หมึกไก่ฟ้าคอบเปอร์! Sailor Jentle Ink : The Four Seasons Ink : Yama-dori (Copper Pheasant)

“กุ๊กกกกๆๆๆๆๆ กุ๊กๆๆๆๆ มานี่มาลูก เร๊ววว! มากินข้าวเยอะๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้พ่อจะพาไปเล่นกับเพื่อนๆ ที่สนามนะ พ่อเฝ้าฟูมฟักลูกอย่างดิบดี หาข้าวหาน้ำหาคู่เปรียบที่สมน้ำสมเนื้อให้ เพราะพ่ออยากให้ลูกเติบใหญ่เป็นเทพไก่ชนที่อยู่เหนือมวลหมู่ไก่ทั้งหมดทั้งมวล ดังนั้นกินเยอะๆ นอนมากๆ ลับขาลับเงี่ยงให้คมนะ จะได้เฉือนคอพวกไก่กากให้หมดทุกตัวเลย วะฮ่าฮ่าาา”
ปลัดปอนด์ เจ้าของไก่ชนนามว่าโรเจอร์ เต็งแชมป์ประจำปี 2559 แห่งสนามชนไก่หนองระริน หมูบ้าน หนองระทวย พูดกระซิบกับไก่ชนลูกรัก
“พ่อคร้าบ”
“พ่อคร้าบบบบบบบบบบบบบ”
“พ่อออออออ”
เห้ย! นั่นมันเสียงอะไรวะ! ไอเราก็อยู่ตัวคนเดียว ชีวิตนี้มีแค่ปากกาหมึกซึมแล้วก็ไก่ชนนี่แหละ บ้านก็เป็นกระท่อมปลายนาหลังคามุงจาก ไม่น่าจะมีใครมาหาได้นี่หว่า
“พ่อคร้าบบบบบบ ผมเอง โรเจอร์งายยยย~~”
เอ้า! ที่แท้เป็นเสียงของไก่ชนลูกรักโรเจอร์นั่นเอง มันชูคอมองหน้าผมด้วยสายตาอ่อนโยนน่ารักน่าชังเสียจริงๆ เลี้ยงมาตั้งนานก็เพิ่งรู้นี่แหละว่าโรเจอร์เริ่มพูดภาษามนุษย์ได้แล้ว
“โถโรเจอร์ลูกรักของพ่ออออ พ่อก็ตกใจนึกว่าผีป่าที่ไหนมาแอบหลังต้นไม้ ที่แท้ลูกก็พูดได้แล้วนี่เอง ว่าแต่โรเจอร์เรียกพ่อทำมัยฮัฟ?” ปลัดปอนด์น้ำตารื้น
“พ่อคร้าบบบบ วันนี้พ่อจะรีวิวเรื่องอะไรกันแน่คร้าาาบบ?”
“อ้าว พ่อก็จะรีวิวหมึกปากกาหมึกซึมตัวเด็ดที่เพิ่งได้มาหน่ะสิ ว่าแต่ถามทำไมเหรอ?” ปลัดปอนด์สงสัยในตัวไก่
“พ่อออออออ ไอหมึกที่พ่อจะรีวิวมันชื่อว่า Sailor Jentle Ink : Yama-dori ที่เป็นชื่อของไก่ฟ้าคอบเปอร์ครับ พ่อจะปูเรื่องมาเป็นเรื่องไก่ชนอย่างผมทำมายยยยย” ไก่แม่งฉลาด
“…เอ่อออออ คือพ่อไม่รู้ว่าจะเข้าเรื่องหมึกในวันนี้ยังไงหน่ะสิ เลยเปิดด้วยเรื่องไก่ชน…”
เล่นมุกควายแบบนี้…ก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตาให้น้ำไก่กันต่อไป…
แต่ช่างมันเถอะ! ไหนๆ ลูกรักไก่โรเจอร์ก็ได้ปูทางให้ผมมาเสียขนาดนี้แล้ว เลยขอเข้าเรื่องมันดื้อๆ แบบนี้ละกันนะ! หมึกในวันนี้เป็นหมึกปากกาหมึกซึมที่พวกเราคุ้นชื่อคุ้นหูกันดีอยู่แล้วครับ นั่นก็คือหมึกยี่ห้อ Sailor พ่อสมอเรือแห่งแดนอาทิตย์อุทัย แบรนด์ปากกาที่มีประวัติความเป็นมายาวนานและอยู่คู่นักเลงปากกามาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แล้วทำไมผมถึงสนใจที่จะเอาหมึกตัวนี้มารีวิวนะเหรอ? เพราะว่ามันมีความพิเศษมากๆ จนทำให้ผมตกหลุมรักอยากเกิดใหม่เป็นไก่ฟ้าเลยทีเดียว
Sailor Jentle Ink Four Seasons ink : Yama-dori (Copper Pheasant) 50ml คือชื่อที่สุดแสนยาวแต่อธิบายความเป็นหมึกตัวนี้ได้อย่างดีทีเดียวครับ แน่นอนว่าเป็นหมึกจากแบรนด์ดังของญี่ปุ่น Sailor ที่ผมเคยนำหมึกกันน้ำสีดำ Sailor Kiwa-Guro Nano Black Ink มารีวิวให้ได้อ่านกัน โดยในครั้งนี้จะเป็นหมึกในซีรีส์ Jentle Ink : The Four Seasons Ink ซึ่งแนวความคิดมาจากการสร้างสรรค์หมึกโดยได้แรงบันดาลใจจากฤดูที่งดงามทั้ง 4 ฤดูของประเทศญี่ปุ่น แล้วจึงนำมาสร้างหมึกที่สะท้อนความงามของประเทศญี่ปุ่นออกมาเป็นหมึกสวย 8 สีดังต่อไปนี้
- Doyou ดำอมน้ำตาล
- Miruai เขียวเข้มอมฟ้า
- Nioi-Sumire ม่วง
- Oku-Yama แดง burgundy
- Shigure ม่วงเข้ม
- Souten น้ำเงินออกฟ้า
- Tokiwa-Matsu เขียวใบสน
- Yama-Dori สีฟ้าอมเขียว
(อยากท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นให้ครบทั้ง 4 ฤดู แนะนำอ่านหนังสือ Kyoto 4 Seasons คู่มือท่องเที่ยว : เกียวโตเที่ยวได้ทั้งปีไม่มีเบื่อ #ไม่ได้ค่าโฆษณา)
ก่อนจะไปถึงเรื่องตัวหมึก ผมอยากโม้อะไรให้ฟังนิดนึงก่อนนะ ช่วงนี้ผมหลงใหลในหมึกปากกาหมึกซึมที่มีสีแปลกๆ แตกต่างจากที่เคยเล่นมา แล้วก็ยังชอบในหมึกต่างๆ ที่มีความพิเศษไม่เหมือนใครด้วยเลยพยายามหาหมึกที่มี sheen มาเล่น เพราะหลังจากที่ได้ลอง หมึก DarkLilac ของ Lamy ไปเมื่อคราวก่อนที่เป็นสีม่วง sheen ทองชัดมาก ผมก็เลยคิดหาว่ามันน่าจะมีหมึกตัวอื่นที่มีสีสวยไม่เหมือนใครแถมมี sheen ชัดๆ แบบนี้
จนกระทั่งผมมาเจอะกับหมึกของ Sailor ที่ชื่อว่า Yama-dori นี่แหละครับ ใครต่อหลายคนก็บอกว่าเป็นสีที่สวยตั้งแต่นอกกล่องยันหยดหมึกเลย แต่ผมก็ดันไปเอะใจเข้ากับชื่อของหมึกเข้า ก็เค้าเล่นใช้ชื่อว่า Yama-dori ซึ่งถ้าเป็นภาษาอักกฤษจะเรียกว่า Copper Pheasant หรือภาษาไทยก็คือ “ไก่ฟ้าคอบเปอร์” ไอไก่ฟ้าตัวนี้มันเป็นไก่(นกเหอะ) ที่อยู่บนภูเขาสูงของประเทศญี่ปุ่นครับ ภาษาญี่ปุ่นคำว่า Yama-Dori แปลตรงตัวจึงแปลได้ว่า “นกแห่งขุนเขา” และเมื่อถึงฤดูหนาวก็จะลงมาสู่ที่ต่ำ หรือนี่จะหมายถึงหมึกแห่งฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังจะย่างเข้าฤดูหนาวนะ
แล้วมันเกี่ยวกับไอหมึกนี้ยังไงวะ? ยังครับ ผมยังไม่บอก เพราะว่าถ้าดูจากรูปไก่ฟ้าคอปเปอร์แล้วเราจะเห็นใช่มั้ยครับว่ามันเป็นไก่ฟ้าที่มีขนสีน้ำตาลแดงสวยเชียว ผมเลยอ่านเรื่องราวของมันต่อจึงได้พบกับธรรมชาติของไก่ชนิดนี้เข้าที่ว่า “ในฤดูผสมพันธุ์ พวกมันจะต่อสู้กันอย่างรุนแรง มันเป็นไก่ฟ้าที่มีนิสัยดุร้าย ชอบตีตัวเมียและไก่อื่นจนตาย[1]” …ไอไก่นี่เจ๋งหว่ะ!
นอกจากนั้นผมก็ยังไปเจอเข้ากับบทกลอนบทนึง เป็นบทกลอนสมัยช่วงต้นของศตวรรษที่ 8 แต่งโดยศิลปินชาวญี่ปุ่นนามว่า Kakinomoto no Hitomaro[2] ได้แต่งกลอนโดยมีเจ้าไก่ฟ้าอยู่นั้นด้วย บทกลอนนี้เขียนไว้ว่า
あしびきの
山鳥の尾の
しだり尾の
ながながし夜を
ひとりかもねむ
“Ashibiki no yamadori no wo no shidari-wo no naga-nagashi yo wo hitori ka mo nemu” [3]
ฝรั่งเค้าแปลไว้ว่า…
Must I sleep alone
through the long night,
long like the dragging tail
of the copper pheasant
in the foot-wearying mountains?
ช่างไพเราะและเป็นเปรียบเปรยความโดดเดี่ยวยาวนานได้งดงามจริงๆ …ว่าแล้วก็เข้าเรื่องหมึกกันเถอะเนาะ
ราคาเท่าไหร่ ได้มายังไง?
ผมได้หมึกตัวนี้มาจากคนรู้จักท่านนึงครับซึ่งก็เป็นคุณผู้อ่านของบีบีบล็อกด้วย เธอมีนามว่าคุณศา(นามสมมติ) ระหว่างที่เธอกำลังท่องเที่ยวอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นก็ได้ทำการถ่ายภาพร้านเครื่องเขียนและของต่างๆ มาอวดผมอยู่เสมอๆ ในภาพผมเห็นหมึกของยี่ห้อ Sailor ตั้งวางอยู่เลยถามว่ามีหมึก Yama-dori ขายมั้ย? ร้านแรกไม่มีแกเลยไปหาได้มาจากอีกร้านนึงในราคาขวดละ 1,080JPY หรือประมาณ 351 บาทในที่สุดผมก็ได้ครอบครองหมึกตัวนี้สมใจ ขอบพระคุณคุณศา(นามสมมติ) ที่หิ้วหมึกมาให้ด้วยครับ!
หมึก Sailor Jentle Ink : Yama-dori 50ml
ในที่สุดก็เข้าเรื่องหมึกได้เสียที หมึกของ Sailor ขวดนี้เป็นขนาด 50ml บรรจุมาในกล่องสี่เหลี่ยมสวยงามมุ้งมิ้งลายบนกล่องนี่สมกับเป็นฤดูทั้ง 4 ของญี่ปุ่นจริงๆ โดยหมึกของ Sailor นั้นจะมี “ขวดที่เป็นเอกลักษณ์” นั่นก็คือว่าเป็นขวดทรงกลมฐานกว้างตั้งได้มั่นคงเติมแล้วไม่พลาดทำขวดล้มแน่ๆ อีกทั้งยังเป็นการออกแบบที่สวยงามและคลาสสิคลงตัว ซึ่งแปลกดีเหมือนกันนะที่เห็นแล้วรู้สึกถึงความเป็นญี่ปุ่นตั้งแต่แว่บแรกที่เห็นเลย
อีกเอกลักษณ์นึงที่ผมชอบมากๆๆๆ และอยากให้หมึกทุกยี่ห้อมีเหมือนกันนั่นก็คือว่าภายในขวดจะมี inkwell หรือบางคนจะเรียกว่า reservoir …แปลว่า “อ่างเก็บน้ำ” นั่นแหละ ซึ่งไออ่างเก็บหมึก(กร๊าากก)นี่มันมีประโยชน์คือมันช่วยให้เราสามารถเติมหมึกปากกาได้ง่ายดายมากๆ และที่สำคัญคือทำให้เราสามารถใช้หมึกได้หมดเกลี้ยงขวดจริงๆ
วิธีการใช้ขอเขียนไว้หน่อยนึงนั่นก็คือว่า เวลาเราจะทำการเติมหมึก เราก็หยิบเจ้าขวดหมึกขึ้นมานะ เช็คก่อนว่าปิดฝาขวดได้แน่นสนิทแล้วจริงๆ แล้วก็คว่ำขวดลงดื้อๆ อย่างงั้นแหละครับ ถ้าเราสังเกตให้ดีเราจะรู้สึกว่ามันจะรู้สึกถึงหมึกไหลปุดๆ อยู่ภายในขวดครับ คว่ำไปสักพักหมึกมันก็จะหยุดไหลเราก็กลับตั้งขวดเป็นปรกติตามเดิม เปิดฝาแล้วจะเห็นว่าหมึกมันไหลเอ่ออยู่ภายใน inkwell ให้เราสามารถจุ่มหัวปากกาเติมได้ง่ายๆ แล้วล่ะ
Color / Shading สีของหมึก Sailor Yama-dori นี่เป็นอะไรที่ผมอธิบายยากหากไม่ได้เห็นได้ด้วยตาตัวเองจริงๆ ซึ่งจากภาพนั้นผมพยายามปรับแต่งให้เหมือนกับที่ตาเห็นที่สุดแล้วครับ โดยสีของหมึกนั้นถ้ามองบริเวณที่น้ำหมึกไม่ได้หนามาก สีของหมึกจะออกไปทางน้ำเงินอมเขียวออกฟ้าๆ ครับ แต่ตรงที่หมึกหนาๆ หน่อย สีมันจะเริ่มเข้มขึ้นมาเป็นสีน้ำเงินเข้มอมเขียวที่ดูสวยงามชัดเจนเลยครับ ถ้าเราใช้ปากกาพวก calligraphy pen ปากกาหัวตัดอะไรงี้รับรองว่าจะเห็น shading ของหมึกที่สวยงามจากน้ำเงินฟ้าไล่ไปถึงน้ำเงินเขียวเลยล่ะ
Sheen นี่แหละครับเป็นสิ่งที่ทำให้ผมหลงใหลจนต้องตัดสินใจซื้อเจ้าหมึกไก่ฟ้านี้มาครอบครอง เสียงลือเสียงเล่าอ้างต่างบอกว่ามันเป็นหมึกที่มี sheen (สีเหลือบ) สวยงามที่สุดสีนึงเลยทีเดียว sheen ของหมึกนี้ในบริเวณที่มีน้ำหมึกหนาแน่นมากจะออกไปทางสีแดงผสมชมพูสวยมากๆๆ ไม่ว่าจะลองเอาหมึกมาหยดดู เขียนด้วยปากกาที่หมึกไหลดีๆ ก็จะสามารถทำให้เห็น sheen แดงชมพูได้อย่างชัดเจนครับ แต่ทั้งนี้จะต้องเขียนบนกระดาษดีๆ เห็น sheen ง่ายๆ อย่างพวก MD paper ด้วยนะ ถ้าเป็นกระดาษ Moleskine นี่รับรองว่าไม่เห็น sheen แน่เพราะว่าซึมหายไปเลย กร๊าากก
Bleed / Feather ผมตั้งสมมติฐานว่าในเมื่อเป็นหมึกของ Sailor เหมือนกันกับหมึกดำกันน้ำ Sailor Kiwa-Guro Nano Black ที่นอกจากจะกันน้ำได้ดีในระดับนึงแล้ว มันยังไม่ซึมทะลุกระดาษจอมซึมอย่าง Moleskine อีกด้วย ผมเลยคิดว่าหมึกของ Sailor คงจะมีคุณสมบัตินี้เหมือนกันทุกตัว แต่ผมกลับคิดผิด เพราะว่าหมึกตัวนี้มันซึมทะลุกระดาษ Moleskine ราวกับว่าชีวิตนี้มีแต่เรื่องแย่ๆ (…นั่งซึมไง #ชมรมมุกควาย) แต่ก็ไม่ได้ซึมมากมายจนเห็นรอยชัดจากด้านหลังนะ ดังนั้นแฟนๆ สมุด Moleskine ถ้าอยากใช้หมึกตัวนี้ก็ทำใจนิดนึงนะ แต่ถึงหมึกมันจะซึมทะลุบ้าง แต่ในเรื่องเส้นแตกนั้นกลับไม่เป็นปัญหาครับ เพราะถึงจะเขียนบนกระดาษ Moleskine แต่ก็ไม่มีอาการเส้นแตกลายน่าเกลียดเหมือนหมึกตัวอื่นๆ เส้นยังคงชัดเจนสวยงามดีครับ
Dry Speed เป็นหมึกที่แห้งเร็วดีครับ 5 วิไม่ถึง 10 ซึมกริ๊บลากไม่เลอะ
Ink Flow อันนี้เป็นอีกเรื่องนึงที่ผมชอบนะ ผมเปิดขวดดูหมึกแล้วก็รู้สึกเลยครับว่าน้ำหมึกมันค่อนข้างข้นกว่าหมึกทั่วไปสักเล็กน้อย จำหมึกของ Diamine Indigo ได้ไหมครับที่คราวก่อนนู้นผมบอกว่ามันค่อนข้างใสๆ บางๆ ดังนั้นเมื่อเทียบกับ Sailor ขวดนี้จึงดูหมึกข้นกว่าเล็กน้อยครับ แต่ว่าไอเรื่องความข้นนี้ไม่ได้หมายถึง ข้นเว้ย! หมึกไม่ค่อยไหลเขียนไม่ได้เลย!! แต่ว่าหมึกยังคงไหลดีงามในทุกๆ ปากกาของผม (ผมลองเติมปากกาไปทั้ง 3 ด้ามหน่ะ)
Smooth แล้วเรื่องความลื่นในการเขียนล่ะ เรื่องนี้เรามองออกเป็น 2 ส่วนคือทั้งปากกาและน้ำหมึก ซึ่งไอปากกาของผมอ่ะไม่มีปัญหาหรอกเขียนลื่นแน่ๆ ทีนี้เราต้องมาดูว่าหมึกมันจะเขียนลื่นมั้ย ตะกี้ผมบอกไปว่าน้ำหมึกมันไม่ได้เหลวใสมากใช่มะ? นี่แหละครับคือความดีงามที่ทำให้เขียนได้ลื่นไม่มีฝืดมือ รับรองว่าถ้าได้ปากกาดีๆ ใช้คู่กับหมึกตัวนี้คุณจะเขียนได้ลื่นจนเสียเวลาทำมาหากินไปหลายชั่วโมงเลยล่ะ (เช่นผมเป็นต้น)
Waterproof ผมไม่คาดหวังอยู่แล้วครับว่าหมึกตัวนี้มันจะสามารถกันน้ำแบบเอาสมุดลงไปล่องแม่น้ำแล้วยกขึ้นมาจะเหลือเส้นครบ แต่ผมมองว่าอย่างน้อยๆ มันก็ควรจะหลงเหลือรอยปากกาว่าเคยเขียนอะไรไปแล้วบ้าง จริงมะ? ซึ่งผมก็ลองเขียนบนกระดาษทิ้งไว้ให้แห้งสักครึ่งชั่วโมง จากนั้นจึงเอาไปแช่น้ำดูครับ ซึ่งผลที่ออกมาก็ตามที่เห็น หมึกไหลออกไปเยอะทีเดียวแต่ว่ายังเหลือเส้นปากกาสีฟ้าให้เห็นอยู่พอสมควรนะ ใครที่อยากใช้หมึกสีสวยๆ แต่กลัวหมึกหายเกลี้ยงก็สบายใจได้เพราะหมึกไก่ฟ้าตัวนี้ยังอ่านได้นะ
ถึงแม้ว่าผมจะมีหมึกสีน้ำเงินเยอะแยะเต็มบ้านไปหมดแต่ผมไม่เคยนึกเสียดายเงินเลยครับที่จะซื้อหมึกเพิ่มอีกสักหนึ่งขวดหากว่ามันคือหมึก Sailor Jentle Ink : The Four Seasons Ink : Yama-dori ขวดนี้ สีของหมึกที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ทั้งในเรื่องของสี shading รวมไปถึงความเด็ดสุดๆ คือการเหลือบสีแดงอมชมพูที่สวยงามมากๆ ทำให้หมึก Yama-dori ตัวนี้น่าใช้ในทุกๆ วันจริงๆ หากคุณผู้อ่านท่านใดกำลังมองหาหมึกสีน้ำเงินสวยแปลกตาไม่เหมือนใครอยู่ละก็ ลองมองหาเจ้าหมึกไก่ฟ้าคอปเปอร์ตัวนี้มาใช้กับปากกาสุดรักของคุณดูนะครับ
ขอขอบพระคุณ
คุณศา(นามสมมติ) ที่เป็นธุระจัดหาเจ้าหมึกไก่ฟ้าคอปเปอร์ตัวนี้มาจากประเทศญี่ปุ่นให้ผมได้ชื่นชม ขอบพระคุณครับ!
- ไก่ฟ้าคอบเป้อร์ : http://www.thaikasetsart.com/ไก่ฟ้าคอบเป้อร์/ ↩
- Kakinomoto no Hitomaro https://en.wikipedia.org/wiki/Kakinomoto_no_Hitomaro ↩
- Hyakunin Isshu, Poem 3 http://www.japannavigator.com/2016/01/hyakunin-isshu-one-hundred-poets-one_10.html ↩