มีกี่ด้ามพี่ก็เหมาหมด! Caran d’Ache 849 : White Red & All Black

in Pen by hackhq on 21 Sep 2018

รู้ป่ะครับว่าผมล๊อคอินเข้ามาระบบหลังบ้านของเว็บบีบีบล็อกแห่งนี่แบบงงๆ มันงงๆ เหมือนกับว่าผมได้ออกเดินทางไปเที่ยวตะลอนเร่ร่อนรอบโลกเสียหลายปี แล้วจู่ๆ ก็บินกลับมายังประเทศบ้านเกิดเพราะแม่โทรมาบอกว่า “มีผู้หญิงท้องโย้ที่ไหนไม่รู้มาบอกว่าเป็นเมียลูก” (…จะมาทั้งทีทำไมไม่มาตอนที่ยังท๊อปฟอร์ม?) มันเหมือนโบกแท็กซี่มาจอดหน้าบ้านแล้วก็แบบ “นี่บ้านกรูเหรอวะ?” อื้อ! ก็มันเหมือนไม่ได้กลับบ้านมานานไง ก็อู้มากกกกกไง ดองเค็มไง ไม่มาเขียนรีวิวอะไรเลยสักตอน ความรู้สึกมันก็ต้องประมาณนี้แหล่ะ! ปลั๊กอินก็ไม่ได้อัพเดต คอมเม้นต์ก็ไม่ได้ตอบเพียบ แต่พอเหลือบไปดูกราฟจำนวนคนเข้าเว็บเท่านั้นแหล่ะ…

…คนเข้าเยอะกว่าตอนที่อัพถี่ๆ อีกหว่ะ ตรรกะอัลไล?!

ก่อนอื่นต้องกราบขออภัยคุณผู้อ่านทุกท่านด้วยนะครับที่ผมหายหน้าไปนาน (แต่หลังไมค์บนเฟสบุคก็ยังตอบนะ) คือว่างานประจำที่ทำเงินกว่าของผมนั้นมันรุมเร้าเหลือเกิน มีโปรเจคใหม่ที่แบบว่า “ต้องเสร็จก่อนเดือนตุลาจริงๆ เหรอครับ?” ผมเลยเร่งปั่นงานงานสุดชีวิต เสียเลือดเสียเนื้อไปไม่น้อย (กี้เป็นเลือดเลยอ่ะ โคตรเจ๋ง) เลยทำให้ไม่เหลือพลังมาปั่นรีวิวให้ได้อ่านกันยังไงล่ะ (อ่านแล้วรู้สึกสงสารผมมะ? ก็ไม่)

แต่แล้วก็เหมือนมีเสียงกระซิบเล็กๆ จากเหล่าลูกเพจลูกนกบอกมาว่า “มึงหายนานเกินไปแล้วนะไอปอนด์” ซึ่งทีแรกผมคิดว่าเพิ่งหายไปไม่กี่วันเองนี่หว่า กลายเป็นว่าหายไปเป็น 2 เดือนได้นี่หว่า นี่หายนานกว่าช่วงผ่าตัดปีที่แล้วอีก ผมจึงคิดว่า “เรื่องแรกหลังจากหายไปนาน ขอเป็นเรื่องนี้ละกันเพราะอยากอวดอยากขิงมากๆๆๆๆ” และอีกเหตุผลก็คือ…

…ไม่ต้องเขียนอะไรมาก แต่รับรองมีเสียตังค์แน่!

Caran d’Ache 849 : White Red & All Black

Caran d’Ache : White Red & All Black เอาจริงๆ คือผมไม่รู้หรอกครับว่าพวกมันมีชื่อว่าอะไร กร๊าก นี่เลยตั้งชื่อให้เองเลย ที่ผมตั้งชื่อแบบนี้ก็เพราะว่าตอนที่ผมไปเจอเจ้าปากกา Caran d’ Ache รุ่น 849 ยอดนิยมนั้น ผมไปเจอมันวางขายอยู่ในร้านเครื่องเขียนของประเทศญี่ปุ่น …จริงๆ ผมช๊อปออนไลน์หน่ะ ก็ที่เว็บ http://www.pencils.jp/ ที่พวกเราคุ้นเคยกันนั่นแหล่ะ (อยากได้เครื่องเขียนเก๋ๆ จากญี่ปุ่นผมก็เลือกร้านนี้ประจำแหล่ะ) คือตอนที่ผมเปิดผ่านๆ แล้วเจอเจ้าปากกาลูกลื่น Caran d’Ache รุ่น 849 ทั้งสองด้ามเนี่ยะ ผมก็พยายามดูนะว่ามันมีขายในไทยหรือมีขายประเทศอื่นบ้างมั้ย ผลก็คือว่าไม่มีขายที่อื่นหว่ะ (หรือว่าหาไม่ดีหรือเปล่าไม่รู้แต่กดซื้อไปล่ะ) เลยขอเรียกว่ามันเป็นรุ่นพิเศษที่ขายแต่ในญี่ปุ่นละกัน ก็ขนาดป้ายข้างในกล่องยังญี่ปุ่นเลยอ่ะ ดู๊!

Caran d’Ache 849 : White Red [คลิกสิคะ]

ขอเริ่มที่ด้ามแรกก่อนเลยดีกว่า เห็นทีแรกผมผมรับรู้ได้ถึงความเป็นประเทศญี่ปุ่นเลยครับ ขาวแดงนี่มันสีของธงชาติญี่ปุ่นชัดๆ เจ้าปากกา Caran d’ Ache รุ่น 849 ด้ามนี้ทำตัวด้ามเป็นสีขาวเคลือบเงาแวววับครับ แต่ตัดความขาวสว่างนี้ด้วยคลิปปากกาสีแดงสดเงางามไม่แพ้ตัวด้าม แต่ส่วนของจุกกดปากกาด้านบนก็ยังคงใช้เป็นสีเงินเงาเพียวๆ ไม่ย้อมสีอะไร หยิบมากวัดแกว่งวาดแสงไปมาช่างสวยงามสะดุดตาผู้พบเห็นเสียจริง (เป็นไม้กายสิทธิ์ขนนกฟีนิกซ์หรือไงฟระ?)

สิ่งที่ทำให้ผมชอบปากกาด้ามนี้มากๆ ผมคิดว่าหลายๆ คนที่ตามอ่านมานานคงจะรู้ดีอยู่แล้ว นั่นเป็นเพราะหน้าตาของมันเหมือนกับปากกา Lamy Safari White-Red Japan Limited Edition ยังไงล่ะ! (ในรูป lamy ที่ถ่ายคู่มันเป็นลามี่ขาวแดงรุ่นใหม่ที่ผมดองรีวิวอยู่หน่ะนะ) มันคือปากกาลามี่ด้ามที่ไม่ว่าจะออกมากี่รุ่นกี่ปีกี่ด้าม ผมก็จะตามเก็บตามซื้อจนร้านเกลี้ยงทุกครั้งไป ด้ามสีขาวคลิปหนีบสีแดงช่างมีเสน่ห์ยิ่งนัก หรือจะเป็นเสื้อทำงานสีขาวบางๆ กับกระโปรงสั้นๆ สีแดงก็จะยิ่งยอดเยี่ยมเป็นที่สุด ??????

Caran d’Ache 849 : All Black [คลิกสิคะ]

บ๊ะ! ด้ามต่อมาผมก็ยังไม่พ้นไปตั้งชื่อให้เค้าอีก ก็เพราะว่ามันเป็นสีดำทั้งด้ามเลยไง ตัวด้ามเป็นสีดำด้านนะ ส่วนตัวคลิปก็ดำเงาๆ หน่อย (แต่ที่กดเป็นสีเงินนะ) เห้ยปีนี้นี่มันเป็นเทรนด์ออกปากกาสีดำล้วนทั้งด้ามหรือยังไง??? แน่นอนว่าด้ามนี้ผมก็ชื่นชอบไม่แพ้ด้ามไหนเลยเพราะมันช่างดูสุขุม ต่างกับสไตล์ของ Caran d’Ache ทั่วๆ ไปที่มักจะมีสีสันที่สดใสหลากสีแสบตา เจอดำล้วนเข้าไปทำให้รู้สึกเหมือนใช้ดินสอกด lead holder! Caran d’Ache Fixpencil สีดำเลยอ่ะ

แน่นอนว่าผมต้องเอามาถ่ายรูปคู่กันกับปากกาลามี่ซาฟารีรุ่นพิเศษของปีนี้ Lamy Safari All Black 2018 Special edition แถมตัวด้ามก็ดำด้านเหมือนกันทั้งคู่เลย บอกแล้วว่าเทรนด์ปีนี้มันดำล้วน! สวยงามเท่ขรึมทั้งสองด้าม ผมแนะนำให้ซื้อเก็บทั้ง 2 ตัวเลยนะเพราะมันพิเศษมาก รวยจริงโว้ยพ่อลูกเศรษฐี!

ซื้อที่ไหน?​ ราคาเท่าไหร่?

อย่างที่อวดไปตั้งแต่ต้นนั่นแหล่ะครับ ผมซื้อจากร้านเครื่องเขียนออนไลน์ของประเทศญี่ปุ่นนามว่า pencils.jp ซึ่งร้านนี้หน่ะ ระบบมันจะเป็นแบบว่าเราสั่งไปก่อน แล้วรอมนุษย์ตัวเป็นๆ คิดค่าส่งมาให้ หลังจากนั้นเราค่อยคอนเฟิร์มด้วยการกดลิ้งค์จ่ายเงิน Paypal ในอีเมลที่เค้าตอบกลับมาครับ ทีนี้ก็รอไป เร็วบ้าง ช้าบ้าง ก็แล้วแต่อารมณ์อั๊ตจังว่าเค้าจะจัดการส่งให้เมื่อไหร่อ่ะนะ (อั๊ตจังเป็นคนดูแลร้านฝั่งตลาดอินเตอร์หน่ะ)

เสร็จสรรพเมื่อรวมค่าส่งแบบ EMS แล้วผมก็ได้เจ้าปากกาทั้ง 2 ด้ามนี้มาในราคาด้ามละ 3,700 JPY แล้วมีค่าส่งอีก 1,400 JPY รวมก็ 8,800 JPY หารต่อด้ามก็ตกอยู่ที่ 4,400 JPY หรือ 1,270 บาท เท่านั้นเอง ก็โอเคนะ ราคานี้ถือว่ากำลังดีไม่แพงจนเกินไปเลย

ขอยอมรับตามตรงเลยว่ารีวิวตอนนี้เขียนช้าไปมาก วันที่ผมซื้อหน่ะถ้าจำไม่ผิดของก็ใกล้หมดเลยนะ อย่างขาวแดงนี่ผมได้มาแค่ 2 ด้ามเอง (กดหมดเว็บเลยตอนนั้น) ดังนั้นใครที่สนใจอยากเป็นเจ้าของปากกา Caran d’Ache รุ่นพิเศษ White Red และ All Black ก็รีบเข้าไปหน่อย คิดว่าน่าจะมีกลับมาเติมแล้วล่ะ แต่ถ้าหมดแล้ว! ก็ลองเมียงมองหาดูจากร้านเครื่องเขียนอื่นๆ ในญี่ปุ่นดูนะครับ เอ๊ะ! ไม่แน่วันดีคืนดีผมอาจจะเอาเจ้าขาวแดงมาปล่อยบน กรุแตก! ก็เป็นได้ จัดไป 3 พัน วะฮ่าฮ่าาา

ขอขอบพระคุณ!

จะขอบคุณใครเล่าตอนนี้ไม่มีสปอนส์เซอร์! เอาเป็นว่าขอขอบพระคุณคุณผู้อ่านทุกท่านดีกว่าครับที่ยังรอคอยอ่าน ตามทั้งหน้าไมค์-หลังไมค์ คอยมาเตือนว่าหายนานไปแล้วนะ ทีแรกนึกว่าหาย 2 สัปดาห์ โดนลูกเพจดึงสติว่า 2 เดือนโว้ย! ขอบพระคุณมากครับที่ยังรอผมนะ ❤️

หากอ่านแล้วถูกใจชอบใจ ฝากกดแชร์ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ \( - 3-)/
โพสตอนนี้อยู่ในหมวด Pen และมี tag ดังนี้ , , , , โพสเมื่อวันที่ .
hackhq

คนธรรมดาที่หลงใหลในการสเก็ตช์ ใช้ปากกาลามี่เป็นอาวุธ มีสมุด Moleskine เป็นผืนผ้าใบและมีจินตนาการในรูปของสีน้ำ หลงใหลรูป รส กลิ่น ของกาแฟ และเคลิบเคลิ้มกับเสียงของดนตรีแจ๊ส | ติดต่อผมบนทวิตเตอร์ได้ที่ @hackhq

เว็บไซต์ : https://www.bbblogr.com