ผมเป็นคนที่เสพติดการใช้ปากกาหมึกซึมมากครับ โดยเฉพาะปากกาลามี่ ไม่ว่าจะจดบันทึกอะไร วาดรูปสเก็ตช์ภาพไหน ก็จะใช้ปากกาหมึกซึมลามี่คู่ใจอยู่เสมอๆ ความเสพติดของผมนั้นคุณผู้อ่านหลายคนคงจะพอรู้กันอยู่แล้วจากจำนวนปากกาที่ผมได้นำมารีวิวบนเว็บนี้ แต่จริงๆ แล้วคุณผู้อ่านยังไม่รู้หรอกครับว่าผมมีระดับการเสพติดที่เหนือมนุษย์ไปมากกว่านั้น

การเสพติดของผมที่ว่านั้นคือ ผมไม่เคยปล่อยให้ปากกาลามี่ห่างตัวครับ ก็แน่ล่ะซิ! ปากกาลามี่ที่รักอย่างนี้จะปล่อยให้ไกลหูไหลตาได้อย่างไร แต่ผิด! ผมหมายความถึงผมไม่ยอมให้ห่างตัว…หรือเรียกได้ว่าติดกันร่างกายตลอด 24 ชั่วโมงครับ ยกตัวอย่างเช่น เวลาที่ผมทานข้าว ผมก็จะใช้ปากกาหมึกซึมลามี่นี่แหละครับตักข้าวเข้าปากแทนช้อน ตอนแปรงฟันผมก็จะใช้ลามี่นี่แหละครับบีบยาสีฟันแล้วค่อยแทงเข้าช่องปาก หรืออย่างตอนนอนนี่ก็ใช้ทุกคืนเลย แทนที่จะใช้ผ้าปิดตาเพื่อกันแสงแล้วจะได้นอนหลับสนิท ผมก็เปลี่ยนมาใช้ด้ามปากกาทิ่มลูกกะตาไปเลยจ้า หลับสบายยันเช้าเตียงเป็นสีแดงเลย…แต่ไม่ใช่เพราะเป็นวานมามากนะ แหม่!

…ไร้สาระกันพอหอมปากหอมคอแล้ว สมควรแก่เวลาที่จะเข้าสู่เนื้อหาที่(พอจะ)มีสาระกันดีกว่าครับ…

งงล่ะสิครับว่าจู่ๆ ทำไมสเก็ตช์เชอร์สายขี้เกียจมากอย่างผมที่ปรกติจะใช้แต่ปากกาหมึกซึมอย่างลามี่ถึงนำดินสอกดมาให้อ่านกัน ง่ายมากเลยครับ! ก็เพราะว่าคุณแฟร้งค์แห่ง fontoplumo.nl สปอนส์เซอร์รายใหญ่…และรายเดียวของบีบีบล็อกส่งมาให้ลองใช้ยังไงล่ะ! ฟังดูไม่เท่สินะ แต่มันมีที่มาครับ

พักนี้ผมกำลังทำงานชิ้นนึงอยู่ครับ ซึ่งต้องมีการร่างภาพและวาดรูปในสเกลที่ใหญ่พอสมควร ครั้งจะใช้ปากกาหมึกซึมก็ไม่อยากเสียเวลาจะต้องมานั่งแก้นั่งวาดใหม่เพราะมันลดไม่ออก ผมเลยเปลี่ยนมาใช้ดินสอกดในการร่างภาพครับ แต่ด้วยเพราะขนาดของไส้ดินสอกด (Mechanical Pencil) ยังไงมันก็ไม่สามารถใช้แทนอารมณ์ของดินสอไม้ได้ ผมจึงล้มเลิกเปลี่ยนไปใช้ดินสอไม้ตามแบบฉบับของการวาดภาพแทน

แต่ก็เรื่องมากอีกนั่นแหละ ดินสอที่ผมมีมันเป็นดินสอไม้ 2B ยี่ห้อสีน้ำเงิน เขียนไปได้สักภาพ-สองภาพก็ต้องมาเหลาใหม่อีกแล้ว ผมวาดไปเป็นสิบๆ ภาพก็เริ่มรู้สึกว่าขี้เกียจชะมัดเลยเว้ย! มาเสียเหลาดินสอให้เปื้อนมือและเปลืองเวลาเพื่อ?! ผมเลยเริ่มมองหาดินสอด้ามใหม่ที่รวมทั้งความโดดเด่นของดินสอกดและดินสอไม้เข้าไว้ด้วยกันครับ

หากเคยเห็นหรือเคยใช้กันมา คงจะนึกออกใช้มั้ยครับว่ามันมีดินสอแบบนี้อยู่บนโลก ใช่ครับ! มันคือดินสอที่เราเรียกกันว่า “ดินสอเขียนแบบ” ซึ่งจริงๆ แล้วผมไม่รู้หรอกนะว่าคนอื่นเข้าเรียกกันอย่างไรเพราะผมโตมากับดินสอชื่อแบบนี้ครับ แต่ว่าฝรั่งมังค่าเค้าเรียกกันว่า “Lead Holder Pencil” ลักษณะของมันก็หน้าตาเป็นดินสอกดนี่แหละ แต่ในการกดแต่ละทีไส้ที่มี “ขนาดใหญ่กว่าปรกติก็จะไหลออกมา” ผมใช้คำว่าไหลครับเพราะวิธีการเลื่อนไส้ดินสอของปากกาประเภทนี้จะแตกต่างกับดินสอกดครับ แต่…เดี๋ยวค่อยมาอ่านกันอีกทีในช่วงการรีวิวนะจ๊ะ

Wörther Shorty Mechanical Pencil [คลิกสิจ๊ะคุณหนูๆ] คือชื่อของดินสอสุดคูลแสนเก๋าไก๋ด้ามนี้ครับ ออกแบบและผลิตโดบบริษัท WÖRTHER BADEN-BADEN จากประเทศเยอรมัน โดยบริษัทนั่นเน้นการสร้างสรรค์ดินสอและเครื่องเขียนที่คงไว้ทั้งคุณภาพที่สูงและดีไซน์ที่โดดเด่นแตกต่างจากท้องตลาดครับ และกับดินสอด้ามนี้ ถึงแม้ว่าชื่อเรียกที่ทาง Wörther ใช้นั้นจะเป็น Mechanical Pencil แต่ความจริงแล้วมันก็คือ Lead Holder Pencil นั่นแหละครับ รูปร่างหน้าตาสวยงามเท่และเก๋ไก๋สมกับที่ผมเกริ่มไปหรือเปล่าครับ ผมรู้ครับผมรู้ว่าว่าอะไรที่มันป้อมๆ มักจะดูน่ารักเสมอ แต่ความน่ารักของดินสอ Wöther นั้นมาควบคู่กับการออกแบบที่ไม่ธรรมดาจริงๆ

ดินสอ Wörther ที่ผมได้มานั้นเป็นดินสอรุ่น Shorthy ครับ ซึ่งอธิบายง่ายๆ ได้ว่ารุ่นนี้จะมีตัวด้ามเป็นพลาสติกแบบแข็งและมีสีสันที่สดใสให้เลือกใช้เยอะมากถึง 10 สี 10 แบบเชียว และมีด้ามพิเศษที่ 11 เพิ่มเข้ามาด้วยแต่ตัวด้ามเป็นอลูมีเนียมนะ ใครอยากหรูก็ไปเสียตังค์กันเองวันนี้ไม่มีตัวอย่างเพราะตังค์หมดแล้ว (ดูหมอนี่มันกาก)

ผมได้รับดินสอ Wörther Shorthy มาด้วยกัน 2 ด้ามครับก็คือสี “แดง-ดำ” และสี “ส้ม” ซึ่งแน่นอนว่าสีแดง-ดำนั้นผมหมายมั่นปั้นมือไว้ว่าจะต้องเป็นตัวชูโรงของดินสอ Wörther บนเว็บบีบีบล็อก และอีกด้ามก็เป็นสีส้มโคตรสดที่เลือกมาให้สื่อถึงสีของเว็บไซต์ควายอาละวาดแห่งนี้

มันมาเป็นกล่อง! ดินสอสวยๆ แบบนี้ขายมาเป็นแบบกล่องสุดแท่ครับ ซึ่งตอนที่ผมเห็นกล่องทีแรกผมก็งงว่า “ทำไมมันไม่เอาดินสอใส่กล่องมาวะ?” แต่ที่จริงแล้วกล่องมันจะแบ่งเป็นสองส่วนคือกล่องชั้นในที่เป็นกระดาษซึ่งจะมีไส้ดินสอแถมมาให้อยู่ข้างใน และกล่องชั้นนอกที่เป็นพลาสติดใสใช้ในการให้ดินสอ “เกาะ” ที่ขอบกล่องเพื่อโอ้อวดความงดงามแบบน่าหมั่นไส้แก่สายตาทุกผู้คน

หยิบออกมาสิครับจะรอให้มีคนมาจับได้ว่าแอบซื้อดินสอแตกไลน์จากลามี่อยู่ทำไม?! หน้าตาของดินสอ Wörther Shorthy นั้นมีรูปทรงเป็น “หกเหลี่ยม” ขนาดป้อมๆ เหมาะมือครับ ตอนที่ผมเห็นดินสอด้ามนี้ครั้งแรกผมนั้นแอบกังวลครับว่ามันจะต้องเป็นดินสอป้อมๆ โป่งๆ ที่กลวงในเบาโหวงเหวงเขียนไม่มันมือเป็นแน่ แต่พอหยิบขึ้นมาผมก็ถึงกับอุทานว่า โอ้แม่จ้าว! ผมไม่ได้เว่อร์ไปเลยครับนั่นก็เป็นเพราะว่าดินสอ Wörther Shorthy มีการออกแบบที่ให้สมดุลในการจับถือและใช้งานที่ดีผิดกับรูปร่างหน้าตาจริง น้ำหนักของมันเมื่ออยู่ในมือก็ไม่หนักเกินไปและไม่เบาจนเกินไป ให้ความรู้สึกที่มั่นคงเมื่อต้องการวาดเส้นที่ต้องการความพิถีพิถัน

นึกครึ้มครับนึกครึ้ม ผมคิดในใจว่าทำไมดินสอป่องๆ ด้ามนี้ถึงมีน้ำหนักที่ค่อนข้างคุ้นมือ ผมเลยลองเอามันมาชั่งบนตาช่างแบบดิจิทัลที่ถอยมาจากเซิ่นเจิ้นด้วยหวังว่ามันคงจะสามารถให้ค่าน้ำหนักที่ถูกต้องแม่นยำถึงแม้จะมาจากจีนก็เถอะ ซึ่งน้ำหนักที่ได้พร้อมไส้ดินสอ 1 ไส้นั้นก็คือ 13.1 กรัมครับ และเมื่อลองชั่งน้ำหนักเทียบกับปากกาลามี่รุ่นซาฟารีแบบปรกติที่เป็นรุ่นจุกพลาสติก ก็ทำให้รู้ว่าลามี่ซาฟารีนั้นมีน้ำหนัก 17.1 กรัม ต่างกันแค่เพียงนิดเดียวเอง! ถึงว่าทำไมถึงได้รู้สึกค่อนข้างคุ้นเคยอย่างน่าประหลาดใจ

ดินสอ Wörther Shorthy นั้นประกอบด้วยกัน 3 ส่วนหลักๆ ครับถ้ามองจากภายนอกแบบไม่มือบอนแกะแงะ นั่นก็ประกอบไปด้วย 3 ส่วนใหญ่ๆ คือ “ตัวด้าม ที่กด และตัวหนีบไส้ดินสอ” ตัวด้ามก็อย่างที่บอกไปแล้วครับว่าเป็นหกเหลี่ยม แต่ว่าไอตรงที่กดนั่นแหละที่ผมมองว่าเก๋ไก๋ นั่นก็เป็นเพราะว่าเป็นพลาสติกที่เป็นวงกลมและมีตัวหนังสือ Wörther และ Germany เป็นตัวนูนเกาะอยู่ตรงขอบครับ และตัวกดนี้เองยังมีคลิปเล็กๆ แบนๆ ยื่นออกมาด้วยเผื่อนักวาดภาพท่านใดอยากจะเอามาเหน็บกระเป๋าเสื้อพบติดตัวไปวาดแบบสะดวกๆ ก็สามารถทำได้

อีกส่วนที่เป็นส่วนสำคัญมากของดินสอด้ามนี้นั่นก็คือส่วนของ “ตัวหนีบไส้ดินสอ” ในส่วนนี้เองที่เป็นเหล็กทั้งหมดครับ ทำหน้าที่ยึดไส้ดินสอไว้อย่างหนาแน่นไม่เลื่อนขึ้นเลื่อนลง ผมลองใช้ตาด้านซ้ายที่เพิ่งหายจากกุ้งยิงส่องดูเข้าไปใกล้ๆ ก็พบว่าในส่วนปลายที่หนีบไส้ดินสอทั้งสี่ด้าน จะมีรอยบากเป็นเส้นๆ อยู่ด้านในที่ทำหน้าที่เพิ่มการยึดเกาะให้ไส้ไม่เลื่อนไหลไปมาเวลาเราออกน้ำหนักเวลาที่เราเขียนครับ

อยากเขียนแล้วอยากเขียน!! ผมไม่รอช้าที่จะได้ลองใช้ดินสอ Wörther Shorthy ครับ ผมกดที่ตัวกด พรึบ!! ไส้ก็ไหลร่วงลองไปกองกับโต๊ะเลยครับกร๊ากก! ผมลืมไปสนิทเลยครับว่านี่มันเป็นดินสอกดแบบ Lead Holder ดังนั้นในการกดไส้จะไม่เหมือนกับดินสอกดแบบทั่วไป ดังนั้นในการกดไส้เราต้องมีการเอานิ้วมารองที่ส่วนปลายเพื่อกะระยะที่ไส้จะยาวออกมาให้เหมาะสมกับที่เราจะใช้ครับ ใครจะใช้หน้าสมุดเป็นตัวรองก็ได้นะไม่ว่ากันขึ้นอยู่กับความถนัดครับ

 

ผมไม่รอช้าที่จะวาดรูปต่อจากที่วาดค้างไว้เมื่อครั้งยังใช้ดินสอไม้ ผมลงมือวาดเส้นร่างๆ ซ้ำไปซ้ำมาและสิ่งที่ผมรู้สึกนั้นก็คือ “ผมไม่รู้สึกว่าดินสอด้ามนี้ใช้ยากหรือประหลาดแต่ประการใด” ผมไม่ได้โม้นะครับ คือถึงแม้ว่าตัวด้ามจะสั้นกว่าดินสอหรือปากกาทั่วไปแต่มันก็ไม่ได้สั้นไปกว่าขนาดอุ้งมือของเราครับ อีกทั้งน้ำหนักที่เหมาะมือ และการยึดไส้ที่แน่นหนา ทำให้ผมสามารถลงน้ำหนักแต่ละเส้นและแรกเงาในส่วนต่างๆ ของภาพได้อย่างสนุกสนานทีเดียว

ผมนึงเอะใจครับว่าไอที่เขียนๆ อยู่นี่ทำไมมันถึงได้เขียนง่ายและสีดำสวยงามไล่แสงเงาได้ง่ายเหลือเกิน ผมหยิบตัวไส้ออกมาส่องดูอีกครั้งด้วยตาขวาที่เพิ่งหายจากการโดนต่อยตา พบว่าไส้ดินสอนั้นมีขนาดที่ใหญ่ทีเดียว …ซึ่งจากที่ผมเคยใช้ดินสอแบบ Lead Holder ยี่ห้อสีฟ้ามาก่อนผมก็รู้ได้เลยว่าขนาดของไส้ดินสอของ Wörther Shorthy นั้นใหญ่กว่ามาก ผมก็ไปค้นคว้าหาข้อมูลจากบนเว็บของเค้าสิครับว่าขนาดมันเท่าไหร่กันแน่ ซึ่งคำตอบที่ผมได้นั้นก็ทำให้หายคาใจเลยครับเพราะว่าไส้ของดินสอด้ามนี้เป็นขนาด 3.15mm ที่มีความยาว 70mm ครับ ซึ่งต่างจากขนาด 2mm ที่ผมเคยใช้มาครับ และสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกพึงพอใจเป็นที่สุดนั่นก็เป็นเพราะ ไส้ดินสอของ Wörther นั้นเป็นไส้เบอร์ 7B มิน่าละผมถึงสามารถเขียน วาดและไล่น้ำหนักเส้นได้สะดวกสวยงาม ก็เพราะว่าไส้มันอ่อนเหมาะกับการวาดภาพนี่เอง (เรื่องไส้ดินสอของ Wörther เดี๋ยวจะมาเขียนอีกทีในตอนต่อๆ ไปนะจ๊ะ)

และจำกล่องกระดาษส่วนในที่ผมพูดถึงเมื่อช่วงต้นได้ไหมครับ? จริงๆ แล้วในกล่องกระดาษสีขาวนั่นแหละมีการแถมไส้ดินสอมาให้ 2 ไส้ครับ โดยจะบรรจุมาในหลอดกระดาษทรงกระบอกที่มีฝาปิดเป็นสีดำตรงตามกับสีของไส้ที่อยู่ภายใน

อ่านมาตั้งนานยังไม่รู้ราคาเลย!

เอิ่ม…ก็เพราะว่าผมได้มาฟรีๆ ไงครับเลยยังไม่เขียน กร๊าากก แต่ว่าจริงๆ แล้วราคาค่าตัวของเจ้าดินสอ Wörther Shorthy นั้นที่ขายอยู่บนเว็บ fontoplumo.nl ของคุณแฟร้งค์นั้นจะอยู่ที่ 8.50 EUR แต่อย่าลืมนะครับว่าเราเป็นคนหน้าตาดีที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ทำให้เราได้รับการงดเว้นภาษี 21% อีกทั้งยังมีโปรโมชั่นลดราคา bbblog จากเว็บของคนหน้าตาดีๆ อย่างผม…ทำให้ได้รับส่วนลดเพิ่มไปอีก 10% ทำให้เมื่อมีการคิดราคารวมทั้งค่าส่งและรับส่วนลดแล้ว ดินสอ Wörther Shorthy ด้ามนี้จึงมีราคาแค่เพียง 10.27 EUR หรือเท่ากับ 402.29 บาท! ถูกโคตร!!

หากใครที่คิดว่าซื้อมาแล้วจะใช้เยอะแน่ๆ ก็อย่าลืมที่จะซื้อไส้ดินสอมาเพิ่มด้วยนะ ขนาด 4 ไส้จะอยู่ที่ 1.31 EUR หรือเท่ากับ 51.26 บาทครับ ตกไส้ละ 12.82 บาทเองเน้อ หรือใครมนใจไส้สีอื่นๆ ก็ลองกดดูเอาเองนะครับ แต่คราวหน้าจะเอามารีวิวให้อ่านเพิ่มเติมนะ [คลิกที่นี่เพื่อเสพสุขให้สมใจ]

ทำไมผมถึงบอกว่าถูก?

จริงแล้วผมเคยเดินโฉบไปเฉี่ยวมาตามห้างสรรพสินค้าและก็มีโอกาศได้เห็นเจ้าดินสอ Wörther Shorthy นี้วางขายอยู่ในห้างด้วยครับ ซึ่งราคาที่ผมไปส่องดูสมัยที่ตายังไม่บาดเจ็บนั้นจะอยู่ที่ 890 บาท อ่านไม่ผิดอ่ะครับ ดินสอที่ผมเห็นนั้นคือ Wörther Shorthy ด้ามสีแดง-ดำแบบที่ผมรีวิวไปเลยครับ! ราคาต่างกันถึง 490 บาท ต่างกันขนาดนี้ซื้อได้อีกด้ามเลยนะ ยาจกปอนด์ซื้อไม่ไหวจริงๆ นี่มันแพงกว่าลามี่อีกง้อววว! ส่วนราคาของไส้ดินสอที่ขายในไทยนั้นก็จะอยู่ที่หลอดละ 200 บาท นี่มันตกไส้ละ 50 บาทเลย แพงเกินป๊าย! เอาซะไม่กล้าเขียนเลย!

เกือบจะเปอร์เฟคแล้วเชียว!

รู้มั้ยครับว่าอะไรที่ทำให้ดินสอ Wörther Shorthy ไม่สมบูรณ์แบบ …เอาเป็นว่าถ้าเป็นคนที่ไม่ได้มีประเด็นกับไส้ดินสีที่แหลมคมแบบผมก็ถือว่าดินสอด้ามนี้สมบูรณ์แบบไปแล้วล่ะ แต่สำหรับคนที่ชอบใช้ดินสอไส้แหลมๆ เหลาคมๆ กรีดลงผมแขนแล้วเลือดไหลซิบๆ แล้วละก็ (เค้าเอาไว้เขียนเว้ย!) ก็จะต้องแอบบเซ็งนิดๆ นึงนะครับเพราะว่า Wörther Shorthy ไม่ได้แถม “ที่เหลาไส้ดินสอมาด้วย” ดังนั้นวิธีแก้ก็คือใช้วิธีฝนกับกระดาษเอา หรือไม่ก็ใช้มีดคัตเตอร์ค่อยๆ เหลาเอาละกันนะ ส่วนใครมีเครื่องเหลาไส้ดินสอแบบนี้อยู่แล้วหากสามารถใช้กับไส้ขนาด 3.15 mm ก็ดีงามเลย

ผมไม่คิดว่าผมจะกลับมาหลงใหลการใช้ดินสอในการวาดภาพได้อีกครับ จำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่จับดินสอแล้ววาดรูปแบบจริงจังนั้นก็ตอนที่กำลังจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย และหลังจากนั้นก็แทบไม่ได้จับดินสออีกเลยครับ เนื่องด้วยเพราะผมต้องการความสะดวกในการใช้งานที่สูงมาก ไม่ชอบเลยที่จะมานั่งเหลาดินสอแบบฮิปสเตอร์สโลว์ไลฟ์เพราผมเป็นฮิปสเตอร์สไตล์ลวก ดังนั้นถ้าหากมีดินสอที่สามารถใช้แทนดินสอไม้แบบ 6B หรือ EE ได้แต่ใช้งานสะดวกนั่นย่อมเป็นเรื่องดีเป็นที่สุด และ Wörther Shorty Mechanical Pencil ก็ทำให้ผมรู้สึกได้อบบนั้นอีกครั้ง ด้วยหน้าตาที่สวยงามและเท่มากจนอยากที่จะใช้อยู่เสมอๆ และไม่เพียงแค่เท่แต่ยังสามารถทำหน้าที่ของ “ดินสอวาดภาพ ดินสอสเก็ตช์” ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ถึงแม้จะไม่ได้มีที่เหลาไว้มาให้แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรนัก อ่านมาถึงตรงนี้แล้วคุณผู้อ่านเห็นว่าอย่างไรครับ? สนใจจะรับดินสอเท่ๆ อย่าง Wörther Shorty Mechanical Pencil เข้ามาอยู่ในครอบครัวเครื่องเขียนของท่านเหมือนกับผมไหมเอ่ย?