April Fool’s Day ที่ผ่านมาปอยไปเที่ยวร้านน่ารักๆ ที่สยามซอย 10 มาค่ะ น่ารักทั้งในร้านและเจ้าของร้านเลย ปอยเลยนั่งเล่นเพลินไป 2 ชั่วโมง ได้คุยกับพี่เจ้าของร้านด้วย นั่งคุยกันสนุกสนานมาก เลยเก็บบรรยากาศมาฝาก บทความตอนนี้พลาดไม่ได้เลยนะคะ

ใครที่เคยไปร้าน lamune แล้วคงจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะร้านนี้เค้าเด่นเรื่องเครื่องเขียนและอุปกรณ์ศิลปะค่ะ ใครหาอะไรไม่พบลองไปร้านนี้ก่อนที่จะเข้าไปสั่งซื้อจากเว็บไซต์ของผู้ผลิตนะคะ เผื่อจะได้ของมาใช้เลยไม่ต้องรอให้เสียเวลาค่ะ

ปอยเข้าไปตอนบ่ายโมง อากาศข้างนอกเรียกได้ว่า “ร้อนระอุ!” พอเห็นป้ายร้าน lamune เท่านั้น หัวใจปอยพองโตด้วยความดีใจที่ได้ถึงที่หมายซะที มองจากภาพนอกร้านเห็นแต่ช่องใส่ปากกาสีต่างๆ เยอะแยะเด่นมาแต่ไกล พอเปิดประตูเข้าไปก็พบพี่จอยเจ้าของร้านนั่งอยู่ พี่จอยต้อนรับด้วยรอยยิ้มกล่าวทักทายด้วยเสียงร่าเริง เชิญให้เข้าชมในร้านด้วยประโยค “เชิญตามสบายนะคะ” ปอยเลยสบายอย่างที่พี่เค้าเชิญชวนจริงๆ ค่ะ

ชมของสักพัก ไม่นานลูกค้าหนึ่งคนก็เข้ามาเลือกชมสินค้า (พี่จอยเลยต้องขอตัวไปเปิดคอลเล็คชั่นพู่กันสุดหรูให้ลูกค้านั่งชม) ปอยเลยได้โอกาสเดินให้ทั่วร้าน สินค้าในร้านเท่าที่เห็นแบ่งเป็นสองส่วนใหญ่ๆ ก็คืออุปกรณ์วาดเขียน และอุปกรณ์เกี่ยวกับงานฝีมือ ซึ่งอุปกรณ์วาดเขียนอย่างสมุด ปากกา สีน้ำ จะอยู่บริเวณด้านหน้าร้าน (ซึ่งตอนนี้เป็นสินค้าขายดีติดตลาดขึ้นห้างฯ ไปแระ) ส่วนอุปกรณ์เกี่ยวกับงานฝีมือจะอยู่ส่วนด้านหลังของร้าน (พี่จอยกำลังจัดร้านไปเรื่อยๆ ซึ่่งวันดีคืนดี สินค้าเหล่านี้ก็จะย้ายหรือมีสินค้าใหม่มาแทนที่ได้เสมอ)

เมื่อลูกค้าที่มาดูพู่กันเดินออกจากร้านไปแล้ว น้องคิดลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของพี่จอยก็เข้ามา (ปอยเลยได้ทีขอถ่ายรูปไว้ซะเลย ) จากนั้นก็ได้ฤกษ์นั่งคุยเม้าท์มอยกัน พี่จอยเล่าว่าร้าน lamune มาเปิดที่สยามซอย 10 ได้ 3 ปีแล้วค่ะ มีการพัฒนาร้านมาตลอดทั้งไลน์สินค้าที่เดิมเป็นอุปกรณ์สำหรับงานฝีมือ จนเริ่มขยายเป็นอุปกรณ์เครื่องเขียน ซึ่งตอนนี้เครื่องเขียนได้กลายเป็นสินค้าขายดีในร้านไปแล้ว พี่เค้าอยากให้ร้าน lamune เป็นร้านเครื่องเขียนระดับคุณภาพสำหรับงานศิลปะที่ครบวงจร คือให้ลูกค้าเข้ามาที่ร้านแล้วได้อุปกรณ์ที่ต้องการครบ สามารถนำไปสร้างสรรค์ผลงานได้เลย ไม่ต้องหากระดาษจากที่หนึ่ง แล้วต้องไปหาสีกับพู่กันอีกที่หนึ่ง และสินค้าที่ร้าน lamune มาจากหลากหลายประเทศซึ่งไม่ได้เลือกที่ชื่อเสียง แต่เลือกที่คุณภาพใกล้เคียงกับแบรนด์ดังๆ ลูกค้าคนไทยจึงมีทางเลือกมากขึ้น ไม่ต้องยึดติดที่ยี่ห้ออย่างเดียว

เจ้าของร้านบอกว่าชอบไปเที่ยวต่างประเทศ เวลาไปเที่ยวก็จะเข้าไปดูที่ร้านเครื่องเขียนของเค้า ยิ่งเป็นร้านในท้องถิ่นยิ่งน่าสนใจ เพราะจะได้ไปดูว่าในท้องถิ่นประเทศนั้นใช้เครื่องเขียนอะไร ต่างหรือเหมือนกับของไทย ถ้าเป็นของดีมีคุณภาพจะได้เอามาลงที่ร้าน ซึ่งคุณภาพต้องดีเหมือนอย่างที่เราอยากใช้ ลูกค้าก็จะได้สัมผัสกับของที่มีคุณภาพเหมือนกัน

ปอยนึกสงสัยว่าถ้าเราจะวาดรูปหรือทำงานฝีมือขึ้นมาสักชิ้นคุณภาพของอุปกรณ์มีความสำคัญแค่ไหน คำตอบที่ได้พี่เจ้าของร้านเปรียบเทียบให้ฟังว่า “คนใช้กล้องถ่ายรูปราคาแพง ใช่ว่าจะถ่ายรูปได้ดีเสมอไป” อืม.. “แต่คนถ่ายรูปดี มักจะใช้กล้องดี” (แสดงว่าถ้าเราใช้อุปกรณ์คุณภาพดีก็ควรพัฒนาฝีมือของตัวเองไปด้วยให้สมกับที่ใช้ของดีมีคุณภาพจ้า)

สินค้าที่ขายดีในร้านก็คือ  ShinHanArt Touch Twin Brush Marker ที่มีให้เลือกถึง 200 กว่าสี จะซื้อแบบที่จัดเป็นเซ็ตไว้แล้วก็ได้ หรือจะเลือกจากชาร์ตสีแล้วซื้อเดี่ยวๆ ก็ได้ ถ้าใครซื้อ Marker 10 ด้าม ก็จะได้สิทธิสมัครสมาชิคฟรี! เอาไว้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าภายในร้านได้อีกเยอะเลยค่ะ

ลูกค้าของที่ร้าน lamune ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น นักศึกษา มีทั้งที่มาซื้อที่ร้านและสั่งซื้อออนไลน์ค่ะ ส่วนใหญ่แล้วออเดอร์ออนไลน์จะเป็นลูกค้าต่างจังหวัด พอลูกค้าสั่งซื้อปุ๊บ ที่ร้านก็ไปส่งของให้ปั๊บ เพราะมีร้านรับส่งพัสดุอยู่ข้างๆ ร้านนี่เอง พี่จอยแอบกระซิบมาว่า มีลูกค้าที่อ่านรีวิวจาก bbblogr.com มาซื้อสินค้าที่ร้านด้วย บางครั้งสินค้าที่ร้านไม่มี ก็ต้องไปหามาเข้าร้าน เพราะลูกค้าเรียกร้องจะเอาอย่างใน bbblogr.com  (นี่ตาปอนด์สร้างความเดือดร้อนให้พี่เค้ารึเปล่าเนี่ย อิอิ)

นอกจากจำหน่ายสินค้าแล้ว ที่ร้าน lamune ยังมี workshop ให้ลูกค้าได้มาพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน พี่จอยบอกว่าพยายามจะให้มีเดือนละ 1 ครั้ง แต่ถ้าเป็นช่วงที่ยุ่งมากก็อาจจะจัดในเดือนถัดไป หัวข้อที่จัด workshop ก็แล้วแต่โอกาส บางทีก็มาจากลูกค้าที่มาซื้อของในร้านแล้วมีผลงานน่าสนใจ คุยกันถูกคนจนได้จัด workshop ด้วยกันก็มี ล่าสุดก็จัด workshop “คนวาดเมือง” (workshop วาดภาพสีน้ำ โดยใช้ ShinHanArt Artist Watercolor & Escoda Brushes Pinceles Pinzells ค่ะ) วันที่ 4 เม.ย.  ซึ่งถูกสำรองที่นั่งเต็มใน 10 นาทีแรกที่เปิดจอง แสดงว่าลูกค้าให้ความสนใจมาก (โห..ปอยว่าแรงยิ่งกว่าจองบัตรคอนเสิร์ตซะอีก!) เพื่อนๆ ที่สนใจอยากไป workshop สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.facebook.com/lamuneshop ของร้าน lamune ได้นะจ๊ะ

ทิ้งท้ายจากร้าน lamune ฝากถึงใครก็ตามที่สนใจในศิลปะการวาดภาพ อยากให้ลองเข้าไปสัมผัสถึงแนวคิดของผู้คนที่ใช้เครื่องเขียนจากประเทศต่างๆ เช่น ที่เย็บกระดาษที่คนอิตาลีนิยมใช้ ก็อาจเหมือนกับที่เราใช้ หรือว่าจะเป็น กระดาษ พู่กัน สมุด ที่ผลิตจากประเทศอื่นก็มีรายละเอียดปลีกย่อยที่เกิดจากวัฒนธรรมและแนวคิดที่แตกต่าง แค่ไปที่ร้านอาจจะได้แรงบันดาลใจและแนวคิดดีๆ ไปสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ร้าน lamune เปิดที่สยามสแควซอย 10 (ปิดทุกวันจันทร์) ขอขอบคุณพี่จอยที่ให้โอกาสปอยได้เม้าท์มอยอย่างเป็นกันเอง ปอยถ่ายรูป นั่งเล่นดูของเพลินจนลืมเวลา นี่ถ้าให้ปอยอยู่ร้านทั้งวันก็อยู่ได้ไม่เบื่อเลยจ้า