หลายคนที่ตามมาจากบนเพจคงจะคิดว่าอะไรของมัน “คืนนี้มีเหนียว” คงจะคิดว่าผมจะเขียนรีวิวเหนียวไก่ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้ แต่ที่จริงแล้วไอเหนียวๆ ที่ว่านั้นมันคือกาวต่างหากล่ะครับ อะไรนะ?! บีบีบล็อกรีวิวกาวเนี่ยอะนะ?!! อย่าครับอย่าเพิ่งโวยวายไป ผมรู้ครับว่าถึงแม้เว็บนี้จะเน้นเกี่ยวกับปากกาและหมึกเป็นหลักแต่ถ้าหากผมได้ไปพบเจอเครื่องเขียนอะไรเจ๋งๆ เท่ๆ ผมก็อดไม่ได้จริงๆ ที่จะเอามาให้ได้ชมกันครับ และที่สำคัญคือ ในการสเก็ตช์ก็สามารถใช้กาวร่วมด้วยนะเอ้อ!
Coccoina Glue จากประเทศอิตาลี กาวตัวนี้น่าสนใจที่มันเป็นกาวที่มีประวัติยาวนานเริ่มตั้นตั้งแต่ปี 1927 คิดๆ แล้วก็ตั้ง 87 ปีแหน่ะ! สูตรกาวที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อให้ได้คุณสมบัติที่เป็นเลิศและปลอดสารพิษเพราะผลิตจากมันฝรั่ง สามารถติดได้ทั้งกระดาษ รูปภาพ รวมไปถึงผ้า มีกลิ่มอัลมอนด์หอมหวานและไม่ทิ้งคราบดำบนกระดาษ จึงทำให้กาว Coccoina ได้รับความนิยมอย่างไม่เสื่อมคลาย
ผมได้รับกาวกลิ่นอัลมอนด์นี้มาจาก “ร้านละมุน สยามสแควร์ซอย 10” อีกแล้วครับท่าน โดยคุณจอยผู้ดูแลฝากกาวตัวนี้มาให้พร้อมกันกับตอนที่ส่งสีน้ำ PWC : Shinhan Art Premium Watercolor ที่ฮิตถล่มทลายเพราะคุณภาพที่สูงแต่ราคาถูกจึงทำให้เป็นสีคุ้มค่ามาก (ดูอวยเกินไปมั้ย?) พอ! เราคุยเรื่องกาวอยู่นะ! โดยกาว Coccoina ตัวนี้มาในรูปแบบของหม้อ? …เรียกว่ากระปุกอลูมิเนียมดีกว่าครับ ซึ่งจริงๆ แล้วกาว Coccoina นั้นมีด้วยกันหลายแบบหลายขนาดให้เลือกใช้ตามสะดวกครับ ซึ่งราคาก็ตามนี้
- แบบแท่ง : 10g 40บาท / 20g 55บาท / 40g 90บาท
- แบบกระปุก : 125g 150บาท
- แบบหลอด…ไม่มีขายแฮะ
หน้าตาของกระปุกกาวนี่ผมไม่รู้จะเอ่ยคำบรรยายยังไงนอกจากจะบอกว่า “มัน งาม มาก” ใช่ครับผมเป็นคนที่ชอบอะไรคลาสสิคๆ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การที่กาวที่ได้รับความนิยมมากว่า 80 ปียังคงหน้าตาของคุณภาพและบรรจุภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ไว้ดังเดิมเป็นเรื่องที่ยอดมาก ผู้ใช้งานสามารถรับรู้ได้ถึงประวัติอันยาวนานและการเดินทางของสิ่งนั้นได้ในครั้งแรกที่ได้เห็น และนี่เป็นสิ่งที่สินค้าเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นสมุดในตำนาน Moleskine หรือปากกาลามี่ยังคงได้รับความนิยมจวบจนถึงทุกวันนี้ครับ
เปิดฝาเพื่อดูข้างใน ทีแรกผมคิดว่ากาวมันมาแบบเป็นกระปุกมันจะต้องไหลเยิ้มหยดย้อยท่วมทุ่งข้าวสาลีแน่ๆ แต่กลับกลายเป็นว่าเนื้อกาวมันเป็นเหมือนยาหม่องที่มีสีขาวต่างหากล่ะครับ และแน่นอนว่าผมต้องพุ่งเข้าไปพิสูจน์ในทันที่ที่เค้าอวดอ้างมาว่ามีกลิ่นเหมือนอัลมอนด์จริงมั้ย ผมสูดดมกลิ่นเข้าไปแล้วก็พบว่า “นี่มันกลิ่นอัลมอนด์เหรอ?” เอิ่ม…คือผมไม่รู้จริงๆ ครับว่ากลิ่นอัลมอนด์มันเป็นยังไงกันแน่ เพราะว่าตอนที่ผมกินถั่วอัลมอนด์นั้น มันก็เป็นอันหมดเกลี้ยงก่อนที่ผมจะได้ดมด้วยซ้ำ (เรียกว่าถั่ว ‘อันหมด’ ก็เท่ดีนะ #มุกอะไร) แต่ถึงแม้ว่าผมจะไม่สามารถบอกได้ว่ามันเป็นกลิ่นของอัลมอนด์หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ คือกาวนี้มีกลิ่นหอมครับ กลิ่นมันหอมหวานจนไม่รู้สึกว่ามันเป็นกาวเลยจริงๆ …อดใจไม่ให้เลียนี่มันยากจริงๆ
หม้ออันนี้ เห้ย! กระปุกกาวอันนี้หน้าตาแปลกดีครับ ที่ผมว่าแปลกนั่นก็ตรงที่ว่าตรงกลางของกระปุกจะมีช่องวงกลมโบ๋ๆ อยู่ด้วย ทีแรกผมก็งงว่าจะมีช่องนี่มาทำไมเลยเอานิ้วแหย่ดูครับ งูฉก! ไอบ้า! ข้างในเค้ามีแปรงสำหรับทากาวใส่มาให้ต่างหากเล่า! ซึ่งผมว่ามันเท่ดีนะที่มีที่เก็บแปรงทากาวมาให้ในกระปุกเลยแถมเป็นช่องขนาดพอดีหยิบจับแปรงได้ง่ายไม่เลอะเทอะ
ผมลองเอานิ้วทิ่มกาวดูครับซึ่งก็ไม่รู้จะทำไปทำไม แต่ผมก็ทำไปแล้วล่ะ…และสิ่งที่ได้รู้ก็คือว่า เนื้อกาวสีขาวจะเป็นเหมือนยาหมองนั้นไม่แข็งเกินไปและไม่เหลวจนเกินไป และเมื่อเราเอาแปรงที่แถมมาให้ปาดเนื้อกาวเพื่อจะใช้นั้น ก็สามารถปาดเนื้อกาวได้ง่าย สามารถละเลงบนกระดาษได้เลยโดยเนื้อไม่จับตัวแข็งเป็นเม็ดเล็กๆ ครับ ซื้อตอนที่เราลองทากาวลงบนกระดาษนั้น ผมสังเกตได้ว่าเนื้อกาวมันจะลาลายกลายเป็นเหมือนน้ำเหลวข้นๆ ครับ ซึ่งก็ยิ่งทำให้เนื้อกาวทาง่ายและมีความใสเพิ่มขึ้นครับ
ทากาวกันเถอะ
กาวยี่ห้อนี่เน้นเรื่องไม่ทิ้งคราบดำบนกระดาษขาวครับ หึหึหึ คิดเหรอว่าบีบีบล็อกจะเข้าตามตรอกออกตามประตู (นิสัย!) อะไรที่เค้าว่าดีผมก็จะทดสอบให้เยอะเข้าไปอีกครับ ผมจึงเตรียมกระดาษสีน้ำตาลรวมถึงกระดาษสีดำมาเพื่อทดสอบนอกเหนือไปจากกระดาษสีขาวด้วยและผลก็เป็นตามนี้
จะเห็นว่าเนื่องจากเนื้อกาวที่เป็นสีขาวจึงทำให้รับรองได้ว่าไม่ทิ้งคราบดำบนกระดาษขาวแน่ๆ ส่วนกระดาษสีเข้มอื่นๆ ก็ให้ผลไม่ต่างกันครับ เนื้อกาวยังคงมีความใสในระดับที่ป้ายบนกระดาษสีก็ไม่เห็นสีของกาว ขนาดกระดาษสีดำก็ยังไม่เห็นสีของกาวเลยอ่ะ แต่ถ้าหากทากาวเยอะเกินไปก็จะเริ่มเห็นสีขาวของกาวบนกระดาษสีชัดขึ้นครับ ก็เล่นทาซะหนาเลยนี่!
*ในเรื่องของการยึดติดของกาวนั้นผมไม่ขอพูดถึงนะครับเพราะกระดาษก็ติดแน่นดีงามตามตำราของกาวทั่วไปครับ XD
เหมือนผมจะว่าง ผมก็เลยมานั่งคิดว่าถ้าเจ้ากาว Coccoina นี่มันเลอะมือเลอะหน้ามันจะล้างออกยากมั้ย? หรือว่าจะกลายเป็นตราบาปขัดจนตาย ผมเลยเอากาวละเลงบนฝ่ามือครับแถมเยอะด้วยนะ จากนั้นก็ลุกไปเอาที่เป่าผมมาเป่าเพื่อให้แห้งสนิทติดเร็วยิ่งขึ้น …บอกแล้วว่าว่าง จากนั้นผมก็ไปล้างมือด้วยน้ำเปล่าธรรมดาๆ นี่แหละครับก็สะอาดหมดจด
แล้วกาวมันเกี่ยวอะไรกับการสเก็ตช์?
ในหลายครั้งที่เราสเก็ตช์ภาพไปแล้วเกิดอยากแก้ไขขึ้นมา เราก็ต้องทำให้เส้นมันหายไปใช่มั้ยครับ? หากสเก็ตช์ด้วยดินสอก็ง่ายหน่อยแค่เอายางลบมาลบก็ออก แต่ถ้าเป็นสายปากกาหมึกซึมหมึกกันน้ำละก็เรื่องใหญ่ลบไม่ได้แน่นอน ไปวาดใหม่ซะ ดังนั้นเราจึงต้องทำการ “ซ่อมภาพ” ด้วยการหากระดาษอีกแผ่นมาแปะลงบนภาพที่เราสเก็ตช์ไปครับ ยกตัวอย่างเช่นผมสเก็ตช์ภาพตึกแล้วดันวาดหลังคาเบี้ยวหรือพลาดไปเลยไม่ได้สัดส่วน ผมก็สามารถนำกระดาษแผ่นเล็กๆ มาตัดแล้วแปะทับเฉพาะส่วนหลังคาแล้วก็สเก็ตช์บนกระดาษแผ่นใหม่นั้นได้เลย ซึ่งมีสเก็ตช์เชอร์หลายท่านเลยนะที่ใช้วิธีนี้ แถมเค้ายังเด็ดดวงกว่านั้นด้วยการใช้กระดาษสีอื่นแปะทับไปเลยแล้วก็สเก็ตช์ต่อบนกระดาษสีแผ่นใหม่นั่นเลย ซึ่งผลที่ออกมาก็เจ๋งไปอีกแบบนะ เท่!
หรือหากคุณเป็นสเก็ตช์เชอร์สาย sketch journal ที่ชอบสะสมพวกนามบัตร แสตมป์หรือรูปถ่าย(ที่เป็นแผ่นจริงๆ) ก็สามารถเอานามบัตรหรือรูปแปะลงบนสมุดสเก็ตช์ได้ แล้วก็ทำการสเก็ตช์พร้อมเขียนเรื่องราวเพิ่มเติมลงไปในหน้านั้น ก็ถือว่าเป็นอีกสไตล์ที่สนุกและสามารถเก็บทุกเรื่องราวได้อย่างดีทีเดียวครับ เช่นผลงานของน้องแพร Pair notebook และนี่เป็นผลงานตัวอย่างของน้องเค้าครับ คลิกที่นี่เพื่อดูภาพ)
ข้อสังเกต
แน่นอนว่ากาวตัวนี้มีกลิ่นอัลมอนด์ แต่เมื่อกาวแห้งก็จะไม่มีกลิ่นหลงเหลือนะครับ ดังนั้นใครที่รอลุ้นว่าสมุดจะหอมกลิ่นอัลมอนด์ก็ฝันค้างเคี้ยวถั่วไปพลางๆ ก่อนละกัน
ยอมรับเลยครับว่าเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับผมมากที่ได้ทดลองใช้กาวที่มีกลิ่นอัลมอนด์อย่าง Coccoina ตัวนี้ เนื้อกาวขาวไม่ทิ้งคราบบนกระดาษ กลิ่นหอมหวานที่ใช้ครั้งใดก็เพลิดเพลิน และที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องของความปลอดภัย สามารถใช้กาว Coccoina ได้อย่างสบายใจไม่ต้องกังวลเรื่องสารพิษที่เป็นอันตรายเพราะผลิตจากวัตถุดิบที่เป็นธรรมชาติ หากใครกำลังมองหากาวกระปุกใหม่สำหรับงานประดิษฐ์หรือเป็นแฟนพันธุ์แท้ scrapbook ลองหา Coccoina มาใช้ดูนะครับ แปลกใหม่ปลอดภัยน่าสนุกจริงๆ XD