ตั้งแต่ที่ผมเห็นตัวอย่างภาพยนต์เรื่อง The Hobbit: The Battle of the Five Armies ภาคใหม่ตามที่ต่างๆ ผมก็รับรู้ได้ถึงชะตากรรมช่วงสิ้นปีของผมแล้วล่ะครับ หลายคนคงจะคิดว่ามันเป็นชะตากรรมที่ต้องไปดูหนังผจญภัยสุดแฟนตาซีเรื่องดังของนักเขียนในตำนาน J.R.R.Tolkien ผู้เขียนเรื่อง The Lord of the Rings สินะ …เปล่าเลยครับ ชะตากรรมที่ผมว่ามันไม่ได้สวยงามแบบนั้นหรอก แต่มันเป็นชะตากรรมเกี่ยวกับการเสียเงินเสียทองต่างหากเล่า! แถมครั้งนี้ก็เสียหนักด้วยนะ!
Moleskine The Hobbit Limited Edition Box โอ้ยๆๆ บ้าไปแล้ว ผมไม่เคยเห็นสมุดในตำนาน Moleskine เล่มใดเหมือนเล่มนี้มาก่อนเลยครับ แน่นอนว่าเราคุ้นเคยกันแล้วกับสมุดรุ่น Limited Edition ของ Hobbit กันมาถึง 2 รุ่น คือ Moleskine : The Hobbit Limited Edition 2013 และ Moleskine : The Hobbit Limited Edition แต่ว่าครั้งนี้พิเศษแตกต่างรุ่นพิเศษใดๆ ตรงที่ความบ้าพลังครับ
ก่อนจะไปชมความบ้าพลังเราไปตามหาแหล่งที่ขายกันก่อนนะ จำได้มั้ยครับว่าถ้าหากต้องการจะซื้อสมุดในตำนาน Moleskine ราคาคุ้มค่ากับเงินทุกบาททุกสตางค์แถมส่งฟรีทั่วโลกเราต้องไปตามหาจากที่ไหนครับ?! ใช่แล้วต้องเว็บนี้! bookdepository.com โดยราคาเต็มๆ แพงๆ ขูดเลือดขูดเนื้อจะอยู่ที่ 1,537.36 บาท แต่ด้วยโปรโมชั่นลดราคา 43% ในตอนนี้จะเหลือเพียง 873.29 บาท ประหยัดไปได้ถึง 664.07 บาท! นี่แกประหยัดแล้วจริงเหรอบิลโบ?!!
ทำไมมันถึงได้แพงได้ขนาดนี้?? งั้นเรามาดูกันเถอะว่าเพราะอะไรกันแน่ สิ่งแรกเลยก็คือ “กล่อง” Moleskine The Hobbit Limited Edition เล่มนี้ขายมาเป็นกล่องครับ โดยกล่องนั้นหน้าตาเหมือนกล่องเกมคอมพิวเตอร์มาก ทีแรกที่แกะห่อผมก็นึว่ากดสั่งมาผิดดันไปสั่งเกมมาซะได้ …สงสัยต้องซื้อคอมใหม่ซะแล้ว(หาเรื่องจริงๆ) หน้าตากล่องก็หรูหราและคงความเป็น Hobbit ไว้ครบถ้วน ส่วนด้านหลังก็อธิบายว่าในกล่องนี้มีอะไรให้มาบ้าง…ไม่อ่านล่ะขอเปิดเลย!
ฝากล่องเปิดจากด้านหน้าเหมือนเปิดสมุดครับ ในฝากล่องด้านหลังมีข้อความ quote ของ J.R.R.Tolkien ผู้แต่งไว้ว่า “Little by little, one travels far” ซึ่งอันนี้เป็นประเด็นถกเถียงว่าใช่ข้อความจากผู้แต่งจริงหรือไม่ แต่ช่างเถอะครับเพราะความหมายดีและเท่มาก! ผมข้ามไปหยิบสมุดออกมาก่อนครับเพราะอยากจะชื่นชมด้านในของกล่องครับ ด้านในกล่องนั้นมีรูปภาพประตูบ้านของบิลโบเปิดออกเพื่อก้าวออกไปผจญโลกกว้างครับ เหมือนเกิดกล่องแล้วก้าวไปสู่โลกแห่งจินตนาการเลย
มาถึงตัวสมุดล่ะ สมุดถูกบรรจุอยู่ในโครงพลาสติกแข็งแบบใสที่มีรูปสี่เหลี่ยมมนๆ เจาะอยู่ ทีแรกผมก็งงว่าไอรูนี่มันคืออะไร ก็เลยนึกขึ้นได้ว่านี่มันโลโก้ใหม่ของ Moleskine นี่หว่า โอเคครับไม่มีลูกเล่นอะไรใหม่ งั้นข้ามไป
ผมหยิบสมุดขึ้นมาชื่นชมกับความงามที่เหนือคำบรรยาย(หูวไอสาวก) สมุดเล่มนี้ถือเป็นเล่มที่สองของ Moleskine ที่มีการใช้ผ้าใบ Canvas ในการเอามาทำปกสมุดครับ (เล่มแรกเป็น สมุดนักเดินทาง Moleskine Voyageur) แต่ว่าเล่มนี้แตกต่างตรงที่ว่าถึงจะใช้ปกสมุดผ้าใบสีน้ำตาลเหมือนกันแต่ว่าเล่ม Hobbit นี้มีการพิมพ์ลายสีดำลงบนปกด้วย ซึ่งเมื่อดูจากลวดลายอักขระแล้วก็ยิ่งสวยงามเข้ากันกับสีของตัวสมุดครับ ผมเดาว่ามันคงเป็นภาษาหนึ่งในเรื่อง Hobbit ซึ่งผมเอาความรู้คืนอาจารย์ไปหมดแล้วครับ (แกเคยเรียนเหรอฟระ?!)
น่าเสียดายตรงที่ว่าสมุดเล่มนี้มีแค่แบบเดียวคือขนาดใหญ่ Large และใช้กระดาษมีเส้นครับ ใครที่เป็นแฟนสมุดเล่มเล็กพอดีมือ pocket และกระดาษไร้เส้น(แบบผม) ก็อาจจะไม่ถูกใจนัก แต่ว่าเมื่อผมหยิบสมุดเล่มนี้ขึ้นมาถือครั้งแรกผมก็รู้สึกไม่คุ้นเลยครับ ไม่ใช่เพราะว่าปกสมุดที่ทำจากผ้านะเพราะผมถือเล่มนักเดินทางจนชินแล้วล่ะ แต่ที่บอกว่าไม่คุ้นชินนั้นเป็นเพราะ “ขนาด” ครับ จริงอยู่ที่สมุดเล่มนี้เป็นขนาด Large เหมือนเล่มอื่นทั่วไป แต่ที่แตกต่างนั่นก็คือ “จำนวนหน้า” ที่ให้มาเยอะมาก เค้าเขียนบอกไว้ว่ามีจำนวณหน้าทั้งสิน 321 หน้าหรือประมาณ 160 แผ่น ซึ่งในสมุดขนาดนี้รุ่นอื่นจะมีจำนวนหน้า 240 หน้า 120 แผ่นครับ ซึ่งมันทำให้สมุดหนาขึ้นมากและน้ำหนักเพิ่มขึ้นเยอะเลยครับ เขียนกันได้เป็นปีเลยล่ะ
ผมชอบภาพของปกด้านในทั้งด้านหน้าและด้านหลังของสมุดครับ มันเป็นภาพมุมกว้างของโลกในเรื่อง Hobbit ที่ดูช่างกว้างใหญ่ไพศาล เหมาะกับสมุดแห่งการผจญภัยจริงๆ และสิ่งที่ถูกใจผมมากยิ่งขึ้นไปอีกนั่นก็คือ “หน้าพิเศษ” ที่เป็นภาพวาดประกอบหนังสือเรื่อง Hobbit ที่มีให้กว่า 10 หน้าและยังมีข้อความ quote เด็ดๆ พิมพ์คู่เคียงกันด้วย
แน่นอนว่าในเมื่อเป็น Limited Edition แบบนี้ ก็ย่อมจะต้องมีอะไรเด็ดๆ แถมมาด้วย สิ่งที่แถมมากับสมุดเล่มนี้ก็คือแผนที่ของโลก Wilderland ซึ่งเป็นแผนที่ของ Thror แต่แค่เป็นแผนที่ธรรมดาคุณผู้อ่านก็คงจะร้องยี้ใช่มั้ยครับ เล่มก่อนก็แถมๆๆ แต่ที่เด็ดดวงสุดๆ ม้ากระโดดจนผมกรีดร้องนั่นก็คือ “แผนที่อันนี้มีความลับซ่อนอยู่” ซึ่งการที่จะเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในแผนที่นี้เราจะต้อง “นำแผนที่ส่องกับแสงอาทิตย์” หรือง่ายหน่อยก็เอาไฟฉายมาส่งด้านหลังของแผนที่ก็จะปรากฏคำบอกใบ้และที่ตั้งของขุมทรัพย์ขึ้นมาครับ (ไปซื้อมาส่องเองนะ ผมส่องให้ดูแค่ยั่วๆ …ซึ่งก็เห็นกันจนหมดแล้ว)
จู่ๆ ก็นึกได้! ผมว่าจะลองเอาแผนที่อันนี้ไปใส่กรอบรูปแบบใสที่เป็นกระจกสองแผ่นประกอบกันแล้ววางไว้ข้างหน้าต่าง ทำกรอบไม้สีเข้มๆ ให้เข้ากับสมุดก็จะดูสวยขึ้นไปอีก เวลาแดดส่องเข้ามาที่โต๊ะทำงานริมหน้าต่างก็จะได้เห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในแผ่นที่อันนี้ด้วย คุณผู้อ่านคิดว่าเข้าท่ามั้ย?
อะไรมันจะเท่และสุดยอดได้ขนาดนี้! ใครที่อยากได้สมุดจดบันทึกสุดคลาสสิคแถมมีลายและภาพประกอบเท่ๆ แถมจำนวนหน้ากระดาษที่ให้มาเยอะมาก เรียกได้ว่าเขียนได้เป็นปีๆ เลยทีเดียว ผมคิดว่าสมุดในตำนาน Moleskine The Hobbit Limited Edition Box Notebook จะต้องถูกใจใครหลายคนแน่ๆ เลยครับ อีกทั้งยังสามารถทำแผนที่สุดเจ๋งมาใส่กรอบประดับโต๊ะทำงานได้อีก แฟนพันธุ์แท้ Hobbit ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ!