โอ๊ยย! ปวดแขนจริงๆ เล๊ย! ทำไมกระเป๋าสะพายของผมมันถึงได้หนักขนาดนี้!? ยิ่งแบกยิ่งเตี้ย ยิ่งเขี่ยยิ่งเพลียแรง ยิ่งแซงยิ่งแข้งล้า ยิ่งบ้าคนอ่านยิ่งหาย! (ยิ่งพิมพ์น้ำตาก็ยิ่งไหล) ก็ลองคิดดูสิครับว่าในกระเป๋าที่ผมสะพายมาไหนไปไหนอยู่ทุกวันมันรกรุงรังไปด้วยข้าวของที่ “แสนจะจำเป็น” ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นปากกาสำหรับสเก็ตช์ภาพกว่า 10 ด้าม พู่กันขนาดพกพา 2 อัน สมุดสเก็ตช์ขนาด pocket เหมาะมืออีก 2 เล่ม แน่นอนว่าต้องพกสีน้ำไปไหนมาไหนด้วยดังนั้นจะขาดจานสีไปไม่ได้เลย ซึ่งจานสีอันนึงก็ขนาดใหญ่โตเกะกะ และยิ่งเป็นยุคสมัยนี้ที่เราต่างก็ติดโทรศัพท์มือถือ ว่างเมื่อไหร่เป็นกด เราจึงจำเป็นจะต้องพกแบตเตอร์รี่สำรองติดตัวพ่วงไปอีกด้วย นี่ผมคิดว่ากระเป๋าผมเบาแล้วนะ แต่เชื่อมั้ยว่าเพื่อนผมอีกหลายคนที่เป็นสเก็ตช์เชอร์สาวยังมีทั้งเครื่องสำอาง กล้องถ่ายรูป ไอแพด หรือหนุ่มๆ บางคนยังมีหูฟังขนาด full-size พร้อมแอมป์อีกด้วย!

บอกแล้วไงว่ากระเป๋าผมหนัก แต่แค่เรื่องหนักอย่างเดียวมันก็กลับเป็นเรื่องที่จิ๊บจ๊อยไปเลยถ้ามาเทียบกับเรื่องความรุงรังเมื่อทำการสเก็ตช์ ผมมักจะพูดอยู่เสมอๆ ว่าหากจะออกไปสเก็ตช์นอกบ้านเราจะต้องคล่องตัวให้มากที่สุด ต้องสามารถสเก็ตช์ได้ไวและง่าย เพื่อเก็บภาพได้อย่างรวดเร็วและใช้เวลาไม่นานจนเกินไป และสเก็ตช์เชอร์สายสีน้ำอย่างผมก็ล้วนแล้วแต่ถือกำเนิดมาพร้อมกับดาวแห่งความรุ่งรัง สเก็ตช์ลายเส้นเสร็จก็ต้องเอาจานสีออกมากางบนโต๊หรือบนพื้น เอากระป๋องน้ำออกมาวางหากว่าใช้พู่กันแบบธรรมดา วันไหนพก waterbrush มาก็สะดวกมากหน่อย และแน่นอนว่ายังต้องกางกระดาษทิชชูไว้เพื่อซับสีด้วย เป็นไงครับ? เรื่องเห็นภาพหรือยังว่าผมต้องใช้พื้นที่มากมายแค่ไหน

ขอเล่นย้อนไปสมัยก่อนตอนที่ผมเพิ่งเริ่มต้นหัดสเก็ตช์ภาพ หลายคนอาจจะเคยฟังแล้ว…ซึ่งผมก็งงว่าเคยไปฟังมาจากที่ไหนเหรอ? แต่ช่างเหอะผมจะเล่า คือผมเคยไปนั่งสเก็ตช์ภาพในร้านกาแฟครับ ก็อยากจะเก็บภาพมุมๆ นึงในร้านที่คุ้นตาเพื่อเก็บไว้ดู ตอนสเก็ตช์ลายเส้นก็ไม่เท่าไหร่ครับแค่หยิบสมุดขึ้นมาแล้วก็ใช้ปากกาลามี่คู่ใจวาดเส้นลงไป หยิบสมุดขึ้นมาวาดก็ได้ไม่เปลืองพื้นที่โต๊ะมากมายนัก แต่เมื่อถึงขั้นตอนลงสีเท่านั้นแหละผมก็หยิบทั้งจานสี ทั้งพู่กัน และปูกระดาษทิชชูขนาดเท่าฝ่ามือลงบนโต๊ะ สายตาหลายคู่ในร้านก็จับจ้องมาที่ผมและพลางสงสัยว่า “มันบ้านี่มันจะทำคุณไสยหรือวะ?” เด็กอีกคนที่มากับคุณแม่จู่ๆ ก็ร้องออกมาว่า “แม่ๆ ผมอยากเล่นผีถ้วยแก้วกับพี่คนนั้นๆๆๆ” ในหัวตอนนั้นผมแทบอยากจะหนีออกจากร้าน แต่ก็คิดขึ้นได้ว่า ‘ก่อนออกร้านขอไปตบหัวไอเด็กนี่สักทีดีกว่า’

ถึงแม้ว่าผมจะเป็นเซเลปชื่อดังที่ใครหลายคนต่างก็รู้จัก ไปไหนมาไหนก็มีแต่คนร้องทักและขอลายเซ็น (มโนได้สุดติ่งจริงๆ หว่ะ กร๊ากก) ผมรู้ตัวครับว่าผมเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองพอสมควร แต่การที่ผู้คนที่เดินผ่านไปมา หยุดมองเวลาที่เราสเก็ตช์มักทำให้ผมเขินม้วนได้เหมือนกัน (อีกนัยหนึ่งคืออายกับฝีมืออันกากเกลื้อนของตัวเอง) ผมจึงอยากที่จะสเก็ตช์โดยเป็นจุดสนใจน้อยที่สุดและสะดวกที่สุดโดยไม่ต้องกางนู่นกางนี่เยอะแยะลงบนพื้นหรือบนโต๊ะ แค่ถือสมุด จานสีและปากกา แล้วก็ลงมือสเก็ตช์ได้ง่ายๆ ก็เพียงพอแล้ว สมุดก็เล็กแล้ว ปากกาและพู่กันก็ไม่มีปัญหา จะเหลือก็แต่เพียงจานสีนี่แหละที่ยังเทอะทะถือไม่สะดวกเอาเสียเลย

Fome Watercolor Palette : Pocket Size Box

Fome Watercolor Palette : Pocket Size Box คืนจานสีที่เรียกได้ว่า ‘รูปร่างเล็กแต่ซ่อนรูปจริงๆ’ …อย่าครับอย่าเพิ่งคิดไปถึงไหนไกลเกินไป จานสีอันนี้ไม่ใช่น้องนางร่างน้อยแต่อุดมไปด้วยดัชมิลล์คิดส์กล่องใหญ่ที่ไหน แต่เป็นจานสีที่มีขนาดเล็กแต่ครบถ้วนทุกองค์ประกอบสำหรับการใช้งานครับ แต่ก่อนที่จะไปล่วงล้ำตินแดนแห่งน้ำนมดิบ เห้ย! ก่อนที่จะไปดูหน้าตาของเจ้าจานสีอันนี้ ผมอยากจะเปิดเผยแหล่งจัดจำหน่ายกันก่อนครับ! (ว่าแต่ว่า…มีเด็กและสตรีอ่านกันเยอะมั้ยอ่ะเว็บนี้???)

ด้วยความสัตย์จริง ผมเป็นคนมือเล็กครับขนาดที่ถือลูกบาสมือเดียวยังไม่ได้เลย จานสีอันนี้ก็ยังเล็กกว่ามือผมมากทีเดียว

ผมได้จานสีอันนี้มาจากเว็บไซต์ Arters เว็บที่เน้นขายอุปกรณ์วาดภาพสำหรับสีน้ำ โดยเฉพาะสีน้ำยี่ห้อ Danial Smith สมุด Stillman & Brin รวมไปถึงพู่กันยี่ห้อ Escoda ครับ (แต่พวกนี้ราคาไม่เย้ายวนใจ ไปซื้อที่อื่นจะได้ราคาที่ถูกกว่านะ) โดยจานสีของ Fome ที่มีขายบนเว็บนี้มีด้วยกัน 2 ขนาดครับคือขนาด pocket box (อันที่ผมเอามาให้ชมกันในวันนี้) และขนาด travel box ซึ่งทั้งสองขนาดมีคุณสมบัติแตกต่างกันดังนี้

Pocket Box : 811.32 บาท (32.00 SGD) : สำหรับ pan ใส่สีขนาด half 12 สี
Travel Box : 1,825.48 บาท (72.00 SGD) : สำหรับ pan ใส่สีขนาด full 12 สี หรือ half 24 สี

ตอนที่ผมสั่งจานสีอันนี้มานั้นผมสั่งอย่างอื่นติดไม้ติดมือมาด้วยครับ นั่นก็คือ pan (แพน) สำหรับใส่สีทั้งขนาด half และ full ซึ่งเดี๋ยวจะพูดถึงในตอนท้ายๆ นะ โดยค่าขนส่งรวมทั้งสิ้น 7.50 SGD หรือประมาณ 190.15 บาทครับ ส่งโดยบริการของ Singapore Post มีเลข tracking no. มาให้ด้วย โดยจากการสั่งของทั้งสองครั้งก็ได้รับพัสดุในเวลา 4 วันและ 7 วันถือว่าเร็วมากและไม่บุบสลายอะไรเลย รวมราคาทั้งหมดก็อยู่ที่ 39.5 SGD หรือ 1,001.48 บาท …แพงเว้ยไอจานสีบ้านี่!

เทียบขนาดกับอาวุธที่พวกเราพกติดตัวกันอยู่เป็นประจำ

ความบางก็บางพอๆ กับสมุดในตำนานและปากกาเทพลามี่เลย

จานสีอันกลางวันหลังจะเขียนให้อ่านกันนะ

ด้านหลังมีห่วงสำหรับสอดนิ้วเพื่อความมั่นคง

แกะห่อพัสดุออกมาจานสีน้ำก็แทบร่วง เพราะมันมีขนาดเล็กกระทัดรัดมากจนผมยังงงเลยว่าถ้ามันจะเล็กขนาดนี้ชาติหน้าก็ไปเกิดเป็นตลับแป้งเหอะ คือขนาดของมันเทียบเท่าได้กับตลับแป้งเติมหน้าของสาวๆ เลยครับ ขนาดวัดได้แบบเท่ๆ คือ 9.7cm x 6.2cm x 2.5cm (แลดูมีสาระเนาะทั้งๆ ที่ไปก๊อปเค้ามา) วัสดุทำจากเหล็กในทุกส่วน เคลือบด้วยสีกันสนิมรอบจานสีดำ ด้านล่างของจานสีมีห่วงเหล็กเล็กๆ สามารถพับเก็บได้ เอาไว้ใช้สำหรับสอดนิ้วเพื่อความมั่นคงเวลาเราถือจานสีด้วยมือข้างเดียว

ช่องผสมสีสองช่องขนาดกำลังพอดีแต่ถ้าเป็นคนที่ชอบช่องกว้างๆ อาจจะหงุดหงิดได้เพราะไม่สะใจ

มีลิ้นเหล็กสองชิ้นเพื่อใช้ยึด pan ใส่สี

เปิดฝาจานสีออกมาก็จะพบกับพื้นที่ภายในที่เป็นสีขาวสว่างครับ ข้างในก็เคลือบด้วยสีกันสนิมเหมือนกันและเป็นแบบลื่นทำให้สามารถทำความสะอาดได้ง่ายและไม่ทำลายขนพู่กันครับ เพราะถ้าพื้นผิวของจานสีเป็นแบบด้านหรือมีผิวหยาบ มันก็จะทำลายขนพู่กันขนสัตว์อันสูงค่าของเราลงทีละนิด ทีละนิด ทีละนิด ทีละ.. พอ!! โดยส่วนของฝานั้นจะแบ่งเป็นช่องสำหรับผสมสี 2 ช่องครับ ซึ่งเพียงพอแล้วสำหรับการออกไปสเก็ตช์นอกบ้าน อีกฝั่งที่เป็นจุดเด่นของจานสีอันนี้ก็คือในส่วนของหลุมใส่สีครับ คือจานสีอันนี้จะไม่มีหลุมใส่สีมาให้ในตัวนะ ดังนั้นจะต้องซื้อ pan มาใส่เอง ซึ่งขนาดที่แนะนำสำหรับจานสีรุ่น pocket box นี้คือ half pan ครับ และสามารถใส่ได้ถึง 12 สีซึ่งเพียงพอกับการสเก็ตช์ภาพแน่ๆ (ใครใช้สีเยอะกว่านี้ก็ทำใจหน่อยนะ) โดยสีน้ำ ‘ชนิดก้อน’ ขนาด half หรือ full pan นั้นจะเป็นขนาดมาตรฐานเหมือนกันทั่วโลก ดังนั้นหากคุณไปซื้อสีน้ำชนิดก้อนขนาด half pan ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อ Winsor & Newton หรือ Sennelier ที่มีขายในบ้านเราก็จะสามารถนำมาใส่ในจานสีอันนี้ได้เลยครับ

จัดแจงใส่ pan ก็จะได้ดังภาพ มีสามแถวแถวละสี่สี

พอกดลิ้นลงไปก็สามารถยึด pan ไว้ได้แน่นหนามาก

คว่ำจานสีลงก็ไม่มีร่วง สเก็ตช์ท่ามกลางพายุยังได้เลยนะ #ไปคนเดียวเถิดพ่อคุณ

วิธีการใส่ pan ของจานสีอันนี้มันจะดูรุงรังนิดๆ เพราะเค้าใช้วิธียึด pan ไว้ด้วยลิ้นที่ทำจากอลูมิเนียม โดยเราจะต้องดึงลิ้นที่ว่านี้ออกมาจากจานสีก่อนแล้วถึงค่อยวางเรียง pan แต่ละอันลงในจาน เมื่อจัดจำแหน่งเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงค่อยนำลิ้นยึดอันนี้กดลงไปครับ ซึ่งจากที่ผมลองคว่ำและเขย่าจานสีดูก็แน่นหนาดีครับ หมดห่วงเรื่อง pan หลุดออกมาจากจานสีได้

เค้าขายเป็นห่อ ห่อละ 10 pan ราคาเดียวกันทั้งขนาด half และ full

เทียบขนาดกันชัดๆ จะเห็นว่า pan ขนาด full จะมีขอบที่หนาว่าเล็กน้อย

ผมแกะเอาสีแบบก้อนของจานสีอีกอันนึงที่ผมพกติดตัวยี่ห้อ Sennelier มาลองใส่ดูครับ ซึ่งจานนั้นก็มีอยู่ 12 สีพอดิบพอดี

แน่นอนว่าจานสีอันนี้ไม่ได้แถม pan สำหรับใส่สีมาให้ด้วยเลย ดังนั้นเราจึงต้องซื้อครับ…หรือใครมีอยู่แล้วก็เปลี่ยนมาใส่ได้เลยนะ แต่ก็อย่างว่าแหละตัวผมเป็นคนที่มีสีแบบหลอดเยอะมากและชอบใช้สีตามใจฉันลองยี่ห้อนู่นนี่ไปเรื่อย ล่าสุดก็ได้สีน้ำเกรด premuim artist อย่าง ShinHan Art PWC Artist Water Color มาหลายสีซึ่งแต่ละสีก็ล้วนแล้วเด็ดๆ ทั้งนั้น ผมจึงต้องมี pan เพื่อที่จะบีบสีไว้ใช้นอกสถานที่ครับ โดย pan ที่ว่านี้ก็อย่างที่บอกว่ามีด้วยกัน 2 ขนาดมาตรฐานโลกคือ half และ full โดยที่เว็บ arters.com.sg ก็มีขายพร้อมเลย โดยราคานั้นจะอยู่ที่ 5 SGD ต่อ 10 pan หรือก็คือ 126.77 บาท ตกอยู่ที่ pan ละ 12.50 บาทครับ ไม่ว่าจะเป็น pan เล็กหรือใหญ่ครับ

ประกอบร่างเสร็จก็จะเป็นแบบนี้ล่ะ สวยงามและเล็กกระทัดรัดมาก

วางเทียบกับจานสี Winsor & Newton Cotman Sketchers’ Pocket Box ที่เคยรีวิวไปเมื่อชาติก่อนนู้นก็ยังเล็กกว่าอีกนะ เจ๋งจริงๆ

อยากใส่ pan ใหญ่แต่ร่างกายไม่เอื้ออำนวย!

แน่นอนว่าผมใช้สีน้ำจริงๆ จังๆ อยู่ไม่กี่สีเพราะเน้นผสมสีเองครับ ผมเลยลองเปลี่ยนนู่นใส่นี้ เอา pan ขนาด full มาลองใส่ในจานสีทั้งๆ เค้าก็แนะนำว่ามันใส่ได้แต่ขนาด half ก็เลยกะว่าจะใช้ขนาด full นี่แหละใส่สีที่ใช้บ่อยๆ อย่าง Quinacridon Gold หรือ Burnt Sienna เป็นต้น แต่ปรากฏว่าผมไม่สามารถนำขนาด full มาใส่ได้เลยครับเพราะ pan ขนาด full จะมีความหนากว่าขนาด half อยู่นิดนึง ทำให้เพื่อกดลิ้นเพื่อยึด pan มันจึงกดไม่ลงครับ ไม่ว่าจะลองใส่ขนาด full กี่อันก็ตามหรือจะแค่อันเดียวมันก็เพียบ pan ขนาด half จนไม่สามารถใส่ลิ้นยึดลงไปได้ครับ เลยจำเป็นต้องใช้แต่ขนาด half ไปละกันนะ

ข้อสังเกต

ตามความเห็นผมนั้นผมว่าจานสีอันนี้เหมาะมากกับการออกไปสเก็ตช์นอกบ้านสำหรับสเก็ตช์ที่ไม่ได้ใช้สีมากมายนักและถนัดในเรื่องการผสมสีได้เองครับ หากเป็นคนที่หลักๆ แล้ววาดภาพใช้ทุกสีที่มีบนจานสีอาจจะหงุดหงิบบ้างเพราะกว่าจะได้สีที่ใช่คงหงุดหงิดแน่ๆ อีกเรื่องนึงที่สำคัญคือ คุณเป็นคนที่ใช้หลุมผสมสีแบบไหน? หากเป็นคนที่ใช้พื้นที่ในการผสมสีขนาดใหญ่ ผมคิดว่าไม่สะดวกแน่ๆ เพราะขนาดของช่องทั้ง 2 ช่องมันเล็กเหลือเกินครับ จะผสมสีทิ้งไว้แล้วมาป้ายๆ เอาไประบายทีหลังมีเลอะแน่ๆ แต่ถ้าหากระบายเสร็จแล้วขยันเช็ดก็ไม่มีปัญหานะ และแน่นอนว่าหากจะไปสเก็ตช์นอกบ้านด้วยจานสีอันนี้ waterbrush ก็จะช่วยให้การสเก็ตช์ทำได้สะดวกยิ่งขึ้นไปอีกครับ ตัดปัญหาเรื่องการล้างพู่กันออกไป สามารถถือจานสีมือข้างเดียวกันกับที่ถือสมุดและลงสีได้เลยครับ

อีกเรื่องนึงที่ผมเซ็งจับจิตจับใจนั่นก็เป็นเรื่องของความสวยงามครับ ผมรู้นะว่าเราต้องตัดสินคุณค่าของสิ่งของจากการใช้งานเป็นหลักโดยเฉพาะเจ้าจานสีนี่มันต้องคำนึงถึงคุณค่าเซ่!! แต่ถ้าลองมองดูจากภาพที่ผมถ่ายมาให้ดูจะเห็นว่า สีเคลือบที่เป็นสีดำกันสนิมด้านนอกนั้น จะมีจุดเล็กๆ ปูดขึ้นมาครับซึ่งนั่นมันเป็นฟองอากาศ! กลายเป็นว่าบางจุดที่เค้าพ่นสีมาไม่ดีกลายเป็นจุดๆ ดูไม่เรียบเนียน ไอตรงนี้นี่แหละที่ผมขัดหูขัดตายิ่งนัก

ล…ลืมเอาพู่กันมาถ่ายรูปด้วย!

ยอดไปเลยใช่มั้ยครับกับ Fome Watercolor Palette : pocket box จานสีที่ทั้งเล็กและเบาแต่ครบถ้วนเรื่องการใช้งาน ขนาดเล็กกระทัดรัดน้ำหนักเบาสามารถถือได้ด้วยมือเดียวและสเก็ตช์ได้ง่าย มีจำนวนช่องผสมสีและช่องสำหรับใส่ pan สีที่พอเพียงสำหรับการใช้งาน พับปิดฝาก็เก็บได้ง่ายโยนใส่กระเป๋าได้เลยไม่เลอะเทอะ ถึงแม้ว่าราคาจะสูงไปหน่อย…จะว่าไปก็ถือว่าแพงมากทีเดียวสำหรับจานสีที่ไม่มีสีน้ำใส่มาให้ด้วย แต่ถ้าเพื่อแลกกับความสะดวกในการสเก็ตช์ ผมว่ามันก็เป็นจานสีที่น่าสนใจทีเดียว เห็นด้วยมั้ยครับ?

ปล. มันเว่อร์ไปหรือเปล่าครับที่ว่าจานสีหนักจนปวดแขน กร๊าากก