ตกหลุมรักหมึกปากกาจากแดนจิงโจ้! Robert Oster Signature Ink
หากใครที่มีโอกาสได้เดินช๊อปปิ้ง กินเที่ยว ดูของแล้วไปลุยตามพวกร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านพระราม 9 คงจะพอได้เห็นกระดาษ A4 ที่เป็นประกาศห้ามเข้าร้านอาหารนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านหมูทอด ร้านปิ้งย่าง ร้านสเต็กเหนียว หรือจะเป็นร้านอาหารไทยสไตล์ญี่ปุ่นก็ตาม
“ประกาศ! ห้ามบุคคลนามว่า ‘โรเบิร์ต’ ตามภาพเข้าใกล้ร้านแห่งนี้!”
ครับผม… นั่นคือฉายาของผมในการตะลุยกินแหลกตามห้างสรรพสินค้าจนหลายๆ ร้านต้องติดประกาศห้ามเข้า …แต่ว่ามันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับรีวิวในวันนี้ซะทีเดียวนะ (แล้วจะพูดเพื่อ???) แต่ที่ผมพูดถึงฉายานี้ขึ้นมาก็เพราะว่าหมึกปากกาหมึกซึมที่ผมนำมาให้ชมกันในวันนี้ก็ใช้ชื่อว่า “โรเบิร์ต” เช่นเดียวกัน แถมยังเป็นหมึกที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในแวดวงปากกาหมึกซึมอีกด้วย
Robert Oster Signature Ink [ขอเชิญคลิกเพื่อเสพ] คือชื่อของหมึกที่น่าสนใจที่สุด ณ เวลานี้ หมึกปากกาหมึกซึมแท้ๆ จากประเทศประเทศออสเตรเลีย ถือกำเนิดขึ้นจากความรักและชื่อชอบในปากกาหมึกซึม และด้วยความรักนี้เองจึงได้ตั้งใจที่จะสร้างสรรค์หมึกปากกาหมึกซึมที่มีสีที่มีความเป็นเอกลักษณ์ขึ้นมา ด้วยความพิเศษของทั้งสีและหมึกที่ไม่เหมือนใครนี้ ทำให้กลายเปนหมึกที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในอเมริกาและยุโรป และผมเชื่อว่าหลังจากที่พวกเราได้ลองหมึกตัวนี้ คงจะได้มีแววเสียเงินถอยมาสักสี 2 สีเป็นแน่
ขวด!
รูปร่างหน้าตาของขวดหมึกก็ง่ายๆ ครับ เป็นขวดพลาสติกใส PET ทรงสูง ฝาสีดำหมุนปิดแล้วแน่นหนาดี บนขวดจะมีสติกเกอร์สีทองเงาวับเป็นตราประทับของยี่ห้อ Robert Oster Signature Ink แปะตัดกับสีหมึกในขวดใสทำให้ฉลากมันเหลืองอร่ามเด่นชัดยิ่งขึ้นไปอีก
บนฝานั้นจะมีทั้งรายชื่อของสีหมึกและบ่งบอกว่าเป็นหมึกที่ผลิตที่ประเทศ ออสเตรเลียนะเฟ้ย แต่ที่ผมชอบมากบนฝานี้ก็คือ “มีตัวอย่างสีของหมึกแบบปาดจริงๆ ถ่ายรูปจริงๆ พิมพ์มาให้ดูด้วย” ซึ่งต่างกับยี่ห้ออื่นๆ ที่จะใช้เป็นภาพกราฟฟิคจากคอมพิวเตอร์แล้วสีมันไม่เหมือนจริงเลยเว้ยยยย แต่กับไอตัวอย่างสีบนฝานี่ก็เลยดู “ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากขึ้น”
Color & Shading
หมึกของ Robert Oster Signature Ink มีมากมายหลายสีมากๆๆๆๆ อย่างที่ร้าน The PIPS Café ของคุณเอ็มแกก็เอาเข้ามาขายถึง 24 สี และคุณเอ็มแกบอกว่านี่ยังเป็นแค่เพียงบางส่วนเท่านั้นและจะมีเข้ามาเติมเรื่อยๆๆๆๆ แต่ถ้าจะให้รีวิวทั้งหมดผมคงกระอักหมึกตายแน่ๆ ผมจึงเลือกสีที่ผมสนใจและเห็นว่ามีเอกลักษณ์ต่างกับของยี่ห้ออื่นๆ มาได้ 5 สีครับ …ซึ่งเลือกโคตรนานจนร้านปิดเลย ได้แก่!
1. Fire & Ice ฟ้าอมน้ำเงิน
ตัวนี้เป็นหมึกตัวที่ผมชอบเป็นพิเศษเพราะโดยปรกติแล้วหากผมจะต้องใช้หมึกสีน้ำเงิน ผมมักจะเลือกหมึกสีออกไปทางฟ้าเข้มหนักไปทางสีน้ำเงิน ซึ่ง Fire & Ice นี้ก็เป็นอย่างว่าครับคือเป็นสีฟ้าน้ำเงินที่สดใสทีเดียว แถมยังเด่งเรื่อง Shading มากด้วย อย่างที่ผมลองเขียนให้ดูนี้จะเห็นว่าถ้าผมใช้ปากกาที่หมึกออกปานกลางแล้วหัวปากกาเล็กๆ เช่น Kaweco Sport EF เส้นที่เห็นก็จะออกไปทางฟ้าเลย แต่ถ้าเปลี่ยนมาใช้อีกด้ามที่เป็น Lamy Safari M เส้นก็จะออกมาเป็นฟ้าเข้มหนักไปทางสีน้ำเงินไปเลย ตรงไหนที่หมึกท่วมหน่อยก็จะทำให้เห็นเป็นการไล่สีของหมึกที่งามทีเดียว
2. River of Fire น้ำเงินอมเขียน
นี่เป็นอีกตัวที่น่าสนใจครับ มันเป็นสีเขียวเข้มที่หนักไปทางสีน้ำเงิน เอ… หรือว่าเป็นสีน้ำเงินอมเขียวก็ว่าได้นะเพราะสัดส่วนมันพอๆ กันเลย เป็นสีที่เข้มอ่านได้ชัดและสีสวยเป็นเอกลักษณ์ แบบเดาไม่ออกว่าจะเป็นสีอะไรกันแน่ River of Fire ตัวนี้ Shading ก็ถือมีนะ เพียงแต่เพราะสีหลักของมันค่อนข้างที่จะเข้มอยู่แล้ว เราเลยไม่ค่อยเห็นถึงความแต่ต่างมากนัก
3. Spearmint เขียวอมน้ำเงิน (จะอมกันอีกนานมั้ย?)
ตะกี้เราได้ลองหมึก River of Fire กันไปแล้ว มาถึงตัวนี้ที่เป็นสีเขียวแท้ๆ แต่ด้วยความที่เป้นสีเขียวที่ไม่ได้มืดหรือเข้มจนเกินไป ทำให้ shading ของหมึกเห็นได้ชัดเจน เป็นหมึกที่ไล่น้ำหนักได้สวยงามอีกตัวนึงเลย
4. Jade เขียวสว่างโทนเหลืองน้ำตาล
โอ้ยยย สีนี้ผมชอบมากกกก ผมมักจะชอบหมึกที่เป็นสีเขียวอ่อนๆ สีใบตอง สีเขียวใบไม้ คือดูแล้วมันสดชื่นดีครับ และกับเจ้าสีนี้ก็ให้ความรู้แบบเดียวกันเลย เป็นสีของใบไม้อ่อนๆ ที่เพิ่งออกจากกิ่งก้าน และเมื่อพอมีน้ำหนักหมึกเพิ่มมากขึ้นก็สวยงามเหมือนใบไม้กำลังผลัดสีให้เข้มขึ้นเหมือนใบแก่
5. Ng Special ’16 เหลืองทองผ่องอำไพ
อันนี้เด็ดสะใจจริงๆ พื้นของหมึกจะเป็นสีส้มสว่างและสดมาก เขียนแล้วเห็นตัวหนังสือได้เด่นชัดมาก แต่ทีนี้พอเอาม่เติมในปากกาแล้วเขียน ตรงส่วนที่มีหมึกอยู่เยอะยิ่งทำให้ตัวหนังสือมีความพิเศษยิ่งขึ้น มันเป็นการไล่สีจากส้มสว่างไปเป็นสีส้มที่เข้มจัด อ่านแล้วรู้สึกสนุกสนานในทุกบรรทัด
Sheen
อืมมมมมม จากหมึกที่ผมเลือกมานั้นเรียกได้ว่ามีถึง 3 ตัวที่ออก sheen สวยงามชัดเจนทีเดียว Fire & Ice, Spearmint และ River of Fire ซึ่งสีที่ผมว้าวมากเป็นพิเศษนั่นก็คือ Fire & Ice ครับ ที่เป็นหมึกสีฟ้าน้ำเงินแต่พอเขียนแล้วตามขอบตามเส้นที่มีหมึกค้างอยู่เยอะหน่อยก็จะออกเป็นเหลือบสีม่วงอมชมพู ยิ่งถ้าลองเอาไปส่องกระทบแสงไฟก็จะดูเงางามเป็นประกายสวยงามมากๆ ตกหลุมรักเลยหมึกตัวนี้ Fire & Ice
ตัวต่อมาที่ผมเห็นว่า sheen มันเป็นสีที่สวยเป็นพิเศษคือ Spearmint หรือก็เขียวมินต์นั่นแหล่ะ ลองมองใกล้ๆ กับหมึกที่ผมลองปาดลองเขียนดูนะครับจะเห็นว่า sheen มันเด่นชัดสวยงามขึ้นมาเป็นสีม่วงเลย ที่มันชัดก็เพราะว่าตัวสีพื้นเองเป็นสีเขียว เช่นเดียวกับหมึกสี River of Fire สีเขียวอมน้ำเงินก็ออก sheen ที่เป็นสีม่วงอมชมพูเช่นกัน
Feather & Bleed Through
ผมยังคงยึดหลักในการใช้กระดาษแบบธรรมดาของสมุด Moleskine ในการทดสอบเรื่องเส้นแตกและซึมไปหน้าหลังหรือไม่ ก็ผลก็อย่างที่เห็นครับ หมึกซึมไหลแทรกไปตามเยื่อกระดาษเห็นแล้วเส้นไม่ค่อยคมเลย พลิกด้านหลังของกระดาษ Moleskine ดูก็ไม่เหลือรอดครับทะลุถึงแกนโลก ตรงส่วนนี้ผมไม่ได้มองว่าหมึกไม่ดีหรืออะไรนะเพราะปัจจัยมันอยู่ที่เนื้อกระดาษเป็นจุดสำคัญ
ตรงนี้ผมอยากจะให้ดูเป็นตัวอย่างครับว่ากระดาษนั้นมีผลต่อเส้นแตกของหมึกและการซึมทะลุหน้าหลังด้วย เช่นถ้าเราใช้กระดาษพวก MD paper หรือ Tomoe River เราก็จะไม่พบกับปัญหาเส้นแตกหรือหมึกซึมทะลุหลังครับ ดังเช่นตัวอย่างที่ผมนำมาแปะให้ดูนี่เป็นกระดาษ Lightweight Paper 013 ของ TRAVELER’S notebook ที่ขึ้นชื่อเรื่องความบาง จะเห็นว่าหมึก Fire & Ice ตัวเดียวกันแต่ไม่มีอาการเส้นแต่อย่างใด แถมหน้าหลังก็ไม่ซึมแม้แต่น้อยเลย นี่ขนาดกระดาษบางมากๆๆๆ นะเนี่ยะ!
Dry Speed
เนื่อจากผมต้องการให้การทดสอบเรื่องการแห้งของหมึกเป็นมาตรฐานเดียวกันไม่ว่าจะเป็นหมึกที่เคยทดสอบมาหรือหมึกที่จะทดสอบต่อๆ ไปในอนาคต ผมเลยยังคงเลือกใช้กระดาษของ Moleskine ในการทดสอบครับ ซึ่งผลที่ออกมาก็ตามที่เห็น หมึกค่อนข้างแห้งไวเพราะว่าด้วยเนื้อกระดาษของ Moleskine ทำให้หมึกมันจมลงกระดาษได้ดี หมึกที่เหลือค้างอยู่บนผิวจึงมีน้อย
Ink Flow & Smooth
อืมมมมมมม อันนี้คือดีงามเลยอ่ะ หมึกทุกตัวเป็นหมึกที่ไหลลื่นดีมากเลย น้ำหมึกมันไม่ได้เหลวหรือข้นจนเกินไป ผมลองเอาหมึกมาเติมลงปากกาหลายตัวครับไม่ว่าจะ Lamy Pelikan และก็ Kaweco แต่ละด้ามก็จะให้ผลไปในแนวทางเดียวกันคือหมึกไหลดีทีเดียว แต่ว่าสีที่ได้ก็ยังคงสดสวย เวลาเขียนก็ให้ความรู้สึกที่เขียนได้สนุก ไม่รู้สึกว่ามันเป็นน้ำผสมไปเยอะจนเขียนแล้วสากๆ ด้านๆ หมึกตัวนี้เป็นหมึกที่เขียนได้สนุกเพลินมือตัวนึงเลยล่ะ
Waterproof
ผมลองลากเส้นเขียนอักษรด้วยหมึกทั้ง 5 แล้วจุ่มลงในน้ำดูครับ ผลก็ออกมาอย่างที่เห็นคือว่าหมึกตัวนี้ไม่ได้เป็นหมึกกันน้ำนะ โดนน้ำทีนึงก็จางหายไปจนแทบจะจำกันไม่ได้ว่าเคยเขียนอะไรไปบ้าง
ซื้อที่ไหน? ราคาเท่าไหร่?
หมึกตัวนี้ผมได้รับการสนับสนุนมาจากคุณเอ็ม แห่งร้านหมึกสวยและปากกาแยะ The PIPS Café [เว็บไซต์] ซึ่งเดี๋ยวนี้เราสามารถเข้าไปร้านแบบตัวเป็นๆ จับของกับมือได้แล้วนะครับที่อาคารธนิยะ ชั้นหนึ่งตึกติด BTS [อ่านรีวิวร้านกันมั้ย?] โดยราคาของเจ้าหมึก Robert Oster Signature Ink อยุ่ที่หัวละ 520 บาทครับ ปริมาณบรรจุต่อขวดก็อยู่ที่ 50ml พอหารออกมาแล้วก็ตกที่ 1 ml ละ 11 บาท (ถ้าผมจำไม่ผิดไอหลอดสูบหมึกก้านแดง Z24 ของปากกาลามี่จะมีความจุราวๆ 0.5 – 0.6 ml) ซึ่งจากที่ผมลองเช็คราคาจากเว็บปากกาหลายๆ เว็บในต่างประเทศก็ทำให้รู้ว่าที่ร้านของคุณเอ็มนั้นทำราคาได้ดีมากเลยนะ ถูกกว่าซื้อจากเมืองนอกอีก กลายเป็นว่าเราได้ใช้หมึกสีสดสวย เอฟเฟคเยอะ คุณภาพแน่นขวดในราคาที่ไม่แพงเลย
ความเห็นจากบีบีบล็อก
เห้ยผมชอบหมึกยี่ห้อนี้เลยนะพูดจากใจ จริงๆ แล้วในดวงใจผมอ่ะถ้าเป็นพวกหมึกปากกาหมึกซึมที่เป็นหมึกสี ผมจะมีไม่กี่ยี่ห้อหรอกครับที่จะชอบเป็นพิเศษ และที่ผมชอบหมึกยี่ห้อเหล่านั้นก็ไม่ใช่เหตุผลอื่นใดถ้าไม่ใช่เรื่อง “ความครบเครื่อง” คือผมจะดูว่าหมึกเหล่านั้นมันสีสดสวยมั้ย เขียนลื่นมั้ย สีลูกเล่นอะไรพิเศษบ้าง และคุ้มค่ามั้ย นี่แหล่ะครับคือความครบเครื่องที่ผมพูดถึง
ซึ่งหมึกของ Robert Oster Signature Ink ผมถือว่าครบเครื่องเลยนะในความคิดของผม ไม่แปลกใจว่าทำไมเมืองนอกเมืองนาถึงพูดถึงกันเต็มเว็บบอร์ดไปหมด สีของมันก็เป็นเอกลักษณ์และยังสดสวยอีกด้วย เขียนลงกระดาษแล้วทิ้งไว้ให้แห้งสีก็ไม่จืดไม่ดรอปลงแม้แต่น้อย เขียนได้ลื่นหมึกไหลดีงาม แถมตัวไหนมี shading และ sheen ก็ยิ่งทำให้หมึกตัวนี้น่าใจมากยิ่งขึ้นไปอีก อย่างเช่น Fire & Ice นั้นครบเครื่องมากๆๆ ซึ่งผมเชื่อแน่ว่าใครที่อยากได้หมึกเท่ๆ สวยๆ ไว้เติมปากกาด้ามโปรดจะต้องติดใจตัวนี้แน่ๆ เซ็นเอกสารแล้วสวยมากๆๆ
ผมดีใจครับที่พวกเราจะสามารถหาซื้อหมึกปากกาหมึกซึมสีสวยๆ และคุณภาพสูงเพิ่มมากขึ้นอีกหนึ่งยี่ห้อกับหมึก Robert Oster Signature Ink ไม่ว่าสีไหนก็สวยงามมีจุดเด่นของตัวเอง น้ำหมึกเข้มข้นสีสดสีชัด เขียนได้สนุกมือมากๆ โดยเฉพาะหมึกที่มี sheen อย่าง Fire & Ice, Spearmint และ River of Fire ก็ออก sheen ชัดเจนทำให้กลายเป็นหมึกที่ยิ่งกว่าเป็นหมึกสีพิเศษขึ้นไปอีก ผมแนะนำนะครับ ถ้าหากคุณผู้อ่านกำลังมองหาหมึกปากกาหมึกซึมเจ๋งๆ เด็ดๆ สักตัวนึงอยู่ ลองเข้าไปลองที่ร้านคุณเอ็ม ดูจากสมุดที่แกปาดสีไว้ให้ดู หรือจะลองจิ้มมาเขียนเองเลยก็ได้ ผมรับรองว่าหมึก Robert Oster Signature Ink จะกลายมาเป็นหมึกในใจของคุณแน่นอน
ขอขอบพระคุณ
คุณเอ็ม แห่งร้านปากกาหมึกเยอะและปากกาสุดงาม The PIPS Café ที่สนับสนุนหมึกปากกาสีอันเป็นเอกลักษณ์ Robert Oster Signature Ink มาให้ได้ร้องว้าวในความงาม ขอบพระคุณครับ!