ผมเคยคิดเสมอว่าหมึกหนึ่งเดียวที่จะอยู่ในใจผมตลอดไปจะเป็นหมึกใดไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ Platinum Carbon Black แต่แล้ววันนี้ก็ดันใจง่ายตกหลุมรักหมึกปากกาตัวใหม่เข้าเต็มเปา รักเสียจนอยากจะตบแต่งแห่สินสอดไปขอ อยากจดทะเบียนซ้อน ตีหัวลากเข้าบ้าน ให้มาเป็นอนุร่วมใต้ชายคากันเลยทีเดียว…
คุณผู้อ่านคงทราบกันดีอยู่แล้วใช่ไหมครับว่าผมนั้นคลั่งไคล้หมึกเทพแห่งแดนนิรันดร์ Platinum Carbon Black เสียมากมายขนาดไหน ไม่ว่าจะทำอะไรหมึกตัวนี้ก็จะอยู่ในความคิดผมตลอด “ผมขออเมริกาโน่ดำๆ เข้มๆ เหมือนหมึก Platinum แก้วนึงครับ” หรือจะเป็น “ดวงตาของน้องช่างงดงามคมเข้มแวววับดั่ง Platinum Carbon Black เสียจริง” …นั่นก็เพราะว่าเราเป็นสเก็ตช์เชอร์สายวาดเส้นแล้วลงสีน้ำตาม ก็ย่อมอยากจะได้เส้นปากกาหมึกซึมที่มันคมชัดและหมึกไม่มีวันเลือนหากว่าโดนสีน้ำใช่ไหมครับ? ในครั้งก่อนเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาผมก็ได้เพียรพยายามที่จะหาหมึกเทพตัวใหม่มายึดบัลลังก์ของเทพ 3 องค์ก่อนให้ได้ แต่ถึงกระนั้นหมึกเทพไร้เทียมทาน Private Reserve Invincible Ink ก็ยังไม่สามารถล้มเทพสูงสุดอย่าง Platinum Carbon Black ลงได้ ก็พี่แกดั้นๆๆๆๆๆ ไม่อึดไม่อดทน แค่น้องลากพู่กันผ่ายพร้อมขยี้ๆ แล้วหมึกบางส่วนก็ทะลึ่งไหลปนออกมาด้วยยังไงล่ะครับ แถมสีของมันก็ยังไม่เข้มสะใจไอคนรีวิว(ผมเอง) ทำให้ปัจจุบันนั้นก็ยังไม่มีหมึกกันน้ำหน้าไหนตัวใดมาเทียบเคียงกับหมึกเทพสูงสุดได้เลยสักคน
จนกระทั่งในที่สุดผมก็ได้พบเข้าหมึกเทพองค์ใหม่…ซึ่งผมหมดมุกแล้วว่าจะตั้งชื่อว่าอะไรดีที่สื่อถึงความคงทนถาวร ครั้นจะใช้ชื่อว่า “หมึกเทพเมียแก่” ก็อาจจะทำให้ชีวิตเราชิบหายม้วยมลายได้…ถึงแม้ว่าความจริงแล้วอีแก่ที่บ้านมันจะทนทายาดแค่ไหนก็เหอะ แต่ถึงแม้จะไม่สามารถตั้งชื่อเท่ๆ ให้ได้ (หรือเชยสุดกู่กันแน่หว่า?) ผมก็ดันทุลังตั้งชื่อเรียกให้กับเค้าจนได้ครับด้วยชื่อที่ว่า “หมึกเทพแฝดพี่”
นี่มันไม่ใช่หนังผีชื่อแฝดหรือจะเป็นเก็ทแก๊งค์แฝดนักดนตรีจากคูณสามซุปเปอร์แก๊งค์หรอกนะ(เกิดทันกันมั้ยอ่ะ?) แต่ที่บอกแบบนี้ก็เป็นเพราะหมึกสูตรกันน้ำที่เป็นสีดำของ De Atramentis นั้นมีด้วยกัน 2 ตัวครับซึ่งหน้าตา ท่าทางและรูปร่างทรวดทรงองค์เอวนั้นคล้ายกันมากๆๆๆ คล้ายกันจนถึงขนาดว่าแกแค่เปลี่ยนฉลากใช่มั้ย?!! แต่ว่าสิ่งที่ทำให้แตกต่างกันนั้นก็คือคุณสมบัติที่สำคัญบางประการครับ…แต่ไอเรื่องนั้นเราจะยังไม่พูดถึงในวันนี้นะเอาไว้อ่านตอนของหมึกอีกขวดละกันเราจะมาเปรียบเทียบกัน (นี่ใช่ไหมที่เรียกว่ากั๊ก)
หมึก De Atramentis กำเนิดขึ้นมาจากน้ำมือของ Dr. Franz-Josef[1] ที่มีความหลงไหลในศิลปะการเขียนตัวอักษรประดิษฐ์แห่งเมือง Hachenburg ประเทศ Germany ถึงแม้ว่าจะเพิ่งก่อตั้งมาเมื่อไม่กี่สิบปี (ประมาณ 25 ปี) แต่ก็ผลิตผลงานสร้างสรรค์หมึกมาแล้วไม่ต่ำกว่า 709 สีแถมมีกลิ่นมายมายถึง 100 กลิ่นด้วย! (ดมกันจนโดนตำรวจจับอ่ะ) ซึ่งแน่นอนว่าผมคงไม่บ้าจี้เอามารีวิวทุกสีทุกตัวอ่ะนะ จึงขอคัดที่เด็ดที่สุดในความคิดของผมนั่นก็คือหมึกกันน้ำมาให้ได้ชมกันครับ
De Atramentis : Document Ink Black 35ml หมึก De Atramemtis เป็นชื่อหมึกที่ผมงงกับมันพักนึงครับว่าจะอ่านออกเสียงเป็นภาษาไทยว่าอย่างไร จะอ่านว่า ‘เด อะตะระเมนติส’ ก็ฟังดูจะเหมือนคาถาสาปคนของแฮร์รี่ พ็อตเตอร์เกินไปหน่อย ผมเลยไปเงี่ยหูฟังฝรั่งในเว็บมาครับก็สรุปว่าชื่อนี้อ่านว่า “ดิ อะทราเม็นทิส” เป็นภาษาลาติน-เยอรมัน[2] ซึ่งแปลว่า “น้องเหลวที่มีสีโคตรดำ” หรือก็คือน้ำหมึกนั่นเองครับ และด้วยชื่อรุ่นคือ Documemt Ink ที่ต้องการสื่อว่าเป็นหมึกสำหรับงานเอกสาร ให้ความหมายว่าเป็นหมึกที่ใช้สำหรับงานที่มีความสำคัญมากนั่นเองครับ
แล้วจู่ๆ ทำไมผมถึงต้องห้อม้าไปหาหมึกตัวนี้มารีวิวล่ะ?
นั่นก็เพราะผมได้ตามอ่านบล็อกของสเก็ตช์เชอร์ท่านนึงอยู่เป็นประจำนั่นก็คือคุณ Liz Steel จอมสเก็ตช์ถ้วยชา ซึ่งเธอได้เขียนบล็อกไว้ตอนหนึ่ง ถึงหมึกตัวใหม่ที่เธอได้ทดลองใช้อยู่ครับโดยแต่เดิมเธอก็ใช้หมึก Noodler’s Black Bulletproof ก็พอใจดีอยู่แล้ว แต่คราวนี่เธอกลับลองเปลี่ยนหมึกมาเติมปากกาด้ามโปรดดู ผมอ่านได้แค่นี้ก็ตื่นเต้นจนกระเป๋าตังค์ไปหมดแล้วก็ปิดหน้าเว็บเธอแล้วหาร้านทันทีครับ (ที่จริงแปลได้แค่นี้)
ผมเลือกหมึกตัวนี้จากเว็บ thewritingdesk.co.uk จ้าวเดิมจากครั้งก่อนที่ผมเอาหมึกไร้กระเทียมทาน Private Reserve Invincible Ink มารีวิวนั่นแหละ โดยราคาหมึกขวนนี้นั้นหากเป็นราคาที่ปลอดภาษี(เราคนไทยจะไปเสียภาษีที่นู่นทำไม) ก็จะอยู่ที่ 7.74 GBP นะครับหรือเป็นเงินไทยก็ 411 บาท และค่าส่งพัสดุต่อหมึกหนึ่งขวดนี้ก็คือแบบธรรมดา 4.50 GBP(238.96 บาท) หรือถ้าอยากได้ปลอดภัยก็ 12.00 GBP (637.21 บาท แพงเว้ย! ค่าส่งแพงกว่าหมึกอีก!!) จำไว้นะหนุ่มๆ ราคาสำหรับความปลอดภัยนั้นแพงเสมอ… (ขอเชิญออกประตูบ้านไปอยู่องค์การอนามัยโลกเลยไป๊!!) ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากสั่งแค่ขวดเดียวผมก็แนะนำว่าเลือกส่งแบบธรรมดาจะทำใจง่ายกว่านะเพราะราคารวมแล้วจะอยู่ที่ 12.24 GBP หรือ 650 บาทเท่านั้นเอง แต่เพราะครั้งนี้ผมสั่งทีเดียว 3 ขวด ผมเลยเลือกส่งแบบลงทะเบียนครับ ซึ่งสั่ง 3 ขวดราคาลงส่งแบบทะเบียนก็เพิ่มมาอีก 2 กว่าปอนด์เท่านั้นเอง ผมเลยเลือกแบบนี้ครับเพราะกลัวของหายเกลี้ยงไปตกอยู่ในมือมารขว้างขวด…
ได้รับพัสดุมาก็รีบแกะด้วยความสงสัยเพื่อที่จะยลโฉม ขวดหมึก De Atramentis : Document Ink นั้นเป็นขวดแก้วที่มีเอกลักษณ์สวยงามทีเดียวครับ เงางามแปลกตาตั้งบนโต๊ะทำงานได้น่าดูชม…แต่จะตีก็ตรงที่ฉลากขวดหมึกซึ่งเชยระเบิดระเบ้อขัดกับขวดแก้วสวยที่แสนเซ็กซี่ ความจุของหมึกในขวดอ่านจากฉลากจะอยู่ที่ 35ml ครับซึ่งน้อยมาก! เมื่อเปรียบเทียบราคาไม่รวมค่าส่งแล้วจะตกอยู่ที่ 11.80 บาทต่อ 1 ml ครับซึ่งผมถือว่าเราแพงเอาเรื่องนะ เพราะเมื่อเทียบกับ Platinum Carbon Black จากญี่ปุ่นแล้วจะอยู่ที่ 10.73 บาท/ml และถ้าเทียบกับ Noodler’s Black Bulletproof ก็จะอยู่ที่ 4.47 บาท/ml จึงจัดได้ว่าหมึก De Atramentis ตัวนี้แพงที่สุดในกลุ่มหมึกกันน้ำสำหรับการสเก็ตช์เลยครับ ทั้งนี้อาจจะด้วยมาจากที่ว่าเป็นหมึกที่ผลิตที่เยอรมันแต่มีการนำเข้ามาขายที่อังกฤษ จึงทำให้ราคาแพงขึ้นอันเนื่องมาจากค่าขนส่งครับ มันจะคุ้มมั้ยเนี่ย?????
…ทดสอบกันเถอะ
Color สิ่งที่ทำให้ผมติดใจหมึกตัวนี้มากมายอย่างแรกก็คือสีของมันครับ หมึกตัวนี้เป็นหมึกที่มีสีดำเข้มข้นสูงตัวหนึ่งทีเดียวครับ ผมลองเอาหมึกมาปาดเทียบเคียงกับหมึก Platinum Carbon Black ที่ผมทั้งรักและเทิดทูนบูชาและคิดว่ามันก็มีสีดำมากมายอยู่แล้ว แต่กลับก็พบว่าสีของหมึก De Atramentis นั้นดำเข้มกว่าพอสมควร อีกทั้งสีที่ได้เมื่อแห้งก็จะออกไปทางโทนดำด้าน ผิดกับ Platinum Carbon Black ที่จะขึ้นเงาเล็กน้อยทำให้แลดูเหมือนว่าสีอ่อนกว่า
Feather เท่าที่ลองส่องด้วยตาเปล่าจะพบว่าไม่มีอาการเส้นแตกแต่อย่างใดครับ จะมีบางครั้งจริงๆ ที่เราเผลอลากเส้นช้าจนเกินไปก็จะทำให้หมึกไหลล้มไปตามเยื่อกระดาษได้ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ได้สลักสำคัญอะไรครับ
Dry Speed เสียดายอย่างนึ่งครับที่หมึกตัวนี้กลับไม่ได้เห้งเร็วเหมือนหมึกตัวอื่นๆ ผมลองทดสอบด้วยลามี่ nib ขนาด F ดูก็พบว่า 5 วินาทีแห้งไม่สนิทนะเอ้อ ดังนั้นจะใช้สเก็ตช์ก็ต้องระวังหน่อยนะครับอย่ามันมือถูสมุดถูหน้ามั่วซั่วล่ะ
Bleed ซึมครับแต่ไม่มากมายเท่า Platinum Carbon Black ซึ่งนี่คือข้อดีครับ
Ink Flow อันนี้และที่ผมสะใจมาก นั่นก็เพราะหมึกตัวนี้ไหลลื่นท่วมท้นดีมากครับ จะเห็นว่าผมได้ลองสเก็ตช์ด้วยปากกาแบบหัวตัดซึ่งมีการใช้หมึกที่เยอะกว่าปรกติ หมึกก็สามารถไหลลื่นส่งได้ทันในทุกท่วงท่าลีลาการเขียนครับ
Smooth เขียนสนุกครับหมึกตัวนี้ ไม่มีอาการฝืดมือใดๆ เพราะไม่ใส่หมึกที่มีส่วนผสมของน้ำที่เยอะ ประกอบกับที่เป็นหมึกที่ไหลได้ดีทำให้เขียนหรือสเก็ตช์ก็ลื่นไหลไม่มีสะดุดครับ
Smell อืมมมมม ผมไม่ค่อยปลื้มกลิ่นมันเท่าไหร่แฮะ ครั้งแรกที่สูดดมผมรู้สึกเหมือนยืนอยู่ข้างเตาถ่านที่ไฟกำลังลุกไหม้ แต่พอเพียรดมไปสักพักผมก็รู้สึกฉุ่นกลิ่นของสารเคมีครับ มันคล้ายๆ กับกลิ่นหมึกของปากกาเขียนกระดานไวท์บอร์ด เหม็นเนอะว่ามั้ย?
Waterproof อันที่จริงผมใช้หมึกตัวนี้มาเป็นเวลานานกว่าสามเดือนครับหรืออาจจะมากกว่านั้น หลายภาพที่ผมได้สเก็ตช์ลงสมุดของบล็อกตอนอื่นๆ รวมถึงภาพบนอินสตาแกรมหลายภาพผมก็ใช้หมึกตัวนี้สเก็ตช์ครับ นั่นก็เป็นเพราะผมต้องการหาจุดแย้งในเรื่องการกันน้ำของมัน ซึ่งผลที่ได้ก็คือ “ไม่มีข้อโต้แย้ง” ผมลองเขียนลงบนกระดาษ A4 แล้วแช่น้ำเหมือนทุกที ลองเอามือขยี้ๆๆ เพื่อให้หมึกไหล ลองเขียนตัวหนังสือแล้วเอาพู่กันที่ชุ่มน้ำพุ่งเข้าบดขยี้ก็ไม่พบอาการหมึกไหลเลอะเทอะออกมาเหมือนกับหมึกตัวก่อน Private Reserve Invincible Black แม้แต่น้อย
นอกจากนั้นผมยังได้ทำการสเก็ตช์แบบด่วนๆ เน้นมั่วด้วยปากกาลามี่หัวตัดเพื่อให้ได้เส้นที่ใหญ่หมึกท่วมแถมถมดำอีกต่างหากเพื่อจะได้ทำสอบให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย ผมใช้สีน้ำละเลงแบบไร้กระบวนท่า น้ำหลากน้ำแห้งฝีแปรงถูซึ่งผลที่ได้ก็ตามที่ได้เห็นในภาพรถเข็นขายลูกชิ้นภาพนี้ครับ ไม่มีอาการหมึกไหลปนออกมาแม้แต่น้อย ผมไม่สามารถบรรยายความอิ่มเอมในครั้งนี้ได้จริงๆ ความรู้สึกมันคล้ายๆ กับผมได้มีโอกาสเห็นประตูสวรรณ์รำไรๆ…ในความหมายที่ดีนะ เพราะในที่สุดเราก็ได้ค้นพบหมึกเทพกันน้ำระดับสูงสุดผู้ที่สามารถทัดเทียมกับหมึกเทพแห่งแดนนิรันดร์ Platinum Carbon Black ได้ในที่สุด!!
ข้อสังเกต
หมึกตัวนี้เป็นหมึกที่มีความยึดติดที่สูงมากครับสังเกตได้จากความสามารถในการกันน้ำดูก็ได้ ผมลองเอาหลอดหมึกที่เติมหมึกตัวนี้แต่ใช้จนหมดแหล้วมาดูคราบที่หลงเหลืออยู่ก็พบว่า มีหมึกบางส่วนที่ยังเกาะอยู่ตามผนังหลอดหมึกด้านในด้วย หมุนก้านสูบหมึกเข้าออกยังไงก็ยังติดแน่นอยู่ ทราบใช่ไหมครับว่ามันหมายความว่ายังไง? มันหมายความว่าคุณผู้อ่านต้องขยันล้างปากกาด้วยนะ! ขนาดหลอดหมึกที่ลื่นๆ หมึกยังติดขนาดนี้ และภายในปากกาก็จะต้องยิ่งติดแน่นแน่นอนครับ!
แต่!! ถึงแม้ว่าหมึกตัวนี้จะติดแน่นคงทนอย่างไร แต่ตลอดกว่าสองสามเดือนที่ผ่านมา ปากกาลามี่ที่ผมได้เติมหมึกตัวนี้ลงไปนั้นจะมีบ้างบางครั้งที่ต้องตั้งทิ้งไว้โดยไม่ใช้งานเป็นสัปดาห์ พอเปิดปลอกมาใช้อีกทีก็ไม่พบอาการหมึกตันใดๆ ครับทั้งที่ผมคิดว่าต้องล้างปากกาแน่ๆ ใช้ไปมาเติมหมึกไป 3 – 4 รอบก็ยังเขียนได้ดีไม่มีปัญหา จุดนี้น่าจะถูกใจสเก็ตช์เชอร์สายนอนเยอะวาดน้อยหลายๆ คนครับ(ผมล่ะช๊อปชอบ)
ทิ้งท้ายด้วยคำแนะนำสำหรับใครที่กำลังหาหมึกคู่ใจสำหรับการสเก็ตช์จากผมสั้นๆ ก็คือ “ไปซื้อซะ!” หมึก De Atramentis : Document Black ตัวนี้ใช้ได้ดีมากถึงขนาดที่ว่าผมสามารถปันใจจากหมึก Platinum Carbon Black ที่ผมยกให้เป็นที่หนึ่งในได้อย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งการไหลของหมึกที่ยอดเยี่ยม สีดำเข้าที่เด่นชัด ความสามารถในการกันน้ำที่ยากจะหาใครมาเทียบเคียงได้ ถึงแม้ว่าราคาอาจจะสูงไปสักหน่อย แต่ด้วยสีที่เข้มเห็นได้ชัดก็ทำให้ตัดสินใจเเลือกได้ไม่ยากเย็นนัก ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ผมเชื่อแน่ครับว่าหากคุณได้ลองใช้ดูเพียงแค่ชั่วครู่อึดใจ คุณจะต้องตกหลุมรักและบรรจุให้เป็นหมึกประจำกายเช่นเดียวกับผมแน่ๆ ครับ