ผมคิดว่าคุณผู้อ่านที่ติดตามเว็บ bbblogr.com แห่งนี้มาโดยตลอดคงจะท่องได้จนขึ้นใจแล้วใช่มั้ยครับว่าหมึกกันน้ำเทพจ้าวดาวเคราะห์โลกทั้งสามที่เด็ดที่สุดในโลกาที่ผมเคยทดสอบไปนั้นมีชื่อว่าอะไรกันบ้าง ไม่ว่าจะด้วยคุณสมบัติที่กันน้ำที่คงทนเนียวแน่น หรือคุณสมบัติพิเศษที่ทำให้หมึกเทพแต่ละตัวเหมาะสมกับการเขียนแต่ละประเภทแตกต่างกัน ใช่แล้วครับ หมึกที่ผมกำลังพูดถึงนั้นได้แก่ หมึกอมตะ Noodler’s Ink Black Bulletproof น้ำหมึกแทรกผสานเข้าถึงระดับเนื้อเยื่อกระดาษ, หมึกทมิฬคงกระพัน Sailor Kiwa-Guro Nano Black ที่เขียนยังไงก็ไม่ซึมทะลุ และหมึกที่หนึ่งในใจผม หมึกเทพองค์สุดท้ายแห่งแดนนิรันดร์ Platinum Carbon Black

…ถึงแม้แต่ละชื่อผมจะตั้งมั่วซั่วเอาตัวเองสนุกเข้าว่าแต่ความเด็ดดวงของน้ำหมึกนั้นไม่ได้มั่วเหมือนไอคนเขียนแน่นอน และแน่นอนว่าตั้งแต่รีวิวหมึกทั้งสามตัวได้จบลง เทพจ้าวทั้งสามองค์นี้ก็อยู่ค้ำแดนมนุษย์มาอย่างยาวนาน…ตามระยะเวลาที่ดองบล็อก แต่ก็ดังคำที่พระอาจารย์ฤาษีหมึกดำเคยได้สั่งสอนผมไว้เมื่อยังเยาว์ว่า “โลกนี้ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน มีพบก็ต้องมีจาก มีหมากก็ต้องมีปูน มีหมึกเทพทั้งสามก็ย่อมมีเทพองค์ใหม่ปรากฏกายขึ้นสักวัน…” ใช่ครับ อาจารย์ผมเคยได้กล่าวเช่นนั้นแต่ผมมันเป็นศิษย์ที่ดื้อรั้น มักดื้อดึงเถียงอาจารย์อยู่บ่อยๆ ว่า “อาจารย์มันแก่แล้ว มัวแต่หวังลมๆ แล้งๆ กับหมึกเทพองค์ใหม่อยู่ได้! ไม่มีแล้วล่ะหมึกที่จะดีเลิศทัดเทียมกับหมึกเทพทั้งสามได้หรอก!” …ด้วยประโยคนี้นี่เอง ผมจึงโดนไล่ออกจากป่าตั้งแต่วันนั้นครับ

พล่ามยาวเหมือนคนที่อัดอั้นไม่ได้บ้าบอเพ้อพกมาได้สองย่อหน้า เมื่อไหร่ถึงจะได้รู้สักทีว่าไอหมึกนี่มันคือหมึกอะไรกันแน่ ก็ได้ครับผมจะเล่าถึงหมึกเทพองค์ใหม่ที่ทำให้ผมถึงกับน้ำตารื้นเมื่อนึกถึงคำพูดที่ผมได้เคยพูดกับอาจารย์ไป หลังจากที่ผ่านเวลามายาวนาน ในที่สุดบัลลังของหมึกเทพจ้าวทั้งสามก็ต้องสั่นไหวครั้งใหญ่ครับ!! …เขียนอีพิคมากแต่จริงๆ ไม่มีอะไรเลย -*-

Private Reserve Invincible Ink หมึกเทพเจ้าองค์ใหม่หมึกไร้เทียมทาน (ตั้งตามชื่อเลย -..-) คือหมึกที่จุติบนโลกพิภพวานรบ้าปากกาลามี่แห่งนี้ครับ ชื่อเสียงเรียงนามนั้นหลายๆ คนคงจะคุ้นหูกันเป็นอย่างดีเพราะว่าหมึกยี่ห้อ Private Reserve นี้เป็นหมึกปากกาหมึกซึมที่มีสีสันให้เลือกหลายหลายมากๆๆๆๆๆๆ เชิญชมเว็บไซต์หน้าตาเชยๆ ได้ที่ลิ้งก์นี้ แถมเป็นหมึกที่คุ้มค่าเพราะปริมาณที่อัดแน่นมาในขวดใช้ยังไงก็ไม่หมึกเสียทีแถมราคาต่อขวดก็ถูก ทำให้หมึก Private Reserve มีชื่อเสียงอยู่ในวงการปากกาหมึกซึมมากอย่างยาวนานครับ

แต่หมึกที่ผมจะพูดถึงวันนี้ไม่ใช่หมึกสีที่หลากหลายใดๆ ของยี่ห้อนี้นะ แต่เป็นหมึกสีดำแบบกันน้ำพิเศษที่มีชื่อว่า Invincible Black …เป็นไงครับ? แค่ชื่อก็อวดอ้างถึงความอยู่ยงคงกระพันไร้เทียมทานหาใครต้านได้เสมอเหมือนเทพจ้าวก็ไม่ปาน ซึ่งมันน่าหมั่นไส้มาก! มนุษย์ที่ดื้อรั้นอย่างผมพอได้ยินชื่อครั้งแรกก็เกิดอาการคันขึ้นมาครับ (ไม่ใช่คันในร่มผ้านะ!) อยากขอท้าพิสูจน์ว่าหมึกตัวนี้จะมีอำนาจสามารถทัดเทียมเทพองค์ก่อนๆ ได้หรือไม่ขึ้นมาในทันที แต่ก่อนที่จะไปถึงขั้นตอนท้าทายเทพจ้าวนั้น ไม่อยากรู้เหรอว่ามนุษย์ธรรมดาๆ อย่างเราจะสามารถไปตามหาหมึกเทพขวดนี้ได้จากที่ไหน?

หมึกตัวนี้ผมสั่งซื้อมากจากเว็บปากกาหมึกซึมชื่อโคตรดังจากเกาะอังกฤษนั่นก็คือ The Writing Desk : thewritingdesk.co.uk โดยหมึกที่ผมเลือกซื้อมานั้นแน่นอนว่ามีชื่อว่า Invincible Black [ไปดูเอง] แต่ขนาดขวดที่มีให้เลือกบนเว็บนั้นมีถึง 3 ขนาดครับ นั่นก็คือ 50ml, 60ml และ 75ml แน่นอนว่าคนบ้าพลังอย่างผมตั้งเลือกที่ขวดใหญ่ที่สุดมาครับ โดยราคาที่ผมซื้อมานั้นเป็นราคาที่ปลอดภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศกลุ่มยุโรป (เหมือนกับเว็บ fontoplumo.nl นั่นแหละครับ) ซึ่งราคาที่แสดงบนหน้าเว็บนั้นยังไม่ใช่ราคาที่แท้จริงนะ แต่ถ้าหากเราหยิบสินค้าใส่ตะกร้าแล้วเลือกประเทศจักส่งเป็นประเทศไทย เราก็จะได้รับราคาปลอดภาษีทันทีครับ ซึ่งหมึกขวดนี้เป็นขนาด 75ml มีราคาอยู่ที่ £8.24 หรือเท่ากับ 447.92 บาท และค่าส่งแบบธรรมดาอีก £4.50 หรือก็คือ 245.92 บาท ทำให้ราคารวมแล้วเท่ากับ 692.53 บาท สำหรับหมึก 75ml ครับ

แต่!!! อันที่จริงแล้วหมึกขวดใหญ่นี้มันไม่ได้มีปริมาณ 75ml ดังที่เขียนบอกครับแต่มันมีความจุจริงอยู่ที่ 66ml ซึ่งผมโคตรงงเลยเว้ย! ผมลองเช็คจากเว็บไซต์หลักและเว็บอื่นๆ เองก็ได้ความว่าขนาดที่มีขายจริงๆ นั้นคือ 66ml ครับ ดังนั้นหมึกขวดนี้จึงมีราคาอยู่ที่ 692.53 บาทต่อ 66ml หารแล้วก็ตกอยู่ที่ 1ml ละ 10.50 บาท ครับซึ่งถือว่าถูกมาก!! ลองเทียบกับตัวอื่นๆ ที่ผมเคยซื้อมาจากแหล่งที่คิดว่าถูกที่สุดจะได้ดังนี้

• Noodler’s Black Bulletproof 10.10 บาท (ถูกที่สุด)
• Sailor Kiwa-Guro 18.55 บาท (แพงที่สุด)
• Platinum Carbon Black 16.39 บาท

ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ราคาถูกที่สุดเพราะ noodler’s ถูกกว่า แต่ว่าจะได้พัสดุเร็วกว่ามากแน่นอนเพราะผมเคยสั่งของไปสองครั้งจากที่นี่ก็ได้รับภายใน 7 วันซึ่งผมงงไปเลยว่าทำไมส่งากต่างประเทศมันถึงได้เร็วเว่อร์ขนาดนี้ ถ้าเป็นของจาก Goulet Pen ที่ขาย Noodler’s ละก็รอไปเลยครับ 14 วัน

พอล่ะ! จะอะไรนักหนากับเรื่องราคาและความคุ้มค่าหากว่ามันไม่ได้ดีจริงๆ มันต้องทดสอบก่อนเซ่ถึงจะได้รู้ว่าคุ้มควรค่าที่จะเสียเงินมั้ย งั้นเรามาดูผลการทดสอบไปพร้อมกันเลยครับ

 

Color แน่นอนว่าผมซื้อหมึกสีดำมามันก็ต้องมีสีดำสิ! …ฟังดูกวนเนาะ แต่! หมึกดำตัวนี้สีดำของมันไม่ได้ดำสนิทเหมือนหมึกดำกันน้ำขิงยี่ห้ออื่นๆ ครับ แต่จะเป็นสีดำออกไปทาง “เทา” เล็กน้อยมากๆๆๆ ซึ่งถ้าไม่ได้เป็นคนใช้หมึกสีดำแบบเข้มโลกมืดอยู่เป็นประจำ (แบบผม) ก็จะแยกไม่ค่อยออกครับ แต่เมื่อลองเอากมึกมาป้ายมาเขียนบนกระดาษเพื่อเปรียบเทียบกันก็จะเห็นความแตกต่างขึ้นมาทันที…ซึ่งประหลาดอีกแล้ว!

สีของหมึกเมื่อลองเอามาปาดบนกระดาษกลับเห็นเป็นสีเทาชัดเจนมากครับ เอามาวางเปรียบเทียบกับ Platinum Carbon Black แล้วมันคนละเรื่องเลย ซึ่งน่าแปลกมาก! เพราะเวลาผมใช้วาดหรือเขียนนั้นก็ไม่เห็นว่ามันเป็นสีเทาที่อ่อนได้ขนาดนี้นะ ผมเลยลองเอาหมึกทั้งสามตัวอันประกาบด้วยหมึกตัวนี้ หมึก Platinum Carbon Black และหมึกสีเทากันน้ำอย่าง Noodler’s Lexington Gray มาเขียนบันทึกควายๆ เพื่อเทียบสีของหมึกก็ได้ผลอย่างที่เห็นครับ Private Reserve Invincible Black ไม่ได้เป็นสีเทาอ่อนเหมือนที่ปาดหมึก แต่กลับมีดำออกไปทางเทาดูอ่อนกว่า Platinum Carbon Black เล็กน้อย แต่ก็ไม่จางเบาบางเป็นสีดินสออย่าง Noodler’s Lexington Gray ครับ ดังนั้น! อย่าเชื่อในสีของหมึกที่ทำการปาดไปจนกว่าเราจะได้ลองเขียนด้วยตัวเอง!

Feather ตัวน้ำหมึกค่อนข้างเหลว เวลาเขียนลงบนกระดาษที่ไม่ใช่กระดาษสีน้ำเช่นกระดาษ A4 หรือกระดาษธรรมดาของ Moleskine จะเห็นเส้นแตกบ้างครับแต่ไม่มากมายอะไรครับ สามารถสเก็ตช์ภาพได้สวยหรือเขียนตัวอักษรได้สวยในระดับปานกลางครับ

Dry Speed เป็นหมึกที่ถือว่าแห้งเร็วในระดับปรกติครับนั่นก็คือถ้าเผลอเอามือไปลูบเส้นที่เขียนในช่วงเวลา 5 วินาทีนี่มีเลอะนะ ต้องทิ้งไว้อย่างน้อย 7 – 10 วินาทีครับจึงจะถือว่าแห้งปลอดภัย

Bleed …แกนโลก

Ink Flow เป็นหมึกไหลดีท่วมท้นมากครับ ใครที่ชอบแนวเขียนไปหมึกไหลเป็นทางสม่ำเสมอนี่จะรักหมึกตัวนี้เลยซึ่งผมชอบนะเพราะเวลาเขียนตัวหนังสือมันให้สีที่สม่ำเสมอเขียนเร็วยังไงหมึกก็ไหลได้เร็วทันใจ แต่ระวังหน่อยก็ดีนะเดี๋ยวจะเลอะมือเพราะเขียนมันส์ไปหน่อย

Smooth แปลกแต่จริงครับ ถึงแม้จะเป็นหมึกที่ค่อนข้างเหลวแต่กลับเขียนได้ลื่นมือดีมาก ผมลองเติมหมึกตัวนี้กับลามี่ด้ามที่ใช้อยู่เป็นประจำก็ให้ความรู้สึกที่ลื่นกว่าหมึกตัวที่ใช้อยู่นั่นก็คือ Platinum Carbon Black ครับ

Waterproof อันที่จริงผมแอบใช้หมึกตัวนี้สเก็ตช์ภาพมาแล้วหลายภาพนะแล้วก็อัพ อตก ไปก็หลายภาพอยู่ แต่ยังไม่เคยได้มีโอกาสได้ทดสอบอย่างจริงๆ จังๆ เสียทีครับ แน่นอนว่าภาพที่ผมอัพนั้นก็ล้วนแล้วแต่จะใช้สีน้ำระบายทับทั้งสิ้นซึ่งก็ให้ผมลัพท์เป็นที่หน้าพอใจทีเดียวครับ แต่ยังไงก็ต้องมีการทดสอบตามมาตรฐานประกอบด้วย นั่นก็คือการเขียนตัวอักษรและเส้นลงบนกระดาษเอกสาร A4 แล้วนำไปถ่วงน้ำ ซึ่งผมที่ได้ก็เป็นไปตามคาดครับ หมึกสามารถอยู่คงทนบนกระดาษไม่มีหลุดลอยออกมาตามน้ำเลย และเมื่อผ่านไปหลายนาทีผมก็นำมาผึ่งลมให้แห้ง แต่แล้วผมก็สังเกตเห็นสิ่งผิดปรกติบางอย่างเข้า นั่นก็คือเส้นที่ก่อนแช่น้ำที่มีความคมชัดแต่หลังชากโดนน้ำแล้วกลับมีหมึกซึมออกมาตามเส้นในปริมาณที่ “เล็กน้อยมากๆๆ” ซึ่งถ้าไม่ใช้สายตาจ้องจับผิดก็จะสังเกตไม่เห็นครับ

ผมหวั่นใจว่าเรื่องที่รบกวนจิตใจผมในตอนนี้อาจจะเป็นจริงก็ได้ ผมจึงลองใช้หมึกไร้เทียมทานตัวนี้ลองเขียนลงบนกระดาษสีน้ำและทิ้งไว้สักพักจนมั่นใจว่าหมึกแห้งสนิท จากนั้นผมก็นำเอาพู่กันจุ่มน้ำเปล่าแล้วเอามาทาถูๆ ขยี้ๆๆๆๆๆ ไปบนเส้นนั้นครับและเรื่องร้ายก็เป็นไปตามที่คิด หมึกตัวนี้มีลักษณะเฉพาะนั่นก็คือเป็นหมึกกันน้ำที่กึ่งซึมกึ่งแห้ง…เห้ยงงเว้ย กล่าวคือ หมึกส่วนหนึ่งจะซึมลงไปในเนื้อกระดาษครับ อีกส่วนนึงจะไม่สามารถซึมลงไปในกระดาษได้หากเนื้อกระดาษนั้นหมึกซึมยากหรือมีผิวหน้าที่แน่น นั่นหมายความว่า หากเราใช้หมึกตัวนี้กับกระดาษที่มีเนื้อแน่นเช่นกระดาษสีน้ำ แล้วการลงสีน้ำของเราดันเป็นแบบขยี้ๆๆๆ ใช้ขนพู่กันปาดทับไปมาหลายครั้ง (ใครเค้าทำกัน?) ก็มีโอกาสที่จะทำให้หมึกปากกาตัวนี้หลุดร่อนออกมากับพู่กันได้ครับ หรืออีกกรณีก็คือมีการย้ำเส้นหรือจรดปากกานานจนมีหมึกเกาะตัวแห้งอยู่บนผิวกระดาษ ก็มีโอกาสที่จะทำให้หมึกร่อนออกมากับสีได้เช่นกัน

ทั้งนี้ถ้าหากใช้กับกระดาษที่มีเนื้อไม่แน่นมากเช่นกระดาษธรรมดาทั่วไป จะมีความหนาเท่าไรก็ได้แต่ว่าหมึกสามารถซึมผ่านได้ดี ก็จะสามารถกันน้ำได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ เลยครับ ลองมาดูภาพสเก็ตช์จากบล็อกตอนก่อนนู้นกันอีกทีกับสมุด Zequenz 360˚ Sketch จะเห็นว่าผมวาดตึกทั้งตึกและลงสีน้ำแบบชุ่มโชก ก็ไม่มีอาการหมึกไหลปนออกมากับสีน้ำด้วยเลยครับนั่นก็เพราะว่าหมึกสามารถซึมลงไปในเนื้อเยื่อกระดาษได้หมด ไม่มีหมึกที่แห้งติดอยู่บนกระดาษดังนั้นโดนพู่กันขยี้ยังไงก็รอดครับ

ผมรู้ครับว่าคุณผู้อ่านกำลังเกิดความสงสัย “แล้วเราควรซื้อหมึกตัวนี้มั้ย?” เมื่อพิจารณาในหลายๆ ด้านทั้งราคา คุณสมบัติ ปริมาณ และความเร็วในการขนส่งผมต้องยอมรับเลยครับว่าหมึกเทพองค์ใหม่ไร้เทียมทานตัวนี้เป็นหมึกที่ควรซื้อจริงๆ เพราะอะไรนะเหรอ? ถึงแม้ว่าหมึกตัวนี้จะไม่สามารถกันน้ำได้ในระดับสุดยอดเหมือน Platinum Carbon Black แต่อย่างน้อยก็สามารถกันน้ำได้ดีกว่า Sailor Kiwa-Guro แต่อาจกันได้น้อยกว่า Noodler’s Black Bulletproof อยู่เล็กน้อย ดังนั้นในเรื่องการกันน้ำผมจึงยกให้เป็นอันดับที่ 3 จาก 4 ครับ และแน่นอนว่าราคาขนาดนี้ได้ปริมาณหมึกที่เยอะ นั่นจึงเป็นหมึกที่คุ้มค่าซื้อมาเขียนทิ้งเขียนขว้าง แจกจ่ายให้เพื่อนบ้านแล้วยังเหลือเอามาเทเล่นได้อีกนะ ดังนั้นถ้ายังไม่มีหมึกกันน้ำที่ถูกใจ ผมแนะนำให้ไปซื้อมาใช้เหอะ

ถึงแม้จะเป็นเทพแต่ก็ย่อมมีวันที่ต้องขยับตัวให้เทพองค์อื่นเข้ามาแทนที่ในสักวัน และวันนี้เป็นวันที่กลุ่มหมึกกันน้ำมีการเปลี่ยนแปลงให้กับ Private Reserve Invincible Black ตัวนี้ครับ หมึกกันน้ำคุณภาพดีที่ราคาคุ้มค่า สีดำออกเทาเข้มที่ให้สีไม่เด่นโดดสดุดตามากเกินไปแต่ก็ไม่ซีดจางจนมองไม่เห็น หมัดเด็ดอยู่ที่การไหลลื่นที่น่าประหลาดใจแต่ยังเขียนได้ลื่นมือไม่บกพร่อง ถึงจะงอแงเลือกกระดาษอยู่บ้างแต่ถ้าหากใช้พู่กันแบบนุ่มนวลไม่มีการขยี้ลงบนเส้นก็สามารถกันน้ำได้ดีทีเดียว หากคุณผู้อ่านกำลังมองหาหมึกกันน้ำแต่ไม่รู้ว่าจะเลือกตัวไหนดีเพราะทั้งหาซื้อยากและราคาแพงจนเกินไป ลองหันมามอง Private Reserve Invincible Black ขวดนี้ดูสิครับ มันคือหมึกตัวนั้นที่คุณกำลังมองหาอยู่ครับ

ปล. เขียนฟุ้งแบบนี้ ผมไม่ได้เมาควันจากใบไม้ใบหญ้ามานั่งเขียนนะ! แต่ผมหลงมัวเมาในเสน่ห์แห่งน้ำหมึกต่างหากล่ะ!! …หล่อมะ?