ผมคิดว่าปีนี้น่าจะเป็นปีที่หนักหนาดังที่เคยกล่าวไว้จริงๆ ล่ะครับ เพราะอย่างที่รู้กันดีว่าปากกาลามี่ของรักของพวกเรานั้นเริ่มทยอยออกมาให้ได้ซื้อหาจับจองกันทีละสีๆ เงินในกระเป๋าก็ค่อยๆ หมดไปทุกทีๆ …แต่ก็ยังไม่วายที่ดั้นนนนมีสมุดในตำนานที่ผมทั้งรักทั้งหลงเค้าออกคอลเลคชั่นใหม่มาเยอะมาก เยอะแบบว่าชวนให้กระเป๋าตังค์ระเบิดทั้งๆ นอนอยู่บ้านเฉยๆ ได้เลยครับ
ที่ผมพูดถึงนั่นก็คือบริษัท Moleskine เค้าได้ออกสมุดคอลเลคชั่นใหม่ที่มีชื่อว่า Art Plus อ่านจากชื่อแล้วก็แน่นอนครับว่ามันอาร์ตมาก! เป็นสมุดที่เน้นในด้านการสร้างสรรค์เชิงศิลปะหลายรูปแบบครับ ไม่ว่าจะเป็นวาดภาพ แต่งเพลง เขียนสตอรี่บอร์ด ทำอัลบั้มรูปถ่าย ดำน้ำ ดูปะการัง ทำขนม ปลูกผัก พอ!! เอาเป็นว่าเยอะมากครับ เดี๋ยวในตอนท้ายผมจะแปะวิดีโอให้ได้ชมกันนะ แต่ตอนนี้พระเอกของเรานั่งรอเมื่อยแล้วครับ มารู้จักกับเค้ากันได้เลย
Moleskine Pocket Art Plus Cahier Sketch Album เห้ยชื่อยาว! เอาเป็นว่าผมขอเรียกย่อๆ ว่า Moleskine Sketch Album ละกันนะครับ เป็นสมุดแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนจาก Moleskine ทีแรกที่ผมกดดูบนหน้าเว็บผมก็แบบงงนิดๆ นะว่าทำไมเจ้าสมุดเล่มนี้มันถึงได้หน้าตาไม่เหมือน Moleskine เล่มอื่นๆ ที่พวกเราคุ้นเคยกัน ไม่ว่าจะด้วยทั้งความหนา ปกสมุดที่ดูแปลกไป แถมยังไม่มีเชือกรัดสมุดอีกด้วย ด้วยความสงสัยอยากรู้มากมายก็ต้องจัดมาเชยชมสักเล่มครับ -..-
สมุด Moleskine Pocket Art Plus Cahier Sketch Album อ่านจากชื่อคงพอจะเข้าใจได้ว่าเป็นสมุดสเก็ตช์แต่มันดันมีคำว่า Cahier พ่วงมาด้วยชวนให้งงงวยยิ่งนัก ผมได้สมุดเล่มนี้มาจากร้านขายหนังสือชื่อดังส่งฟรี ทั่วโลกแถมถูกเว่อร์จากเกาะอังกฤษนั่นก็คือร้าน Book Depository คือเข้าเว็บไปตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะได้อะไรติดไม้ติดมือกลับออกมาหรอกนะครับ กะแค่ไปหาหนังสือน่าสนใจอ่านเท่านั้นเผื่อจะได้สั่ง แต่ไม่รู้ว่าพระเจ้าแห่งสมุดองค์ใดดลใจผมให้ค้นหาหนังสือด้วยคำว่า moleskine …ผลก็คือเสียเงินเสร็จสรรพแบบงงๆ ครับ -*-
สั่งซื้อสมุดมาแบบงงๆ ว่ามันคือสมุดอะไรกันแน่ โดยผมซื้อมาดองไว้ตั้งแต่เมื่อต้นปีแล้วครับแต่ขี้เกียจรีวิว…ใช่ครับผมดองนานมากกกกกก -.,- ซึ่งพอเช็คราคาปัจจุบันราคาจะอยู่ที่ 258.47 บาท แต่ตอนนี้เล่มนี้มีโปรโมชั่นลด 23% ครับ เลยเหลือ 188.39 บาท!! ทำไมพระเจ้าแห่งสมุดถึงทำกับผมอย่างนี้?!! ใครสนใจกดได้ที่นี่นะครับ
นั่งรอที่บ้านไม่ไปทำการทำงานเป็นเวลา 2 – 3 สัปดาห์ สมุดก็มาส่งถึงมือผมครับ แต่เอ๊ะ?!! ตอนที่ผมกดสั่งซื้อนั้นผมสั่งไปพร้อมกับสมุดอีกเล่มนี่ แต่ทำไมตอนได้รับถึงได้รับเพียงแค่เล่มเดียวล่ะ? ผมร้อนใจครับเลยลองเปิดอีเมลที่ทางเว็บส่งมายืนยันการจัดส่งแล้วก็ถึงบางอ้อครับ เว็บนี้เวลาเค้าจัดส่งในบางครั้งจะส่งพัสดุแยกกันครับ เหตุผลก็คือเพื่อความรวดเร็วในการเตรียมสินค้าส่งให้ลูกค้า เช่นสมุดบางเล่มอาจจะยังไม่เข้าสต็อกในวันนี้แต่อีกเล่มมีอยู่พร้อมส่ง เค้าก็จัดส่งเล่มที่มีอยู่ให้เราก่อนครับ ผ่านไปอีกวันถ้าอีกเล่มมีของในสต็อกแล้วก็จะรีบส่งตามมาครับ ซึ่งผมมองว่าเป็นวิธีที่ดีเลยนะเพราะเราจะได้ของเร็วครับ และที่สำคัญก็คือเราจะ “รอดจากการเก็บภาษีนำเข้า” ครับเพราะว่าพอแยกสินค้าออกจากกันเป็นหลายๆ หีบห่อพัสดุ ทำให้มูลค่าของสินค้าที่อยู่ในนั้นรวมกันแล้วไม่สูงครับ คิดดูว่าถ้าเราสั่งสมุดไป 3 เล่มมูลค่ารวมเกิน 1,000 บาท เชื่อแน่ว่าโดนภาษีและต้องเสียวเวลาไปรับที่ไปรษณีย์แน่ๆ แต่พอแยกห่อแล้วก็เหลือเล่มละไม่ถึงพัน ไม่โดนภาษีแน่ๆ ครับ (หวังว่าพวกเจ้าหน้าที่จะไม่ได้อ่านบล็อกผมนะ T_T)
แกะหีบห่อพัสดุอย่างไม่รอช้าเพราะอยากรู้เหลือเกินว่าสมุดที่สั่งมานั้นหน้าตาจริงๆ จะเป็นอย่างไร ผมตกใจมือไม้สั่นจนเกือบทำสมุดเล่มนี้ร่วง! คำๆ แรกที่ผมนึกออกก็คือคำว่า “บาง” ใช่ครับ! สมุดเล่มนี้เป็นสมุกแบบ Cahier (อ่านว่า คะ-เย เป็นคำในภาษาฝรั่งเศษมีความหมายว่าสมุดหรือหนังสือแบบฝึกหัด) ซึ่งตามความหมายของ Moleskine นั้นคือประเภทของสมุดที่มีจำนวนหน้าที่น้อยเน้นการพกพาสะดวก ความบางนี้เป็นความบางทั้งในแง่ของจำนวนหน้ากระดาษและก็ปกสมุดด้วยครับ มิน่าล่ะราคามันถึงได้มีราคาถูกจนน่าประหลาดใจเช่นนี้ ผมนึกสงสัยว่าจู่ๆ ทำไมบริษัท Moleskine ถึงออกเจ้าสมุดเล่มนี้มาเลยลองไปถามพี่กูมาครับจึงได้ความว่า ทางบริษัทได้ออกสมุดคอลเลคชั่นใหม่จำนวน 25 แบบ ภายใต้ชื่อคอลเลคชั่นว่า Art Plus ซึ่งเป็นคอลเลคชั่นที่เน้นเรื่องของสมุดเพื่อการสร้างสรรค์ไม่ว่าจะเป็น สมุดกระดาษสีดำ สมุดจดโน๊ตสำหรับแต่งเพลง หรืออันนี้ที่เท่เลยคือสมุดสเก็ตช์ขนาดใหม่ๆ เช่น สี่เหลี่ยมจตุรัสซึ่งวาดปุ๊บถ่ายรูป instagram พอดีเป๊ะอัพอวดชาวบ้านได้เลย ซึ่งใครอยากเห็นหน้าเห็นตาของสมุดเหล่านี้สามารถเข้าไปอ่านได้จากที่นี่นะ Moleskine Art Plus
…คะเย อ่านแล้วหิวเลย / อะไร? / ก็ที่ผัดกับหมูกรอบไง / นั่นมันคะน้า!! #หนึ่งในมุกควายออฟเดอะเยียร์
ร่ายยาวเสร็จแล้วเราก็มาดูเจ้าสมุดกันเถอะ Moleskine Sketch Album มันมีอะไรเด็ดๆ บ้าง เริ่มต้นด้วยกระดาษคาดสมุดก่อนเลยครับ อย่าคิดว่ากระดาษคาดสมุด Moleskine เล่มนี้จะเป็นกระดาษเปล่าธรรมดาไร้ค่านอนรอวันให้เค้าทิ้งนะ หากคุณผู้อ่านแกะกระดาษออกมาแล้วพลิกด้านหลังดู คุณจะต้องร้องอุทานออกมาด้วยเสียงอันดังว่า “อะไรของมันวะ?!” เอ่อออ… คือว่าด้านหลังของกระดาษคาดมีการพิมพ์ลายเอาไว้เป็นรูปเครื่องมือคือเป็นไม้โปร protractor เอาไว้ใช้วัดมุมวัดองศาครับ อีกทั้งยังสามารถใช้เป็นวงเวียนได้อีกด้วย! ซึ่งไอการจะใช้เป็นวงเวียนได้นั้นเราจะต้องใช้ปากกามาจิ้มตรงจุดที่เค้ากำหนดไว้ แล้วเราอยากได้เส้นรัศมียาวเท่าไหร่เราก็เอาปากกาอีกด้ามมาจิ้มลงไปแล้วก็หมุนๆๆๆ ครับ ซึ่งผมมองว่ามันเป็นความพยายามอันดีที่จะให้เกิดการใช้กระดาษให้คุ้มค่ามากที่สุด แต่โดยส่วนตัวผมแล้วผมคิดว่า…ใครจะใช้?
กลับมาถึงเรื่องตัวสมุดกันต่อ แน่นอนว่าตะกี้ผมเพิ่งบอกไปว่ามันบางนั่นก็เป็นเพราะสมุดเล่มนี้มีจำนวนหน้าทั้งสิ้น 72 หน้า มีจำนวนกระดาษทั้งสิ้น 36 แผ่น (จะสอนหารเลขเด็กโข่งหรือไง?) แต่นั่นยังเป็นแค่เศษเสี้ยวของความบางครับ เพราะอีกส่วนที่ควรจะหนาเหมือนอย่างทุกๆ เล่มของ Moleskine นั่นก็คือปกสมุดครับ ปกสมุดของ Moleskine Sketch Album นั้นเป็นกระดาษแข็งสีดำด้านที่สามารถใช้ดินสอสีหรือปากกาหมึกทึบเขียนหรือวาดลงไปได้ เป็นปกกระดาษแข็งเพียงแผ่นเดียวเย็บเข้ากับกระดาษไม่ใช่ปกสมุดที่มีความหนาหลายมิลลิเมตรเหมือนอย่างทุกครั้งครับ และเป็นปกคนละแบบกับ Moleskine Soft Cover อีกด้วยนะ! แต่เมื่อลองพลิกสมุดเพื่อดูปกหลังก็ยังคงมีโลโก้ Moleskine ปั๊มลึกไว้ตรงกลางด้านหลังของปกครับ แต่ไม่เพียงเท่านั้น! สมุด Moleskine ในตำนานที่มีเอกลักษณ์ตรงเชือกรัดสมุดแต่เจ้าสมุดเล่มนี้กลับไม่มีเชือกรัดติดมาด้วย! …คือจริงๆ แล้วสำหรับสมุดรุ่น Cahier ทุกรุ่นก็จะมีลักษณะดังนี้แหละครับคือเป็นสมุดปกกระดาษแข็งแผ่นเดียวและไม่มีสายรัดครับ (ลองดูตัวอย่างสมุดพวกนี้ดูสิ) ซึ่งการที่ไม่มีสายรัดมาให้นี้เองทำให้เราใช้สมุดเปิดสมุดบ่อยๆ ปกมันก็จะอ้าครับ วางไว้เฉยๆ ก็อ้าเป็นที่รำคาญตายิ่งนัก!
เปิดดูด้านในกันบ้างเนาะ ภายในของ Moleskine Sketch Album ก็เป็นสมุดกระดาษปกแข็งธรรมดาๆ ครับ ไม่มีหลังปกหรือรองปกที่พิมพ์ช่องให้เขียนที่อยู่เผื่อสมุดหายใดๆ เลย นอกจากนั้นยังไม่มีเชือกคั่นหน้าสมุดอีกด้วย ทีนี้ผมก็นึกสงสัยว่าในเมื่อสมุดถูกตัดทอนอะไรออกไปหลายๆ อย่างแบบนี้แล้วยังจะมีช่องเก็บของที่ปกหลังด้านในอยู่อีกมั้ย เปิดไปดูให้หายข้องใจก็ถึงกับหัวเราะลั่น เพราะบริษัทเค้าใจดีทำช่องสำหรับเก็บของมาให้ด้วยนะเป็นซองเล็กๆ ที่เกิดจากการนำกระดาษแบบเดียวกับปกสมุดนั่นแหละเอามาติดกาวแปะเป็นช่องให้สำหรับเก็บพวกกระดาษโน๊ต ใบเสร็จหรือธนบัตรไม่กี่ฉบับได้ครับ และเนื่องจากสมุดเล่มนี้เป็นฟอร์แมตแบบยาวหรือที่เรียกกันว่า Landscape จึงทำให้เราสามารถสเก็ตช์ภาพแบบ panaroma ได้เช่นเดียวกันกับ Moleskine Watercolor Notebook เลยครับถือเป็นสมุดของ Moleskine เล่มที่สองที่สามารถสเก็ตช์ภาพแนวยาวได้ด้วย
มาถึงเรื่องสำคัญที่สุดนั่นก็คือกระดาษครับ แน่นอนว่าสมุดเล่มนี้ใช้ชื่อว่า Moleskine Sketch Album มันก็ต้องเป็นสมุดสเก็ตช์ที่ใช้กระดาษแบบเดียวกันกับ Moleskine Sketchbook ใช่ไหมครับ? ผิดครับ!! กร๊าาากกก!! (ตลกมากเหรอ?) อันนี้ผมงงไปพักนึงครับเพราะว่าถึงแม้จะใช้ชื่อว่า Sketch เหมือนกันแต่กระดาษกลับเป็นคนละตัวกันไปเลย! ผมลองสัมผัสเนื้อกระดาษและส่องกับแสงไฟรวมถึงดมกลิ่นและใช้ลิ้นเลีย (ออกแนวหมา) ก็พบว่ากระดาษที่ใช้นั้นเป็นกระดาษที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนครับ ถึงแม้ลักษณะของกระดาษจะเหมือนกับกระดาษแบบธรรมดาแต่มันแตกต่างออกไป จริงอยู่ที่สมุด Moleskine นั้นจริงๆ แล้วมีกระดาษอยู่เพียงไม่กี่ประเภทและครบถ้วนในทุกๆ การใช้งานแต่นี่ถือเป็นกระดาษชนิดใหม่ที่เพิ่งผลิตขึ้นมาครับ
กระดาษเป็นกระดาษสีงาช้างเหมือนกระดาษแบบธรรมดาหน้าตาไม่ผิดเพี้ยนครับแต่สิ่งที่แตกต่างนั้นก็คือ “ความหนา” กระดาษ Moleskine แบบธรรมดาจะมีความหนาอยู่ที่ 70gsm(แกรม) ส่วนกระดาษ Moleskine Sketchbook หนา 160gsm แต่เจ้ากระดาษ Moleskine Sketch Album 120gsm หนาเพิ่มขึ้นจากแบบธรรมดาถึง 50gsm และเนื้อกระดาษก็แตกต่างจากแบบ Sketchbook ที่เรียบลื่นและเนื้อแน่นโดยสิ้นเชิงครับ พอผมทราบอย่างนี้แล้วก็รู้สึกเริ่มหวั่นใจเพราะกระดาษ Moleskine แบบเนื้อธรรมดานั้นตามที่ผมได้ทดสอบไปมันไม่ได้เรื่องเลย เขียนก็ซึมทะลุโลกต้องเรื่องมากเลือกหมึก Sailor Kiwa-Guro Nano Black ที่ไม่ซึมมาใช้อีก หรือจะลงสีน้ำก็ได้สีที่ไม่สวยสด แต่พอคิดว่ากระดาษมันหนาขึ้นเกือบเท่าตัวมันอาจจะดีขึ้นกว่าเดิมก็ได้นะ…ก็ได้แต่เพ้อฝันกันไป
ทดสอบได้แล้ว!! โอเคครับไม่พูดพล่ามอีกต่อไป!! (เพิ่งจะรู้ตัวตอนใกล้จบ) ผมลงมือสเก็ตช์ภาพด้วยลามี่สุดรักด้ามเหลืองคลิปดำหมึก Platinum Carbon Black ก็พบว่าเขียนได้สนุกมือดีครับให้สัมผัสของกระดาษที่ควรจะเป็นต่างกับกระดาษแบบ Sketchbook ที่ลื่นแบบแปลกๆ พอลองพลิกดูหน้าหลังก็พบว่าหมึกยังคงซึมอยู่บ้างเล็กน้อยในจุดที่มีการลากเส้นช้าหรือจิ้มปากกานานกว่าปรกติ ทีแรกผมก็คิดว่าเป็นที่หมึก Platinum ที่ขึ้นชื่อเรื่องซึมทะลุแกนโลกหรือเปล่าเลยลองเปลี่ยนหมึกปากกาดูครับ เปลี่ยนเป็นหมึกเทพกันน้ำองค์ใหม่ที่จะรีวิวให้อ่านกันในเร็วๆ นี้ แล้วลองสเก็ตช์ดูก็ให้ผลไม่ต่างกันคือซึมครับ แต่กับเส้นที่ลากด้วยความเร็วปรกติก็จะเห็นเป็นเพียงรอยปากกาจางๆ เท่านั้น ดังนั้นกระดาษรุ่นนี้ถ้าจะใช้วาดภาพด้วยปากกาหมึกซึมก็จะวาดได้เพียงหน้าเดียวนะ แต่ถ้าใช้ดินสอหรือปากกาหมึกแห้งก็ไม่มีปัญหาครับ
เค้าก็บอกอยู่ทนโท่ว่าเป็นสมุดที่เหมาะสำหรับใช้กับปากกาและดินสอแต่ไอเรามันวัยรุ่นวัยรั้นวัยกำลังเติบโตเราเลยไม่เชื่อไง จะลงสีน้ำๆๆๆๆ พอวาดเส้นเสร็จผมก็ใช้ที่เป่าผมมาเป่ากระดาษให้หมึกแห้งสนิทแล้วก็ลงสีน้ำทันทีครับ ซู่มมวววว!!! เละเทะ!! ถึงแม้ว่ากระดาษจะหนาขึ้นกว่า 50gsm เป็น 120gsm แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในเรื่องเนื้อกระดาษครับ ในบริเวณที่เราลงสีน้ำโดยผสมน้ำเยอะเป็นพิเศษก็จะซึมกระดาษจนเห็นเนื้อกระดาษเป็นลายจุดๆ ขึ้นมาชัดเจนเลยครับ
ผมลองทดสอบเพิ่มเติมอีกหนึ่งหน้าโดยใช้สีน้ำที่มีค่า transparent สูงอย่าง Daniel Smith : Quinacridone Gold [รหัส pigment PO49] เพื่อดูเนื้อกระดาษให้ชัดเจน ผลก็ออกมาตามคาดครับ เนื้อกระดาษแบบนี้ถึงแม้จะหนาขึ้นมากแต่ก็ยังคงไม่เหมาะกับสีน้ำด้วยประการทั้งปวง ที่เราคาดหวังจะให้ภาพของเรานั้นสีสันสดใสก็จะกลายเป็นเนื้อกระดาษออกลายจุดๆ และถึงแม้จะใช้สีสดเพียงใดแต่เมื่อสีแห้งแล้วความสดใสก็จะดรอปลงพอสมควรครับ แต่ก็อย่างที่เคยบอกไปว่าอันนี้แล้วแต่ความชอบนะครับเพราะมีสเก็ตช์เชอร์หลายท่านที่ชอบในเท็กเจอร์กระดาษแบบนี้ วาดภาพลงสีน้ำก็กลายเป็นเอฟเฟกต์แปลกตาไปอีกแบบนะ (ลองดูเปรียบเทียบกับกระดาษ Moleskine แบบอื่นนะครับเพื่อให้เห็นเท็กเจอร์ในแต่ละชนิดกระดาษ)
ที่สุดของความเท่!!
หากคิดว่าเรื่องราวของ Moleskine Sketch Album จะจบลงแต่เพียงแค่นี้ ผิดครับ!! หมัดเด็ดอีกหนึ่งอันที่ผมถือว่าเท่มากนั่นก็คือว่าสมุดเล่มนี้สามารถฉีกได้! สมุดเล่มไหนฉีกไม่ได้มั่งฟระ?! ผ…ผ…ผมหมายถึงว่าฉีกได้แบบถูกต้องตามทำนองคลองธรรมหน่ะครับ กล่าวคือ ในแต่ละหน้ากระดาษของสมุดเล่มนี้จะมีรอยปรุเล็กๆ สำหรับให้เราสามารถฉีกหน้ากระดาษออกมาได้โดยง่าย เพื่อที่เวลาเราไปนั่งร้านกาแฟแล้วสเก็ตช์ภาพร้านหรือภาพผู้คนที่ผ่านไปมาแล้วเราอยากมอบภาพนั้นให้กับเค้า เราก็สามารถฉีกตามรอยปรุออกมาได้อย่างสวยงามแล้วมอบได้ทันทีโดยไม่เสี่ยงทำให้หน้าสมุดที่เย็บด้วยด้ายหลุดลุ่ยออกมา ใครที่มีไลฟ์สไตล์ชอบสเก็ตช์ภาพสาวๆ แล้วมอบให้เพื่อการหลีน่าจะชอบในข้อนี้กันใช่มั้ยครับ? เท่มากกกกก
จบไปอีกเล่มที่เหนือความคาดหมายของปีนี้ครับกับ Moleskine Pocket Art Plus Cahier Sketch Album สมุดเล่มนี้เป็นสมุดสเก็ตช์ที่เหมาะกับคนที่ใช้ปากกาและดินสอและลงสีแบบแห้งเป็นส่วนใหญ่แต่อาจไม่เหมาะกับการใช้สีน้ำเพื่อแต่งเติมสีสัน เล่มบางน้ำหนักเบาขนาดเล็กพกพาง่ายใช้กระดาษสีงาช้างสวยสบายตา สเก็ตช์ภาพเสร็จก็สามารถฉีกมอบให้คนอื่นได้ง่ายดายแถมรอยฉีกยังดูเรียบร้อยอีกด้วย ราคาไม่แพงมากสามารถตัดสินใจซื้อได้ง่าย หากคุณเป็นสเก็ตช์เชอร์สไตล์ลายเส้นพิชิตใจสาวแล้วละก็ คงต้องมองหาสมุดเล่มนี้มาไว้ครอบครองสักเล่มแล้วล่ะครับ 😉
…ไอเรามันวาดภาพสาวไม่เก่ง…จึงได้แต่วาดรูปลูกทับทิมมอบให้พี่วินแล้วเนียนเด็ดลูกจริงกันต่อไป… ;_;)/