Lamy Joy ปากกาดี ตัวหนังสือสวย ที่ใครหลายคนมองข้าม!
“จอย~ จ๋าจอย~ คืนนี้ขอนอนบ้านจอยด้วยได้ไหม~” …นั่นมันน้องพรเฟ้ย!! แต่ก็เอาเถอะจะเปิดเข้าเรื่องแบบธรรมดาชาวบ้านเค้าก็ทำไม่เป็นอ่ะนะ เลยขอเล่นจำอวดหากินไปวันๆ ละกัน -..-
เรื่องมันมีอยู่ว่ามีสมาชิกเพจหลายๆๆๆๆๆๆ ท่าน(แสดงว่าเยอะจริงๆ) สอบถามเข้ามาว่าเมื่อไหร่จะนำเอาปากกา Lamy Joy มารีวิวให้อ่านกันเสียที ได้ครับผมจัดให้!! ผมเชื่อแน่ครับว่าคนส่วนใหญ่ก็คงจะไม่รู้จักลามี่รุ่นนี้กันนักหรอกเพราะมันเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมอยู่ในกลุ่มแคบๆ ไม่ค่อยมีใครพกไปไหนมาไหนให้เห็นกันเหมือนกับรุ่นอื่นๆ ก็เนื่องด้วยรูปลักษณ์ที่ผิดแปลกกว่าเพื่อน เลยทำให้มันเป็นปากกาที่หลายคนสนใจจนนำมาสู่บล็อกในตอนนี้ยังไงล่ะครับ (เปิดหัวจำอวด ลงท้ายอย่างกับรายการกบนอกกะลา)
Lamy Joy เป็นปากการุ่นปรกติทั่วไปที่ไม่ได้เป็นรุ่นหายากครับ เป็นลามี่ที่มีลักษณะพิเศษเลียนแบบลักษณะของปากกาขนนกในสมัยโบราณ ก็เนื่องด้วยปลายด้ามปากกาที่ยาวววววมากกกก เพื่อให้มีน้ำหนักที่สมดุลเหมาะสำหรับการเขียนตัวอักษรประดิษฐ์ให้สวยงามยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าสร้างมาเพื่อการเขียนตัวอักษรเลยก็ว่าได้ครับ
แต่เท่านั้นยังไม่พอ! ลามี่จอยด้ามนี้ยังมาพร้อมกับ nib ที่ไม่เหมือนใคร เป็น nib ขนาด 1.5 มิลลิเมตรแบบหัวตัด …เอ แล้วไอปากกาหัวตัดมันเป็นยังไงเหรอ? ได้ครับผมจะเล่าให้ฟังสำหรับคนที่ยังไม่รู้จักปากกาชนิดนี้นะครับ
ปากกาหัวตัดนั้นมันก็คือปากของอีกาตัวดำๆ ที่เป็นนกนี่แหละครับ ครั้งหนึ่งพวกกามันได้ไปทำผิดร้ายแรงเข้าโดยไปจิกกินกระเทียมของชาวไร่ที่ปลูกไว้จนได้รับความเดือดร้อนกันทั่ว เมื่อเรื่องถึงหูพระราชาเลยสั่งให้มีการจับนกกามาตัดหัวเสียบประจาน ก่อนตัดหัวเจ้าพวกนกกาก็ได้ทิ้งคำสาปแช่งแก่พวกมนุษย์เอาไว้ว่า “ด้วยความแค้นครั้งนี้ พวกข้าจะกลับมาเกิดใหม่และตามหลอกหลอนพวกเจ้าทุกชาติไป!” เมื่อมนุษย์ได้ยินเช่นนั้นก็พากันก่นด่าว่า “ก็เพราะปากของอีกาอย่างนี้แหละน้า ถึงได้โดนตัดหัว!” จากประโยคนี้เองในยุคสมัยนั้นจึงได้มีการจารึกไว้ในตำราโบราณว่า “อีกาปากดีโดนตัดหัว” ก็ได้กลับมาเกิดใหม่ในรูปของปากกาเพื่อตามหลอกหลอนมนุษย์ เมื่อเวลาผ่านไปหลายสิบหลายร้อยปีจึงมีการเรียกเพี้ยนเสียงกลายเป็นคำว่า “ปากกาหัวตัด” ในที่สุด จนเป็นที่มาของปากกาหัวตัดยังไงล่ะครับ…
หลงอ่านตั้งนานนึกว่าจะมีสาระ!! นี่แกกะเนียนเขียนมั่วเลยสินะ!! เอาใหม่ๆ ปากกาหัวตัดนั้นเริ่มแรกเดิมทีเกิดขึ้นในสมัยโบราณ ทำมาจากการใช้ขนนกมาตัดปลายในมุมเฉียงให้แหลมแล้วตัดปลายอีกครั้งให้กลายเป็นปลายตัดเพื่อเพิ่มผิวสัมผัส จากนั้นจึงทำการบากส่วนปลายให้เป็นร่องเพื่อให้สามารถเก็บหมึกได้ช่วยระยะเวลาหนึ่งสำหรับการเขียน โดยการจะใช้เขียนแต่ละประโยคนั้นก็จะต้องทำการจุ่มหมึก(dip)เสียก่อนเพราะสมัยนั้นยังไม่มีการคิดค้นรางส่งหมึกและหลอดเก็บในตัวยังไงล่ะครับ ปากกาลักษณะนี้จึงเรียกได้อีกอย่างว่า dip pen หมายถึงปากกาที่ต้องใช้การจุ่มหมึกเพื่อการเขียนครับ (ดูในหนังพีเรียดได้เลยนะมีให้เห็นเยอะแยะ) แต่ปากกาหัวตัดสมัยใหม่นั้นถูกออกแบบมาสำหรับเขียนตัวอักษรประดิษฐ์ครับหรือภาษาอังกฤษเรียกว่า calligraphic เป็นตัวอักษรสร้างขึ้นเพื่อความสวยงาม มีการใช้เส้นที่แต่ละเส้นจะมีขนาดความหนาความบางที่ต่างกันออกไป ทำให้ตัวอักษรดูมีความรู้สึกเคลื่อนไหว แลดูสวยงามต่างจากตัวหนังสือธรรมดา แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้เจาะจงว่าจะต้องนำมาใช้เขียนตัวอักษรเพียงอย่างเดียวเท่านั้นนะครับ มี Sketcher หลายท่านที่ติดใจในปากกาหัวตัดก็ได้นำมาใช้วาดเส้นในงานสเก็ตช์ของตนด้วย สวยได้อารมณ์ไปอีกแบบนะครับเนี่ย
แน่นอนว่าหากไม่ใช่รุ่นหายากก็จะสามารถหาซื้อได้ตามร้านเครื่องเขียนดังๆ ทั่วไปครับหรือจะเป็นที่เคาท์เตอร์ลามี่ในห้างสรรพสินค้าก็มีแน่นอน ราคาขายอยู่ที่ 900 บาท(อันนี้ราคาเชียงใหม่นะ ที่บางกอกอาจจะถูกกว่าครับ) โดยรุ่นปรกติที่มีขายกันทั่วไปจะมีด้วยกันสองสีครับคือ สีดำคลิปแดง-จุกกลมแดง-ปลายเป็นสีแดง และอีกด้ามคือ สีขาวคลิปเงิน-จุกกากบาทเทา-ปลายเทา แต่!! มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อมากครับที่ลามี่รุ่นนี้ดั้นนนมี limited edition กับเค้าด้วย! เอาไว้ถ้าผมได้มีโอกาสเป็นเจ้าของจะลองนำมาให้ชมกันนะครับ …อาห์ ได้เสียเงินอีกแล้ว…
ก็อย่างที่ได้บอกไปตอนต้นครับว่าลามี่จอยมันมีขนาดที่ยาวววมาก ลองเอามาเที่ยบกับลามี่ซาฟารีรุ่นยอดนิยมจะเห็นว่ายาวกว่าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งแน่นอนว่าถึงแม้จะอยากเท่มากมายเพียงใดก็คงไม่สามารถเหน็บกระเป๋าเสื้อไปอวดความเท่ให้ใครเห็นได้ ก็พี่เล่นยาวชี้โด่เกือบจะทิ่มตานะสิ! แต่ผมมีวิธีครับ!! ก็เพราะว่าผมชอบทั้งหน้าตาของมัน สีแดงช่างตัดกับตัวด้ามดำเงาวับได้อย่างลงตัวแถม nib ยังวาดเส้นและเขียนตัวอักษรได้ถึงอารมณ์อีกต่างหาก ผมเลยไปซื้อลามี่ซาฟารีสีดำเงามาเพื่อแกะเอาส่วนด้ามมาเปลี่ยนกับลามึ่จอยยังไงล่ะครับ ทีนี้แหละเราก็จะสามารถพกลามี่จอยสุดสวยแดงดำไปไหนมาไหนได้อย่างสบายแล้ว วะ ฮ่า ฮ่า (ต้องเสียเงินซื้ออีกด้ามเลย T_T)
การเขียนตัวอักษรซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของลามี่ด้ามนี้ก็อย่างที่เห็นครับ เส้นมีขนาดที่แตกต่างกันในแต่ละองศาที่วาดเส้น แต่ทั้งนี้ความสวยงามก็จะแตกต่างไปตามสไตล์การเขียนของแต่ละคนด้วยนะครับ ซึ่งของผมก็โชว์กากๆ แบบนี้แหละ ถ้าลองเอาไปให้คนที่เขียนด้วยปากกาหัวตัดเป็นประจำละก็จะสวยเทพกว่านี้เยอะครับ!
เป็นอย่างไรบ้างครับกับ Lamy Joy สุดแปลกแหวกม่านประเพณีด้ามนี้ สีสันสวยงามคลิปแดงจุกแดงโดดเด่น มาพร้อมกับ nib ที่ให้เส้นลักษณะเฉพาะสุดพิเศษ จะใช้เขียนหนังสือก็ได้หรือจะใช้สเก็ตช์ภาพก็ยิ่งสวยแปลกตา ถึงแม้จะไม่สามารถเหน็บกระเป๋าเสื้อได้แต่ถ้าได้เปลี่ยนด้ามก็จะไร้ซึ่งปัญหาทั้งปวง ผมแนะนำให้ลองหามาใช้ดูนะครับ ราคาไม่แพงแถมยังคุ้มค่าต่อการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในการเขียนอีกด้วย รับรองคุณจะต้องชอบจนไม่อยากวางลามี่ด้ามนี้เลยเชียวครับ
ปล. สงสัยคำสาปอีกาจะเฮี้ยนจริง…ผมเลยโดนไปหลายด้ามเลยครับ กร๊าาากก T_T