ปากกาสีแถบแห่งลุงพอล! Paul Smith & Caran d'Ache 849 Edition Two

เวลาที่ผมอยากใช้ปากกาด้ามใหม่ที่เพิ่งซื้อมา ผมจะมีนิสัยที่ยังจะไม่แตะต้องมันหรือเอามาเขียนก่อนจนกว่าจะได้รีวิวครับ ที่ทำแบบนี้ก็เพราะว่าอยากจะบ่มความอยากให้มันอัดแน่นและเข้มข้น เคี่ยวให้มันงวดให้มันเหนียวเพิ่มความกระหายที่จะเขียนรีวิวให้มากขึ้น และพอถึงวันที่อยากใช้ปากกาจนถึงขีดสุด เราก็จะแกะจะฉีกกระชากมันออกมาด้วยความบ้าคลั่งและหัวเราะเสียงดังเหมือนตัวโกงในหนังยามที่จับนางเอกตัวเล็กๆ เข้ากระท่อมร้างและฉีกเสื้อลายดอกของเธอออก มว๊ะฮ่ะๆๆๆๆ ฮึๆๆๆๆ ฮรี่ๆๆๆๆ
คือปากกามันโคตรหล่ออ่ะ แต่เจอเปิดเรื่องแบบหื่นเข้าไปทุกอย่างพังทลายหมด…
Paul Smith & Caran d’Ache 849 Edition Two [อยากให้ลองกดเข้าเว็บดู] อ่านชื่อแล้วคุณผู้อ่านก็คงจะแบบว่า โอ้ยมันมีขายมาเป็นชาติแล้วนี่ ทำไมเพิ่งมาอวดว้า ง่ายๆ เลยครับก็คือผมดองไงเค๊มเค็ม แต่ถึงอย่างงั้นก็เหอะ จริงๆ แล้วปากกา Caran d’Ache Paul Smith มันก็มีด้วยกัน 2 รุ่นด้วยนะ ซึ่งที่ผมเอามาอวดกันในวันนี้เป็น Paul Smith รุ่นที่ 2 ครับที่มีความแตกต่างจากรุ่นแรกก็คือ “เป็นโทนสีใหม่ทั้งหมด” โดย Edition ที่ 2 นี้ก็มีสีด้วยกันทั้งหมด 8 สี ดูง่ายๆ ก็จากบนฝากล่องเหล็กที่ห่อหุ้มปากกานั่นแหล่ะ ซึ่งมีสีทั้งหมดดังนี้
- Racing Green เขียวเข้มหล่อพงไพร
- Pistachio Green เขียวอ่อนอบอุ่น
- Petrol Blue ฟ้าเข้มแสนสุขุม
- Damson ม่วงลึกลับสุดน่าค้นหา
- Peacock Blue น้ำเงินเข้มสะกดสายตาคนข้างๆ
- Coral Pink ชมพูหวานแสบซีดชวนเบาหวานขึ้น
- Orange ส้ม (ไม่รู้จะบรรยายยังไงแต่เก๊าโดนสีนี้)
- Rose Pink ชมพูกุหลาบริมฝีปากน้องนิวปี 2 คณะบัญชี
…ชื่อสีภาษาไทยผมตั้งเองนะ อย่าเอาไปพูดกับคนขายล่ะอายเค้า
ด้วยเพราะผมเกิดความอยากได้ปากกาลูกลื่นสักด้ามนึงที่มีข้อแม้ว่า “ต้องดูหล่อ ดูเท่ และมีความลิมิเต็ดอิดิชั่น” เพื่อให้พอจะหยิบใช้จะได้รู้สึกคูลเหมือนนายแบบที่มีของแพงใช้เต็มโต๊ะอ่ะ …ฟังดูน่าถีบแต่มันคือเหตุผลของผมจริงๆ นะ! ดังนั้นผมจึงเลือกสีเหลืองออกส้มๆ เหมือนปากกาลามี่กระบี่ปฐมกาลเหลืองสุริยันที่ผมพกอยู่ประจำ ประจวบเหมาะกับที่ Caran d’Ache เค้าออกปากกา Paul Smith รุ่น 2 พอดีและมีเฉดสีหลายหลากและกว้างขึ้น เงินในกระเป๋าเลยได้ปลิวออกไปง่ายๆ เลย
เห็นปุ๊บก็รู้เลยว่าเป็นปากการุ่นยอดนิยมที่ไม่มีใครจะไม่รู้จักของ Caran d’Ache นั่นก็คือปากกาลูกลื่น Caran d’Ache รุ่น 849 เพียงแต่เปลี่ยนมาใช้โทนสีที่เลือกโดย Paul Smith และทำสีตัวด้ามเป็นสีแบบด้าน เพิ่มความพิเศษที่การพิมพ์โลโก้ “Paul Smith” ไว้บนตัวด้ามบ่งบอกถึงความเป็นรุ่นพิเศษต่างจากด้ามอื่นทั่วๆ ไป
เรื่องการลองเขียนการทดสอบ มันก็เหมือนกับปากกา Caran d’Ache 849 ที่ผมเคยรีวิวไปนั่นแหล่ะครับ ดังนั้นถ้าอยากรู้ว่าเขียนเป็นยังไง ฝากจิ้มคลิกเข้าไปที่ลิ้งค์นี้นะ Caran d’Ache 849 Original และ Brut Rosé (Special Edition)
ซื้อที่ไหน? ราคาเท่าไหร่?
ผมจะไปซื้อจากที่ไหนถ้าไม่ใช่ที่ร้านของคุณแฟร้งค์ fontoplumo.nl ล่ะครับ เพราะจะหาซื้อปากกา Caran d’Ache แบบออนไลน์ในราคาสบายกระเป๋าก็ต้องซื้อจากที่แกนี่แหล่ะ ซึ่งจากตัวอย่างที่ผมทำมาให้ดูนี้เป็นการสั่งแบบด้ามเดียวสีส้ม Orange เมื่อใช้โค้ดลดราคา “bbblog” ในช่อง Voucher และปลอดภาษีประเทศนอกยุโรปและรวมค่าส่งพัสดุแบบถูกที่สุดแล้ว ปากกา Caran d’Ache 849 Paul Smith ด้ามนี้ก็จะอยู่ที่ €38.12 หรือเท่ากับเงินไทยคือด้ามละ 1,470 บาท
แต่ถ้าใครอยากได้ทั้ง 8 ด้าม 8 สี ก็กดเอาเต็มที่เลยครับ ราคาสุดท้ายก็ถูกลงมากเพราะว่ายอดเกินจึงได้จัดส่งพัสดุฟรีไปเลย ราคารวม 8 ด้ามอยู่ที่ €267.77 เป็นเงินไทยก็ 10,330 บาท (สงสัยต้องผ่อน 24 งวดหรือป่าววะ?) เมื่อหารออกมาต่อด้ามแล้วจะอยู่ที่ 1,291.25 บาทเท่านั้นเอง ลดลงไปเยอะเหมือนกันแหะ
แปะลิ้งค์ร้านอีกทีกลัวหลง : fontoplumo.nl
มี Box Set ด้วยนะ!!
ให้ตายเหอะ! ใครที่อยากได้ให้ครบทั้ง 8 สี แต่อยากเพิ่มความพิเศษขึ้นไปอีก เค้ามีการออกเป็น Box Set สุดโคตรสวยงามน่าเก็บมาก ผมไม่รู้ราคาขายแบบสบายกระเป๋านะเพราะว่าร้านคุณแฟร้งค์แกไม่ได้ขายอ่ะ เอาเป็นว่าไปดูรูปชมความงามแล้วน้ำลายไหลแทนละกัน กรั่กๆๆๆ
แต่รู้สึกได้ถึงความแพง…
เอารุ่นแรกมาให้ดูด้วย!
ผมหน่ะเคยคิดจะรีวิวปากการุ่น Paul Smith นี้เมื่อนานมาแล้วล่ะครับ ตอนนั้นจำได้ว่ามีคนเห็นแล้วกรี๊ดกร๊าดสาวแตกกันเลยทีเดียว (…เก๊าอีกนั่นแหล่ะ) กันเพราะสีมันสวยมันหวานมาก มันพาสเทลมาก มากน่าหนุนนอน แต่ก็เพราะว่าตอนนั้นไม่รู้ไปติดอะไรอยู่… เวลาผ่านไปเลยต้องเก็บเข้ากรุไปโดยไม่ได้เอามาอวดให้ชมกันเลย และไหนๆ ก็ถ่ายรูปเอาไว้แล้ว เลยเอามาให้ดูกันด้วยครับว่ารุ่นแรกมันงดงามเพียงใด
Caran d’Ache Paul Smith First Edition รุ่นแรกนั้นสีจะออกไปทางเย็นๆ พาสเทลไล่สีสวยงามมาก พอจับมาวางเรียงกันแล้วสวยงามจนไม่กล้าจะหยิบมาใช้เลย ใครที่สนใจสีของรุ่นแรกอาจจะต้องออกแรงตามหากันหน่อยนะเพราะว่ามันออกมาหลายปีและน่าจะขายหมดไปแล้วครับ (แล้วจะบอกให้หาทำไมฟระ?!)
มันแปลกดีนะที่คนใช้ปากกาหมึกซึมเป็นชีวิตอย่างผมจะเปลี่ยนมาใช้ปากกาลูกลื่นบ้าง แต่รู้มะ ถ้าผมจะเลือกใช้ปากกาลูกลื่นสักด้ามนึง ผมนึกภาพของปากกาด้ามอื่นไม่ออกเลยครับ ในหัวมีแต่ปากกาลูกลื่นรุ่น 849 ของ Caran d’Ache Paul Smith เท่านั้น หากคุณผู้อ่านสนใจอยากเปลี่ยนมาใช้ปากกาลูกลื่นบ้าง ปากกาด้ามนี้แหล่ะครับที่ผมอยากแนะนำให้ลองหามาใช้กัน สวยงาม หล่อ เท่ ลิมิเต็ด(เกลียดคำนี้) และแน่นอนว่าเขียนดีสมชื่อ Caran d’Ache อยู่แล้ว รับรองเลยว่าคุณจะต้องรักปากกาด้ามนี้แน่นอนเลยครับ