Stationery Review & Urban Sketching

Platinum Balance ปากกาหมึกซึมน้องนางแห่งความสมดุล!

Platinum Balance ปากกาหมึกซึมน้องนางแห่งความสมดุล!

ผมเห็นปากกาด้ามใสๆ ทีไรผมล่ะอยากเขียนรีวิวให้เป็น 18+ ไปเสียทุกครั้งเลยครับ ก็ลองดูจากหลายๆ น้องนาง เอ้ย! หลายๆ ด้ามที่เป็นสไตล์ใสๆ ที่เคยผ่านมือผมมานักต่อนักแล้ว ไม่ว่าจะเป็น TWSBI Eco (ด้ามนี้ผมชอบ) TWSBI Diamond mini Clear (ด้ามนี้พ่อผมชอบ) หรืออย่างปากกาลามี่ด้ามใส Lamy Vista (ด้ามนี้เก็บจนเหลืองแล้ว) ก็ล้วนแล้วสวยงามและน่าทะนุถนอมทุกเบอร์เลย และในครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งนึงที่ผมได้มีโอกาสต้อนรับสาวน้อยคนใหม่ล่าสุดสู่อ้อมกอดของพี่ปอนด์แห่งบีบีบล็อก ซึ่งน้องคนนี้มาแดนอุทิศอุทัยครับ (ผมล่ะชอบจริงๆ) เธอมีนามที่ไพเราะว่า Platinum Balance

Platinum Balance-01

Platinum Balance Fountain Pen

Platinum Balance Fountain Pen คือปากกาใสๆ ที่รูปร่างสูงโปร่งเรียวยาวสวยงามน่าทะนุถนอมยิ่งนัก เป็นปากกาแบบหมึกซึมจากยี่ห้อ Platinum เราคงจะคุ้นเคยกันมานานแล้ว นั่นก็คือปากการุ่นเล็กที่ตีบทแตกเล่นดีเกินค่าตัวไปเยอะอย่าง Platinum Preppy 03 Fountain Pen กลายเป็นว่า ไม่ว่าจะเป็นคนที่อยากหัดใช้ปากกาหมึกซึมเป็นครั้งแรก นักเรียนนักศึกษา รวมถึงผู้ใหญ่หลายๆ ท่านต่างติดอกติดใจเพราะถือว่าเป็นของดีราคาไม่แพง ดังนั้นพอผมได้ยินชื่อว่าเป็นปากกาจากแบรนด์ Platinum ผมเลยค่อนข้างที่จะคาดหวังในเรื่องการเขียนเป็นพิเศษ ซึ่งตรงจุดนี้มันจะไปเป็นไปตามที่ผมคาดหวังไว้มั้ย? กระผมใคร่ขอเชิญแหวกม่านเข้าสู่โลกของเสี่ยปอนด์กันได้เลยครับ…

แกะกล่อง มีอะไรให้บ้าง?

Platinum Balance-02 Platinum Balance-03น้องนาง Platinum Balance เดินทางมาสู่อ้อมกอดผมด้วยเกี้ยวแบกหามที่ดูดีมาชาติตระกูลครับ อธิบายภาษาไม่เพ้อเจ้อก็คือปากกาด้ามนี้ขายมาเป็นกล่องงามๆ ดูหรูทีเดียว ข้างนอกหุ้มด้วยกล่องกระดาษแบบเลื่อนได้สีน้ำเงิน-ขาวที่หน้าตาดูเชยมาหนึ่งชั้น กร๊าาาากก ซึ่งพอเราเลื่อนกล่องกระดาษออกเราก็จะได้เห็นถึงความหรูเว่อร์แบบที่ผมเห็นทีแรกแล้วแบบว่า “ไอปากกาด้ามนี้มันมีราคาหลายพันบาทแน่ๆ” ก็แค่กล่องก็ดูแพงแล้วอ่ะ!

Platinum Balance-04

ที่ผมบอกอย่างนี้ก็เพราะว่าตัวกล่องเป็นพลาสติกที่มีฝาเป็นพลาสติกใสเปิดแบบเปิดจากด้านบนทำให้เราสามารถเห็นน้องๆ นอนเปลือยเปล่าอยู่ข้างในได้ ในส่วนของพื้นกล่องที่เป็นฐานวางปากกาก็บุด้วยกำมะหยี่สีครีมเนียนมือทีเดียว ดูหรูหราไฮโซดูราคาแพงสามารถให้เป็นของขวัญคนได้เลย ซึ่งภายในกล่องจะพบของที่บรรจุอยู่ข้างในอันได้แก่

  • ปากกาหมึกซึม Platinum Balance 1 ด้าม
  • หลอดหมึกแบบ refill สีน้ำเงิน 1 หลอด
  • กระดาษคู่มือการใช้งาน 1 แผ่น

หน้าตา

Platinum Balance-05Platinum Balance-12

ต้องเรียกได้ว่าน้องนางเหล่านี้ควงแขนเดินเท้าหิ้วกันมาจากประเทศญี่ปุ่นกันทั้ง 3 คนเลยครับ พอน้องทั้งสามคลานเข่าพลางเลื้อย(หืม?)เข้ามาล้อมรอบกายผมและเอ่ยปากทักทายด้วยเสียงอันละมุนและไพเราะ “สวัสดีค่ะเสี่ยขา ไม่ทราบว่าเสี่ยชอบชุดที่พวกเราใส่อยู่นี้ไหมคะ?” คนมันหล่อก็ลำบากใจอย่างงี้แหล่ะครับท่านผู้ชม คือว่าน้อง Platinum Balance นั้นมาในอาภรณ์ที่บางใสราวกับแก้วก็ไม่ปาน(ตัวด้ามเป็นแบบใส clear) โดยคนแรกนั้นใส่ชุดสีใสบริสุทธิ์(ใส) ชุดที่สองเป็นสีน้ำเงินโทนสว่างที่ใส ให้ความรู้สึกเข้มขรึมขึ้นมาอีกนิด(น้ำเงินใส) และอีกชุดเป็นน้องนางคนสุดท้ายที่มาในชุดบางสีชมพูบานเย็นหวานหยดย้อยเสียไม่มี(ชมพูใส)

Platinum Balance-13Platinum Balance-14Platinum Balance-07

ความใสแจ๋วนี้แหละที่ผมมองว่ามันเป็นความงามของปากการุ่นนี้ เนื่องด้วย Platinum Balance นี้มีรูปร่างที่เหมือนกับซิการ์เรียวยาว ทำให้รูปทรงโดยรวมกำลังพอเหมาะพอดีไม่ใหญ่เทอะทะหรืออ้วนป้อมจนจับไม่ถนัด ซึ่งเมื่อรวมกับความใสของวัสดุแล้วจึงทำให้เราแทบจะเห็นได้ทุกอณูของน้องนาง…ผมหมายถึงทุกส่วนประกอบและกลไกของปากกาด้ามนี้เลย เห็นได้ถึงหมึกปากกาสีต่างๆ ที่ไหลผ่านแต่ละส่วนสู่ปลายปากกา

Platinum Balance-08

นอกจากนั้นสิ่งที่ผมอยากอธิบายเพิ่มจากแค่ที่ตาเห็นภาพนั่นก็คือเรื่องความแข็งแรง จริงอยู่ที่ว่าปากกามันดูสวยและบอบบางแถมยังเป็นพลาสติกใส “แต่ความเป็นจริงๆ มันมีการหล่อแบบขึ้นมาหนาทีเดียวนะ” ซึ่งเมื่อลองจับของจริง ลองเคาะ ลองบีบ มันไม่มีอาการยวบหรือเบาโหวงแหวงแบบจะเปราะหรือแตกได้ง่ายๆ เลย จะบอกว่าไม่ใช่ของก๊องแก็งนั่นแหล่ะ

แต่ปลอกทำให้ปากกาไม่สวย

Platinum Balance-09

ตะกี้จะเห็นว่าผมใช้คำว่า “แทบจะเห็นได้ทุกส่วน” นั่นก็เพราะว่ามีอยู่ส่วนนึงซึ่งผมถือว่าเป็นจุดที่ขัดตาและดึงความงามโดยรวมของปากกาด้ามนี้ให้ตกลงมากโขนั่นก็คือ “ปลอกปากกา” เพราะว่าด้วยความใสแล้ว ผมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงทำชิ้นส่วนด้านในปลอกในส่วนที่ทำหน้าที่ยึดปากกาด้วยวัสดุที่เป็นสีขาวแบบนั้น ผมลองเอานิ้วแตะๆ ดูก็ทำให้รู้ว่าเป็นพลาสติกที่มีความเหนียวทั้งนี้เพื่อให้การยึดปากกาเข้ากับปลอกแน่นหนาขึ้นกว่าการใช้พลาสติกแข็งๆ แต่มันขาวเด่นมากไง! เด่นเตะตาซึ่งกลายเป็นว่าปากกามีความใสสวยงามเกือบทั้งด้ามแล้วแท้ๆ แต่มาถูกตัดคะแนนที่ปลอกไปเสียอย่างนั้น ทำให้ภาพรวมของปากกาดูราคาไม่แพงอย่างที่ควรจะเป็น

Platinum Balance-10

ส่วนคลิปก็จะเป้นลักษณะวงรีที่เรียวยาวโค้งรับไปกับปลอก บนคลิปโลหะเงางามนี้เองจะมีการสลักรายเว้นโค้งโดยรอบด้านบนเพื่อให้ดูมีอะไร …ดูมีอะไรอ่ะ เข้าใจตรงกันนะ ตรงนี้ผมว่ามันสวยดีเพราะว่ามองแล้วเห็นเป็นเส้นโลหะเล็กๆ เรียบและดูมีราคา

Platinum Balance-11

แต่ก็อีกนั่นแหล่ะ พอเราถอดปลอกปากกาออกก็จะพบกับตัวด้ามปากกาเพียวๆ ที่ไม่มีปลอกสีขาวชวนให้ขัดตาอีกต่อไป ซึ่งผมมองว่าตัวด้ามนี้อ่ะสวยเลย! ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงที่เรียวยาวจัดถนัดมือหรือความใสปิ๊งของตัวด้าม สิ่งนี้แหล่ะที่ทำให้ปากกา Platinum Balance ด้ามนี้ดูดีเมื่อยามที่เราจับเขียน

เกลียวเหล็ก

มีอีกจุดนึงที่ผมให้ความสนใจนั่นก็คือในส่วนที่เป็นเกลียวของปากกา ที่คุณผู้อ่านเห็นอยู่นี้มันดูเป็นโลหะเงาวับเลยใช่มั้ยครับ ไอตรงนี้อ่ะทีแรกผมนึงว่ามันเป็นเพียงแค่พลาสติกที่ชุบโครมเมี่ยมให้ดูเงางามและอาจจะลอกหลุดได้เมื่อใช้ไปนานๆ แต่ผมคิดผิดเข้าจังเบอ! “เพราะส่วนที่เป็นเกลียวนั้นเป็นโลหะทั้งหมด” เออเว้ย! ถึงว่าทำไมในส่วนของที่จับ (grip) ถึงได้รู้สึกมีน้ำหนักและจับได้กระชับมือจัง ที่แท้ก็เป็นโลหะหล่อคมๆ นั่นเอง

Platinum Balance-22

แต่ตรงนี้ก็มีสิ่งที่ต้องระวังเหมือนกันนะ เพราะว่าเกลียวมันเป็นโลหะคมๆ ไง ดังนั้นเวลาเราเอาตัวด้ามเสียบแล้วหมุน เราจึงต้องดูให้ดีๆ ว่ามันลงล็อคจริงๆ ไม่เบี้ยว เพราะไม่อย่างนั้นแล้วเกลียวคมๆ มันจะไปเซาะเกลียวของด้ามที่เป็นพลาสติกจนหมดครับ เกลียวจะหวานหมุนไม่แน่นนั่นเอง

ink feed ใส ขุ่น

Platinum Balance-06Platinum Balance-27

ผมจับน้องเค้าพลิกตัวไปมาครับ จับคางแล้วบิดหัวบิดคอไปมาเพื่อจะดูว่าปากของน้องเค้ามีลักษณ์อย่างไร อ่านแล้วเข้าใจยากแต่ผมหมายถึง ink feed ของปากกาด้ามนี้นั่นแหล่ะ เค้าใช้พลาสติกที่มีสีขาวขุ่นที่มีความใสนิดๆ ซึ่งผมว่าแปลกตาดีนะ ทำให้เวลาที่หมึกไหลมาสู่ปลายปากกา เราก็จะเห็นหมึกไหลอยู่ระหว่าง ink feed และ nib ด้วย ยิ่งถ้าเป็นหมึกสีสวยๆ ก็จะทำให้น่าสนใจมายิ่งขึ้นไปอีก

ระบบหมึก

Platinum Balance-23

สำหรับหลอดหมึกแบบ refill ก็ไม่มีอะไรมากอ่ะนะ ก็เพีงแค่หันหลอดด้านที่มีลูกเล็กเข้าหาที่ด้านในของส่วนหัวปากกา แล้วก็เสียเข้าไปโดยออกแรงหน่อยเพื่อดันลูกเหล็กที่กั้นหมึกเข้าไปข้างใน เพียงแค่นี้หมึกก็จะไหลพร้อมใช้งานล่ะ

Platinum Balance-24 Platinum Balance-25 Platinum Balance-26

ส่วนหลอดสูบหมึกหรือ ink converter นั้นก็เหมือนปากกาทั่วๆ ไปอ่ะนะ โดยจะเป็นสีเงินเข้ากับส่วนอื่นๆ ของปากกา วิธีใช้ก็แค่เอาหลอดสูบเสียบเข้าไป แล้วก็เอาหัวปากกาจุ่มลงไปในขวดหมึก จากนั้นก็หมุนก้านที่ปลายหลอดสูบเพื่อดูดหมึกขึ้นมา เติมง่ายๆเหมือนกับปากกาลามี่ซาฟารีเปี๊ยบเลย (หลอดสูบหมึกขายแยกนะจ๊ะ)

ขนาด น้ำหนัก จับถือ(เสียบปลอก)

Platinum Balance-17 Platinum Balance-18 Platinum Balance-19

ขนาดความยาวของปากกาด้ามนี้ถือเป็นขนาดปรกติครับ ใครที่มีลามี่อยู่ก็จะเห็นได้ว่าขนาดความยาวของมันไม่ได้แตกต่างกันเลยไม่ว่าจะปิดปลอกปากกาอยู่หรือถอดเหลือแต่ด้ามเพียวๆ แต่เมื่อเรานำปลอกปากกามาเสียบเข้าที่ก้นปากกานั้น Platinum Balance จะสามารถเสียบปลอกเข้าได้ลึกกว่าเล็กน้อย ทำให้ความยาวของปากกาเมื่อเสียบปลอกดูสั้นลง…จึ๋งนึง (หน่วยวัดแถวบ้าน)

Platinum Balance-15 Platinum Balance-16

เรื่องสมดุลล่ะ? เอาจริงๆ เลยนะผมไม่รู้เหมือนกันครับว่าทำไมถึงตั้งชื่อว่า Platinum Balance เพราะว่าเมื่อผมลองเอามาจับดูว่าสมดุลของปากกาทั้งแบบถอดปลอกหรือเสียบปลอกเข้าที่ด้านก้นปากกา มันก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากปากกาทั่วๆ สมดุลจะอยู่ราวๆ กลางด้ามปากกาค่อนไปส่วน grip ด้านหน้าครับ

Platinum Balance-21 Platinum Balance-20

เรื่องน้ำหนักผมว่าน่าสนใจพอควรนะ เพราะว่าเราจะเห็นว่ามันเป็นพลาสติกใสๆ ดูแล้วคงเบาหวิว แต่อย่าลืมว่าตะกี้ผมพูดถึงส่วนประกอบตรงที่เป็นเกลียวแล้วเชื่อมไปยัง ink feed ว่าทำมาจากโลหะซึ่งมีน้ำหนักพอสมควร ทำให้ปากกาด้ามนี้ไม่ว่าจะใช้แบบถอดปลอกหรือสวมปลอกก็มีน้ำหนักที่พอเหมาะพอดี ไม่เบาหวิวหรือหนักจนถือจนมือล้า อีกทั้งเพราะว่าตัวปลอกมันมีน้ำหนักที่เบาอยู่แล้ว จึงทำให้สมดุลของปากกาไม่เสียไปเลย

nib

Platinum Balance-28

ปากกาด้ามนี้มีขนาดของ nib ด้วยกัน 2 ขนาดครับ ซึ่งก็จะมี F และ M และจากที่เราได้อ่านรีวิวปากกาหมึกซึมกันมาสักระยะนึง เราจะรู้ว่าปากกาหมึกซึมจากฝั่งประเทศญี่ปุ่นนั้นจะมีขนาดของ nib ที่เล็กกว่าทางฝั่งยุโรปเมื่อเปรียบเทียบขนาดตามที่เขียนไว้บน nib ซึ่งเจ้าปากกา Platinum Balance นี้ก็เช่นกันนะ ผมลองเอามาลากเทียบกับปากกาลามี่รุ่นซาฟารีที่เป็น nib EF ก็จะเห็นว่าเส้นที่ได้จาก Platinum Balance F นั่นมีขนาดเท่ากันกับ EF ของลามี่เลย ส่วนขนาด M ก็จะใหญ่ขึ้นมาอีกนิดนึงซึ่งผมว่ามันใกล้เคียงกับ F ของลามี่นะ (ลืมลากเส้นเทียบกับ F ของลามี่ แฮะๆ) ดังนั้นใครที่ชอบเส้นเล็กหรือใหญ่ก็ลองเทียบกันดีๆ ก่อนกดสั่งนะ

ไปดูวิดีโอแบบเจาะลึกเรื่องการเขียนก่อนนะ!

จริงๆ แล้วเรื่องการเขียนผมอยากให้เข้าไปดูวิดีโอสั้นๆ ที่ผมทำประกอบไว้ด้วยหน่ะครับ ทั้งนี้เพื่อให้เห็นถึงการเขียนจริงๆ และได้ดูถึงน้ำหนักของเส้นด้วย ดูว่าตอนที่ผมลองวาดภาพจริงๆ ผมได้ใช้ประโยชน์จาก line variation ของปากกาด้ามนี้อย่างไร

ลองเขียน

Platinum-Balance-Line-03

มาถึงเรื่องที่เราน่าจะเข้ามาขลุกกันตั้งนานแล้วนั่นก็คือเรื่องการเขียน ผมลองเขียนแบบปรกติเหมือนปากกาทั่วๆ ไปก็พบว่าปากกา Platinum Balance นั้นเขียนได้ดีถึงขั้นดีมาก นั่นเป็นเพราะการไหลของหมึกนั้นทำได้ดี ดูจากในวิดีโอจะเห็นได้เลยว่าไม่ว่าผมจะเขียนด้วย nib F หรือ M เส้นที่ได้จะมีหมึกไหลออกมาเยอะพอสมควรแถมไหลสม่ำเสมอด้วยนะ ดังนั้นเรื่องเส้นขาดเพราะหมึกไม่ไหลนี่หมดกังวลไปได้เลย

Platinum-Balance-Line-01

ส่วนเรื่องการเขียนลื่นหรือไม่ ก็เรียกได้ว่าเขียนได้ลื่นล้มหัวแตกแผลยาวได้เลย หัว M นี่เขียนมันมือเลยล่ะเพราะหมึกก็ไหลดีหัวก็เขียนลื่น แต่ที่เด็ดเลยคือ F ครับ หลายคนก็รู้อยู่แล้วอ่ะเนาะว่าผมชอบปากกาเส้นเล็กๆ Lamy EF นี่ของโปรดเลยซึ่งส่วนใหญ่ก็ได้แบบลื่นบ้างฝืดบ้างกัดกระดาษบ้าง แต่กับ Platinum Balance F ที่ขนาดเส้นเทียบเท่า EF ของ Lamy นั้นกลับเขียนได้ดี เรียกได้ว่าลื่นพอควรเลยล่ะสำหรับ nib ที่มีขนาดเล็กแบบนี้ ใครที่อยากได้ปากกาเส้นเล็กเขียนดีๆ วาดรูปลื่นไหล ผมว่าด้ามนี้น่าสนใจเลยนะ

flex ได้นิดๆ แต่ต้องออกแรงมากหน่อย

Platinum-Balance-Line-04

สิ่งนี้ผมว่าเป็นไฮไลท์ของวันก็ว่าได้เลยนะ! ทีแรกผมก็เข้าใจว่าปากกา Platinum Balance เป็นปากกาหัวกลมปรกติที่ nib จะแข็งไม่ต่างกับปากกาหัวกลมทั่วไป แต่พอได้ลองเขียนลงบนกระดาษแล้วทะลึ่งออกแรกเพิ่มขึ้นพอควร nib มันแหวกเว้ย! “ปลาย nib มันจะแยกออกจากกันนิดนึง” เมื่อเราออกแรงกดลงไประดับนึง ทำให้สามารถเขียนเส้นที่มีความหนา-มบางได้หลายระดับ ทั้งนี้ก็สามารถทำได้ทั้งหัว F และ M เลยนะ

Platinum-Balance-Line-02

แต่! มันไม่ได้นุ่มมมมมมเหมือนปากกา flex pen นะ!! ผมต้องขอใช้คำว่า มันมี line variation แต่ไม่ได้ทำกันง่ายๆ เพราะว่าผมต้องออกแรงกดปากกาลงไปเยอะพอสมควรเลยล่ะเพื่อจะให้ได้เส้นที่หนาขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผมเลยลองสเก็ตช์ภาพให้ดูตั้งแต่เริ่มตั้นไปจนเสร็จให้ดูว่าผมทำเส้นหนัก-เบายังไง (ดูได้ในวิดีโอ) ส่วนเรื่องที่เอามาเขียนตัวอักษรประดิษฐ์แล้วผลเป็นอย่างไรนั้น ลองชมตัวอย่างที่ผมเขียนมาให้ชมนี้ดูละกันนะ

Platinum-Balance-Line-06 Platinum-Balance-Line-07

ซื้อที่ไหน? ราคาเท่าไหร่?

ถึงจะแทนตัวเองว่าเสี่ยไปเมื่อตอนต้น แต่จริงๆ แล้วผมไม่มีตังค์หรอกครับและปากกาทั้งสามนี้ผมก็ไม่ได้ซื้อเองด้วย กร๊าาากก ผมได้รับการสนับสนุนมาจาก คุณเอ็มแห่งร้านปากกาที่หมึกเยอะมาก ร้าน The PIPS Café โดยเจ้าปากกา Platinum Balance นี้มีราคาขายหน้าร้านอยู่ที่ 1,250 บาท ในทุกสีและทุกขนาดหัวปากกา ซึ่งราคานี้ก็จะไปเป็นกล่องแบบที่บอกไปตอนแรกเลย “ซึ่งไม่มีหลอดสูบหมึกแถมมาให้นะ” ดังนั้นถ้าหากใครอยากได้หลอดสูบหมึกด้วยก็สามารถซื้อเพิ่มได้ในราคา 350 บาทครับ ราคารวมทั้งชุดจะตกอยู่ที่ 1,600 บาทถ้วน ใครสนใจก็ดิ่งไปจับจองได้ที่เว็บ The PIPS Café นะจ๊ะ

อ้อ! สำหรับใครที่ไม่อยากเสียเงินซื้อหลอดสูบหมึกเพิ่ม ผมแนะนำว่าเอาหลอดหมึกแบบ refill ที่แถมมาอ่ะถ้าใช้หมดแล้วก็เอามาล้างซะ แล้วก็เอาเข็มฉีดยาสูบหมึกแล้วเติมเข้าไปก็ได้ ประหยัดเงินไปได้ตั้ง 350 บาท แล้วเอามาบริจาคให้บีบีบล็อกกันเนาะ อะกร๊ากอะกร๊าก

แจกของ!

Platinum-Balance-jakkong

อะไรมันจะใจดีอย่างนี้ครับคุณเอ็ม?! คือคุณเอ็มแกบอกมาว่า ไหนๆ ก็มีน้องนางมาให้เชยชมกันถึงสามแล้ว ก็อยากให้คุณผู้อ่านได้ลองลิ้มชิมน้อง เอ้ย!! ได้ลองเอาไปใช้กันสักด้ามนึง ดังนั้น แจกของ! ในครั้งนี้จึงเด็ดสุดๆๆๆ แจกไปเลยปากกาหมึกซึม Platinum Balance มูลค่า 1,250 บาท 1 ด้ามมมมมม!!!

กติกา

ก็เล่นกันง่ายๆ เหมือนเดิม เพียงเข้าไป Like และ Comment ตอบคำถามบนบีบีบล็อก Facebook Page ของรีวิวตอนนี้ที่นี่นะ : https://facebook.com/bbblog.sketchblog/posts/1033807220067624 โดยคำถามมีอยู่ว่า

“หากเปรียบ Platinum Balance เป็นหญิงสาว เธอจะมีนิสัยเป็นอย่างไร?”

ประกาศผล!

เวลา 5 ทุ่ม 55 นาทีของวันเสาร์ที่ 23 กรกฏาคม 2559 นี้ ผู้โชคดี 1 ท่านก็รับไปเลยครับ ปากกาหมึกซึม Platinum Balance สีอะไรก็ได้! nib อะไรก็ได้! ตามแต่ใจต้องการไปเลย 1 ด้ามมมมมม เยสสสสสส!!

ความเห็นจากเสี่ย(กำมะลอ)แห่งบีบีบล็อก!!

ในเรื่องการใช้งานแบบปรกติของปากกาหมึกซึมผมไม่มีอะไรโต้แย้งเลยนะ เพราะผมถือว่ามันเป็นปากกาหมึกซึมที่เขียนได้ดีงามพระรามลงสรงเลยทีเดียว (หิวสินะ) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการไหลของหมึกก็ทำได้อย่างไม่เคอะเขิน เรียกว่าไหลดีไหลท่วมเลยก็ว่าได้ ส่วนเรื่องความลื่นไหลในการเขียนก็ไม่มีอาการสะดุดเลยนะไม่ว่าจะเป็น nib ขนาด F หรือ M ก็ตาม ถ้าเรื่องการใช้งานทั่วไปเรียกได้ว่าสอบผ่านฉลุยเลยครับ

Platinum Balance-30

ทีนี้เรามามองในเรื่อง “ความสามารถพิเศษ” กันบ้าง ผมเชื่อแน่ว่า Platinum เค้าไม่ได้ตั้งใจให้เป็นปากกา flex หรอกนะ แต่ nib มันดั๊นมีความยืดหยุ่ยมาด้วยนี่อ่ะดี้! มันเลยทำให้ผมค่อนข้างให้ความสนใจเป็นพิเศษ ซึ่งทั้งจากในวิดีโอรีวิวที่ผมเขียนให้ดูไปเมื่อตะกี้ หรือจะเป็นตัวอย่างที่เห็นอยู่ไม่ว่าจะเป็นเส้นหรือตัวอักษร มันทำให้เราเห็นได้ว่า ปากกา Platinum Balance ด้ามนี้มันสามารถสร้างเส้นที่หนา-บางตามน้ำหนักมือได้ ภาษาหล่อๆ คือมี line variation นั่นแหล่ะ

Platinum Balance-Sketch-02

แต่! ผมไม่ได้หมายความว่า nib มันนู่มมมมมมม มัน flexๆๆๆๆ เขียนแล้วเส้นสะบัดเวิ้บวาบได้ง่ายดาย ผมจัดให้ว่า “มันสามารถเขียนเส้นหนา-บางได้ แต่ไม่ง่ายเหมือนปากกา flex ที่แท้จริง” ที่ผมพูดอย่างนี้ก็เพราะ nib มันนุ่มกว่าพวกปากกา Lamy ก็จริง แต่มันก็ยังจัดได้ว่าแข็งอยู่พอควรครับ ซึ่งถ้าเราเอามาใช้ในงานวาดภาพ สเก็ตช์ภาพ เราจะได้ประโยชน์ในจังหว่ะที่เราอยากลากเส้นหนาๆ ในครั้งเดียวเพียงแค่เราลงน้ำหนักมือเพิ่มมากหน่อย การลงน้ำหนักในการวาดเส้นมันทำได้ง่ายไม่ตวัดไปมาเหมือนตัวหนังสือ ผมเลยเห็นว่ามันเหมาะกับการวาดภาพสเก็ตช์ภาพทีเดียว (ดูผมวาดภาพเอาในวิดีโอละกันนะ)

Platinum-Balance-Line-05

แต่! …ทำไมแต่เยอะจัง? คือถ้าคุณผู้อ่านจะเอามาใช้ในการเขียนตัวอักษรประดิษฐ์ calligraphy ผมมองว่ามันอาจจะไม่สะดวกเท่าที่คิดครับ จริงอยู่มัน flex ได้นิดๆๆ แต่คุณต้องออกแรงมากกว่าปรกติเลยล่ะเพื่อให้ได้เส้นหนาๆ แบบนั้น ยิ่งเวลาเขียนตัวอักษรโค้งไป ตวัดมา ยิ่งควบคุมแรงที่กดลงไปได้ยากมากขึ้นเพราะเราต้องใช้แรงเยอะ ตอนผมเขียนอ่ะผมต้องเอามือซ้ายจับสมุดไว้แน่นเลย อีกทั้งพื้นจะต้องแข็งพอควรไม่งั้นเวราเราลงน้ำหนักมือลงไปสมุดมันจะยุบ (แนะนำให้เป็นกระดาษแผ่นเดียววางบนโต๊ะ) ดังนั้นเอาจริงๆ มันก็สามารถเขียนได้นะลองดูที่ผมเขียนก็ได้ แต่คุณต้องหัดอยู่พักใหญ่เลยอ่ะกว่าจะเขียนแล้วออกมาดูได้ ดังนั้นใครที่อยากเอามาเขียน calligraphy ผมแนะนำว่า “ต้องลองก่อน” แล้วจึงค่อยตัดสินใจซื้อนะ


Platinum Balance-29เอาอีกแล้วผมหลงเด็กสาวๆ ใสๆ บางๆ แถมมากับอาภรณ์สีสันสวยงามอีกต่างหาก มาจัดเต็ม 3 สีแบบนี้มีเหรอผมจะไม่ตกหลุมพลาง เอ้ย! ตกหลุมกทม. เอ้ย! ตกหลุมรักอีกแล้ววววว (เมื่อไหร่จะเลิกเล่นมุก เอ้ย!ๆ นี้สักทีวะ?) แต่เอาเป็นว่าปากกาด้ามนี้ค่อนข้างถูกใจทีเดียวนะ ถ้าเรามองข้ามเรื่องปลอกที่ทำให้ปากกาด้ามนี้มีเสน่ห์ลดลงไปได้ละก็ Platinum Balance ด้ามนี้ก็จัดได้ว่าเป็นปากกาที่หน้าตาดูดีทีเดียวครับ และที่สำคัญก็คือมันเขียนได้ดีมากทีเดียว! หมึกไหลสม่ำเสมอและต่อเนื่อง หัวปากกาก็เขียนลื่นดีทั้งขนาด F และ M และยังมีความพิเศษอีกนิดตรงที่ nib มีความยืดหยุ่นเล็กน้อย แม้จะไม่ได้นุ่มมากเหมือนพวก flex pen แต่ก็สามารถให้เส้นที่มีน้ำหนักได้ เอาไปวาดภาพหรือสเก็ตช์ภาพก็สะดวกดี แต่ถ้าจะเอามาใช้เขียน calligraphy ผมว่าอาจจะไม่ค่อยเหมาะหรือใช้ยากไปสักหน่อย ดังนั้นจากทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา หากปากกาด้ามนี้ตรงตามความต้องการของคุณแล้วละก็ ลองหามาครอบครองกันดูสักด้ามนะครับ

ขอขอบพระคุณ

คุณเอ็ม แห่งร้านปากกาหมึกเยอะและปากกาสุดงาม The PIPS Café ที่สนับสนุนปากกาใสๆ เขียนดีอย่าง Platinum Balance มาให้ได้รีวิวและเล่นกิจกรรม แจกของ! กันด้วยนะครับ ขอบพระคุณครับ!