เมื่อคนเราเดินทางผ่านเรื่องราวต่างๆ มากมายในชีวิต บางเรื่องฮาน้อย ฮามาก ไม่มีสาระอะไร ใช้เวลาในชีวิตไปกับการช๊อปปากกามาโพสอวดบนเพจเล่นไปวันๆ แต่พอมาถึงจุดๆ หนึ่งมันก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงครับ ไม่ครับไม่ๆ ผมยังไม่เปลี่ยนตัวผมออกแล้วเอานักเขียนสาวสวย น่ารักๆ มาเขียนให้อ่านกันหรอกนะ ผมจะเอาไอหน้าเถื่อนเคราดกคนนี้คนเดิมเขียนนี่แหล่ะ ทนได้ไม่ได้ผมไม่สนใจ แต่ไอจุดเปลี่ยนที่ผมจะพูดถึงนั่นก็คือว่า ผมเปลี่ยนปากกาที่เหน็บกระเป๋า…อีกแล้ว

“นึกว่าจะเรื่องอะไรใหญ่โต ที่แท้มันก็จะหาเรื่องอวดปากกา”

พูดมาแบบนี้แล้วผมจะโต้แย้งอย่างไรไหว แต่ผมก็ไม่สำนึกหรอกนะเพราะเปิดมาขนาดนี้แล้วแถมถ่ายรูปไปเยอะด้วย วันนี้ผมก็จะอวดต่อไป

ต่อนะ คือว่าผมเปลี่ยนปากกาเหน็บกระเป๋าเสื้ออีกแล้วครับ ซึ่งการเดินทางของปากกาเหน็บกระเป๋าผมนั้นหลายคนคงจะรู้กันมาแล้วว่ามีอะไรบ้าง แรกเริ่มเลยคือผมเหน็บกระบี่ปฐมกาลเหลืองสุริยัน! Lamy Safari Yellow Black Clip Metal Cross Cap แล้วก็มาเป็นกระบี่นกเหยี่ยว Pilot Namiki Falcon (Elabo) และในครั้งนี้ผมก็กำลังอยู่ในช่วงคัดสรรกระบี่ด้ามใหม่อีกครั้ง และนี่เป็นหนึ่งในกระบี่ที่ผมสนใจเป็นพิเศษในขณะนี้

Kaweco Brass Sport Fountain Pen [มามะ มาดูกัน] คือปากกาที่หน้าตาเท่และลุคสุดฮิปสเตอร์ที่ผมอยากได๊อยากได้อ่ะแกร! ด้วยความที่ช่วงนี้ผมบ้าทองเหลืองเอามากๆๆ อันเนื่องมาจากว่าผมเพิ่งไปสอยสมุด TRAVELER’S notebook เล่มใหม่มาเชยชมครับ ซึ่งสีของมันเป็นสีใหม่ของปีนี้ Camel น้ำตาลอ่อน ซึ่งเข้ากันมากกับพวกชาล์มหรือก็คือเครื่องประดับสมุดที่เป็นทองเหลือง รวมไปถึงคลิปหนีบกระดาษทองเหลืองอีกด้วย ผมเลยออกตามหาว่ามันจะมีปากกาหมึกซึมอะไรบ้างที่เป็นทองเหลืองล้วนๆ เข้ากั๊นเข้ากันกับเจ้าสมุดเล่มใหม่ของผมอันนี้ หวยก็มาลงที่เจ้าปากกา Kaweco Brass Sport นี่แหล่ะครับ ขนาดชื่อรุ่นยังบ่งบอกถึงตัวตนเลย

แกะกล่อง

ปรกติแล้วผมไม่ค่อยพูดถึงเรื่องกล่องใส่ปากกาอะไรมากมายหรอกนะ แต่พอมาเป็นคราวนี้ผมเลยต้องขอพูดนิดนึงเพราะผมว่ามันเจ๋งดีครับ Kaweco Sport หากเป็นรุ่นพลาสติกธรรมดาที่ราคาไม่สูงมากกล่องมันก็จะมาเป็นกล่องกระดาษธรรมดาๆ ที่บรรจุปากกาได้แค่ด้ามเดียว แต่ถ้าเป็นรุ่นที่สูงขึ้นมาอย่างเช่นรุ่น Kaweco Brass Sport ด้ามนี้ เค้าก็จะเปลี่ยนมาเป็นกล่องที่ดีขึ้นเป็นกล่องโลหะสีทองที่หุ่มด้วยกล่องกระดาษอีกชั้นนึงเลย ก็มันแพงกว่ากล่องเลยต้องให้ไฮโซนิดนึงงี้

ที่ผมชอบเลยก็คือด้านในของกล่องเหล็กมากกว่าครับ คือข้างนอกมันสวยก็จริง แต่ข้างในมันก็ยิ่งเจ๋งขึ้นไปอีก ด้านในจะเป็นพื้นสีดำพลาสติกแต่บุผ้าให้สัมผัสคล้ายผ้าสักหลาด ไอตรงนี้แหล่ะมันจะทำเป็นนูนๆ ปูดๆ เว้าๆ ซึ่งข้อดีคือถ้าเราใส่ปากกา Kaweco Sport แค่ด้ามเดียวเราก็ใส่แนวทะแยงมุมเข้าล็อกของมันได้ เขย่ายังไงก็ไม่มีกลิ้งไปมา แต่ถ้าเรามีปากกา 2 ด้าม ก็เพียงเลื่อนมาใส่ตามแนวนอน ก็จะสามารถเก็บปากการุ่น Sport ได้สองด้ามสวยงามเกร๋ๆ

หน้าตา

จริงๆ แล้วเจ้าปากกาด้ามนี้ รูปร่างหน้าตาเรียกได้ว่าเหมือนกับรุ่น Kaweco Sport ธรรมดาๆ ที่ผมเคยรีวิวไปทั้งหมดนั่นแหล่ะ แต่ความแตกต่างที่เด่นชัดที่สุดนั่นก็คือเรื่องของวัสดุที่ใช้ซึ่งก็คือทองเหลือง เห้ย! เค้าเอาทองเหลืองมาทำตัวปากกาจริงๆ นะ! ในส่วนที่เป็นพลาสติกทั้งหมดจะเปลี่ยนมาเป็นทองเหลืองเลยครับ ถ้านึกไม่ออกให้ไปยืนดักหน้าโรงเรียนประถมครับ เห็นเด็กนักเรียนชายใส่ชุดลูกเสือก็ให้วิ่งเข้าไปหาแล้วพูดว่า

“หนูๆ อาขอดูหัวเข็มขัดหน่อย”

ไอบ้าเดี๋ยวถูกตำรวจจับ!! แน่นอนว่าทองเหลืองนี้ให้ความรู้สึกถึงความเป็นโลหะมากๆๆๆ จับแล้วเย็นมือแถมผิวยังลื่นเชียว ในส่วนที่เป็นจุกบนปลอกปากกานั้นก็ยังใช้เป็นโลโก้ Kaweco ที่คุ้นตาสีเงินสีตัดกับตัวด้ามเพื่อความสวยงาม ยิ่งถ้าแกะห่อออกมาใหม่ๆ จะเงางามสว่างสวยพระเอกลิเกมาเลย

ด้านในปลอก

แต่ว่ามันก็ไม่เป็นทองเหลืองไปเสียทั้งหมด เพราะว่าเมื่อเราหมุนเกลียวปลอกปากกาเพื่อถอดออกแล้วส่องเข้าไปดูด้านใน เราจะเห็นว่าที่รอบๆ ด้านในปลอกนั้นจะเป็นพลาสติกสีดำครับไม่ใช้เป็นทองเหลืองเพียวๆ ทั้งนี้ตามความเข้าใจของผม ที่เค้าทำเป็นพลาสติกก็เพื่อที่เวลาเราเอาปลอกมาเสียบเข้าที่ก้นปากกา มันจะได้ยึดติดเพิ่มความฝืดมากขึ้นเพราะถ้าเป็นทองเหลืองล้วนๆ รับรองว่าเสียบไม่อยู่แน่ๆ แต่ถึงแม้ด้านในจะเป็นพลาสติกบ้างแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดนะ ด้านในๆ รวมถึงเกลียวยังคงเป็นทองเหลืองอยู่ เพราะถ้าหากเค้าเป็นเกลียวทองเหลืองเมื่อเจอกับเกลียวพลาสติกรับรองเกลียวพังปิดไม่อยู่แน่ๆ

เหมือนรุ่น Sport พลาสติกมาก

ผมเทียบให้ดูกันอีกนิดว่าหน้าตามันเหมือนกันขนาดไหน ซึ่งเอกลักษณ์ที่เป็นปากกา Kaweco Sport นั้นจะมาเต็ม เหลี่ยมมุม รูปทรงเหมือนกับเปี๊ยบ แต่มันจะมีอยู่เพียงบางจุดเท่านั้นที่ต่างกัน ยกตัวอย่างเช่นในส่วนของเกลียวที่รุ่น Brass เกลียวจะสั้นกว่า หรือตรงส่วนปลายของด้ามที่จะเรียบไปเลย ไม่มีหยักมีเส้นเหมือนรุ่นปรกติ ทั้งนี้ไอเรื่องพวกนนี้ก็ไปดูใน Video Review ตอนที่ 3 ละกันนะ

หนัก ทองเหลืองล้วน

ด้วยความที่เป็นทองเหลืองทั้งดุ้น เป็นโลหะไง มันหนัก! น้ำหนักรวมทั้งปลอกมันหนักถึง 43 กรัมเลยทีเดียวครับ แต่เมื่อถอดปลอกปากกาออกแล้วชั่งแค่ตัวปากกาที่ไร้ปลอก ก็จะอยู่ที่ 29.8 กรัม แต่ผมเชื่อแน่ว่าหลายๆ คนที่ใช้ Kaweco Sport มาคงจะไม่ค่อยถนัดสินะถ้าจะจับแค่ตัวปากกาเพียวๆ แล้วเขียนเพราะด้ามมันสั้นไป (ผมก็ไม่ค่อยถนัดแหะ) เลยต้องใช้วิธีเอาปลอกมาเสียบเข้าที่ก้นปากกาแทน มันเลยเกิดคำถามที่ว่า

“เป็นทองเหลืองซะขนาดนี้ เสียบปลอกเข้าไปมันไม่หนักท้ายเหรอ?”

ทีแรกผมก็คิดว่าน้ำหนักมันจะเทไปทางก้นปากกาเยอะหากเสียบปลอกทองเหลืองเข้าไป แต่กลับไม่ได้เป็นงั้นอ่ะ เนื่องด้วยเพราะปลอกปากกาของรุ่นนี้มันยาวมากแต่ว่าสามารถเสียบเข้าที่ก้นปากกาได้ลึก ทำให้น้ำหนักของปลอกถ่ายเทไปที่ส่วนกลางและหัวปากกา ปัญหาน้ำหนักเทไปด้านหลังจึงไม่เกิดขึ้นครับ ลองดูสมดุลก็ได้จะเห็นว่าสมดุลโดยรวมไม่ว่าจะถอดปลอกหรือใส่ปลอกแล้วก็ยังคงอยู่ตรงกลางด้ามอยู่เหมือนเดิม คูลหว่ะ

คลิปเหน็บกระเป๋าเสื้อ 2 แบบ

จริงๆ แล้วไอคลิปเหน็บกระเป๋าเสื้อนี้มันมีหลายสีครับ ไม่ว่าจะเป็นสีเงิน สีทองแดง และเจ้าตัวนี้สีทองอร่ามดูเว่อร์วัง ทีแรกผมก็คิดหนักเลยนะว่าปากกามันเป็นทองเหลืองแล้วเราจะเอาสีอะไรถึงจะเข้า มั่วไปมั่วมาเลยสรุปที่สีทองนี่แหล่ะครับที่เข้ากับสีทองเหลืองที่สุด

โดยคลิปที่สามารถใช้กับปากการุ่น Sport ได้นั้นจะมีด้วยกัน 2 สไตล์ครับ แค่อันแรกเป็นรุ่น Sport แบบธรรมดาไม่มีชื่ออะไรต่อท้าย หน้าตาก็จะออกโมเดิร์นทันสมัยหน่อย ใครอยากดูเรียบๆ คูลๆ ก็เลือกเจ้านี่ได้

แต่อีกอันนึงก็คือรุ่น Sport Retro เห็นชื่อแล้วก็อ๋อเลยสินะเพราะว่าสไตล์การออกแบบของมันจะออกแนววินเทจย้อนยุคหน่อย ใครอยากได้ปากกาลุคคูลๆ แบบวินเทจมีสไตล์ ก็สามารถเลือกคลิปแบบนี้มาใส่ได้นะ

หลอดสูบ 2 แบบ

ขอพูดถึงหลอดสูบหมึกหน่อยเพราะครั้งก่อนสั่งผิดกันเยอะ คือว่าไอปากการุ่น Sport นี่อ่ะนะมันเป็นปากกาด้ามสั้น ดังนั้นหลอดสูบหมึกหรือ ink converter ที่จะสามารถใช้ด้วยกันได้ก็จะมีด้วยกัน 2 รุ่น รุ่นแรกนั้นจะเป็นรุ่น Piston Fill ลักษณะก็จะเป็นหลอดหมึกใสที่มีก้านสีดำ เวลาจะใช้ก็ดึงไอก้านขึ้นขึ้นเพื่อนสูบหมึกเป็นอันจบ และอีกแบบก็คือหลอดสูบรุ่น Squeezable ที่หน้าตาเหมือนไส้ไก่รถจักรยานแม่บ้าน วิธีใช้ก็เอานิ้วบีบๆ เพื่อสูบหมึกขึ้นมา แต่ว่าไอแบบหลังนี่โคตรห่วยเลยครับเพราะผมเคยใช้แล้วบีบให้ตายยังไงหมึกก็สูบขึ้นมาไม่เต็มหลอด แนะนำว่าเอาเข็มฉีดยามาฉีดใส่จะเต็มกว่านะ

เปลี่ยน nib ได้ง่ายๆ

ครั้งก่อนๆ ที่รีวิว Kaweco Sport ผมไม่ได้ถอดส่วนหัวโชว์ใช่มะ? และในครั้งนี้ผมเลยขอถอดโชว์ให้ดูเลยละกัน โดยปากกาด้ามนี้ผมเลือก nib ขนาด EF ซึ่งเล็กที่สุดของ Kaweco มาครับ แต่ทีนี้ผมก็มาสงสัยไงว่าถ้าอยากจะเปลี่ยน nib ด้วยตัวเองต้องทำยังไง ดึงไปดึงมากลาวเป็นว่าในส่วนหัวของปากกานั้น เราสามารถบิดเพื่อหมุนเกลียวถอดส่วน nib และ ink feed ออกมาได้ง่ายๆ ไม่ต้องไปออกแรงดึงเปลี่ยนเให้ยุ่งยาก ซึ่งถ้าหากคุณผู้อ่านอยากที่จะเปลี่ยนขนาด nib ด้วยตัวเอง เค้าก็มีเฉพาะส่วนหัวดำๆ นี้ขายแยกนะ โดยราคาก็จะแตกต่างกันไปตามรุ่น เช่นรุ่น nib สีดำก็จะแพงขึ้นมาหน่อยงี้  ให้แบบ niv ทอง 14k แพงจัดๆ ก็ยังมีด้วยนะ! ใครที่อยากซื้อหัวเปลี่ยนเองก็เชิญเข้าไปส่องได้ที่นี่ : Kaweco Accessories

---

มาถึงข้อเสียกันบ้าง!!!

มันสวยนะ คูลมากๆ เหมาะกับฮิปสเตอร์พันธุ์ทางอย่างผมมาก แต่ว่าไม่ใช่ว่ามันจะไม่มีข้อเสียนะ แต่เอ… ไอข้อแรกนี่ผมไม่ค่อยแน่ใจว่าจะเรียกว่าข้อเสียได้อย่างเต็มปากมั้ย โดยประเด็นที่ผมจะพูดถึงมีดังนี้ครับ

1. สีเปลี่ยน

ไอตรงนี้ผมไม่รู้ว่าจะมองเป็นข้อดีหรือข้อเสียกันแน่ นั่นก็คือว่าในเมื่อปากกา Kaweco Brass Sport ด้ามนี้มันทำมาจากทองเหลือง ดังนั้นด้วยคุณสมบัติของทองเหลือง เมื่อใช้ไปสักพักมันโดนน้ำ โดนเหงื่อ โดนอากาศ มันก็จะเกิดปฏิกิริยาทำให้สีเปลี่ยนได้ครับ สีเหลืองทองที่เคยสว่างสดใสก็จะดูขุ่นๆ หมองๆ

ลองดูจากด้ามที่ผมใช้อยู่สิครับ ผมใช้มาได้ประมาณ 1 สัปดาห์จะเห็นว่าสีของตัวด้ามเริ่มเข้มขึ้น ความสว่างสีทองอร่ามมันเริ่มหายไปแล้ว ทีนี้พอเราลองดึงคลิปออกก็จะทำให้เห็นถึงสีทีแตกต่างกันสองส่วนได้อย่างชัดเจน เช่นเดียวกับตัวด้ามปากกาที่อยู่ภายในปลอกนะ พอหมุนปลอกปากกาออกก็จะเห็นส่วนในที่ยังสว่างผิดกับตัวด้ามที่อยู่ภายนอก ซึ่งผมมองว่ามันเป็นเสน่ห์ของทองเหลืองนะ เพราะมันให้ความรู้สึกเหมือนกับเป็นของที่ถูกใช้งานมานาน มีความเท่ ความขลัง ดูเก๋ามากอ่ะ เหมือนพวกไฟแช็ค Zippo ทองเหลืองที่ใช้กันตั้งแต่สมัยเรียนงี้ ดูขลังและคลาสสิคมากๆ เลย นี่แหล่ะผมเลยมองว่ามันสามารถมองเป็นจุดเด่นก็ได้

แต่สำหรับบางคนที่มองว่าตรงจุดนี้เป็นข้อเสียเพราะว่าสีมันหมองไม่ดูไฮโซสีทองอร่ามสดใสเหมือนใหม่ อาจจะแก้ปัญหาระยะสั้นได้ด้วยการไปเอาพวกน้ำชาขัดเงาทองเหลืองและโลหะอย่าง Brasso ที่พวกเราใช้ขัดหัวเข็มขัดลูกเสือนั่นแหล่ะมาขัดให้เงางามก็ได้นะ แต่คงต้องขัดกันบ่อยเลยล่ะเพราะใช้ไปสักพักมันก็จะกลับมาหมองเหมือนเดิมครับ ทางที่ดีลองชั่งใจดูว่ามันเหมาะกับสไตล์เราหรือเปล่านะจะได้ไม่มาเซ็งภายหลัง

2. กลิ่นเหม็น

ไอตรงนี้แหล่ะที่เป็นข้อเสียเต็มๆ สำหรับปากกาด้ามนี้ อันเนื่องด้วยมันเป็นปากกาทองเหลืองอีกนั่นแหล่ะ ตัวปากกามันจึงมีกลิ่นที่เหมือนกับโลหะที่มีน้ำมันเคลือบอยู่ ซึ่งจริงๆ แล้วกลิ่นก็ไม่ได้รุนแรงมากมายเหมือนพวกปากกาเรซิ่นคุณภาพต่ำหรอกนะ แต่ประเด็นคือว่าพอเราจับปากกาไปสักพักแล้วเอามือมาดมดู กลิ่นเหล็กมันติดปากกามาเลยจร้าาาาา แกเป็นช่างเชื่อมหรือไง!! วิธีแก้(แบบช่วยได้นิดเดียว) ผมขอแนะนำให้เอาพวกกระดาษเปียกมาเช็ดให้ทั่วทุกอณูครับ มันจะลดกลิ่นลงได้บ้าง แต่ยังไงๆ กลิ่นมันก็ยังคงติดมือเหมือนเดิมนะแค่เบาลงนิดนุง ใครที่อยากได้ปากกาด้ามนี้แต่กังวลเรื่องกลิ่นโลหะติดมือ ผมแนะนำให้ไปขอดมปากกาเพื่อนหรือไม่ก็ไปดมที่ร้านดูก่อนนะแล้วค่อยตัดสินใจก็ได้

3. หนักจนกระเป๋าห้อย

อันนี้น่าจะเป็นปัญหาสำหรับคนที่ปรกติเหน็บปากกากับกระเป๋าเสื้อครับ ด้วยเพราะว่ามันเป็นปากกาทองเหลืองที่มีน้ำหนักค่อนข้างเยอะแล้วดันเกิดมาตัวป้อมสั้นด้วยนะ เวลาเอามาเหน็บเข้ากับกระเป๋าเสื้อเชิ้ตมันเลยพาให้กระเป๋าเสื้อห้อยยู่ลงมาเลย ซึ่งถ้าหากเป็นปากกาอื่นๆ ทั่วไป อย่างน้อยความยาวของของปากกาก็ยังยันถึงก้นกระเป๋าเสื้ออยู่ แต่กับเจ้า Brass Sport เหมือนพวกขาไม่ถึงพื้นและพยายามเกาะคอเพื่อนอ่ะ มันถ่วงความเจริญ!

มี Video Review ด้วยนะ!

ในรีวิวตอนนี้ ด้วยเพราะความสวยงามของปากกาเลยทำให้อยากปล่อยของมาก ผมเลยจัดการทำ Video Review ตอนที่ 3 บน bbblogr.com YouTube Channel ซะเลย ซึ่งในนั้นก็จะมีเนื้อหาบางส่วนที่แตกต่างออกไปนะ ใครอยากเก็บทุกเม็ดก็สามารถเข้าไปชมกันได้ครับผม (ฝากสับตะไคร้กันด้วยนะ)

ซื้อที่ไหน? ราคาเท่าไหร่?

ปากกาด้ามนี้ผมได้รับการสนับสนุนมาจากคุณแฟร้งค์แห่งเว็บ fontoplumo.nl ร้านปากกายอดนิยมของชาวไทย และครั้งนี้ไม่มี แจกของ! นะเพราะแกบอกว่าให้ผมเก็บไว้ใช้ กร๊าาาากกกก! คอยกันอยู่สินะ อด! แต่ไม่เป็นไรครับ ใช้ดวงไม่ได้ก็ให้ใช้เงินแทนละกันนะ

โดยเจ้าปากกา Kaweco Brass Sport [คลิกสิคะ] ด้ามนี้ถ้าเป็นด้ามเดียวเพียวๆ  เมื่อรวมค่าส่งมาประเทศไทย ใช้โปรบีบีบล็อกและได้รับการงดเว้นภาษีแล้วจะตกอยู่เพียงด้ามล่ะ 59.76 euro หรือเท่ากับ 2,370 บาท โอ้ยยยยยถูกมากๆๆๆ (ทำไมถึงถูก? เดี๋ยวเล่า)

หรือใครอยากจะจัดเต็มหน่อยเอาหลอดสูบ 2 แบบ แล้วพ่วงด้วยคลิปแบบ retro อีก 1 อัน (คลิปแบบธรรมดาของดันหมดอ่ะ กดไม่ได้แต่ว่ามันมีราคา 4.55 euro) ราคาทั้งหมดทั้งมวลก็จะอยู่ที่ 67.50 euro หรือแค่ 2,675 บาท เท่านั้นเอง! เงินในกระเป๋าสั่นสินะ? ลองหันหลังไปดูหน้าเมียด้วยจะได้สั่นเทิ้มเลย

*ตอนนี้ปากกาหมดอ่ะ ก็ลองไปถามคุณแฟร้งค์กันเอาเองนะว่าจะมีมาเติมสต๊อกอีกเมื่อไหร่ แล้วเราค่อยกดสั่งซื้อก็ได้จะได้ไม่ต้องคอยนาน

ซื้อนอกหรือซื้อในไทยดี?

เอาจริงๆ เลยนะครับเรื่องนี้คุณต้องตัดสินใจให้ดีๆ นะ เพราะว่าซื้อจากเว็บคุณแฟร้งค์อ่ะมันถูกกว่าอยู่แล้วเพราะเค้าปลอดภาษีแถมอยู่ใกล้เยอรมันอีก ราคามันเลยเย้ายวนใจมาก ซึ่งมันก็ต้องแลกมากับอะไรหลายๆ อย่าง เช่น การซื้อที่ยุ่งยากขึ้น มันอาจจะหล่นหายกลางทาง หรือโดนโปนจ้นไปก่อนถึงมือเราก็ได้ ดังนั้นใครที่อยากซื้อในไทยก็สามารถไปตามเค้าน์เตอร์ปากกาในห้างหรือที่ B2S(บางสาขา) ก็ได้ และเท่าที่ไปถามพนักงานมาทำไมมีแต่ nib ขนาด M ก็ไม่รู้ (ในรูปคือ B2S เซ็นทรัลเวิร์ล ทั้งตู้พนักงานบอกว่าเป็นหัว M หมด งงหว่ะ!) โดยราคาเฉพาะตัวปากกานั้นในไทยจะอยู่ที่ 4,450 บาทครับ ราคาแพงกว่าคุณแฟร้งค์ไป 2,080 บาทเอ๊ง….. เห็นราคาแล้วจุกไปถึงลิ้นปี่เลอ

ขอเตือนเรื่อง tracking no. หน่อย!

ถึงผมเลือกส่งแบบธรรมดาที่ถูกที่สุดแล้วมันไม่หาย แต่ก็ไม่ได้หมายความถ้าคุณสั่งแล้วมันจะไม่หายนะ! เรื่องนี้มันดวงล้วนๆ กร๊าาาากกก ดังนั้นผมแนะนำว่า ถ้าหากจะสั่งหลายด้ามหรือสั่งปากกาที่มีมูลค่าค่อนข้างสูงอย่างเช่นปากกาด้ามนี้ คุณต้องตัดสินใจด้วยตัวเองนะว่าจะเลือกส่งแบบมี tracking no. หรือไม่ เพราะอย่างน้อยถ้ามันมาช้าหรือหายไปกลางทางเราจะได้สามารถตามของได้ ยังไงก็ลองคำนวณดูนะว่าถ้าเลือกส่งแพงขึ้นอีกนิดแล้วราคายังพอรับได้อยู่หรือไม่ ถ้ารับไม่ได้หรือไม่อยากเสี่ยง ผมแนะนำว่ายอมจ่ายแพงหน่อยซื้อในไทยนี่แหล่ะครับชัวร์ที่สุดล่ะ 4 พัน 5 ขำๆ

ใครจะว่ายังไงผมไม่รู้หรอกนะแต่ผมว่าพอผมเหน็บเจ้าปากกาด้ามนี้แล้ว รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองมีระดับความหล่อเพิ่มขึ้นอีก 20% เลยทีเดียว เอาจริงๆ จากความเห็นของผมเลยนะ ผมไม่ค่อยอินกับปากกา Kaweco Sport รุ่นธรรมดาสักเท่าไหร่เนื่องมาจากวัสดุที่ใช้มันเป็นพลาสติก ทำให้รู้สึกเบาหวิวดูก๊องแก๊งยังไงก็ไม่รู้ ดูไม่รวย! แต่พอมาเจอกับเข้าตัวนี้ Kaweco Brass Sport ที่เปลี่ยนวัสดุมาเป็นทองเหลืองทั้งด้าม ก็ทำให้ผมตกหลุมรักเข้าเต็มเปาเลยครับ ทั้งสวยงาม เท่ เก๋า มีเสน่ห์ที่ปากกาด้ามอื่นยากที่จะทำได้ มันเลยทำให้ผมต้องมองเจ้าปากกา Kaweco ใหม่โดยอาจจะขยับไปเล่นรุ่นที่เป็นโลหะด้ามอื่นๆ เป็นต้น

ผมแนะนำนะครับหากเป็นคนที่หลงใหลในเสน่ห์ของทองเหลือง มีสมุดที่สไตล์เข้าคู่กัน หรือเพียงเพราะอยากได้ปากกาเจ๋งๆ และเขียนดีมาใช้สักด้าม ลองหาเจ้าปากกา Kaweco Brass Sport ด้ามนี้มาครอบครองกันดูนะครับ