ทีแรกที่ผมได้รับเมลจากคุณแฟร้งค์ ผมก็นึกเลยนะว่าแกเคยฟังเพลงของพี่ทัช ณ กั่วทุ่งกุลาร้องไห้ด้วยเหรอ? เออ เราก็เคยมีนะเทปชุดทัช ธันเดอร์หน่ะ แต่ไม่คิดเลยว่าพี่แกจะดังไกลถึงเนเธอร์แลนด์ด้วย คือในเมลของคุณแฟร้งค์แกนั้นพิมพ์มายาวประมาณ 3–4 ย่อหน้าครับแต่ผมอ่านภาษาอังกฤษออกแค่เพียงไม่กี่คำ ซึ่งคำที่ว่าก็มีคำว่า touch แล้วก็อีก 2 คำนั่นคือ Lamy Screen

คิดว่านี่น่าจะเป็นมุกที่หัวเราะแบบ หึหึ ที่สุดตั้งแต่เปิดเว็บมาล่ะ…

Lamy Screen Ballpoint Pen : Red เป็นปากกาน้องใหม่ล่าสุดของบ้านใหญ่ Lamy Germany เป็นการออกแบบโดยผนวกความสามารถ 2 อย่างเข้าด้วยกันนั่นก็คือ ใช้เป็นปากกาเขียนแบบปรกติได้ และก็ยังสามารถใช้เป็นปากกา stylus เพื่อเอาไว้ใช้กับพวกโทรศัพท์มือถือ tablet ที่มีหน้าจอสัมผัสได้ เรียกได้ว่าจดบันทึกลงกระดาษอยู่ดีๆ ถ้าอยากจะวาดรูปลง tablet ก็แค่หมุนปากกาด้าน stylus ออกมาวาดได้เลย เพิ่มความสะดวกถึงขีดสุด

หน้าตา

Lamy Screen นี้ผมได้รับมาจากคุณแฟร้งค์ครับ ตอนแกถามว่าเอาสีอะไร ไอกระผมก็ดันเป็นคนชอบสีแดงเลยบอกคุณแฟร้งค์ไป ซึ่งจริงๆ แล้วลามี่รุ่นนี้มีด้วยกันถึง 4 สีครับ คือ สีขาว สีน้ำเงิน สีเงิน และสีแดงเช่นด้ามนี้ (รับรองได้เลยว่าปีหน้าจะต้องออกพวก limited edition แน่ๆ) โดยตัวด้ามนั้นจะแบ่งเป็นสองส่วนคือในส่วนที่เป็นมือจับ (grip) จะใช้วัสดุเป็นพลาสติกสีดำเนื้อแข็ง ซึ่งทีแรกผมก็รู้นะว่ามันเป็นพลาสติกเพราะความเย็นของมันไม่ได้เย็นเหมือนพวกโลหะ แต่พอลองเคาะแล้วก็รู้สึกแน่นๆ เสียงดังกิ๊งๆ เลยทำให้ลังเลว่าเหล็กหรือเปล่าแต่ก็เป็นพลาสติกครับ ส่วนตรงที่เป็น grip ก็ทำเป็นริ้วๆ ลอนๆ ให้สามารถจับได้ถนัดมือไม่ลื่นไหล และมีการทำโลโก้นูนน้อยๆ บ่งบอกว่าเป็นปากกาลามี่แท้แน่นอน

มองขึ้นมาส่วนบนบ้าง ที่เป็นสีแดงเงาวับ ไอส่วนตัวด้ามตรงนี้ใช้วัสดุที่เป็นอลูมิเนียมเคลือบสีเนียนทีเดียวครับ และด้วยความที่ส่วนนี้มันเป็นอลูมิเนียม มันจึงเป็นส่วนช่วยในการใช้งานในส่วน stylus ได้ดียิ่งขึ้นไปอีก ยังไง? เดี๋ยวอ่านไปก็จะรู้ล่ะ

กลไก

ปากกา Lamy Screen นั้นเค้าบอกว่าสามารถใช้เป็นปากกา stylus ได้ แต่เอ๊ะ! ก็นี่จะทัชอยู่แล้วไอหัวทัชมันอยู่ตรงไหนล่ะ? ดูตรงกลางด้ามเราจะเห็นว่าตัวปากกาจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ความยาวเท่ากันระหว่างส่วนมือจับสีดำและด้ามสีแดง ซึ่งเราสามารถหมุนได้ทั้งสองทางเลย(เดี๋ยวดูวิดีโออีกทีนะ) โดยเมื่อหมุนไปด้านนึงปลายแบบปากกาลูกลื่นก็จะโผล่ออกมา แต่ถ้าหมุนสวนทางกับเมื่อตะกี้ปลายที่เป็น stylus ก็จะเสนอหน้าออกมาให้เราใช้ล่ะครับ

แน่นหนา

หลายคนอาจจะคิดว่าไอพวกปากกาที่มันต้องหมุนเข้าหมุนออก สักวันนึงกลไกข้างในมันก็จะต้องพังได้ง่ายแน่ๆ ซึ่งเจ้า Lamy Screen นี้ผมก็ลองหมุนไปหมุนมาเข้าออกรัวๆ ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันจะพังได้ง่ายๆ เลยนะ ตอนแรกคิดว่าตอนที่เราทำการหมุนมันอาจจะโยกจนตัวด้ามไม่ตรงบ้าง แต่ด้วยเพราะปากกานี่มันสร้างมาดีครับ ทั้งวัสดุและการขึ้นแบบมันคมเนียบเชียว เลยช่วยส่งเสริมให้กลไกข้างในทำงานได้ดี แน่นหนามากยิ่งขึ้น ผมไม่รู้สึกถึงว่ามันจะพังได้ง่ายๆ เลยนะถ้าไม่ตะบี้ตะบันจะหมุนให้ตายกันไปข้างนึงอ่ะนะ

น้ำหนัก

นี่เป็นอีกเรื่องนึงที่ทำให้ปากกาด้ามนี้ดูดีดูแพงนอกจากหน้าตาภายนอกแล้วก็คือเรื่องน้ำหนัก ปากกา Lamy Screen มีน้ำหนักที่ผิดกับรูปร่างครับ คือผมเห็นน้องเค้าตัวบางๆ บิดเอวได้น่าจะเบาหวิว แต่ความจริงน้องเค้ามีน้ำหนักทีเดียวซึ่งน้ำหนักตัวอยู่ 15 กรัม ใช่ครับ! มันไม่ได้หนักมากมายขนาดโอ้ยเมื่อยเว้ย! แต่ว่าการที่ปากกาลูกลื่นมันไม่ได้เบาหวิวมันให้ความรู้สึกมั่นคงเวลาเขียน และดูไม่เหมือนปากกาถูกๆ ทั่วไปที่ชิ้นส่วนเบาหวิวและโปร่งกลวง

ไส้ปากกา

ในส่วนของไส้ปากกานั้นจะเป็นไส้ปากกาหมึกซึมลามี่ที่มีชื่อว่า M22 เป็นไส้ปากกาลามี่รุ่นที่มีขนาดเล็ก เอาไว้ใส่ปาการุ่น Pico กับ Scribble แล้วก็เจ้า Lamy Screen ด้ามนี้นี่แหละ อย่างที่มากับด้ามนี้นั้นเป็นไส้หัวขนาด M สีดำ พอแกะออกมาดูแล้วก็เล็กจิ๋วมากๆ มันจะเขียนได้นานเท่าไหร่หรือมันจะเส้นขาดไปดื้อๆ นี่ผมยังไม่มีข้อมูลนะเพราะไม่เคยใช้ปากกาลูกลื่นของทางฝั่งลามี่เลย แต่ถ้าถามว่าไอไส้นี้สามารถเอามาโมได้เหมือนกับที่ครั้งก่อนพวกเราเอาไส้ปากกา Pentel Energel มาโมแล้วใส่ลามี่ Rollerball ได้หรือไม่? อันนี้ยังไม่ได้ลองจริงๆ จังๆ ครับแต่ดูจากรูปร่างสัดส่วนทรวดทรงภายนอกแล้ว ส่วนที่เป็นปลายไส้ของ M22 จะเรียวเล็กกว่า Pentel Energel พอสมควรและยาวกว่าด้วย เอาไว้ยังไงถ้าลองโมได้แล้วจะเอามาเขียนโพสบอกนะ (ได้อีกตอนวุ้ย)

ไส้ stylus

งงสินะ! ว่าทำไมไอส่วนที่เอาไว้ทัชกับหน้าจอมันถึงสามารถเปลี่ยนไส้ได้กับเค้าด้วย แต่มันเป็นเรื่องจริง! ก็เพราะว่าปากกา Lamy Screen เราก็ใช้กันยาวๆ ไม่พังกันง่ายๆ แต่ไอส่วนที่เป็นซิลิโคนสไตลัสนี้มันก็ย่อมมีวันเสื่อมพังได้หากเราใช้งานเยอะ ส่วนวิธีการเปลี่ยนก็คือให้หมุนตรงส่วนที่เป็นสีดำออก แล้วก็ดึงหัว stylus ที่นุ่มๆ ออกเปลี่ยนเป็นอันจบ โดยไอหัว stylus นี่ก็มีชื่อรุ่นของลามี่ด้วยนะนั่นก็คือรุ่น Z 101 โดยวัสดุเป็นซิลิโคนครับ

เขียนจริง

ผมหมุนปากกาเพื่อเลื่อนไส้เตรียมร้อมจะเขียน ผมไม่อะไรมากล่ะนะครับเพราะว่าเป็นปากกาลูกลื่นธรรมดา ซึ่งจากตะกี้เราแกะออกดูก็จะเห็นว่าเป็นไส้สีดำขนาดหัว M และจากการเขียนก็ไม่มีอะไรผิดปรกติหรือดีงามไปกว่าปากกาลูกลื่นทั่วไปครับ… สั้นๆ อย่างนี้แหล่ะ

ทัชจริง

แต่ไอสิ่งที่ผมสนใจจริงๆ ก็คือเรื่องการใช้เป็น stylus นี่แหละเพราะว่าถือเป็นตัวชูโรงของปากกา Lamy Screen เลย ซึ่งไอปลายของส่วนที่เป็น stylus นี้จะเป็นซิลิโคนสีดำที่ค่อยข้างใหญ่นิดนึง เป็นซิลิโคนแบบนุ่มครับ เมื่อรวมทั้งความนุ่มและความใหญ่เข้าไปแล้ว ผมเลยเกิดคำถามที่ว่า แล้วมันจะเขียนได้แม่นยำเหรอ?

เอ้า! งั้นมาลองใช้กันเลยซี่! ผมใช้วิธีวาดภาพลงบน iPad Mini ของผมโดยใช้แอป Procreate วาดรูปพี่ควายแบบลวกๆ ซึ่งในเรื่องของการสัมผัสนั้นก็เข้าท่าดีนะเพราะไม่ว่าจะลากเส้นยังไงเส้นก็ติดลงบนจอครับ ที่พูดแบบนี้ก็เพราะว่าหน้าจอ touch screen ส่วนใหญ่ในบ้านเราจะเป็นแบบ Capacitive เช่น iPad เป็นต้น มันจึงต้องอาศัยไฟฟ้าสถิตจากมือเราให้สามารถส่งผ่านอลูมิเนียนและไหลไปสู่ที่ปลายสไตลัสจึงจะสามารถใช้งานได้ ซึ่งการที่มันเป็นอลูมิเนียมนี่แหละช่วงให้ไฟฟ้าสถิตผ่านได้ง่ายขึ้นไม่เหมือนกับพวกตัวด้ามที่เป็นพลาสติกเพียวๆ นั่นเอง

แต่ยังไงผมก็ไม่ชินสักที ก็ไอหัวนุ่มๆ และกลมใหญ่นี่แหละเพราะว่ามันเล็งยาก บางทีผมก็อยากลากเส้น 2–3 เส้นโดยให้ตำแหน่งมันซ้ำที่เดิมให้เส้นหนาขึ้น แต่กลายเป็นว่าผมเล็งได้ยากจังเลย หัวใหญ่ไม่พอ พอกดแล้วนุ่มมันเลยไม่รู้ว่าจุดสัมผัสบนหน้าจอมันอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นถ้าต้องการความแม่นยำมากๆ เช่นเพ้นต์ภาพจริงจัง อาจจะต้องใช้วิธีซูมแล้ววาดเอานะหรือไม่ก็เปลี่ยนไปใช้พวก stylus ที่เชื่อมต่อบลูทูชแบบจริงๆ จังๆ ไปเลยดีกว่า ปลายจะได้เรียวๆ แถมรองรับแรงกดหลายระดับได้ด้วย แต่ทั้งนี้ในการใช้งานทั่วไปก็ไม่มีปัญหาอะไรให้ต้องกังวลครับ

Video Review แบบเต็มๆๆๆๆ

บอกแล้วว่าตอนนี้บีบีบล็อกมี YouTube Channel แล้วนะครับก็น่าจะเหมาะกับคนที่ชอบดูวิดีโอนะ สามารถเข้าไปกดสับตะไคร้กันได้ที่นี่นะ https://www.youtube.com/c/bbblogr ส่วนวิดีโอรีวิวแบบจัดเต็มครั้งแรกก็เป็น Lamy Screen ตัวนี้เลยครับ ในคลิปจะมีการพูดเรื่องการใช้งานส่วนอื่นนอกเหนือจากที่เขียนในนี้ด้วย ลองติดตามกันดูนะ

ซื้อที่ไหน? ราคาเท่าไหร่?

แน่นอนว่าต้องซื้อที่ร้าน fontoplumo.nl สิครับ และปากกาด้ามนี้ผมได้รับการสนับสนุนมาจากคุณแฟร้งค์เจ้าของร้านนั่นแหละ ถ้าอยากซื้อหากันมาใช้โดยไม่ต้องรอ แจกของ! (ยิ้มสิ) ก็สามารถใช้เงินแก้ปัญหาได้เลย ปากกา Lamy Screen นี้มีด้วยกัน 4 สีซึ่งทุกสีก็ราคาเท่ากันหมดนะ โดยราคาที่ได้รับการยกเว้นภาษี ใช้โปรโมชั่นและรวมค่าขนส่งมาประเทศไทย ถ้าด้ามเดียวก็จะอยู่ที่ 19.15 EUR หรือเป็นเงินไทยเท่ากับ 763.58 บาท ซึ่งไอราคานี้มันจะเป็นเฉพาะปากกา 14.8 EUR ค่าส่งอีก 4.35 EUR ดังนั้นเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าส่งก็แนะนำให้สั่งรวมกับเพื่อนซะ ซื้อมากกว่า 1 ด้าม หรือว่าจะไปสอยพร้อมปากกาลามี่ม่วงลิมิเต็ดที่โหลที่สุดแห่งปีก็ได้นะ

อ้อ! ถ้าคิดว่าเป็นคนเขียนเยอะก็สั่งไส้ลามี่ลูกลื่น M22 มาพร้อมกันเลยก็ได้ ราคาที่ได้ยกเว้นภาษีและใช้โปร(แต่ยังไม่มีค่าขนส่ง) จะอยู่ที่ € 2.38 หรือ 95 บาทเท่านั้นเองครับ ส่วนหัว stylus รุ่น Z101 ยังไม่เห็นมีขายแหะ สงสัยต้องรอสักพัก

ผมรู้นะว่าแฟนๆ ปากกาลามี่โดยเฉพาะปากกาแบบลูกลื่นคงจะถูกใจในความงามของเจ้าปากกา Lamy Screen Ballpoint Pen กันใช่ไหมครับ หน้าตาดูดีดูมีราคา วัสดุที่ใช้ก็แข็งแรงทั้งในส่วนที่เป็นพลาสติกและตัวด้ามที่เป็นอลูมิเนียมด้วย กลไกข้างในก็แน่นหนาดีไม่ก๊องแก๊งทำให้รู้สึกว่าหมุนไปเหอะยังไงก็ไม่พังง่ายๆ และที่สำคัญคือยังเก่งทั้งเขียนแบบธรรมดาและเก่งเรื่องใช้เป็น stylus อีกด้วย เรื่องเขียนหน่ะเราคงไม่ต้องพูดถึงมาก แต่เรื่องทัชที่ใช้งานจริงแล้วก็ไม่มีเส้นขาดเพราะไฟฟ้าสถิตไหลผ่านอลูมิเนียมได้ง่ายเลย ใครที่พก iPad ใช้ทำงานน่าจะถูกใจในความสะดวกควบคู่ความงามในแท่งเดียวอย่าง Lamy Screen นี้นะครับ

ขอขอบพระคุณ

คุณแฟร้งค์ แห่งเว็บปากกายอดนิยมของชาวไทย fontoplumo.nl ที่ส่งปากกา Lamy Screen Ballpoint Pen ด้ามนี้มาให้ได้ยลโฉมกันก่อนใคร แถมยังมีมาเล่น แจกของ! กันอีกด้วย ขอบพระคุณครับ!

 

ปล. ชอบวิดีโอรีวิวกันหรือไม่อย่างไร วานแจ้งด้วยนะครับมือใหม่สุดๆ เล้ยยยยย ขอบพระคุณครับ