัญหา ดังนั้นการเลือกใช้ปากกาด้ามนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวเป็นสำคัญครับเพราะประสิทธิภาพอยู่ในระดับที่สูสีกันทั้งคู่ หากคุณผู้อ่านสนใจก็สามารถแวะเวียนไปซื้อกันได้ที่เว็บ fontoplumo.nl ได้นะครับหรือจะลองหาจากเว็บอื่นเปรียบเทียบราคาก็ได้เพราะราคาถูกกว่าในไทยมากจริงๆ แต่ถ้าหากว่าคุณผู้อ่านซื้อได้ในระดับราคาที่สูงเกินกว่า 1 พันบาทขึ้นไป ปากกาด้ามนี้ผมไม่แนะนำครับ แต่ถ้าสามารถซื้อได้ในราคารวมเบ็ดเสร็จทุกอย่างทั้งปากกา หลอดสูบหมึกและคลิปแล้วราคาไม่ถึง 1 พันบาท ก็จะถือว่าเป็นปากกาที่น่าใช้เป็นอย่างยิ่งครับ
ปล. เตรียมตัวพบกับกำลังเสริมของ B.B. Blog ได้เร็วๆ นี้นะครับ ใบ้ให้ได้แค่ว่าเป็นมนุษย์ครับ กร๊าากก