สารภาพตามตรงก่อนที่จะมาเป็นรีวิวฉบับย่อที่กำลังจะได้อ่านกันอยู่นี้ ผมยังตัดสินใจไม่ได้จริงๆ ครับว่าจะเลือกของชิ้นไหนมารีวิวดีเพราะตอนนี้ของที่มีในมือมันล้นมากจริงๆ ต้องใช้คำว่าล้นทะลักเลยแหล่ะ ถ้าไม่เชื่อไปดูสลิปบัตรเครดิตได้ และระหว่างที่ยังเลือกไม่ได้ว่าจะรีวิวอะไรดี ผมก็มาคิดว่าหลังจากป่วยยาวเราควรที่เลือกของมารีวิวโดยเลือกมาจากสิ่งที่เรากระหายอยากจะใช้เป็นอันดับหนึ่ง (ผมถือคติไม่แกะของใช้ถ้ายังไม่รีวิว) ซึ่งของที่จะรีวิวในวันนี้ มันเสี้ยนอยากใช้มานานมากๆๆๆๆ แต่ยังไม่มีโอกาสเสียที อีกทั้งผมก็เคยเขียนถึงไปแล้วครั้งนึงเมื่อนานมาแล้ว
ผมลังเลครับว่าจะเขียนดีมั้ย เลยหันไปถามเพื่อนที่ทำงานผมคนนึงว่า “เห้ย! เราอยากรีวิว ตู้ดๆๆๆ ตู้ดๆๆๆ ว่ะ? แต่ว่าเคยเขียนไปแล้วทีนึงนะ?” แล้วเพื่อนก็บอกว่า…
“ชายก็รีวิวได้นะแต่อย่ายาวมาก ไอยาวๆ เอาไว้เขียนตอนที่ไม่มีคนคบไม่มีคนคุยด้วยแล้วเกิดเหงาปากเหอะ”
…ขอบคุณครับเพื่อน
สิ่งที่ผมจะรีวิวในวันนี้ไม่ใช่อะไรอื่นครับ แต่มันคือ “หมึกปากกาหมึกซึม” ซึ่งจะว่าไปหมึกตัวนี้ถือเป็นหมึกขวดแรกๆๆๆๆ ในชีวิตของผมเลยก็ว่าได้ ถ้าจะให้เจาะจงก็คือเป็นหมึกขวดที่สองที่ผมซื้อในชีวิตการเล่นปากกาหมึกซึมครับ ขวดแรกเป็นหมึกดำของ Lamy และจากที่เคยได้รีวิวไปครั้งก่อนนู้นตอนเริ่มทำบีบีบล็อก มันก็ถึงเวลาที่ผมจะเอาหมึกคุณภาพสูงมว๊ากกกรุ่นเดิมแต่สีใหม่มาลองเล่นดู และหมึกที่ผมพูดถึงนั้นก็จะเป็นตัวไหนไปไม่ได้ แฟนตัวยงของบีบีบล็อกเดาออกหรือยัง?
Pilot Iroshizuku Ink Set อื้อหืออออออออ! ไม่มีใครจะไม่รู้จัก! หมึกคุณภาพสูงมากจากแบรนด์ปากกา Pilot ในรุ่น Iroshizuku ที่มีสีให้เลือกใช้เยอะแยะมากๆๆๆ โดยหมึกแต่ละสีใช้ตั้งชื่อตามสีของความเป็นธรรมชาติ และอย่างที่บอกไปว่าผมเคยเขียนรีวิว(แบบเบาๆ)ถึงหมึกตัวนี้ไปแล้วในรีวิวตอนแรกที่ว่า “ตกหลุมรัก Lamy Safari “Friendship” Limited Edition, หมึก Iroshizuki [Tsukushi]” ซึ่งคราวนั้นผมเลือกหมึกสีนึงที่ทำให้ผมตกหลุมรักการใช้ปากกาหมึกซึมนั่นก็คือหมึกสี “น้ำตาลหางม้า”
Box Set!
เพื่อนบอกไม่ให้เขียนยาว งั้นขอเข้าเรื่องเลยละกัน ถ้าได้คลิกไปอ่านรีวิวที่ผมแปะไปเมื่อตะกี้ จะเห็นว่าหมึก Pilot Iroshizuku เดิมทีมันจะขายมาเป็นขวดแก้วขนาดใหญ่สวยงามมาก บรรจุหมึกภายในไว้ 50ml เยอะแยะตามมาตรฐานสากลโลก แต่ทีนี้เนื่องด้วยว่าหมึกในรุ่น Iroshizuku มันมีสีหลากหลายให้เลือกใช้มากๆๆ จะให้ซื้อขวดใหญ่ทุกสีมาใช้ก็รับรองว่าเหลือบานเทล้างลานบ้านได้
เค้าเลยออกแบบขวดใหม่เป็นแบบขวดเล็กขนาด 15ml แล้วขายโดยให้เราเลือกสีของหมึกได้เอง 3 ขวด ขายพร้อมกล่องพลาสติกแข็งแรงทนทานหน้าตาเรียบง่ายดูดี แล้วก็นำหมึก 3 ขวดที่เลือกมานั้นบรรจุในกล่องที่บุโฟมแน่นหนา เรียกได้ว่าเปิดกล่องออกมาก็จะพบหมึกสีที่เราถูกใจวางเด่นบนพื้นหลังสีเทา สวยงาม หรูหรา เหมาะมากกับการมอบให้เป็นของขวัญ และที่สำคัญคือมันน่าใช้ …และสวยจนไม่กล้าเอามาใช้เลยให้ตายเหอะ!
สีที่ผมเลือก
ในครั้งนี้ผมเปลี่ยนไปเลือกหมึกสีที่คิดว่าผมจะสามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้หรือใช้แบบเป็นทางการก็ดูสุภาพดี จนได้มาเป็นหมึกสีโทนน้ำเงิน 2 ขวด และชมพู 1 ขวด และจนถึงตอนนี้ยังงงๆ ว่าจะเอาหมึกชมพูมาใช้ทางการในท่อนไหนของชีวิตฟระ? หมึก 3 ตัวที่ผมเลือกมามีรายชื่อดังนี้
- Kon-peki Deep Ocean Blue (Deep Blue) (KO) สีน้ำเงินน้ำทะเล
- Asa-gao/Morning Glory (Vivid Purplish Blue) (AS) สีน้ำเงินอมม่วง
- Momiji Autumn Leaves (Vermillion)(MO) สีแดงใบไม้ร่วง
เขียนเป็นไง?
เจ๋งป่ะ? พอบอกว่าให้เขียนสั้นๆ ผมเลยขอสรุปรวบยอดเลยละกัน หมึก Pilot Iroshizuku มันคือหมึกดีอย่างไรก็อย่างนั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลง จากหลายปีก่อนที่ทดสอบสีน้ำตาลหางม้าไป กลับมาวันนี้กับหมึกทั้ง 3 ตัวก็ยังรู้สึกเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน จุดเด่นเลยก็คือเรื่องของ “ความสดของสี” คือตอนที่คุณเติมหมึกหรือเอาปากกาจุ่มลงไปในหมึกคุณจะรู้สึกได้ถึงน้ำหมึกที่มีสีสดมากๆๆๆ แล้วถ้าเขียนจริงมันยังจะสดอยู่มั้ย? ซึ่งพอได้เขียนจริงบนกระดาษ สีที่เห็นก็สดแจ่มไม่ดรอปลงเลยแม้แต่น้อย สีสดสวยเหมือนหมึกที่เปื้อนบนปลาย nib อย่างไรอย่างนั้น และขณะที่เขียนผมก็รู้สึกสนุกมือนะ หมึกมันเข้มขึ้นดีทีเดียวแต่ไม่มีปัญหาเรื่องการไหลยาก ไม่ว่าจะใช้ nib เล็กหรือใหญ่หมึกก็ออกได้ดี(ผมลอง EF F และ M) ไหลสม่ำเสมอไม่มีสะดุดหรือหมึกขาดช่วงแม้แต่น้อย
เรื่องของ shade ไม่รู้ว่ามันเป็นการดีหรือไม่ที่หมึกมันสีสดและมีความเข้มข้นมากกว่าปรกติ ทำให้เรื่องของ shading อาจจะเห็นไม่ชัดเท่าหมึกยี่ห้ออื่นๆ เพราะเวลาที่เราเขียนตัวอักษร หมึกมันสีสดเป็นทุนเดิมอยู่แล้วไง มันจึงไม่มีช่วงของเส้นใดที่พอหมึกไปค้างหนาแล้วสีจะแตกต่างจากจุดที่มีหมึกบาง แต่เรื่องของ sheen นั้นมีให้เห็นเรียกได้ว่าโคตรชัดเลย จริงๆ แล้วอีกเหตุผลที่ผมเลือกหมึกทั้ง 3 ตัวนี้มาก็เพราะว่าได้ยินเสียงร่ำลือกันมาหนาหูว่าเป็นหมึกที่มี sheen ที่ชัดเจนโดดเด่นนี่แหล่ะครับ ซึ่งหมึกแต่ละตัวปล่อยสีเหลือบเป็นอะไรบ้างก็ขอเชิญดูรูปได้เลย
กันน้ำมั้ย?
ทีแรกว่าจะไม่เขียนเพราะว่ามันไม่ใช่หมึกกันน้ำนะ แต่คิดว่าหลายคนต้องอยากรู้แน่ๆ ว่าไอที่ไม่กันหน่ะ ถ้าโดนน้ำมันจะหายไปขนาดไหน และนี่คือผลทดสอบครับ (เขียนแบบสั้นสบายจังโว้ยยยย!)
ซื้อที่ไหนฟระ?!!
นี่คือตะโกนถามตัวเองนั่นแหล่ะ! คือไอผมอ่ะแทบลืมไปแล้วว่าซื้อมาจากที่ไหน จนกระทั่งไปลองค้นอีเมลดูก็พบว่าเว็บที่เคยซื้อนั้นเค้าเลิกขายไปแล้ว กร๊าาากกก เอาเป็นว่าใครที่อยากได้ก็ลองหาซื้อที่เว็บอื่นดูเอาเองนะ (ยั่วให้อยากแล้วพี่ปอนด์ไม่รับผิดชอบเลย) หรือจะให้ดีที่สุดก็ฝากเพื่อนที่จะไปญี่ปุ่นหิ้วมาให้ จดชื่อของสีหมึกให้เรียบร้อยเป็นอันเสร็จครับเพราะหมึกยี่ห้อดังแบบนี้หาซื้อได้ง่ายตามร้านปากกานะ
ส่วนเรื่องราคานั้นผมขออ้างอิงตามวันที่ผมซื้อ ราคานี้เค้าคิดเป็นเซ็ต 3 ขวดรวมกล่องตกอยู่ที่ $17.25 (584.78 บาท) ทีนี้เนื่องจากผมสั่งจากญี่ปุ่นเลยมีค่าส่งอยู่ที่ $8 (271.2 บาท) รวมทั้งหมดเซ็ตนี้จงเป็น 856 บาทนั่นเองงงง (สั่งนอกแพงเนาะ หิ้วมาคุ้มกว่าเยอะ)
ความเห็นจากบีบีบล็อก
ผมมองว่าเจ้าหมึก Pilot Iroshizuku Ink Set นี้มันเหมาะมากสำหรับหลายๆ คนที่อยากใช้หมึกสีแต่ก็ไม่อยากที่จะซื้อเป็นขวดใหญ่ๆ แล้วก็เหลือบานเบอะใช้ไม่หมด ขวดเล็กๆ แบบนี้แหล่ะคือคำตอบครับ นอกจากนั้นมันยังจัดเป็นเซ็ต 3 ขวดที่ดูดีสวยงามน่าใช้มากๆ สามารถซื้อแล้วห่อกระดาษเป็นของขวัญได้เลย รับรองว่าคนรับจะต้องร้องว้าวแน่ๆ ส่วนเรื่องของคุณภาพหมึกนั้นก็ไม่มีอะไรต้องพูดมากมาย มันคือหมึกปากกาหมึกซึมแบบสีที่ดีที่สุดตัวนึงในท้องตลาด สีสดสวย เข้มข้นแต่ไหลง่าย เขียนสนุกมือและมีสีให้เลือกมากมาย ดังนั้นใครที่กำลังมองหาหมึกสีสวยๆ สำหรับปากกาด้ามโปรดอยู่ละก็ ผมขอแนะนำให้ลองเลือก Pilot Iroshizuku Ink Set แล้วเลือกสีที่ถูกใจมาใช้กันดูนะครับ รับรองว่าจะต้องตกหลุมรักเหมือนผมแน่นอน
ปล. ผมเปลี่ยนมาเขียนสั้นๆ แบบนี้คุณผู้อ่านมีความเห็นว่าอย่างไรบ้างครับ? สั้นไปมั้ยหรือกำลังพอดีอ่านง่ายไม่เหนื่อยมาก หรือว่าอยากได้ยาวๆ ละเอียดๆ เหมือนแบบทุกที(ซึ่งตอนหน้าผมก็เขียนยาวเหมือนเดิมแหล่ะ) หากมีความเห็นอย่างไรก็สามารถเข้าไปบอกได้ในโพสของรีวิวตอนนี้นะครับ ที่ https://www.facebook.com/bbblog.sketchblog ขอบพระคุณมากครับ!