ตอบ…หมึกปากกาครับ เห้ยไม่ต้องตอบก็ได้ไม่ได้ถาม! คือมันอย่างนี้ครับ หมึกที่ผมนำมารีวิวในวันนี้เป็นหมึกที่มีสีเหมือนกับสีของดินสอเลย นั่นก็คือสีเทาครับ หลายคนคงจะงงว่าใช้หมึกทั้งทีจะมาใช้ทำไมไอหมึกที่สีเหมือนดินสองั้นก็ใช้ดินสอไปเลยเซ่! โถ่อย่าเพิ่งขัดคอเดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังนะ (ทั้งหมดนี่พูดเอง-ตอบเอง…คนเดียว -..-)

เวลาสเก็ตช์รูป แต่ละคนก็จะมีสไตล์เป็นของตัวเองใช่ไหมครับ ไม่ว่าจะชอบวาดแบบการ์ตูน สมจริง บิดๆ เบี้ยวๆ อุปกรณ์ก็เช่นกันบางคนก็ชอบใช้สีน้ำ โคปิก สีไม้ หมึก ดินสอ โอ้ยเยอะแยะ! และจากที่ผมเขียนบล็อกรีวิวหมึกต่างๆที่ใช้สำหรับสเก็ตช์รูปนั่นก็มาจากความชอบส่วนตัวล้วนเลยครับ ผมชอบหมึกดำที่มันเข้มๆเห็นชัดๆติดนิสัยมาจากปากกาพวก pigma sakura อะไรเทือกนั้น แต่จริงๆแล้วยังมี sketcher หลายท่านที่ชอบการใช้ดินสอหรือหมึกสีอ่อนๆ มาวาดภาพ เพื่อที่จะได้ไม่แย่งความเด่นของภาพเวลาลงสีน้ำลงไป ยกตัวอย่างเช่น Nina Johanson หรือศิลปินระดับเทพอย่าง Cathy Johnson ก็มักจะใช้ดินสอหรือหมึกสีอ่อนๆ เช่น Noodler’s Lexington Gray (สองคนนี้ไม่ใช่พี่น้องกันนะ ดูนามสกุลดีๆ)

Noodler’s Lexington Gray ดูยี่ห้อก็รู้แล้วว่าเป็นหมึกกันน้ำยอดนิยมอันดับหนึ่งของจักรวาล แล้วไอหมึกตัวนี้หล่ะมันกันน้ำหรือเปล่า? กันซิครับ!! หมึกตัวนี้ได้สถานะ Bulletproof ด้วย กันได้ทั้งน้ำ รังสี UV กันไฟ กันผี (สองอันหลังผมโกหก…แหงหล่ะ!) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไงก็ต้องทดสอบครับเพราะบางทีไอที่ว่ากันได้จริงๆตามโฆษณามันอาจจะมีการเลอะเทอะบ้างก็เป็นได้

หมึกขวดนี้ผมได้มาจากเว็บ gouletpens.com ที่ใครหลายต่อหลายคนรู้จักกันดี โดยขวดที่ผมสั่งมาเป็นขวดขนาด 3oz(90ml) จริงๆยังมีอีกขนาดนะครับคือ 4.5oz(135ml) เป็นขวดใหญ่ฝาขวดเป็น dropper แต่ผมไม่สั่งเพราะมันเยอะเกินไปผมกินคนเดียวไม่หมดครับ โดยขวด 3oz นี้ราคาอยู่ที่ 12.50$ บวกกับค่าส่งแบบ USPS First-Class Mail International : No tracking 14.16$ …ใช่ครับค่าส่งแพงกว่าหมึกอีก! แต่ทำไงได้มีเจ้านี้เจ้าเดียวที่ขาย แล้วใน ebay ก็ไม่มีขายด้วยครับ ผมเลยจำเป็นต้องซื้อมาลองทั้งน้ำตาาาาาา

หลังจากกดสั่งซื้อและจ่ายเงินไปเรียบร้อย ผ่านไป 2 วัน ผมก็ลองหาเจ้าหมึก Lexington Gray ใน ebay อีกครั้งนึง แล้วมันดันมีคนเอามาขายในที่สุด!! ขายที่ราคา 12.50$ + ค่าส่งอีก 11.72$ ค่าส่งถูกลงเกือบร้อย!! ใช่ซี่ผมมันเลว! ผมมันคนไม่ดี! พระเจ้าแห่งหมึกทำไมทั่นต้องกลั่นแกล้งผมด้วย?!! ทำไม?!!

ในเมื่อทำอะไรไม่ได้แล้ว…ผมก็ละซึ่งความพยาบาทและเหนื่อยกับการตะโกนก้องร้องฟ้า ผมก็นั่งรอหมึกด้วยใจจดใจจ่อ Gouletpens ส่งหมึกให้ผมวันที่ 5 ธันวา หมึกมาถึงมือผม 18 ธันวา 13 วันเองครับ ถือว่าเร็วใช้ได้เลย! พอแกะกล่องพัสดุกล่องใหญ่ทั้งที่จริงๆมีแค่หมึกขวดเดียวก็พบว่า ห่อดีมาก!! มี Bubble Wrap แบบเม็ดใหญ่ห่อมารอบเลยเรียกได้ว่าถ้าปล่อยกล่องตกพื้นที่ความสูงระดับหน้าอกคงไม่แตกแน่ๆ (ผมบอกเค้าให้ห่อดีๆด้วยหน่ะครับ) นอกจากนั้นยังมีการแถม “อมยิ้ม” มาให้ด้วยอีก 1 อัน ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องให้อมยิ้มผมด้วย คราวก่อนซื้อปากกาก็ได้อมยิ้ม อีกทีก็ได้เยลลี่หมี งงเว้ยงง! อ้อ! อีกอย่างที่ประทับใจคือ ในใบเสร็จที่แนบมานั้น คุณ Alex Ross (ทีมงาน) ก็เขียนตอบผมด้วยลายมือตัวเองด้วยนะ เท่สุดๆไปเลย! (หรือจะเป็นแผนให้เราสนใจว่าหมึกสีเขียวที่ใช้นี่มันของอะไรจะได้ซื้อ?)

หน้าตาของขวดก็ตามสไตล์หมึก Noodler’s หล่ะครับ ตั้งโชว์อวดใครก็ไม่ได้ ฉลากหน้าขวดหรือตัวกล่องก็ขี้ริ้วขี้เหร่แต่มองอีกมุมนึงมันก็คลาสสิคไปอีกแบบนะ เทียบกับหมึกขวดอื่นๆที่ผมดคนรีวิวเลยอยากแนะนำว่าได้ “เก็บหมึกขวดนี้ไว้ในกรุเหอะ จะใช้ก็ค่อยขุดมาละกัน” (ตะกี้ Noodler’s โทรมาบอกผมว่า “คุณไม่ต้องใช้หล่ะ เดี๋ยวผมจะส่งคนไปเก็บขวดกลับมาเอง”…..ข..ขอโทษครับ)

เทียบราคาหมึกโดยไม่นับค่าส่งต้องขอบอกว่าหมึกของ Noodler’s เป็นหมึกที่คุ้มค่า ราคาย่อมเยาจริงๆครับ กับปริมาณหมึกที่มากถึง 90ml ราคาตกที่ 1ml = 0.27$ แล้ว พอลองไปเทียบกับหมึกเทพองค์สุดท้ายอย่าง Platinum Carbon Black 60ml ราคาอยู่ที่ 1ml = 0.51$ หมึก Noodler’s ถูกกว่าตั้งครึ่งนึงเลยนะ! ซื้อขวดเดียวใช้ได้ทั้งปีเลยคุ้มค่ามากๆ

หมดเรื่องราคาก็ได้เวลาเปิดขวดครับ ตามสไตล์หมึก Noodler’s ก็จะใส่หมึกมาให้เยอะจริงๆ เปิดระวังกันหน่อยนะครับเพราะใส่หมึกมาเกือบเต็มขวดเลย มาครับ! ไม่พล่ามต่อแล้ว เรามาเทสหมึกกันเลยดีกว่า!

Color สีออกมาไม่ทำให้ผิดหวังครับ ไม่ผิดหวังยังไง? ก็หมึกตัวนี้ได้ชื่อว่าเป็นหมึกสีเทา มันก็ต้องเป็นสีเทาสมชื่อสิครับ แถมพอทิ้งไว้รอให้แห้ง สังเกตดีๆ จะเห็นว่าสีของหมึกบนกระดาษจะดูคล้ายกับสีของดินสอ 2B เลยครับ ทั้งนี้สีของหมึกอาจมีการแตกต่างในด้านความเข้มได้อันเนื่องมาจากขนาดของ nib และ ink flow ของปากกานะครับ ถ้าปากกาหมึกไหลดีเส้นใหญ่ สีที่ได้ก็จะเข้มขึ้นครับ แต่ถ้าเส้นเล็กๆ อย่าง EF นี่ดูแล้วจะเหมือนใช้ดินสอกดไส้ 2B เลยแหละ

Ink flow หมึกไหลลื่นดี เพราะเป็นคุณสมบัติของหมึกยี่ห้อนี้อยู่แล้วครับ น้ำหมึกเหลวไม่ข้น เติมแล้วเขียนหรือวาดก็สนุกครับไม่มีสะดุด หมึกไหลได้สม่ำเสมอดีครับ

Bleed จะเหลือเหรอครับ? ซึมแน่นอนโรงเรียน Noodler’s ก็หมึกมันไหลดีซะขนาดนั้นเขียนบนกระดาษบางของ Moleskine นี่ซึมเห็นได้ชัดจากหน้าหลังเลย

Featuring ซึมครับแต่ไม่แตกครับ ถึงแม้หมึกจะเหลวไหลซึมง่าย แต่เส้นที่ได้ยังคมอยู่ครับ ลากเส้นไปเลยครับไม่ต้องกลัวเส้นแตก แต่จะมีเส้นแตกบ้าง “เล็กน้อย” บนกระดาษแบบบางของ Moleskine ซึ่งก็น้อยมากๆๆๆ ถ้าไม่เอากระดาษมาทิ่มตาก็ดูไม่ออกหรอกครับ!

Dry Speed ถือว่าเป็นหมึกที่แห้งเร็วปานกลางครับ ในระดับ 10 วินาที ถ้าไม่พลาดเอามือเอานิ้วไปถูไถก็ไม่มีปัญหาครับ (ข้อนี้สั้นไปมั้ย?)

Nib Creep เท่าที่ผมใช้หมึกมากว่า 1 เดือน ผมไม่ค่อยพบปัญหานะครับ ทิ้งปากกาไว้ 2 สัปดาห์ หยิบมาเขียนอีกทีก็สะบัดๆ นิดๆ ก็ใช้ต่อได้ บริเวร nib ก็ไม่ค่ิยมีหมึกไหลล้นออกมาเลอะเทอะมากมายครับ จะมีก็เพียงตรงส่วนเส้นผ่าส่งหมึกที่หมึกซึมขึ้นมาเลอะบ้างแต่ไม่มาก ซึ่งก็เป็นคุณสมบัติของหมึกยี่ห้อนี้ที่หล่อลื่นดีครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นถึงแม้จะเลอะเทอะแต่ก็สามารถล้างทำความสะอาดได้ง่ายครับชุบน้ำเช็ดก็ออกแล้ว ง่ายกว่าหมึก Platinum Carbon Black มากเพราะไม่สามารถล้างออกด้วยน้ำได้

Waterproof วาดเส้นแล้วทิ้งไว้ให้แห้งสักพักแล้วจึงนำไปลงอ่าง ส่องมองดูอย่างใกล้ชิดก็ไม่ปรากฎถึงการไหลซึมของหมึกออกมาจากกระดาษเลยครับ ที่ผมต้องส่องมองอย่างละเอียดก็คือเนื่องด้วยที่หมึกเป็นสีเทาจึงกลัวว่าจะมองหมึกได้ไม่ชัดครับ ทีนี้พอนำขึ้นมาจากอ่าง ทิ้งไว้ให้ตัวหอมตัวแห้งแล้วสังเกตดูสีหมึกอีกครั้ง สีหมึกไม่เปลี่ยนแปลงจากตอนก่อนเอาลงแช่น้ำในอ่างเลยครับ สมกับเป็นหมึก bulletproof จริงๆ!!

มาลองวาดรูปกันดูบ้าง ก็อย่างที่บอกครับสีของหมึกทำให้เส้นที่วาดลงไปดูนุ่มขึ้นเยอะครับ ปรกติผมมักจะใช้หมึกสีดำเข้มๆๆ วาดรูปอยู่บ่อยๆ พอเปลี่ยนมาใช้หมึกสีเทาดูก็ให้ความรู้สึกอีกอารมณ์เลยครับ ทีนี้พอลงสีน้ำทับดูก็นุ่มนวนไปอีกแบบนะครับ จากปรกติใช้หมึกดำให้เส้นที่เด่นชัดจนสะดุดตา มาคราวนี้ก็นุ่มลงไม่ดึงสายตาไปมาก เหมาะมากกับคนที่อยากวาดรูปลงสีน้ำแต่ไม่อยากให้เส้นของหมึกปากกาเด่นชัดเกินไปจนแย่งจุดสนใจครับ

ข้อสังเกต!! อ่านถึงตรงนี้ผมคิดว่าต้องมีคนคิดว่า “ถ้าอยากได้หมึกสีเทาทำไมไม่เอาหมึกดำผสมน้ำเอาวะ?” (เห้ย! ถามกันดีๆก็ได้ไม่ต้องขึ้นวะหรอกโว้ย!) มันไม่ใช่นะครับถึงแม้จะทำได้ก็ตามเหอะ คือหมึก Noodler’s Lexington Gray แม้จะมีสีเทาก็จริงแต่ไม่ได้หมายความว่าเค้าเอาหมึกดำมาผสมน้ำเปล่าขายเรานะครับ ความข้นของหมึกยังเท่าเดิมเหมือนกับหมึกตัวอื่นของยี่ห้อนี้นั่นแหละ แต่ที่ต่างกันเป็นเพียง “สี” ที่เค้าผสมขึ้นมาให้เป็นสีเทาโดยเฉพาะนั่นเอง ทั้งนี้ลองคิดง่ายๆก็คือว่าหากเราต้องการทำหมึกสีเทาจากการผสมน้ำเข้ากับหมึกดำ เราต้องใช้น้ำเป็นสัดส่วนที่เยอะเกือบเป็น 1:1 ซึ่งก็จะส่งผลให้น้ำหมึกที่ได้เหลวเกินไป เวลาเขียนก็จะซึมทะลุทะลวงไปถึงแกนโลก เขียนไม่สนุกเพราะฝืดแถมแห้งช้าเข้าไปใหญ่ อาจเลวร้ายทำให้กระดาษขาดได้ง่ายด้วยนะ (โคตรขู่เลย กลัวไม่กล้าผสมน้ำเลยล่ะสิ กิ้วๆๆ)

เจ๋งมั้ยครับหมึกสีเทาตัวนี้? ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยคิดหรอกว่าหมึกสีเทามันจะสวยงามหรือมีประโยชน์อย่างไร แต่พอได้มาลองใช้จริง เขียนจริง วาดจริง ทำให้รู้ว่าในบางครั้งที่เราอยากให้ผลงานดูเบาดูนุ่มนวลขึ้นเราก็ใช้หมึกเทาซะ แต่ครั้งไหนที่เราอยากให้งานดูชัดเจนเน้นอารมณ์สนุกหรือขึงขังเราก็ไม่ลังเลที่จะใช้หมึกดำเช่นกัน ทั้งนี้ก็ขึ้นกับสไตล์ของแต่ละคนนะครับบางคนอาจจะไม่ชอบก็เป็นได้ แต่ผมเชื่อแน่ว่าถ้าหากคุณได้ลองหมึกสีเทานี้ดูสักหนแล้ว คุณจะต้องตกหลุมรักเข้าแบบผมอย่างแน่นอนครับ