โลกของเรานี้มันช่างสุดยอดและเต็มไปด้วยความเลิศล้ำจริงๆ มีสิ่งที่เหนือกว่ามวลมนุษย์เพื่อแสดงถึงความเลิศล้ำอย่างเทวเทพ มีเทพหลายองค์มากมายเลยครับ ไม่ว่าจะป๋าเทพ โพธิ์งาม คุณเทพชัย หย่อง หรือว่าจะเป็นพี่พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ โอ้ยยยช่างน่ากราบไหว้จริงๆ ! หรือเอาให้ง่ายใกล้ตัวหน่อยก็เว็บบีบีบล็อกนี่แหละครับ ก็มีเทพเคียกับเทพหลุยส์ นี่ผมก็คิดนะว่าถ้าจะเทพกันขนาดนั้นก็เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อไปเลยเห๊อะ! #น้ำเสียงริษยา
หากอ่านบีบีบล็อกกันมานานนม คุณผู้อ่านคงจะคุ้นชินกับไอบ้าคนนึงที่ยกเครื่องเขียน ยกหมึกนู่นนี่นั่นให้เป็นระดับเทพ หมึกเทพกันน้ำบ้างล่ะ พู่กันเทพบ้างล่ะ และในบล็อกครั้งนี้ไอหมอนั่นก็อาการกำเริบอีกแล้วครับ เพราะมันไปพบเจอกับสิ่งหนึ่งเข้าแล้วก็คุกเข่าพนมมือไหว้และเถิดทูนให้เป็นอีกหนึ่งเทพของวงการเครื่องเขียน ตำนานเทพบทใหม่ที่ว่านี้ก็คือ “สีน้ำเทพ”
Daniel Smith Extra Fine Watercolors คือชื่อของเทพแห่งสีน้ำที่ผมคลั่งไคล้อยู่ในจิต ตั้งแต่ผมจำความได้ผมก็เริ่มใช้สีน้ำแล้วล่ะครับซึ่งสีแรกที่ใช้นั่นก็คือสีตราม้าฮี่กรับๆ 12 สีกล่องละ 20 บาท ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นสีน้ำเกรด…เอ่อ…เกรดที่ไม่สามารถระบุได้ และมาพักหลังๆ นี่ผมก็เริ่มหันมาสเก็ตช์ภาพ ไปร้านกาแฟก็หยิบสมุดสเก็ตช์ขึ้นมาทำมือขูดๆ ขีดๆ เรียกร้องความสนใจจากผู้หญิงทั้งๆ ที่ปากกาในมือนั้นหมึกหมด… และจากการที่เริ่มมาวาดภาพจริงจังนี้เองเลยทำให้มีโอกาสเข้าไปพัวพันกับสีน้ำหลากหลายยี่ห้อและหลายเกรดไม่ว่าจะเกรดนักเรียนไปจนถึงเกรดศิลปิน
ซึ่งสีน้ำเกรดศิลปินนั้นเป็นอะไรที่ผมหลงใหลเป็นพิเศษครับเนื่องด้วยความจัดเต็มในเรื่องของคุณภาพ มากด้วยปริมาณ pigment ที่เยอะกว่าสีเกรดนักเรียน ความละเอียดของเนื้อสีหรือจะเป็นความคงทนต่อแสง เป็นต้น จริงอยู่ที่สีน้ำเกรดศิลปินนั้นมีหลากหลายยี่ห้อมากๆ ยี่ห้อนั้นก็ศิลปินน้ำผึ้ง อีกยี่ห้อก็เกรดศิลปินแบบพาสเทล และกับสี Daniel Smith ที่ผมพูดถึงนี้ก็จัดเป็นสีน้ำเกรดศิลปินที่ศิลปินหลายต่อหลายคนทั่วโลกต่างก็ยกย่องให้เป็นสีน้ำที่มีคุณภาพสูงมากๆๆ อีกทั้งยังมีความพิเศษเฉพาะตัวจนยากที่จะมีใครสามารถทำสีได้เหมือนกับสีของ Daniel Smith
ไหนๆ ใครใช้สี Daniel Smith บ้าง?
อย่างว่าล่ะนะคือผมไม่เก่ง เลยชอบที่ดูงานของคนอื่นแล้วก็ดูเทคนิคการวาดภาพของเค้า(แต่ไม่ก๊อปปี้นะ) ดูถึงอุปกรณ์ที่ใช้ ดูว่าสีที่ลงไปนั้นมันเป็นสีอะไร ยี่ห้ออัลไล ซึ่งสเก็ตช์เชอร์ในต่างประเทศหลายคนเลยครับที่ผมตามผลงานอยู่แล้วก็เห็นว่าแต่ละคนล้วนแล้วแต่ใช้สีของ Daniel Smith ศิลปินคนที่เด็ดๆ ดังๆ ก็ยกตัวอย่างเช่นคุณ Liz Steel เธอคนนี้ใช้สีของ Daniel Smith แทบจะหมดทั้งจานเลยล่ะ อีกคนนึงที่เป็นทั้งสเก็ตช์เชอร์และเป็นบล็อกเกอร์เครื่องเขียนด้วยก็คือคุณ Teoh Yi Chie แห่ง parkablogs.com อีกคนก็คุณ Paul Wang นี่ก็เทพแห่งสีน้ำสไตล์สดใส และอีกคนที่ผมถือว่าเป็นสุดยอดของวงการสีน้ำเลยก็คือคุณ Cathy Johnson อาจารย์ศิลปะผู้มีผลงานหนังสือสอนวาดภาพดีๆ ดังๆ มากมายหลายเล่ม เป็นไงล่ะ?! ใครๆ ก็ใช้กัน! ไอผมเห็นช้างขี้ก็เลยอยากขี้สักก้อนนึงตามเค้าเลยต้องหามาลองกันสักที!
ประวัติ
แต่ก่อนอื่นผมอยากจะเล่าให้ฟังถึงบริษัท Daniel Smith สักหน่อยครับเพราะผมรู้ครั้งแรกนี่มันสนุกมากเผื่อจะได้เพิ่มความอินเหมือนกันกับผม คือคุณ Daniel ซึ่งต่อไปขอเรียกว่าคุณ Dan นะ ย้อนไปเมื่อนู่นเลย ปี 1970 ในเมืองซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา สมัยผมยังเป็นแค่ละอองใน DNA ของพ่อแม่ผม คุณ Dan แกทำงานเกี่ยวกับพวกสิ่งพิมพ์หลายแห่งมากเลยนะ เข้าใจกระบวนการทำภาพพิมพ์สำหรับงานศิลปะแนวภาพพิมพ์ ซึ่งไอการที่ได้อยู่ในวงการนี้เองทำให้รู้ว่าหมึกพิมพ์(สมัยนั้น)มันไม่ทนต่อแสงเลย โดนแดดๆๆ ซี๊ดดดดดด บ้า! สีซีด!! แกก็เลยมีความคิดว่าอยากจะทำสีที่มีคุณสมบัติทนทานกว่านี้ เลยเอารถมอเตอร์ไซค์คู่ใจไปขายเว้ยเห้ย! แล้วเอาเงินก้อนที่ได้จากการเลิกเป็นเด็กแว้นไปซื้อเครื่องรีดแบบ 3 ลูกกลิ้ง (หน้าตาเป็นงี้ 3-roll mill) เอามาทำแร่ะ?
ก็เอามาทำสีนะซี่ เวลาว่างจากงานประจำแกก็ง่วนอยู่ในโรงรถ(โรงรถอีกแล้วคนพวกนี้) แล้วก็ใช้เครื่องรีดนี่เอามาผลิตสีของตัวเอง ซึ่งสีแรกที่ทำก็คือสีดำ ทีนี้เพราะความฮิปสเตอร์อยากทำสีแบบยูนีคๆ แกคิดแบบศิลปินและมุ่งเน้นการพัฒนาสีอยู่เสมอ สีของแกเลยกลายเป็นที่รู้จักและถูกใจศิลปินไปทั่วเลยครับ ผ่านไป 3 ปีก็เลยออกจากงานมาทำสีอย่างจริงจังไปเลย หลังจากนั้นไหนๆ ก็ทำสีดีๆ แล้วก็น่าจะให้ครบองค์ฯ ไปเลย ทำทั้งแท่นพิมพ์ อุปกรณ์ภาพพิมพ์ กระดาษเนื้อดีๆ สำหรับงานพิมพ์ ลูกค้าที่เป็นศิลปินก็มาซื้อมาหาเยอะขึ้นเรื่อยๆ ร๊วย! ในปีที่ 4 แกเลยหาคนมาร่วมงานในหลายฝ่ายแล้วก็คิดค้นทำสีอื่นๆ นอกจากสีดำในที่สุด พอถึงปี 1983 ก็ไปตั้งโรงงานใหญ่โตมโหฬารแต่ก็อยู่ในซีแอตเทิลนี่อ่ะนะ เปิดร้านค้าปลีกแล้วก็เปิดร้าน online จนสินค้าออกสู่ตลาดโลกในวงกว้างในที่สุด
…ผมจะไม่ขอพูดเรื่องประวัติความเป็นมามากไปกว่านี้แล้วครับเพราะเดี๋ยวจะเกิดกิเลสอยากลาออกจากงานประจำไปทำสีน้ำขึ้นมาแล้วจะยุ่ง เอาปากกามาขายซื้อเครื่องรีดรัวๆ งี้ กร๊ากกก
Daniel Smith Extra Fine Watercolors มันดียังไง?
ก็นั่นแหละครับทั่นผู้ชม เพราะคุณ Dan แกตั้งเป้าไว้ว่าจะสร้างสีที่คงทนถาวรสีอยู่ได้ยาวนานหลายร้อยปี ดังนั้นคุณสมบัติชูโรงของสี Daniel Smith จึงต้องทนต่อแสงครับ อ้าว! คนเราอายุไม่กี่ปีก็ดับดิ้นสิ้นสูญกันไป แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าสีมันจะอยู่ได้เป็นร้อยๆ ปีอ่ะ? คือที่ Daniel Smith เค้าจะมีเครื่องมือที่ชื่อว่า Xenon Fadeometer (ชื่ออย่างกับปืนยานอวกาศ) มันเป็นเครื่องที่ใช้จำลองแสงของดวงอาทิตย์ที่มีความเข้มข้นสูงมาก โดยสามารถจำลองแสงอาทิตย์เท่ากับ 100 ปีในระยะเวลาการทดสอบเพียงแค่ 10 วันได้ ซึ่งสีของ Daniel Smith ทุกสีก็ต้องผ่านการทดสอบจากไอเครื่องแสงพิฆาตด้วยเช่นกัน
…คือไม่กล้าวิ่งผ่านหน้าเครื่องเลยอ่ะ เผลอโดนแสงเข้าคงแก่ตายในทันที
นอกจากนั้นสิ่งที่ทำให้สีของ Daniel Smith เค้าดังเปรี้ยงก็เพราะว่าเป็นสีที่ใส่ pigment ไปเยอะมาก โดยสูตรการทำสีน้ำของ Daniel Smith นั้นจะพยายามให้มีส่วนผสมของ pigment ให้เยอะที่สุดเท่าที่จะเยอะได้โดยไม่ทำให้สัดส่วนของ pigment ต่อตัวประสานนั้นเสียไป ซึ่งนี่จะทำให้สีหนึ่งสีนั้นจะมี pigment อู้ฟู่ชัดเจนแตะนิดระบายสีได้สวยสมใจนั่นเอง
สีน้ำของ Daniel Smith นั้นปัจจุบันจะมีด้วยกัน 247 สี โอ้ยยยโคตรเยอะเลย! ซึ่ง 247 สีนี้จะเป็นหลอดขนาด 15ml นะ แต่ถ้าอยากได้หลอดเล็กๆ ลงมาหน่อยก็จะเป็นหลอดขนาด 5ml ครับ แต่ว่าขนาดเล็กนี้จะมีไม่ครบทุกสี จะมีเพียงแค่ 88 สีเท่านั้น
และก็อย่างที่บอกไปไงว่าคุณ Dan แกเป็นฮิปสเตอร์ ไม่อยากเหมือนใคร อยากทำต่าง สีน้ำของแกเลยมีความเป็นเอกลักษณ์มากๆ ซึ่งบางสีนั้นเรียกได้ว่าไม่มีทางเลยที่คนอื่นจะสามารถทำสีให้ออกมาเหมือนได้ เพราะอะไร? เพราะว่าแกเล่นไปซื้อเหมืองแร่มาไว้เป็นของตัวเองแล้วเอามาผลิต pigment กันเลย บางสีนี่ก็เล่นไปเอาพวกแร่และอัญมณีมาทำสีเลยนะ ดังนั้นหากว่าไปเปิดๆ ชาร์ตสีหรือดูที่หน้าตู้ขายสีน้ำแล้วเห็นสีแปลก ก็ให้ตั้งข้อสังเกตไว้ได้เลยว่าอันนี้เป็นสีพิเศษของ Daniel Smith แน่ๆ
ไหนๆ ก็มีภาพตัวอย่างสีมาให้ดูแล้ว ผมขอโม้เรื่องสีบางสีในชุดนี้ให้ฟังหน่อยนะ อย่างเช่นสีม่วง Moonglow นี่อ่ะ เห็นมันม่วงๆ อย่างนี้ตรงส่วนที่สีมันหนาๆ จะออกเป็นสีม่วงทึบๆ เข้มๆ ครับ แต่ตรงที่เป็นการฉาบบางๆ มันจะออกไปทางสีม่วงอมชมพูเลย ซึ่งไอชื่อ Moonglow ก็ดูเหมาะดีนะเหมือนสีของท้องฟ้าตอนที่ดวงจันทร์กำลังขึ้นไง นี้ก็เป็นชื่อที่คิดตั้งกันเองนั่นแหละเพราะว่าไม่มียี่ห้อไหนทำสีแบบนี้
อีกสีนึงที่ผมว่ามันเข้าท่าดีนั่นก็คือสี Serpentine Genuine ที่เห็นมันก็เป็นสีเขียวที่มีโทนสดสว่างทีเดียวนะ แล้วถ้าตรงส่วนไหนที่มีสีหนาชั้นหน่อยก็จะมีการเหลือบสีแดงให้เห็นบ้าง แต่ในภาพนี้มันไม่สามารถถ่ายให้เห็นเป็นเขียวเหลือบสีแดงได้อ่ะ (นึกถึง sheen ที่ปรากฏในหมึกปากกาหมึกซึมได้เลย) สีมันเลยแปลกตาดีนั่นเอง
นอกจากสีแบบปรกติทั่วไปแล้ว ก็ยังมีสีที่สามารถระบุแยกชัดได้อีก 3 รุ่นครับซึ่งแต่ละตัวก็จะมีคุณสมบัติพิเศษแตกต่างกันไป มีแบบฟรุ้งฟริ้ง แบบแร่หรืออัญมณี โอ้ยเยอะ! มาดู!!
รุ่น Quinacridone
เป็นชุดสีที่ผมค่อนข้างถูกใจเป็นพิเศษครับเพราะว่ามีสีนึงที่ผมชอบใช้มากๆ โดยความเป็นมาของสีรุ่น Quinacridone นั้นมันเริ่มจากในอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์อ่ะ ซึ่งต้องการใช้สีที่มีความทนทานและต้องทนต่อแสงแดดเป็นพิเศษ
อีกจุดเด่นนึงที่ทำให้สีรุ่น Quinacridone ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากก็เป็นเรื่องของความโปร่งแสง (transparency) Quinacridone เป็นสีที่ใสมาก สามารถนำไปผสมกับสีอื่นๆ แล้วก็ไม่ทำให้สีเน่าได้ง่ายๆ โดยสีในชุดของ Quinacridone นั้นจะมีทั้งหมด 13 สีครับ โทนสีจะออกไปทางแดง ชมพู ม่วง และเหลืองต่างเฉดสีกันไป โดยตัวที่ผมใช้อยู่นั้นเป็น Quinacridone Gold 15ml ที่ชอบเพราะว่าผมจะนำสีนี้มาใช้แทน Yellow Ochre ซึ่งช่วยให้สะดวกในการผสมกับสีน้ำเงินเฉดต่างๆ แล้วเมื่อผสมแล้วก็จะออกมาเป็นสีเขียวที่สวยงามแลดูเป็นธรรมชาติทีเดียว
รุ่น PrimaTek
มาแล้ววววววว! สีชุดนี้ท่าไม้ตายของ Daniel Smith เลยก็ว่าได้ครับ สีชุด PrimaTek นั้นปัจจุบันมีด้วยกันทั้งหมด 38 สี ซึ่งถ้าจะให้อธิบายความเป็นสี PrimaTek อย่างเข้าใจง่ายก็คือเป็นสีที่ทำมาจากพวกแร่ตามธรรมชาติรวมถึงพวกอัญมณีที่มีสีสัน ยกตัวอย่างเช่น Amethyst เป็นต้น แล้วก็เอาแร่พวกนี้มาทำการบดให้เป็น pigment เลยครับ เอาให้ละเอียดเลยแล้วก็เอามาผสมกับ Gum Arabic จนได้มาเป็นสีน้ำ เสมือนกรรมวิธีในการผลิตสีแบบโบราณเลยนั่นเอง
เนื่องจากเป็นสีที่มาจากแร่ต่างๆ ทาง Daniel Smith เลยมีการจ้างผู้ชำนาญวิชาแร่ (เรียก mineralogist เหอะเท่กว่าเยอะ) เอาไว้เสาะหาแร่ต่างๆ ที่น่าสนใจทั่วโลก ไปตามเหมืองนั้นเหมืองนี้ดูว่าจะสามารถเอาแร่มาทำเป็นสีได้มั้ย ซึ่งสีชุด PrimaTek สีแรกเริ่มเลยก็คือสี Lapis Lazuli Genuine เป็นชื่อของอัญมณีสีน้ำเงิน ซึ่งสี Lapis Lazuli นี้เป็นสีที่ใช้ตกแต่งในส่วนรอบดวงตา คิ้ว รวมไปถึงเส้นสีน้ำเงินสลับทองในส่วนหัวของหน้ากากฟาโรห์ตุตันคาเมนของอียิปต์เลยทีเดียว[1] โอ้วเว่อร์ซะ!
คุณลักษณะที่โดดเด่นที่สุดของสีน้ำในรุ่น PrimaTek นั้นคือเรื่อง Granulate หรือตะกอนของสี ก็คือไอที่เราระบายๆ ไปแล้วตะกอนของสีจะไปตกลงบนผิวกระดาษอ่ะ เกิดเป็นลวดลายและเอฟเฟคที่แปลกตา ศิลปินหลายๆ คนเลยยกให้สีในชุด PrimaTek นั้นเป็นสีที่ให้เอฟเฟคตะกอนสีสวยงามไม่เหมือนใครราวกับเวทย์มนต์
สีที่ผมเอามาให้ดูนี้เป็นสี Amethyst Genuine ซึ่งผมว่าโคตรเด็ดดวงเลย! เป็นสีที่เกิดจากการนำเอา Amethyst มาบดแล้วทำเป็นสีน้ำอ่ะ เมื่อเราระบายเสร็จแล้วและมาส่องดูใกล้ๆ เราจะเห็นประกายระยิบระยับสีฟ้า สีขาว เขียว แดงโอ้ยสวย! มันทำให้ผมนึกถึงสมัยครั้งที่ผมเป็นนักบินอวกาศแล้วได้เดินทางท่องไปตามจักรวาลต่างๆ เห็นดาวเล็กดาวน้อยที่ส่องประกายแสงท่ามกลางอวกาศที่มืดมิดเลย
…สาบานสิว่าไม่ได้เมาเนื้อ
รุ่น Luminescent
มาถึงอีกรุ่นที่ถือว่าเด็ดสุดๆ ไม่มีใครเหมือนแน่นอนนั้นก็คือสีน้ำรุ่น Luminescent ซึ่งก็ตามชื่อเลยครับ คุณสมบัติมันช่างเว่อร์วังจริงๆ เพราะมันทอประกายสะท้อนแสงได้ระยิบระยับเลยทีเดียว ผมเรียกสีชุดนี้ว่า “สีน้ำฟรุ้งฟริ้ง” เพราะว่าบางสีบางอันก็จะทอประกายที่แตกต่างกันออกไปครับ บางอันสีพื้นเป็นสีฟ้าแต่พอหันกระดาษเปลี่ยนมุมให้กระทบแสงก็จะเห็นสีที่ต่างออกไป ความลับของประกายฟรุ้งฟริ้งนี้มาจากแร่ที่มีชื่อว่า mica ครับ ก็เอามาบดแล้วก็ผสมเข้าไปในสีนั่นเอง
ผมลองเอาสองสีที่ผมชอบมาให้ดูครับคือสี Duochrome Turquoise และ Iridescent Sapphire ซึ่ง Duochrome Turquoise นั้นปรกติจะเป็นสีวิบวับเป็นสีฟ้าอ่อนครับ แต่เมื่อเปลี่ยนมุมให้ต้องแสงแล้วจะเห็นเหลือบสีเขียวออกมาสวยงามเชียว และอีกสีคือ Duochrome Turquoise ที่ตอนแรกเห็นเป็นสีน้ำเงินอมม่วงแต่พอหันปุ๊บจะเปล่งประกายสีน้ำเงินขึ้นมาเลย ความพิเศษแบบนี้นี่เองที่เราสามารถเอาไปประยุกต์ใช้ได้ในงานวาดภาพสีน้ำของเรา ไม่ว่าจะเอามาระบายในส่วนที่เป็นโลหะ เป็นอัญมณีบนเครื่องประดับ หรือจะระบายดวงตาของตัวการ์ตูนก็ได้(เคียใช้สีอะไรไม่รู้แล้วตามันเปลี่ยนสีได้อ่ะ โคตรเทพ!)
ราคาเท่าไหร่? แล้วหาซื้อได้ที่ไหน?
สำหรับราคาของสีน้ำเทพๆ อย่าง Daniel Smith Extra Fine Watercolors นั้นไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนก็ตาม PrimaTek หรือจะแบบฟรุ้งฟริ้ง Luminescent นั้นก็จะใช้เรตราคาเดียวกันครับโดยจะแบ่งตามซีรีย์ของแต่ละสี ยกตัวอย่างเช่นสีเหลือง Naples Yellow ที่เห็นไปตะกี้ก็จัดอยู่ในซีรีย์ 1 ครับ ส่วนไอสีที่ผมชอบนักชอบหนาอย่าง Quinacridone Gold ก็เป็นซีรีย์ 2 ส่วนสีม่วงประกายดาวในจักรวาลอย่าง Amethyst Genuine ก็เป็นซีรีย์ 4 ครับ
ทั้งนี้เรื่องซีรีย์นั้นเราสามารถดูได้จากฉลากบนหลอดสี หรือถ้าอยากดูแบบพรืดเดียวได้หลายตัวก็สามารถเข้าไปดูจากชาร์ตสีน้ำของ Daniel Smith ที่ผมแปะไว้ได้เลยนะ : คลิกเพื่อดูชาร์ตสี
หลอดใหญ่ 15ml (แนะนำให้ซื้อขนาดนี้เพราะคุ้มกว่าเยอะ)
- Series 1 ราคา 695 บาท
- Series 2 ราคา 860 บาท
- Series 3 ราคา 980 บาท
- Series 4 ราคา 1,160 บาท
- Series 5 ราคา 1,315 บาท
- Series 6 ราคา 1,480 บาท
- Series 7 ราคา 1,930 บาท
หลอดเล็ก 5ml
- Series 1 ราคา 400 บาท
- Series 2 ราคา 465 บาท
- Series 3 ราคา 535 บาท
- Series 4 ราคา 600 บาท
ส่วนสถานที่จัดจำหน่ายนั้นก็ตามลายแทงข้างล่างนี่!
- Lamune Siam Square Soi 10
- B2S Central Chidlom
- B2S Central World Plaza
- B2S Mega Bangna
- B2S Central Ladprow
- B2S Central Pinklao
- CW Art หอศิลป์
ผมคิดว่าบล็อกตอนนี้น่าจะเป็นที่ถูกใจของแฟนๆ สีน้ำนะครับ เราอาจจะเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของสีน้ำยี่ห้อ Daniel Smith กันมาแล้วแต่ก็อาจจะยังไม่รู้ว่าเค้ามีสีอะไรให้เล่นบ้าง อ้าวเห้ย! มันมีสีฟรุ้งฟริ้งด้วยเหรอนั่น! ซึ่งบล็อกตอนนี้ถือเป็นตอนต้นเพื่อเป็นการแนะนำสีที่น่าสนใจของ Daniel Smith Extra Fine Watercolors ก่อนนะครับ ส่วนใครอยากอ่านรีวิวเจาะเรื่องตัวสีแล้วก็อยากเห็นว่าคุณสมบัติของแต่ละสีเป็นอย่างไรบ้าง ก็โปรดรอติดตามกันต่อไปนะ แต่สำหรับคนที่ไม่อยากรอก็แนะนำให้ไปซื้อมาใช้เลยละกัน แล้วก็หลังไมค์มาบอกผมด้วยนะครับ ผมจะได้ขอบีบใส่จานสีสักหลอดละจึ๊ก 2 จึ๊ก แอร๊ยยยยย
ขอขอบพระคุณ
บริษัท ไอซีซีพี จำกัด (ICCP Co., Ltd.) ที่สนับสนุนสีน้ำเทพ Daniel Smith Extra Fine Watercolors มาให้ได้ลองเล่นดูครับ ชอบสี Duochrome Turquoise มากเลย เห็นแล้วอยากจะเอามาทาขนหางแล้วโบยบินออกไปร่ายรำจริงๆ ขอบพระคุณครับ!
ปล. บล็อกตอนนี้มีข้อมูลเฉพาะค่อนข้างเยอะทีเดียวครับ หากข้อมูลตรงไหนมีความผิดพลาดหรืออธิบายแล้วดูงงงวยไม่กระจ่าง สามารถแจ้งเข้ามาได้เลยนะครับ ขอบพระคุณครับ