วันก่อนไม่รู้นึกยังไง จู่ๆ ผมก็กดเข้าเว็บของคุณแฟร้งค์เฉยเลย เอาจริงๆ ตอนนี้ก็ไม่ได้มีเงินมีทองจะให้ช๊อปปิ้งอะไรนะ แค่ให้รอดเป็นเดือนๆ ไปก็หืดจับมากแล้ว สุดท้ายไปๆ มาๆ ได้ปากกามาสองด้ามซะงั้น
(นี่คือการเปิดย่อหน้าแรกให้ดูเหมือนว่าไม่ได้หยุดเขียนไป 2 ปี)
แล้วไอปากกา 2 ด้ามนั่นก็ไม่ใช่ปากกาที่เอามารีวิวให้อ่านกันในวันนี้ด้วยนะ สองด้ามนั้นกะว่าจะเอามาทำรีวิวตอนนึงแบบ “เก็บตก” ด้ามที่เราเคยดองหรือยังไม่ได้เขียนรีวิว เขียนรวบทีเดียว 3 รุ่น 3 ปีกันไปเลย (อะไรหว่าทายถูกมะ?)
ผมส่งเมลคุยกับคุณแฟร้งค์ถามไถ่ว่าแกสบายดีมั้ยเพราะไม่ได้ติดต่อกันนานมาก โควิดเป็นยังไง ได้ฉีดวัคซีนหรือยัง? ส่วนผมนั้นยังไม่โดนตำแม่งสักเข็มเลย ขนาดวัคซีนที่ควรจะได้ง่ายๆ ยังไม่มีดวง อย่าหวังว่าจะถูกหวยถูกสลากกับเค้าเล้ยยย คุณแฟร้งค์แกก็เล่าว่าแกอ่ะได้เข็มสองเมื่อวานนี้เองแล้วแกก็เสริมว่า การใช้ชีวิตหลังจากนี้ก็คงไม่เหมือนเดิมอีกแล้วล่ะ
…ผมก็นึกภาพตัวเองเปลือยหน้ายืนดูดกาแฟในห้างไม่ออกเหมือนกันแหะ
พอจบเรื่องสารทุกข์สุขดิบกันแล้ว ผมก็นึกขึ้นได้ว่าเพิ่งเห็นปากกาด้ามนึงที่สวยเด็ดดวงเข้าบนเว็บคุณแฟร้งค์ เลยบอกแกไปว่าเซ็งมากเลยเพิ่งเห็นด้ามนี้เอาก็ตอนที่ปากกาส่งออกมาจากเนเธอร์แลนด์แล้ว คุณแฟร้งค์ก็ยิ้มกริ่มแล้วก็บอกกับผมว่า “ผมแอบส่งปากกาด้ามนี้ไปกับพัสดุของคุณปอนด์แล้วล่ะ กะจะให้ประหลาดใจหน่ะ”
…เชี่ยยยยยโคตรรู้ใจ สมกับที่อยู่ด้วยกันมานาน รักฮะคุณแฟร้งค์!
Caran d’Ache 849 Memories of Delft Special Edition [ส่องปากกากัน] ปากกาด้ามนี่ทีแรกผมไม่เคยรับรู้ถึงการมีอยู่ของมันเลยนะเพราะหลายเดือนที่ผ่านมา ผมแทบออกจากวงการเครื่องเขียนไปเลยก็ว่าได้ พอมานั่งอัพเดตดูว่ามีอะไรน่าสนใจบ้างก็เจอด้ามนี่เข้าจังๆ มันพิเศษมากๆ ตรงไหนรู้มะ? ตรงที่มันมีจำนวนจำกัดเพียง 400 ด้ามและขายแค่เพียงที่ร้าน Fontoplumo เท่านั้น!!
พิเศษยังไง?
ปากกาด้ามนี่เป็นการร่วมกันสร้างสรรค์กันระหว่างแบรนด์ผู้ผลิตนาฬิกา Holthinrichs Watches ผู้บุกเบิกวงการการผลิตนาฬิกาโดยใช้เทคโนโลยี 3D printing กับร้าน Fontoplumo ร้านปากกาของคุณแฟร้งค์ที่เรารู้จักกันดี ซึ่งทั้งสองนั้นก็ตั้งอยู่ที่เมือง Delft ประเทศ Netherlands ด้วยกันทั้งคู่ โดยคอนเซ็ปการออกแบบปากกานั้น ได้แรงบันดาลใจมาจากเครื่องกระเบื้องเซรามิคสีขาวเขียนสีน้ำเงินเข้มอันเลื่องชื่อของเมือง Delft ที่รู้จักกันดีในชื่อว่า “Delft Blue” [อ่านเพิ่มเติมที่นี่นะ]
ดีไซน์
เอาตั้งแต่กล่องเลยนะ ถึงแม้ว่ากล่องปากกาของ Caran d’Ache มันจะเป็นกล่องอลูมิเนียม แต่ด้วยคอนเซ็ปของ “Delft Blue” จึงทำให้กล่องเป็นสีขาวเพื่อสื่อถึงเครื่องกระเบื้องเคลือบสีขาวเนียนละเอียดแล้วแต้มสีน้ำเงินเข้มอันมีเอกลักษณ์เป็นลายหมึกออกแนว Abstract Art
เปิดกล่องออกพอเห็นปากกาก็ยิ่งยิ่งทำให้ผมรู้สึกชื่นชอบมันมากขึ้นไปอีก ลองนึกภาพตามว่าถ้าหากเราคิดจะเอาเครื่องกระเบื้องเซรามิค Delft Blue มาทำปากกาแล้วหน้าตามันจะเป็นอย่างไร ผมว่าเจ้า Caran d’Ache 849 Memories of Delft นี่แหล่ะที่ใกล้เคียงกับคำตอบนั้นที่สุด ด้วยตัวด้ามปากกาที่ขาวเนียนเหมือนกระเบื้องเคลือบ และมีลวดลายสีน้ำเงินเข้มเสมือนการไหลของน้ำหมึกปากกาหมึกซึม ทำให้ปากกาด้ามนี้ดูสวยงามฉีกจาก Caran d’Ache ด้ามอื่นๆ ที่เคยมีมา
…จะว่าไปก็เหมือนซุ่มซ่ามทำขวดหมึกหกเลอะปากกาอ่ะ
ตัวปากกาในส่วนของคลิปหนีบกระเป๋าเสื้อรวมถึงที่กดปากกาจะเป็นสีเงินเพียวๆ ซึ่งก็ทำให้เงางามเด่นตัดกับสีขาวและสีน้ำเงินของตัวด้าม เป็นการออกแบบที่ลงตัวทีเดียว เหมือนกับเครื่องกระเบื้องเคลือบที่มีการคาดด้วยโลหะสีน้ำเงินไม่มีผิด
ซื้อที่ไหน? ราคาเท่าไหร่?
แน่นอนว่าหาซื้อได้จากร้าน Fontoplumo ที่เดียวเท่านั้นเพราะเป็นด้าม Exclusive สุดๆๆๆ (หิ้วมาขายเราไม่นับ) โดยราคาค่าตัวก็ไม่ได้สูงเว่อร์กว่าด้ามทั้วไปอะไรเลย ราคาไม่รวมส่งมาไทยและยังไม่ได้ใส่ส่วนลดนะ ราคาอยู่ที่ด้ามละ €28.88 หรือเท่ากับ 1,125 บาท แต่ถ้าใส่โค้ด bbblog ก็จะได้รับส่วนลดเพิ่มอีก 10% นะ
ทำไมหลังๆ ผมกลายมาหลงใหลพวกปากกา Caran d’Ache 849 ก็ไม่รู้ มีสะสมก็หลายด้ามแล้วเนี่ย ยิ่งพอมาเจอเจ้า Caran d’Ache 849 Memories of Delft Special Edition ก็สวยงามเสมือนพกเครื่องกระเบื้องเคลือบติดตัวไปในทุกที่ ใครที่เป็นคนใช้ปากกาลูกลื่นเป็นประจำหรือชอบ Caran d’Ache 849 เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผมไม่อยากให้พลาดปากกาด้ามนี้ไปจริงๆ ครับ
ขอขอบพระคุณ
คุณแฟร้งค์ แห่งร้านปากกา Fontoplumo ที่เซอร์ไพร์ซแอบส่งปากกาด้ามนี้มาด้วยครับ ยังแอบคิดอย๊่เลยว่าถ้าสั่งครั้งหน้าของจะยังเหลืออยู่มั้ยนะก็พอดีเลย ฟรี! กร๊ากกก ขอบพระคุณครับ!