มาแอ่วร้านเครื่องเขียนเปิดใหม่ล่าสุดของเชียงใหม่ใหม่เอี่ยมอ่อง 2 เดือนเพิ่งเปิด ร้านนี้เราคงคุ้นหน้าคุ้นตาคุ้นชื่อคุ้นหูกันอยู่แล้วครับคือร้าน “สมุดลานนา” ร้านเครื่องเขียนคู่ใจคนรักศิลปะแห่งเมืองเหนือ วันก่อนผมนั่งรถแดงผ่านหน้าร้านไป-มาก็จี๊ดอยากจะกระโจนลงไปเดินเล่นเสียจริง ในที่สุดวันนี้โอกาสก็มาถึงแล้ว!!
ร้านนี้มาไม่ยากครับอยู่บนถนนเส้นห้วยแก้ว ซึ่งถ้าขับรถมาก็ผ่านหน้าห้างเซ็นทรัลกาดสวนแก้วมานิดเดียวไม่ถึงห้าร้อยเมตรก็จะเจอร้านสมุดลานนาอยู่ทางฝั่งซ้ายมือครับ ร้านใหญ่มากกกกกมีป้ายร้านกาแฟมิ่งมิตรแปะอยู่ด้วย
เจ้าของร้านสาขานี้คือ “คุณพี่ยุ๋ย” ครับ สวัสดีครับ (ต้องกราบขออภัยคุณพี่ด้วยหากผมสะกดชื่อผิดนะครับ) เป็นพี่น้องกันกับ “คุณพี่ยอ” เจ้าของร้านสมุดลานนาสาขาถนนสุเทพที่ผมคุ้นเคย ซึ่งก็ตั้งอยู่บนถนนเส้นเดียวกันกับวัดสวนดอกนั่นแหละ ผมเลยขออนุญาตขอเก็บภาพร้านเครื่องเขียนใหม่เอี่ยมแห่งนี้และมาเล่าให้ได้ชมกันครับ
เดินเข้าร้านไปผมถึงกับร้องว้าวครับ เพราะพื้นที่ของร้านกว้างใหญ่ดูโล่งสบายตามากทีเดียว และนอกจากยะกว้างขวางแล้ว ชั้นวางเครื่องเขียนก็จะไม่ดูสูงมาก อยู่สูงระดับหน้าอกหรือราวนม(หืม?) ของผู้ชายหุ่นนายแบบสูง 190cm อย่างผมครับ #เอาที่คนเขียนสะบายใจ
คุณพี่ยุ๋ยเล่าว่า ทางร้านไม่ต้องการที่จะอัดสินค้าให้มากมายจนเกินไปนัก ยิ่งพวกตู้วางปากกาวางสมุดที่สูงๆ นั้นมันจะยิ่งทำให้คนเข้าร้านรู้สึกอึดอัด ถึงแม้จะสามารถว่าสินค้าได้มากขึ้นก็จริง แต่ลูกค้าจะเลือกของได้ไม่สบายครับ นอกจากนั้นยังคำนึงถึงคุณพ่อคุณแม่ที่พาลูกๆ เด็กๆ ยังไม่โตมากมาร้าน ก็จะสามารถมองเห็นลูกได้ง่ายเวลาลูกเดินไปไหนมาไหน ไม่ต้องกังวลหายากตามหากับเหนื่อยเพราะชั้นวางสินค้าไม่สูง ผมชอบแนวคิดนี้จริงๆ ที่ใส่ใจกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่มของทางร้านจริงๆ ครับ
และสำหรับแฟนๆ ปากกาลามี่ เมื่อเดินเข้าร้านผ่านประตูอัตโนมัติก็พบกับเคาท์เตอร์ปากกาลามี่เด่นสวยงามวาววับตั้งอยู่ครับ ผมจึงไม่รอช้าที่จะเข้าไปเช็คว่ามีรุ่นไหนขายบ้าง ซึ่งก็ครับถ้วนตามที่ขายกันในปัจจุบันนะ และราคาปากกาหมึกซึมรุ่นนิยมอย่างรุ่นซาฟารีจะอยู่ที่ 980 บาท และ AL-Star จะอยู่ที่ 1,500 บาทครับ …เป็นราคาล็อตใหม่แล้วนั่นเอง แต่เห็นว่ากำลังมีโปรโมชั่นลดราคา 10% อยู่นะ ใครที่ไม่สะดวกสั่งผ่านเน็ตเว็บคุณแฟร้งค์ fontoplumo.nl ก็ลองมาดูที่นี่ได้จ้าาา #สปอนส์เซอร์ยิ้มขายตลอดๆ
อ้อ!! ที่เด็ดคือมีลามี่หมีบราวน์วางขายด้วยนะซึ่งดูแล้วน่าจะหิ้วมาเองครับเพราะมีเพียงแค่ 2 ด้ามและเป็นแบบปากกาหมึกซึมทั้งคู่ ราคาค่าหมีอยู่ที่ตัวละ 3,500 บาท …ผมนี่น้ำลายฝืดเลย
เครื่องเขียนที่วางจำหน่ายในร้านก็เป็นยี่ห้อที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่แล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นสมุด ปากกา สีน้ำ หรือแม้กระทั้งมาร์คเกอร์ และที่เด่นสะดุดตาผมนั้นก็คือเจ้ามาร์คเกอร์หลากสีที่ด้ามกลมๆ กลิ้งๆ ซึ่งผมเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก มันเป็นมาร์คเกอร์ของยี่ห้อ M&G ครับ (ใครไม่คุ้นหูลองอ่านรีวิวปากกาสนู้ปปี้ได้ที่นี่นะ) ผมเอามาลองปาดๆ ดูหน่อยนึงก็พบว่าน่าสนใจดีครับ หากมีโอกาส(หรือสปอนส์เซอร์ติดต่อเข้ามา) หวังว่าจะได้นำมาร์คเกอร์ยี่ห้อนี้มารีวิวให้ได้ชมกันนะ
ร้านนี้ไม่ใช่มีแค่ชั้นเดียวนะ! ร้านนี้เป็นร้านชั้นครึ่งครับหรือก็คือ 2 ชั้นแบบเป็นชั้นลอย ดังนั้นผมจึงรีบวิ่งขึ้นบันไดไปที่ชั้นลอยเพื่อสำรวจโลกกว้างกันเลยทีเดียว ซึ่งสิ่งที่ผมได้เจอนั่นก็คือ…
เป็ด…
นั้นมันของแต่งร้านเฟ้ย! ชั้นลอยนี้เองจะเป็นโซนของพวกสีน้ำ สีน้ำมัน พู่กัน รวมไปถึงเฟรมวาดรูปครับ ซึ่งตรงจุดนี้ผมก็ตกใจว่าทำไมถึงได้ใช้พื้นที่โชว์เฟรมวาดภาพกว้างขวางขนาดนี้ คุณพี่ยุ๋ยเล่าว่า ร้านเครื่องเขียนส่วนใหญ่มักจะมีพื้นที่สำหรับเฟรมวาดภาพที่เล็ก โดยมักจะวางเฟรมซ้อนๆ กันทำให้เวลาจะเลือกจะซื้อแต่ละทีต้องเข้าไปคุ้ยๆ หยิบเลือกออกมาทีละอันว่านี่ใช่แบบที่ต้องการมั้ย ซึ่งมันลำบากคนซื้อ! กว่าจะได้ที่ถูกใจก็หมดแรงคุ้ยกันอยู่นานเชียว ไหนจะพลิกดูผ้าดูลายแต่ละทีมันก็เหนื่อย ทางร้านจึงให้ความสำคัญกับพื้นที่แสดงเฟรมเป็นพิเศษนั่นเอง
เดินจนทั่วร้านแล้ว ผมก็สอดส่องเมียงมองไปทั่วๆ ก็สะดุดตาเข้ากับประตู “ร้านกาแฟมิ่งมิตร” ซึ่งตั้งอยู่ภายในร้าน ทีแรกที่เห็นป้ายไฟหน้าร้านผมก็คิดว่า “อ๋อ คงเป็นร้านกาแฟที่ตั้งอยู่ถัดไปด้านหลังนั่นแหละ” แต่กลายเป็นว่าเราสามารถเดินเข้าร้านมิ่งมิตรจากในร้านสมุดลานนาได้เลยนอกจากทางเข้าปรกติ ผมเลยถามคุณพี่ยุ๋ยว่า “ร้านกาแฟมิ่งมิตรนี่เป็นของร้านสมุดลานนาเลยหรือเปล่าครับ?” คุณพี่แกก็ตอบว่า “ใช่แล้ว เราซื้อเฟรนไชน์ร้านมาเปิดเองเลยค่ะ เนื่องด้วยเพราะเราต้องการให้คนที่มาร้านเครื่องเขียนนอกจจะได้เลือกสินค้าแล้ว ก็ยังสามารถมาแล้วนั่งพักจิบกาแฟได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ผู้ปกครองที่มารอรับลูกกลับจากโรงเรียนก็สามารถนั่งรอได้สบายๆ”
…เท่เกินไปนะร้านเครื่องเขียนร้านนี้
น่ามาเที่ยวใช่ไหมครับกับร้านเครื่องเขียนเปิดใหม่เอี่ยม “สมุดลานนา” แห่งนี้? ครั้งนี้ผมมาทำงานที่เชียงใหม่เป็นทริปสั้นๆ ครับอยู่เพียงไม่กี่วัน จึงมีเวลาเก็บภาพบรรยากาศได้ไม่เต็มที่กับความกว้างขวางของร้านนัก ยังไงไว้โอกาสหน้าผมจะมาเก็บภาพเพิ่มเติมพร้อมกับนั่งจิบเอสเพรซโซ่ร้อนๆ มาให้แฟนๆ เครื่องเขียนของบีบีบล็อกทุกท่านได้อ่านและได้อิจฉากันนะครับ กร๊าาากกก อุ๊ยกาแฟลวกปาก!
ขอกราบขอบพระคุณ
คุณพี่ยุ๋ย แห่งร้านสมุดลานนาสาขาถนนห้วยแก้ว เชียงใหม่ ที่ได้อนุญาตให้ทางผมได้เก็บภาพภายในร้านและกรุณาสละเวลาอันมีค่ายิ่งให้ข้อมูลแก่ทางบีบีบล็อกด้วยครับ ขอบพระคุณมากครับ!
ปล. ใครอยากทราบรายละเอียดของร้านเพิ่มเติมก็สามารถติดตามเพจของร้านสมุดลานนาได้ที่นี่นะ https://www.facebook.com/samudlanna