กลับมาแล้วค่า

พบกับเคียของคุณในช่วงหนีงานพาเที่ยว เอ๊ย ดาวเหนือ!! อีกเช่นเคย ตั้งแต่ครั้งก่อนนู้นที่เคียเคยพาไปเที่ยวร้านเครื่องเขียนที่ประเทศญี่ปุ่นกันมาแล้ว รอบนี้เราจะพาคุณผู้อ่านที่น่ารักปีนลงกระเป๋าไปเที่ยวถึงประเทศสิงคโปร์ อันเป็นแหล่งชอปปิ้งและทัวร์กินสุดโปรดของหลายๆ คน

เนื่องด้วยอายุที่เพิ่มขึ้นทำให้เราแต่งตัวไม่จัดเหมือนเมื่อก่อน (เมื่อก่อนเรียกแต่งจัดเหรอ…) กอปรด้วยเมืองไทยล่อมีซะทุกร้านของแบรนด์แฟชั่นที่ในโลกจะมีได้มากองอยู่ในกรุงเทพแล้ว การชอปปิ้งเสื้อผ้าเครื่องสำอางรอบนี้ของเราเลยไม่สนุกนัก …โธ่ คุณคะ ครั้งที่แล้วที่เคียไปสิงคโปร์คือประมาณ 5-6 ปีก่อน เมืองไทยยังไม่มี H&M สาขาแรกเลย ตอนนี้พูดชื่อแบรนด์มา มีอะไรที่พี่ไทยไม่มีมั่งเนี่ย ขนาดดองกิโฮเต้ของญี่ปุ่นยังมาเปิดแล้วเลย

เอาล่ะ ว่าด้วยช้อปเสื้อผ้าและเครื่องสำอางไม่สนุกอีกต่อไป ก็เลยกลับสู่อิหรอบเดิมของการช้อปเครื่องเขียนจนได้ และก็เป็นไปตามคาด ค่าเสียหายเป็นอย่างไร ต้องถามบัตรเครดิตพ่อดู… (ปรากฏพ่อมาอ่านแล้วด่าไล่หลังมา ฮ่าๆๆๆๆๆ)

ทริปสั้นๆ สองวันกว่าๆ ของนุ้งเคียพาคุณไปทัวร์ได้ถึง 3ร้านแน่ะ!

ตามมาลุยกันเลยค่ะ

kikki.K

ร้านแรกเป็นร้านที่สะดุดตาสุดๆ ทำเลแสนดีงาม อยู่ใต้ดินตึก ION สถานีรถไฟฟ้า Orchard ชื่อร้านอ่านว่าอะไรหว่า … คิกกิ เค??

ร้านนี้อิมพอร์ทมาจากสวีเดน ขายของ House Brand ของตัวเอง ได้รับรางวัล Stylish Retailer เสียด้วย ฉันท้าคุณให้เดินผ่านๆ เฉียดๆ แล้วอดใจไม่เข้าร้าน ไม่ไหวหรอก ยังไงก็ต้องเดินเข้าไปดูสักทีว่าขายอะไร มุมมันเชิญชวนไปหมดทุกทาง ปากทางเข้าหลอกล่อด้วยการ์ดโควทให้กำลังใจนานาชนิด บรรดาสมุดที่บ่งบอกบุคลิกส่วนตัวของสาวหวาน สาวมั่น สาวติสต์ สาวมินิมอลไม่แคร์เวิร์ล ยังไงก็ต้องโดนคุณเข้าสักชิ้นแหละ

ของในร้านจะเน้นไปที่สมุด Journal เรียงสีสันสวยงามคัดมาอย่างดี เอาใจทั้งคนรักโทนพาสเทลและขาวดำ

สมุด ปากกา ทุกอย่างออกแบบได้น่ารัก แถมยังจัดร้านได้ชวนเดินเข้าไปติดบ่วง ทั้งยังมี Planner สำหรับทุกอย่างในโลก เรียน กิน ลดน้ำหนัก คบเพื่อน ให้กำลังใจตัวเอง ฝันเฟื่อง มีหมดเด้อ

แต่ราคาของในร้านไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่ (สารภาพว่าพี่ปอนด์แย็ปให้ซื้ออะไรมาแจกลูกเพจสักนิดหน่อย แต่คำว่านิดหน่อยของร้านนี้ ไม่มีเลยจริงๆ….)

ใครอยากรู้ว่าของแบรนด์นี้น่าสอยขนาดไหน และราคาไม่น่ารักขนาดไหน ตามไปชมได้ในเว็บของนางเองได้เลยที่ https://www.kikki-k.com/

ส่วนนี่คือของที่เราสอยจาก kikki. K

สองชิ้นของเรา อีกสองชิ้นซื้อให้ที่รัก …ไม่น่าเชื่อว่าสมุดที่มีโควทบ้าบอบนปกและทั้งเล่มจะล่อให้ควักเงินขนาดนี้นาค้า

เรามาดูในเล่ม Own Your Story กัน

เล่ม Own Your Story เหมือนเป็นสูตรสำเร็จของ journal ที่เขียนเรื่องส่วนตัวของคุณ คนรอบตัวของคุณ และสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุข

เล่มนี้ปกแข็งและตัวเล่มหนา หน้าไม่มีซ้ำ มีให้คุณเขียนบันทึกชีวิตตัวเองจนจบเล่ม

แทรกหน้าคั่นด้วยคำคมที่ไม่ได้นำพาชีวิตเท่าไหร่ (….) มักจะเป็นเรื่องการยอมรับสิ่งที่คุณเป็น ไปจนถึงหาทางพัฒนาจากจุดนั้น ในเล่มมีคำที่เราชอบคือ “Well-behaved women seldom make history.” แปลว่า ผู้หญิงแสนดีโลกไม่ค่อยจำหรอก 5555555555555555 ได้ค่ะ รับไฟร้ายของดิชั้นไปเลยค่ะ

Art Friend

อาร์ตเฟรนด์ อยู่ในห้าง Plaza Singapura ห้างใหญ่ยักษ์สุดขอบถนนออร์ชาร์ด ตัวห้างสามารถนั่งรถไปลงสถานีรถไฟใต้ดิน Dhoby Ghaut ซึ่งไม่ต้องนั่งรถก็ได้ เดินจากออร์ชาร์ดไปได้ แต่ว่าจะไกลหน่อย

ร้านตั้งอยู่ชั้น B1 ใกล้บันไดเลื่อนลงไปซุปเปอร์มาร์เก็ต ยังไงคุณก็หาเจอ

ร้านนี้เป็น Supplier ขายของให้เหล่ามืออาชีพทางงานคราฟท์และนักศึกษาอาร์ตในสิงคโปร์ ไม่ได้เน้นดีไซน์งดงามเหมือนร้าน kikki.K แต่เน้นประสิทธิภาพ เลยได้ร้านออกมาแนวๆ สมใจของเมืองไทย ที่ความใหญ่คูณเข้าไปสักสามเท่าเด้อ ใหญ่กว่าสมใจสาขาดิโอลด์สยามมากๆ

เชลฟ์ Moleskine ก็เน้นสมุดบันทึกเพลนดำเป็นหลัก ไม่ค่อยเห็นอันที่เป็นเทรนด์ของตอนนี้ หรืออันที่โคกับหนังเท่าไหร่ค่ะ

โซนตราปั๊ม ของคราฟท์ ซิปสี กระดุม ไม้หนีบผ้า และหมึกสแคร็บบุ๊คเชิญทางนี้ เชลฟ์ใหญ่เลื่อนเปิดปิดได้ตั้งอยู่กลางร้านเลยทีเดียวเชียว

แอบซูมของบนเชลฟ์ จะมีลูกปัด ด้าย เข็ม น็อต พาราฟินแว็กซ์

ไปเดินดูขำๆ ได้นะคะ ส่วนตัวเคียว่าในตลาดบ้านเราของเยอะและถูกกว่าค่ะ แต่ที่นี่รวมไว้แบบนี้สะดวกดีนะ

แบรนด์ป้ามาร์ธ่า สจ๊วตก็มา

ป้าแกขายของ DIY หลายอย่างอยู่ มีแม่พิมพ์สำหรับสกรีนลงบนแก้วและของใช้ในบ้าน

ขายพู่กัน กรรไกร อะไรอย่างนี้ด้วย เสียที่ว่าราคาแบรนด์ป้าไม่น่าคบเลย!

พู่กันค่ะ หลากหลายยี่ห้อ ไม่ใช่ยี่ห้อที่บ้านเราใช้กันเท่าไหร่

กระดาษ สมุดสเก็ตช์ต่างๆ เดินเข้าไปดมก็มีความสุขแล้ว

โซนทำต้นไม้แลนสเคปก็มา ด้านซ้ายของภาพเป็นดินทรายไว้ทำฉาก ทำโมเดล

เอ้อ น่าจะซื้อไว้ทำ Table Top RPG นะ นี่ตอนนั้นลืมคิดไป คิดแต่ว่าคงเป็นงานสถาปัตย์ท่าเดียว

โอ๊ะ เจอของถูกใจ สิ่วแกะสลักยางที่เอาไว้ทำสแตมป์แพทเทิร์นบนผ้าล่ะ!!

ใกล้ๆ กันนั้นเอง ก็ได้เห็นของที่ไม่เคยเห็นที่ไทย สีหมึกยี่ห้อ Dr. Ph. Martins

ถ้าจำได้ ตอนไปญี่ปุ่นเราก็สอยเจ้าสิ่งนี้มาเหมือนกันค่ะ เห็นทีไรเป็นต้องสอยทุกที สีหมึกยี่ห้ออื่นเช่นเพลิแกน / อีโคไลน์ จะเฟดหรือเปลี่ยนสีไปตามเวลาที่แห้ง แต่ของยี่ห้อนี้ไม่เปลี่ยนแน่นอน สดสวยตรงปก แถมยังเป็นยี่ห้อยอดฮิตของนักวาดมังงะในประเทศญี่ปุ่นด้วยค่ะ อ. นากามุระ อาสุมิโกะ นักวาดคนโปรดเราก็ใช้ยี่ห้อนี้ตอนเขียนฮาวทูเหมือนกัน

นี่ก็สีหมึกอีกยี่ห้อ ของ Winsor & Newton อันเป็นที่โด่งดังด้านสีน้ำในไทย แต่หมึกของยี่ห้อนี้เน้นสำหรับ Calligraphy มากกว่าแบบอาร์ต

ถ้าใครชอบหมึกเขียนสีๆ อยากลองยี่ห้อนี้ก็ลองตำมาใช้กันได้ ใช้แล้วบอกกันบ้างว่าดีหรือไม่

โซนของที่สอยมาคราวนี้ ฮ่าๆๆๆ ก็ไม่พ้นสีหมึกขวดๆ อีกเช่นเคย อยากเอามาลงสีจริงจังดูสักที แล้วก็ยังมีแผ่นยางตัดทำสแตมป์ผ้า สิ่ว กับแผ่นรองสกรีนด้วย เหมือนรอบนี้จะเน้นไปที่งานพิมพ์นะ ซึ่งไม่รู้จะได้ทำเมื่อไหร่

STRAITS

ไปร้านนี้ด้วย clue เดียวที่ได้จากการไถเฟสบุ๊คผ่านๆ เจอโพสเขียนว่า “เจอร้านเครื่องเขียนตรงข้าม National Library ขายแดเนียลสมิธ”

ได้ยินคำว่า Daniel Smith ก็หูผึ่งตามประสาติ่ง ก็โล้ไปทั้งยังงั้นหลังจากที่เพิ่งช้อปเครื่องเทศในซุปเปอร์อินเดียมา

พิกัดของร้านนี้ สถานี MRT : Bugis ขึ้นมาจะโผล่ที่ Bugis Junction อันเป็นคอมมูนิตี้มอลของคนชิคๆ นิดนึง เดินออกมาจะเห็น National Library ประจำชาติสิงคโปร์ ใหญ่มาก ข้ามถนนไปอีกฝั่ง ซอยเล็กๆ คุณจะเห็นร้านแดงๆ อยู่ เสิร์ชว่า Stationary shop ไม่เจอ ต้องหา Art Supplies นะจ๊ะ

เข้าไป จะพบกับชั้นวาง Daniel Smith ที่ราคาถูกกว่าในไทย (ไทยคาดว่าร้านที่นำเข้าโดนรัฐบวกภาษีมาจนอ่วมอรทัย)

สนนราคาซีรี่ย์1 หลอดใหญ่ที่ 297 บาท ไปจนถึงแพงสุด ซีรี่ย์ 5 หลอดใหญ่ราคา 648 บาท

จึงอยากบอกบุญคนที่ไปเที่ยวว่าหิ้วมาลองกันได้ นุ้งเคียโคตรรักยี่ห้อนี้ฮือ

นอกจากนั้นก็มีสีชนิดอื่นๆ ที่เราไม่ยังไม่มีความรู้เรื่องนี้เท่าไหร่ จึงนำรูปมาฝาก

(ขอเจ้าของร้านถ่ายแล้วนะ เขาให้ แถมยังชวนเมาท์ด้วย)

สีของร้านนี้เน้นเรมบรานท์ แต่ก็เห็นมีเกือบทุกยี่ห้อ ยกเว้นพวก Holbein

คือพอเป็นร้านนี้ก็ให้ภาพมันเล่าเรื่องซะเลย ของร้านนี้เยอะจริง สำหรับสายเพนท์ เยอะกว่า Art Friend อีกค่ะ เพราะ Art Friendเน้นของคราฟท์รวมๆ ทุกด้านมากกว่า

ที่ Straits มาแนวจิตกรรมอย่างเดียวไปเล้ย

มีกระทั่ง Pigment อะคุณ ไม่ได้ซื้อมานะ กลัวๆๆๆๆ ราคาดุร้ายโหดเหี้ยมมาก

และนี่คือสิ่งที่สอยมาล่ะ!!

ด้วยความตาถึง สองในสามสีนี้จึงอยู่ในซีรี่ย์ 4-5 ที่แพงเกือบสุด แทบกระอักเลือดเดินออกจากร้าน

ได้ฤกษ์ซื้อแพนกับตลับสีที่สมศักดิ์ศรีมาใส่สีแพงสักทีด้วย

ช่วงอวดของ

หลังจากสะสม Primatek (ซีรี่ย์หิน) ของDaniel Smith มาสักพักแล้ว ตอนนี้ได้เยอะขนาดนี้แล้ว ฮืออออ เฮฮฮฮฮฮ

เกือบหมดนี่ยกเว้นสามสีใหม่ ซื้อจากร้าน Lamune ที่สยามสแควร์ซอย 10 ค่ะ

ใครที่ไม่น่าจะไปสอยต่างประเทศแน่ๆ ที่ไทยมีร้านซื้อง่ายขายคล่อง พนักงานน่ารัก เจ้าของร้านใจดีและโปรดีๆ อยู่นะ แค่บอกว่ามาจากเพจของเคีย หรือ BBBlogr ได้สมัครสมาชิกฟรีนะจ๊ะ (ต้องบอกก่อนคิดตังค์นะ)

ปกติแล้วจะสมัครสมาชิกต้องมียอดซื้อ 2,000 บาทขึ้นไป แต่นี่เป็นกรณีพิเศษสามารถแจ้งได้เลยค่ะ พอเป็นสมาชิกแล้วซื้อ Daniel Smith หรือพู่กันราคาลดลงมากๆ ด้วย เย้

เอาล่ะ วันนี้ลาไปก่อน บ๊ายบาย

-kia